วันที่ ๑๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น

ตำหนักปลายเนิน คลองเตย

วันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๔๘๐

กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ทราบฝ่าพระบาท

ลายพระหัตถ์ลงวันที่ ๙ เดือนนี้ ได้รับประทานแล้ว

พระเดชพระคุณเป็นล้นเกล้า ที่โปรดประทานอธิบายชั้นเปรียญและพัดเปรียญให้ได้ทราบเค้าแต่แรกเป็นมา ซึ่งยังหาเคยทราบละเอียดเช่นนั้นมาก่อนไม่เลย เปรียญเอกโทตรีนั้นเคยได้ยินมา แต่ไม่ควรเข้าใจว่าเป็นหลักฐานอย่างไร มาเข้าใจเอาแต่ชั้นประโยคสามถึงเก้าว่าเป็นชั้นอันเป็นหลักฐาน ส่วนพัดซึ่งเป็นสีตามประโยคก็คิดว่าเป็นแบบเช่นนั้นมานานแล้ว เพิ่งจะได้ทราบว่าเป็นของจัดใหม่ เมื่อได้ทราบพระดำรัสอธิบายในคราวนี้จึงเข้าใจในพระดำริสมเด็จกรมพระวชิรญาณวโรรส ซึ่งทรงจัดเปรียญสามประโยคเป็นเปรียญโท เจ็ดแปดเก้าประโยคเป็นเปรียญเอก ทั้งนี้ก็เป็นพระดำริโดยพระประสงค์จะทรงจัดเอาแบบเก่ากับใหม่เข้ารวมกัน

พัดรองรูปหน้านางนั้น ทราบแน่ว่าเกิดขึ้นในรัชกาลที่ ๔ เดิมใช้พัชนีรูปดุจจวัก สำนึกในพระราชหฤทัยเห็นน่าเกลียด จึงทรงพระราชดำริทำพัดรองรูปหน้านางขึ้น ในยุคแรกนั้นเข้าใจว่าใช้ผ้าเลี่ยนหรือผ้าลายที่มีขายโดยสามัญอยู่ตามท้องตลาด ที่มาทำเป็นลวดลายขึ้นโดยจำเพาะพัดมา เข้าใจว่าเป็นในรัชกาลที่ ๕ เสียด้วยซ้ำ พัดซึ่งไปเห็นที่บ้านนายแลงกาต์ตามที่กราบทูลว่าฝังไม้ขาวหรือเหลืองเป็นรูปมงกุฎไม่มีจรนั้น สงสัยว่าจะทำเป็นชฎาพอก แต่กลายเป็นมงกุฎไป จะจัดว่าเป็นความผิดของช่างก็ยาก เมื่อเขาบอกว่าให้ทำชฎาเขาก็ไปปาเอาชฎาละครเข้าก็ต้องเป็นมงกุฎอยู่เอง ชฎาจริงๆ ช่างในตลาดเห็นจะยากที่จะมีโอกาสได้เห็น ถ้าตั้งใจจะทำชฎาก็ยิ่งปรากฏว่าเป็นใหม่ยิ่งขึ้นอีก เพราะที่เอาชฎามาทำเป็นตราประจำองค์เจ้านายนั้นเกิดขึ้นในรัชกาลที่ ๕

เรื่องหญิงอาภา เกล้ากระหม่อมก็เสียดายเหมือนกัน ที่คลาดแคล้วไปไม่พบกับเธอ ถ้ามีโอกาสได้ทรงพบกับเธอเมื่อไร ได้ทรงพระเมตตาโปรดบอกให้เธอทราบด้วย

เรื่องชายดำรู้สึกออกจะเต็มที ต้องเรียนเป็นเวลานานถึง ๑๔ ปี จึงได้กลับมาเห็นหน้าพ่อแม่ แม้กระนั้นก็ยังต้องกลับไปเรียนต่ออีก เกล้ากระหม่อมเห็นด้วยหม่อมเจ้าเพิ่ม ตามประสาที่ตนไม่ได้เรียน เธอว่าในการส่งลูกไปเรียนเมืองนอกนั้น ได้กับเสียไม่พอกัน แม้ได้ค่าเรียนทางอื่นก็เอาเป็นว่าดีได้ ถ้าพ่อแม่ต้องเสียให้แล้ว เป็นอาการหนักมาก ได้วิชามาก็ใช้วิชาไม่ได้ประโยชน์คุ้มกับเงินที่เสียไป คนที่ไม่ได้ไปเรียนวิชาเมืองนอกทำประโยชน์ได้ดีกว่ามีถมไป

ตรวจดูพระวิจารณ์เรื่องลัทธิธรรมเนียมภาคที่ ๑๙ ท่อนที่ ๒ คราวนี้ ติดจะอึดอัดใจมาก เต็มไปแต่ด้วยความสงสัย ได้จดเป็นบันทึกฉบับหนึ่งต่างหากถวายมาด้วยนี้แล้ว

เมื่อวันที่ ๑๔ ที่แล้วมานี้ เกล้ากระหม่อมไปส่งพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์กลับยุโรปที่สถานีจิตรลดา ด้วยเธอมาลา เธอบอกว่าขากลับนี้เธอจะมาเฝ้าเยี่ยมฝ่าพระบาท เมื่อขาเข้าไปเธอไม่ได้มาเฝ้า เพราะเวลาไม่มี

เกล้ากระหม่อมได้รับใบปลิวฉบับหนึ่ง ซึ่งเขาเอามาแจกให้ได้ถวายมานี้แล้ว แต่ไม่ได้เข้าไปลงคะแนนตามที่เขาชักชวนมา ที่จริงก็อยากเห็นอยู่ว่าคิดทำเป็นอย่างไร มีธุระอยู่ที่จะต้องไปยังศิลปากรสถาน หวังว่าเมื่อไปคงจะได้เห็นแบบที่นั่น หากได้เห็นแล้วจะกราบทูลรายงานมาให้ทราบฝ่าพระบาท ว่าที่คิดทำแบบไว้นั้นมีลักษณะเป็นประการใด

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ