- เมษายน
- วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพม่า ตอนที่ ๑๐ (ต่อ)
- วันที่ ๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- วันที่ ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- —จดหมายแต่งการศพหม่อมเจ้าตระหนักนิธิผล
- วันที่ ๑๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- วันที่ ๑๔ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- วันที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- วันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- พฤษภาคม
- วันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- วันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- วันที่ ๑๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- —ลักษณะนุ่งผ้าขี่ม้า
- วันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร (๒)
- วันที่ ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- วันที่ ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- มิถุนายน
- กรกฎาคม
- สิงหาคม
- กันยายน
- วันที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- วันที่ ๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๑๑ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- วันที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- —วันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๑๘ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- —ที่ ๕/๒๔๘๐ หมายกำหนดการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา
- วันที่ ๒๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๒๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- —หนังสือแถลงการณ์คณะสงฆ์ เรื่องแก้ไขถวายอติเรก
- วันที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- ตุลาคม
- วันที่ ๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- วันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- วันที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- —ที่ ๗/๒๔๘๐ หมายกำหนดการพระราชกุศล ๕๐ วัน
- วันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- —ที่ ๘/๒๔๘๐ หมายกำหนดการพระราชกุศลวันที่ระลึกรัชกาลที่ ๕
- วันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- —ที่ ๙/๒๔๘๐ หมายกำหนดการ พระกฐินหลวง
- วันที่ ๒๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- —วันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- พฤศจิกายน
- วันที่ ๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- วันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- —ที่ ๑๐/๒๔๘๐ หมายกำหนดการพระราชกุศล ๑๐๐ วัน
- วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- —วิจารณ์ขนบธรรมเนียมในราชสำนักครั้งกรุงศรีอยุธยา
- ธันวาคม
- วันที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- —บันทึกการตรวจพระวิจารณ์ หนังสือลัทธิธรรมเนียมต่างๆ ภาคที่ ๑๙
- วันที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- —วิจารณ์หนังสือลัทธิธรรมเนียมต่างๆ ภาคที่ ๑๙ (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- —ที่ ๑๑/๒๔๘๐ หมายกำหนดการพระราชพิธีเปิดประชุมสมัยสามัญสภาผู้แทนราษฎร
- —ที่ ๑๒/๒๔๘๐ หมายกำหนดการพระราชพิธีฉลองรัฐธรรมนูญ
- วันที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๑๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- —บันทึกทักพระวิจารณ์ลัทธิธรรมเนียมต่างๆ ภาคที่ ๑๙ (ท่อนที่ ๒)
- —ขอมติมหาชนในเรื่องแบบอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
- วันที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- —ลักษณะอนุสาวรีย์พระเจ้ากรุงธนบุรี ผูกขึ้นตามความคิด ๗ อย่าง
- —ข่าวกรมศิลปากร
- วันที่ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- มกราคม
- วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- วันที่ ๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- วันที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- —อธิบายยศศักดิ์ของไทย
- วันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- วันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- —คำตอบปัญหาของพระยาอินทรมนตรี (๒)
- วันที่ ๒๒ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- วันที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- —คำตอบปัญหาของพระยาอินทรมนตรี (๓)
- วันที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- กุมภาพันธ์
- วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- —อธิบายตอบคำถามพระยาอินทรมนตรี ตอนที่ ๕
- วันที่ ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- วันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- —ที่ ๑๓/๒๔๘๐ หมายกำหนดการ พระราชพิธีก่อพระฤกษ์กรีฑาสถานแห่งชาติ
- —ที่ ๑๔/๒๔๘๐ หมายกำหนดการพระราชกุศลมาฆบูชา
- วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- —อธิบายตอบคำถามพระยาอินทรมนตรี ตอนที่ ๖
- วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- —ที่ ๑๕/๒๔๘๐ หมายกำหนดการพระราชพิธีทักษิณานุปทาน
- มีนาคม
- วันที่ ๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- —ตอบคำถามที่ ๗ ของพระยาอินทรมนตรี
- วันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- วันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- —คำตอบปัญหาที่ ๘ ของพระยาอินทรมนตรี
- วันที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- วันที่ ๑๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- —คำตอบปัญหาที่ ๙ ของพระยาอินทรมนตรี
- วันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- วันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
- —คำตอบปัญหาพระยาอินทรมนตรีที่ ๑๐
- วันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- —ที่ ๑๖/๒๔๘๐ หมายกำหนดการพระราชพิธีตะรุษะสงกรานต์
- วันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ดร
วันที่ ๑๘ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๐ น
ตำหนักปลายเนิน คลองเตย
วันที่ ๑๘ กันยายน ๒๔๘๐
กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ทราบฝ่าพระบาท
ลายพระหัตถ์ลงวันที่ ๙ เดือนนี้ ได้รับประทานแล้ว
เรือภาณุรังษีนั้น เราจัดให้เดินจากกรุงเทพฯ ตรงไปสงขลา และกลับจากสงขลาตรงถึงกรุงเทพฯ โดยปรารถนาจะประมูลรถไฟช่วยคนที่เบื่อนอนในรถไฟให้เข้าออกได้เร็ว และเมื่อถึงสงขลาแล้วจะจับรถยนต์ไปเที่ยวในสหรัฐมลายูแห่งใดก็ได้ มีเดินตรงอยู่ลำเดียวเท่านั้น ยังมีอีก ๒ ลำเขาเดินช้าๆ แวะตามท่าต่างๆ ไปตามเดิมแต่ไม่เข้าถึงกรุงเทพฯ เกล้ากระหม่อมก็อยากเที่ยวไปช้าๆ แต่ขัดข้องที่จะเข้ากรุงเทพฯ ไม่ถึง จึงต้องไปเรือเร็วที่เดินตรง
ตามที่กรมขุนชัยนาท กล่าวโทษรถไฟนั้นไม่ประหลาดอะไร เป็นการที่เป็นไปตามธรรมดา ที่เกล้ากระหม่อมมาปีนังโดยทางเรือนั้นเป็นการตั้งใจหนีรถไฟอันรู้ว่าหาความสุขไม่ได้นั้นทีเดียว มีประโยคพยายามถึงสั่งหญิงมารยาตรเข้าไปให้ช่วยสืบ ว่าจะมีเรือห้างอิสตเอเซียติกผ่านสิงคโปร์เมื่อไร เธอบอกกำหนดไปให้ทราบแล้ว จึงกะวันกลับจากชวาให้เหมาะแก่ที่จะจับเรืออีสตเอเซียติกได้ ไม่ใช่กลับมาตามบุญตามกรรมเลย
ในลายพระหัตถ์ตรัสถึงเรื่องศาลหลวง ทำให้คิดต่อยุ่งใจไปไม่ใช่น้อย ลูกขุน ณ ศาลหลวง หมายถึงผู้พิพากษาตุลาการหรือมิใช่ ลูกขุน ณ ศาลา หมายถึงเสนาบดีอย่างเก่า หรือรัฐมนตรีอย่างใหม่หรือมิใช่
ขุน หมายความว่าเป็นอะไร ลางปากอธิบายว่า ขุนคือพระเจ้าแผ่นดิน ถ้าเช่นนั้นคำว่าลูกขุนก็ได้แก่เจ้าลูกเธอ จะตั้งเจ้าลูกเธอเป็นผู้พิพากษาเสนาบดีไปทั้งหมดได้เจียวหรือ มีคำใช้นึกได้คำหนึ่งว่า มนตรีลูกขุน คำมนตรีขึ้นหน้าลูกขุน ส่อให้เห็นว่าคำลูกขุนจะเป็นเจ้าลูกเธอไปไม่ได้ อีกปากหนึ่งอธิบายคำขุนว่ามาแต่กุ๋น-เจียงกุ๋น-ไต้เจียงกุ๋น ในภาษาจีน หมายว่าขุนนาง ฟังเข้าทีแต่ก็ไม่พ้นสงสัยไปได้ ถ้ากุ๋นเป็นขุนแล้ว เอาคำลูกไปนำหน้าขุน เป็นลูกขุนนั้นนำทำไม จะได้ความว่ากระไร
คำว่า ขุนนาง เห็นจะพูดหมายรวม คือขุนและนางหมายเอาทั้งผัวเมีย แล้วกลายเป็นผัวคนเดียว ขุนหมายถึงผัวในที่นี้ เป็นหลักสนับสนุนที่ว่าขุนมาแต่กุ๋นแน่นแฟ้นขึ้น
ศาลหลวงนั้นเป็นแน่ว่ารื้อ และคงรื้อด้วยคิดจะทำใหม่ให้เป็นตึก ไม่ใช่รื้อเพราะชำรุดมาก ด้วยปรากฏอยู่ว่าในปีฉลู พ.ศ. ๒๓๙๖ ยังจัดทำพิธีได้ที่นั้น ถ้าชำรุดมากแล้วจะตั้งทำการที่นั่นได้อย่างไร เหตุที่ระงับเสียไม่ได้ทำขึ้นใหม่ก็คิดเห็นแต่อย่างเดียวด้วยท่านเห็นว่ายกการพิจารณาพิพากษาเข้าไปตั้งในศาลาลูกขุนใน ก็ทำได้ไม่กีดแก่อะไรแล้วจะทำใหม่ให้เปลืองไปทำไม แม้ว่าข้อนี้มิได้เป็นประธานก็เป็นแน่ว่าต้องเป็นเหตุประกอบด้วย ข้อที่บ้วนน้ำหมากคายชานกันไว้บนเสื่อเหนือพื้น จนเป็นกองใหญ่นั้น น่าสังเวชที่สุด คนบ้วนคนคายก็กระไรเลยช่างทำได้ เจ้าของศาลาหรือลูกขุนที่เข้าไปนั่งทำการนั้นก็ใจดำเหลือทน จะหากระโถนมาให้หน่อยก็ไม่ได้ แต่ตามศาลาการเปรียญวัดเขายังหากระโถนมาให้สัปปุรุษ สีกาบ้วน ทั้งนั้นก็คงเป็นด้วยถือว่าไม่ใช่ของเราเข้าทางพระอนัตตา
เมื่อสี่ห้าวันมานี้ พระพรหมพิจิตรเอาแผนศาลหลักเมืองสุพรรณมาให้ดู เป็นแผนที่ขึ้นไปถ่ายอย่างจากที่เป็นอยู่ในบัดนี้ เจ้าพระยายมราชเห็นจะสั่งให้ไปถ่ายมาให้ดูเพราะคำเกล้ากระหม่อมกล่าวว่าช่วยคิดไม่ได้ เพราะไม่ทราบว่าที่เป็นอยู่บัดนี้เป็นอย่างไร เมื่อเห็นแผนที่นั้นเข้าก็ตกใจ ด้วยไม่ได้คิดเลยว่าจะทำไว้ดีถึงเพียงนั้น มีกำแพงล้อมเขตเป็นรูปสี่เหลี่ยมรี ด้านสกัดหน้ามีประตูเข้าอย่างสง่า สองมุมกำแพงด้านหน้ามีศาลาที่พักคนไปบูชา ส่วนตัวศาลนั้นวางไว้ชิดไปทางด้านสกัดหลัง หน้าศาลมีศาลาที่บูชา เห็นว่ามีพร้อมเพรียงสมควรแก่การอยู่หมดทุกอย่างแล้ว ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องทำอะไรอีก นอกจากซ่อมแซมที่ปรักหักพังให้กลับดีเสียเท่านั้น แต่ความเห็นเช่นนั้นขัดกันกับความเห็นพระพรหมพิจิตร แกอยากจะรื้อล้างลงเสียให้หมดแล้วทำใหม่ เพราะเดิมทำไว้เป็นแบบจีน เว้นแต่ตัวศาลเท่านั้นที่ทำเป็นแบบไทย แต่ก็ไม่งาม ความเห็นเช่นนั้นจะติแกก็ไม่ได้เพราะแกเป็นแต่ช่างผู้ออกแบบให้ทำ ย่อมมีแต่ความคิดที่จะทำให้ดีไว้ชื่อเสียง แต่ความยากนั้นจะตกแก่ผู้ทำ ถ้ามีเงินพอก็ทำได้ ถ้าไม่มีเงินพอก็ขัดข้อง เกล้ากระหม่อมจึ่งช่วยคิดให้เจ้าพระยายมราชเป็นทางกลาง ว่าถ้าจะทำก็ทำแปลงแต่ศาลาที่บูชาซึ่งทับอยู่หน้าศาล รื้อหลังคาจีนลงเสีย ทำแก้ใหม่ให้เป็นหลังคาไทยจะช่วยให้ได้ชุดกับศาลงามขึ้น หรือจะต่อมุขหน้าศาลให้เชื่อมติดกับศาลาที่บูชาเสียทีเดียวก็ได้ ถ้าทำดั่งนั้นศาลาที่บูชาก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของศาล เป็นศาลตรีมุขขึ้น ส่วนสิ่งอื่นก็ทำแต่เพียงซ่อมแซมเท่านั้น คงเป็นแบบจีนอยู่ไม่เห็นเป็นไร จะพาลเอาว่ารักษาประวัติก็ได้ จะเป็นการใกล้แก่ที่จะทำได้เพราะหาเงินได้พอ
คราวนี้จะกราบทูลถึงเทวรูปซึ่งมีอยู่ที่ศาลนั้น เขาว่ามีสององค์เป็นเทวรูปจำหลักด้วยศิลามีพนังหลังตั้งพิงไว้ในศาล รู้ได้ว่าเป็นของเอามาแต่ที่อื่น รูปมีพนังหลังชนิดนั้นเขาทำสำหรับฝังเข้าไปในคูหาที่เจาะผนังเข้าไป ว่ากันว่าองค์หนึ่งเป็นรูปพระนารายณ์ อีกองค์หนึ่งเป็นรูปพระหลักเมือง แต่จะเป็นไปไม่ได้ เพราะหลักเมืองต้องเป็นเสาหลัก ไม่เป็นเทวรูป พระพรหมพิจิตรว่าจะดูให้รู้ว่าเป็นรูปอะไรก็ไม่ได้ ด้วยคนเอาทองเปลวปิดทับถมเข้าไว้เสียท่วมทึบ รู้ได้แต่ว่าที่เป็นมีสี่กรทั้งสององค์
ได้โอกาสที่พระพรหมพิจิตร เขาเอาแผนศาลหลักเมืองสุพรรณมาให้ดู จึงถามเขาถึงการซ่อมแซมมณฑปพระพุทธบาท ตามที่ได้ถวายรูปมาทอดพระเนตรเมื่อคราวเมล์ก่อนนี้ เขาว่าหลังคานั้นทำด้วยคอนกรีตหมดทีเดียว เพราะไม้เก่าถูกฝนรั่วผุ เขาตีทรงใหม่ ไม่ได้ทำตามโครงเก่า พองขึ้นกว่าเก่า เพราะทรงเก่าติดจะรีดผอม เว้นแต่ชั้นล่างชั้นเดียวเท่ากับเก่า ส่วนเครื่องลำยองคือนาคปักบรรพแถลงนั้นคงเอาเครื่องไม้ของเก่าขึ้นประดับ เว้นแต่ที่ผุเสียหายก็ทำใหม่ด้วยไม้เหมือนกันเปลี่ยนแซมเข้า
วันที่ ๑๙ ที่ ๒๐ เดือนนี้ จะมีงานเฉลิมพระชันษาตามกำหนด ได้จัดหมายกำหนดการส่งมาถวายด้วยแล้ว เพื่อจะได้ทรงทราบว่าทำอะไรบ้าง การอุทยานสโมสรเลิกมาสองปีแล้ว ปีกลายนี้เลิกเพราะกรมพระกำแพงเพชรสิ้นพระชนม์ ปีนี้เลิกเพราะสมเด็จพระสังฆราชเจ้าสิ้นพระชนม์ เป็นการไว้ทุกข์
ขอพระบารมีเป็นที่พึ่ง เกล้ากระหม่อมอยากได้พจนานุกรมสํสกฤตแปลเป็นอังกฤษ ของอาจารย์โมเนียวิลเลียมส์เล่มหนึ่ง เขียนชื่อเป็นภาษาอังกฤษอย่างนี้ Sanskrit-English Dictionary by Monier Williams จะสั่งร้านขายหนังสือในกรุงเทพ ฯ ซื้อให้ก็ได้ แต่เขาเรียกเอาราคาแพงนัก เห็นจะเป็นด้วยเอากำไรกันหลายต่อ หญิงอามแนะนำว่าเจ๊กซึ่งทำการอยู่ที่หอสมุดปีนัง ที่เขาช่วยวิ่งหาซื้อพจนานุกรมภาษามลายูให้นั้น เป็นคนคล่องแคล่วรู้เบาะแสหนังสืออะไรทุกอย่าง แล้วเป็นคนกว้างขวางด้วย เมื่อหาพจนานุกรมภาษามลายูให้นั้น ยังได้บอกแสดงความเสียใจว่ามีเวลาน้อยนัก ถ้ามีเวลามากจะเที่ยวสืบหาตามพวกพ้องลางทีมีใครเขาต้องการจะขายก็จะได้ราคาถูกลงมาก ฝ่าพระบาทก็ทรงคุ้นเคยกับเขา หากตรัสมอบให้เขาเป็นธุระคงจะได้ประโยชน์ดี เกล้ากระหม่อมก็เห็นชอบด้วย จึงกราบทูลมาขอพระบารมีเป็นที่พึ่ง ทรงพระเมตตาโปรดสั่งให้เขาสืบหาดูด้วย จะเป็นพระเดชพระคุณล้นเกล้า
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด