วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๐ น

ตำหนักปลายเนิน คลองเตย

วันที่ ๒๖ กุมภาพันธุ์ ๒๔๘๐

กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ทราบฝ่าพระบาท

ลายพระหัตถ์ลงวันที่ ๑๗ กุมภาพันธุ์ ได้รับประทานแล้ว

ตามพระดำรัสที่ว่าแต่ก่อนทรงแต่งหนังสือสองเรื่องพร้อมกันนั้น นึกเห็นประหลาดอยู่มาก เคยได้ยินแต่เขาพูดถึงการเขียนรูป ว่าช่างเขียนมักเขียนรูปหลายแผ่นพร้อมกัน คิดแผ่นนั้นย้ายไปเขียนแผ่นโน้น เกล้ากระหม่อมจำขี้ปากเขาทำบ้างออกจะไม่เป็นผลสำเร็จเพราะใจคอหมกมุ่น ยิ่งคิดก็ยิ่งคิดยิ่งลองยิ่งละเสียไม่ได้ แม้เขียนหนังสือก็เหมือนกัน เรื่องที่ทิ้งได้ก็หากทิ้งไปได้ด้วยจำเป็น เพราะมีเรื่องใหม่อันจำเป็นต้องทำให้แล้วก่อน มาพรากจากเรื่องทำอยู่ไปเสีย อย่างไรก็ดี สังเกตว่าทำอะไรนั้น แล้วแต่พื้นเพแห่งใจ ถ้าลงคิดไม่ออก เพราะใจหงุดหงิดหรือขี้เกียจอะไรก็ตามแต่จะว่า ต้องหยุดระงับทีเดียว จะทำอื่นแทนหาได้ไม่ สังเกตตัวว่าเป็นดังนี้ แต่เห็นจะไม่เหมือนกันไปหมดทุกคน

คราวนี้จะกราบทูลความเป็นไปในส่วนตัว รู้สึกเมื่อเขียนวิหารพระมงคลบพิตรอยู่บัดนี้ ว่าแต่ก่อนกับเดี๋ยวนี้ผิดกัน ในส่วนความคิดความเห็นมีมากขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่ส่วนความจำได้หมายรู้นั้นเลวลง เช่นตั้งใจหมายจับเอาเส้นศูนย์กลาง ก็ไพล่ไปจับเอาเส้นอื่นซึ่งอยู่ใกล้เคียง และวัดมาหยกๆ พอจะเขียนก็ลืม จำไม่ได้ว่าเท่าไร ทั้งจุดหมายที่วัดมาก็พลาด เช่น เศษ ๗๕ ก็ไปจุดเอาที่ ๒๕ ทำให้รูปที่เขียนผิดเบี้ยวบูดไปต่างๆ ต้องลบเสียเวลา พิจารณาเห็นว่าทั้งนี้เพราะความชราครอบงำ ตั้งต้นจะหลง คิดว่าต่อไปอีกหน่อยน่าจะทำไม่ได้

ได้ฟังพระดำรัสอธิบายเรื่องคำ “พระมหาไถ่” นึกขันตัวเอง ที่แรกคาดถูกดีแล้วว่า เห็นจะแปลมาแต่คำฝรั่ง ภายหลังสิมากลับคิดคาดใหม่ผิดไปถนัดใจ สิ้นเคราะห์ไปเถิด

เรื่องเครื่องบินชนคนเจ็บตาย ตามที่ตรัสเล่าประทานไปนั้น น่ากลัวเต็มที ให้นึกสงสารคนที่เจ็บต้องตายว่าเป็นเคราะห์ร้ายเหลือเกิน แม้ว่าตั้งใจไปเพื่อดูแข่งรถหรือดูเครื่องบินผาดโผน จะต้องอันตรายเจ็บปวดถึงตายก็ทำเนา นี่เปล่าเลย ตั้งใจจะไปเที่ยวเล่นสบายๆ ก็ต้องไปเจ็บไปตาย ดูน่าสงสารยิ่งนัก ส่วนตาฝรั่งที่ขับเครื่องบินกินยาตายนั้นออกจะเห็นว่าสมควร เพราะจะมีชีวิตอยู่ไปก็ไม่เป็นคน ลางทีจะถูกฟ้องเรียกค่าทำขวัญยับเยินด้วย เหตุไม่ควรเป็นแท้ๆ ตาฝรั่งนั้นแกคงมาเห็นคนมาก จึงอยากส่งเดชอวดคนขึ้นเท่านั้นเอง

พระยาพิชัยรณรงค์สงคราม เขามาลากตัวไปงานเผาศพคุณหญิงของเขาที่สุสานหลวงวัดเทพศิรินทร์ เขาให้หนังสือว่าด้วยไม้ดัดเป็นหนังสือเขาแต่งเอง ว่าไปตามความเห็นของเขา ซึ่งเขาเป็นคนเล่นต้นไม้ดัด คัดตำราเก่ามาลงไว้ด้วย ได้อ่านบ้างเป็นบางตอน เห็นไม่เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ไม่ได้เล่น จึงไม่ได้ส่งมาถวาย พิจารณาดูก็เห็นว่า เดิมทีการเล่นต้นไม้ดัดจะดัดทำเพียงให้ท่วงทีงามตามคล้ายต้นไม้โดยธรรมชาติเท่านั้น แม้แต่ชื่อชนิดต้นไม้ดัดก็เรียกชื่อตามต้นไม้โดยธรรมชาติเท่านั้น ภายหลังจึงเกิดมาถี่ถ้วนเบี้ยขาวเบี้ยแดงกันขึ้นจนมีปัญหาถามกันว่า ไม้ดัดชนิดที่เรียกว่า “ไม้เอนชาย” นั้น จะเอนมาตั้งแต่ดินหรือตั้งต้นตรงขึ้นไปก่อน แล้วจึงเอนไปในเบื้องบน ก็ใครจะสามารถบอกได้เล่า แล้วยังร้องต่อไปว่า ที่ชื่อ “ไม้ฉาก” นั้น ดูที่ทำในฉากก็เป็นต้นสูงๆ เพื่อให้เต็มฉาก ท่าทางก็สมเพช เขาจะเอาต้นไม้ดัดที่เขาเล่นขึ้นเหนือชื่อ ไม่เอาชื่อไว้เหนือต้นไม้ที่เขาเล่นเลย

ที่ในกรุงเทพฯ มีคนตาย ๒ คน ซึ่งฝ่าพระบาทคงจะเอาพระทัยใส่ คือ พระยาราชนกูล กับพระยาศรีวรวงศ์ พระยาราชนกุลนั้นไปในการประชุมกรรมการสภากาชาด ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เกิดเส้นโลหิตในสมองแตกขึ้นตายที่โรงพยาบาลนั้น ส่วนพระยาศรีวรวงศ์เจ็บเป็นนิวมอเนีย เมื่ออาการหนักย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ไปถึงโรงพยาบาลได้สองชั่วโมงก็ตาย อนึ่ง พระยายมราชก็เจ็บ หมอว่าเป็นโรคนิวมอเนีย ไปฟังอาการเมื่อวานนี้ ได้ความว่าค่อยยังชั่วขึ้นแล้ว เข้าใจว่าเนื่องมาแต่โรคบรองไคติส ซึ่งเป็นประจำตัวท่านอยู่นั้นเป็นเหตุ อากาศในกรุงเทพฯ เวลานี้เต็มที กลางวันร้อน กลางคืนหนาว ปรอทผิดกันตั้ง ๒๐ ดีกรีฟาเรนไฮต์ ย่อมเป็นเหตุให้คนเจ็บไข้อยู่เอง

ได้ส่งหมายกำหนดการพระราชกุศลทักษิณานุปทานพร้อมทั้งพระราชพิธีรัชมงคล อันเป็นการประจำปีมาถวายให้ทรงทราบ ผิดกับปีก่อนๆ ที่ย้ายการพระราชกุศลทักษิณานุปทาน ไปทำที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เพราะพระที่นั่งอมรินทร์กำลังทำการซ่อมแซมอยู่

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ