วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น

ตำหนักปลายเนิน คลองเตย

วันที่ ๑ มกราคม ๒๔๘๐

กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรง ฯ ทราบฝ่าพระบาท

ลายพระหัตถ์ลงวันที่ ๒๓ ธันวาคม ได้รับประทานแล้ว

เป็นพระเดชพระคุณอย่างยิ่ง ที่ทรงพระเมตตาประทานอธิบายเรื่องพัดพระต่อมา ให้นึกกินใจอยู่ในเรื่องพัดเปรียญนั้นมาก จึ่งจะเก็บเอาย้อนมาทูลถวาย อันพัดเปรียญเก้าประโยคซึ่งเกล้ากระหม่อมคิดตัวอย่างนั้น เกล้ากระหม่อมนึกเอาพัดเปรียญอย่างเก่าประสมกับพัดขนนกคือตีเส้นตรงออกมาก่อน แล้วทำปลายงอนเข้าหาขอบพัด ประจบกันเป็นกลีบ ดุจรูปเขียนหมายเลข ๑ แล้วก็เห็นกันว่าเป็นดี จึงให้ช่างถ่ายลายเอาไปทำพัดเปรียญทุกประโยคด้วยวิธีเปลี่ยนสีแพรพื้น แต่ก็เป็นธรรมดาช่างที่อ่อนย่อมดูอะไรหลง เส้นตรงงอนปลายก็เห็นเป็นเส้นโค้ง แล้วปลายก็ต่อกันไม่ติด ดุดรูปเขียนหมายเลข ๒ จนมีคนถามอย่างล้อเล่นว่านั่นจะทำเป็นแมงมุมหรืออะไร ภายหลังมีคนเห็นว่าลักษณะที่เข้าด้ามคาบตับนั้นต่ำไป ไม่เข้าแบบพัดยศ จึ่งแก้เป็นไม่มีตับคาบ ทำให้กลางตรงนมทับกลวงกะโจ๋โหวอยู่ช้านาน ต่อมาเปรียญมากขึ้นร้องกันว่าพัดยศอย่างเก่าสู้ไม่ไหวเพราะแพงมาก จึ่งคิดใหม่มีลายปักริมกับใจ ไว้พื้นพัดเป็นแพรเกลี้ยงเปล่า ลายริมจะว่าเป็นลายขอบก็ว่าไม่ถนัด เพราะกว้างเกินกว่าจะเป็นขอบไปมาก พิจารณาดูก็ไม่เห็นว่าจะลดเงินลดแรงลงได้เท่าไรนัก เวลานี้มีพัดเปรียญอยู่สามชนิด คือพัดแดงเปรียญสามสี่ห้าประโยคถือ พัดเหลืองเปรียญหกเจ็ดแปดประโยคถือ พัดตาดเปรียญเก้าประโยคถือ มีนัมเบอร์ประโยคทำด้วยทองเหลืองกาหลั่ยทองติดที่ใจกลางพัด เห็นจะจัดเป็นว่าสามสี่ห้าประโยคเป็นเปรียญตรีหมายด้วยพัดแดง หกเจ็ดแปดประโยคเป็นเปรียญโทหมายด้วยพัดเหลือง เก้าประโยคเป็นเปรียญเอกหมายด้วยพัดตาด เช่นนั้นกระมัง ส่วนประโยคนั้นแจ้งอยู่กี่เลข

พัดพระของเรา เข้าใจว่าแต่ก่อนคาบตับทั้งสิ้น กระทั่งพัดแฉกเห็นได้ที่พัดยศทุกอย่างยังมียอดงาสำหรับสวมปลายตับ เคยเห็นรูปพระลาวฝรั่งเศสเขาทำเข้ามา เป็นรูปกำลังรับบิณฑบาตถือไม้เท้าและพัดด้วย พัดนั้นทำด้วยแผง รูปร่างอย่างที่เขียนมานี้ เข้าใจว่าพัดแฉกของเราจะออกจากนั่นเอง

รถยนต์หลังแรกที่เข้ามาเมืองไทย ดูเหมือนจะเป็นเจ้าพระยาสุรศักดิ์จะได้มาก่อน ตั้งแต่ครั้งยังคิดทำไม่ได้ดีสมบูรณ์นัก ไม่ใช่เจ้าพระยาสุรศักดิ์เอาเข้ามาครั้งไปยุโรป คงจะมีฝรั่งอะไรเอาเข้ามาแล้วเอามาขายให้เจ้าพระยาสุรศักดิ์ เป็นปกติของเจ้าพระยาสุรศักดิ์ที่ชอบของใหม่ๆ แปลกๆ เห็นคงจะซื้อไว้ ได้ยินเขาว่าใส่เกียร์ยากล้นพ้น ลางทีฝ่าพระบาทจะได้ทอดพระเนตรเห็น แล้วก็สูญหายไป คงเป็นอันใช้ไม่ได้ ที่ใช้ได้จริงจังจำได้ว่ากรมหลวงราชบุรีเอาเข้ามา เป็นเหตุให้ฮือรถยนต์กันขึ้นในเมืองไทย

ความรู้ใหม่ซึ่งโปรดประทานไปให้ทราบว่า ข้างจีนเขาก็ทำขวัญเดือนลูกเหมือนกับไทยนั้น ทำเอาหูผึ่ง ให้อยากทราบต่อไปว่าเขาทำอย่างไรกันบ้าง เห็นจะไม่ยากอะไร ตรัสไล่เลียงซุยบี๊ดูก็คงได้เรื่องตลอด

ขอประทานโทษ ฝ่าพระบาทโปรดการค้นเรื่องโบราณคดี ขอได้ทรงพระเมตตาโปรดค้นพระราชพงศาวดาร ประทานให้ทราบสักทีในเรื่องพระมงคลบพิตรกับทั้งวิหาร มีกล่าวถึงในที่ใดว่ากระไรบ้าง เกล้ากระหม่อมสังเกตซากอิฐซึ่งก่อไว้ เห็นว่าจะได้แก้มาสองคราว เดิมทีจะทำเป็นมณฑปก่อน แล้วคงมีเหตุอะไรเช่นไฟไหม้เป็นต้น ได้แก้เปลี่ยนทำเป็นหลังคาคฤห์ เฟเลียเต็มที มีหลังคาคลุมลงมาจนเกือบจดถึงดิน เป็นแน่ว่าเมื่อครั้งบ้านเมืองดีนั้นในวิหารมืดเต็มทน มีช่องเจาะใหม่อย่างเลวๆ ไว้ด้านหน้าสองช่อง เข้าใจว่าเพื่อเอาแสงสว่างเข้า แต่ก็คงไม่ได้แสงสว่างมากนัก วิหารพระมหาธาตุในวัดมหาธาตุกรุงเทพฯ ก็ทำท่วงทีคล้ายกัน แต่ศรีวิลัยกว่ามาก มีหน้าต่างให้แสงสว่างภายในได้ดีกว่า

เมื่อวันที่ ๒๕ เดือนก่อน พวกหลานๆ เทวกุล ดิศกุล พากันมาที่บ้านคลองเตยมากมาย โดยเกล้ากระหม่อมไม่รู้ตัวเลย ตอนเย็นเห็นหม่อมเจิมพาหลานแมว หลานหมู หลานมอด หลานมด มาก่อน อีกครู่หนึ่ง หญิงจง หญิงมารยาตร หญิงเป้า หญิงเพียร หญิงกุมารี ชายใหม่ ชายปาน พากันมาอีก เกล้ากระหม่อมตกใจถามว่าอะไรกัน เธอบอกว่าหญิงอามชวนมากินเลี้ยงขนมเบื้อง เกล้ากระหม่อมก็โล่งใจ ซ้ำดีใจด้วยที่พี่น้องรู้จักรักกัน เหลวไหลอย่างเอกที่เกล้ากระหม่อมไม่รู้จักชายปาน ต้องถามว่านั่นใครเธอ โตเป็นหนุ่มแล้วจำไม่ได้เลย

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ