วันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๐ น

ตำหนักประเสบัน เมืองบันดง เกาะชะวา

วันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๔๘๐

กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ทราบฝ่าพระบาท

ได้รับลายพระหัตถ์ลงวันที่ ๑๕ มิถุนายน รู้สึกดีใจมาก เหตุด้วยอยู่ในฐานที่ไม่ควรได้รับก็ได้รับ

จะทูลถวายรายงานการไปชวาต่อหนังสือซึ่งถวายมา เมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายนสืบไป

วันที่ ๑๑ มิถุนายน เวลา ๑๖.๓๐ น. ถึงสิงคโปร์ พอเรือทอดก็หาความสุขมิได้ มีอ้ายพวกแขกลงมากลุ้มกล้ำทุกหัวตะแกรง ชวนแลกเงินก็มี บอกขายสแตมป์ ขายโปสตก๊าด ขายพลอย ขายเสื้อแสงอะไรก็มี หลบหลีกไม่พ้น แต่พิจารณาไปก็น่าเอ็นดู อุตส่าห์พยายามหากินแทบสายตัวขาด ไม่ทะเยอทะยานที่จะเป็นข้าราชการ จนถึงเวลา ๔ ทุ่มเขาตีม้าล่อคนจะออกเรือ จึงได้สงบสุขเหมือนดั่งเดิม

ของดีในเรือมีอย่างหนึ่ง ที่เขาเอาระนาดเล็ก ๕ ลูกพาดบนหีบซึ่งทำให้มีเสียงก้องกังวานตีเรียกกินข้าว ฟังเสนาะจับใจอย่างยิ่ง ดีกว่าสั่นระฆังตะแกงๆ เป็นอันมาก เจ็บแก้วหูพิลึก

วันที่ ๑๒ คลื่นก็ราบเรียบสบายดี

วันที่ ๑๓ พอเวลาเที่ยงก็ถึงบะตาเวีย องค์หญิงกลางกับองค์หญิงเล็กลงมารับ เชิญลายพระหัตถ์ทูลกระหม่อมชายมาให้ ว่าตั้งพระทัยจะเสด็จมารับแต่ประชวรเสียด้วยต่อมทอนซิลอักเสบ จึงได้ให้พระธิดามารับแทนพระองค์ เดิมเธอปรึกษากันว่าเวลารถไฟบ่าย ๒ โมงจะพาไปดูมิวเซียมก่อน แล้วไปพักที่โฮเต็ล จนจวนรถไฟจึงไปสถานี แต่ครั้นขึ้นรถยนต์ไปถึงมิวเซียม หญิงเล็กบอกกลับคำว่าเวลาเห็นจะไม่พอ ทั้งนี้เพราะโอ้เอ้อะไรต่างๆ ออกล่าช้าเสียเวลาไป เธอจึงพาไปโฮเตลชื่อ Hotel des Indes นั่งพักดื่มน้ำหวานและกินของว่างพอเวลาสมควรเธอก็พาไปสถานีรถไฟ คอยอยู่ครู่หนึ่งรถไฟก็มาเธอพาขึ้นรถไฟ เวลาบ่าย ๒ โมงรถออกไปบันดุง

เวลา ๑๖.๕๔ น. ถึงสถานีบันดุง กรมหลวงทิพยรัตน องค์หญิงเหม กับองค์หญิงสี่ มารับที่สถานี พาไปตำหนัก ทูลกระหม่อมชายกับหญิงประสงค์คอยต้อนรับอยู่ที่หน้าตำหนัก ทรงนำมอบห้องที่อยู่ให้มีความเบิกบานใจในการนี้เป็นอย่างยิ่ง ที่ได้พบเจ้านายอันได้จากกันช้านาน ได้มาอยู่ด้วยกันฉันญาติสนิท เป็นอิสระทุกอย่าง ไม่มีรังเกียจเดียดฉันท์อะไรกันตลอดไปทุกคน ขาดแต่พระองค์หญิงใหญ่กับหญิงมารยาตร ไม่ได้พบ เธอไปเที่ยวเกาะบาหลีเสียจนวันที่ ๑๕ เธอจึงกลับมาได้อยู่วิสาสะพร้อมกัน

ต่อจากวันมาถึงบันดุงไปก็ไม่อะไรอีกที่ควรจะทูลถวายรายงาน มีแต่พากันเที่ยวอีโหลกโผลกเผลก และเล่นอะไรไม่เป็นแก่นสารสนุกสบายทุกอย่าง เสียแต่อยู่ข้างหนาว แต่เห็นจะไม่เป็นไร เข้าใจว่าเป็นด้วยอยู่มาในที่ร้อนแล้วเปลี่ยนมาอยู่่ที่เย็น ร่างกายเปลี่ยนไม่ทันจึงรู้สึกหนาว ถึงบัดนี้ดูค่อยยังชั่วขึ้นรู้สึกหนาวน้อยลง ตามลายพระหัตถ์ซึ่งตรัสถึงเขาสูงซึ่งล้อมรอบบันดุง จะดูเห็นบ้านและเรือนสวนขึ้นไปต่อกับฟ้านั้น เสียใจที่ยังไม่เห็น ลางทีก็เห็นเขามัว ๆ ลางทีก็ไม่เห็นเขาเสียเลย เข้าใจว่าเป็นด้วยอากาศไม่ดีพอ แต่ได้ขึ้นไปเที่ยวบนเขาเหล่านั้นเป็นลางแห่ง ได้เห็นบ้านช่องเรือกสวนตั้งเต็มไปทั้งนั้นไม่ค่อยว่าง

มาชวาได้มารู้สิ่งที่จริงเข้าอย่างหนึ่ง ในเรื่องดุริยดนตรี เครื่องดุริยางค์ของชวาอันมีมากสิ่งนั้นมากเสียเปล่า ได้ผลน้อย เครื่องอันล้นหลามนั้นทำแต่จังหวะ อย่างฉิ่งเละโหม่งของเราเสียเป็นพื้น แต่เครื่องทำจังหวะของเขาเหล่านั้น ดีกว่าของเราที่เปลี่ยนไปเข้ากับเนื้อเพลงได้ ไม่ขวางหูเหมือนฉิ่งและโหม่งของเรา อันมีเสียงยืนอยู่เสียงเดียว ส่วนเครื่องที่ทำเนื้อเพลงนั้นมิใช่น้อยนัก และเนื้อเพลงของชวานั้น เราจะจำถ่ายเอาไปเล่นบ้างไม่ได้เลย เพราะเครื่องของเราไม่อำนวย ด้วยเทียบเสียงคนละอย่างต่างกัน เสียงเพลงของเขาเราฟังว่าเป็นเพี้ยนดังเหน่อๆ ไปชอบกล เครื่องชวาที่เราได้เข้าไปในกรุงเทพฯ พวกปี่พาทย์ไทยเอาไปเทียบแก้เปลี่ยนเสียงเสียเป็นเสียงไทย แล้วก็เพลงไทยซึ่งเรียกว่า “แขก” เก๊เหลวทั้งนั้น นี่เป็นส่วนหนึ่งซึ่งควรทูลให้ทรงทราบได้ นอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรที่บันดุงอันควรจะทูลถวาย แต่เมื่อได้ออกเที่ยวไปไกล ได้เห็นอะไรแล้วเกิดขึ้น นั่นแหละจึงจะได้ทูลรายงานถวาย เพราะว่าตามปกติย่อมได้ทรงทราบอยู่ดีทุกอย่างแล้ว

มาอยู่บันดุงรู้สึกว้าเหว่ที่ไม่มีวัดพระไทยเสียเลย ตรงกับคำว่า “เยือกเย็นไม่เห็นพระเห็นเจ้า” ถึงวันตายแม่ซึ่งเคยทำบุญก็ไม่ได้เห็น (นี่ใช้คำตามความหมายของยายแก่ ทำบุญแปลว่าทำอะไรแก่พระ) ต้องยักย้ายไปทำทานคือบริจาคเงินอุดหนุนโรงพยาบาลคนตาบอด ผิดกันกับที่สิงคโปร์ปีนังมาก มีวัดวาจะทำบุญอะไรก็ได้

ข้อพระวินิจฉัยในเรื่องพระพุทธรูป อันมีเจตนาจะตั้งเป็นประธานในวัดบวรสถาน ซึ่งมีไปในลายพระหัตถ์ลงวันที่ ๑๕ ว่าคงเป็นพระเสิมนั้น พระดำริครั้งนี้สมเหตุสมผลควรอย่างยิ่งนัก รับรองว่าถูกต้องเป็นแม่นแล้ว

ลายพระหัตถ์ฉบับที่ประทานเข้าไปกรุงเทพฯ ในครั้งหลังที่สุดก่อนออกจากกรุงเทพฯ ก็ได้รับแล้ว แต่จะทูลตอบในครั้งนี้ก็จำข้อมือไม่ค่อยได้ ไม่ได้เอาหนังสือมาด้วย เมื่อมาถึงปินัง ต้องพระประสงค์ความเห็นในข้อใด ตรัสซักถามก็สามารถจะทูลได้ หรือมิฉะนั้นมีข้อใดที่ยังติดใจสงสัยอยู่ ก็จะทูลแทรกแซงมาในหนังสือเวรอันจะมีมาถวายในเบื้องหน้าเมื่อกลับเข้าไปในกรุงเทพฯ แล้ว

ลืมกราบทูลจำนวนคน ซึ่งจะมารบกวนฝ่าพระบาทในวันหน้า จะมีมา ๖ คนด้วยกันคือเกล้ากระหม่อม หญิงอี่ หญิงอาม หญิงไอ แม่โต กับนายอัคร ลูกพระยาเพชรดากับแม่เต่า ลากเอาตัวมาใช้ต่างบ่าว มีประโยชน์กว่าบ่าวที่แกพูดภาษาต่างประเทศ พอใช้ถูไถไปได้บ้าง

หนังสือฉบับนี้ ถือเอาโอกาสที่หญิงมารยาตรเธอจะมาปีนังจึงฝากมาถวาย หากส่งทางไปรษณีย์ก็ไม่ขัดข้อง แต่คิดว่าคงมาถึงพร้อมกันนั่นเอง มีความระลึกถึงฝ่าพระบาทเป็นอันมาก กระหยิ่มใจอยู่ว่าไม่ช้าคงจะได้มาเฝ้าถึงพระองค์ และได้อยู่คลุกคลีตีมงพร้อมด้วยลูกหลาน เหมือนเช่นเคยได้อยู่ขลุกขลักมาด้วยกันแล้วอีกครั้งหนึ่ง.

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ