วันที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๘

บ้านท่าข้าม สถานีสุราษฎร์ธานี

วันที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๘

ข้าพระพุทธเจ้า ขุนประกิตกาญจนเขตร์ ขอพระราชทานกราบทูลใต้ฝ่าพระบาททรงทราบ

ด้วยตามที่ต้องพระประสงค์ประวัติเมืองท่าทองนั้น ข้าพระพุทธเจ้าขอกราบทูลเฉภาะแต่ที่จำได้ ดังกราบทูลต่อไปนี้

๑. เมืองท่าทองเก่าตั้งอยู่ที่บ้านท่อนในลำคลองท่าทองอุแท ระยะห่างจากวัดถ้ำเขาพระนิ่ม (ที่ใต้ฝ่าพระบาทได้ประพาสแล้ว) ประมาณ ๑๐๐ เส้น เดี๋ยวนี้ยังมีบ้านราษฎรอยู่เปนหลักฐาน ประมาณแต่ที่อยู่ติดต่อกัน ๗๐ ครัวเรือน ในครั้งโน้นใช้วัดเสมาเปนวัดถือน้ำ แต่เดี๋ยวนี้ร้างเสียแล้ว ทรากวัดร้างที่มีเปนที่สังเกตได้ชัดราว ๑๘ วัด เดี๋ยวนี้มูลดินสูงปิดพระประธานถึงพระสอ พระโดยมากเปนศิลาแดง ที่ยังบริบูรณ์อยู่ก็มีที่หักพังเสียก็มาก เมืองนี้เดิมจะเปนบ้านเมืองเมื่อ พ.ศ. เท่าใดไม่ทราบเกล้า (แต่ในตำนานพระธาตุเมืองนครศรีธรรมราชได้กล่าวถึงเมืองท่าทองเหมือนกัน) คงทราบเกล้าแต่ว่าเมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๙ เปนปีที่เมืองท่าทองเสียแก่พะม่า พระวิสูตรสงครามรามภักดี เจ้าเมืองต้องหนีพะม่าในครั้งนั้น มาตั้งบ้านอยู่ที่บ้านท่าทอง ใกล้กับสถานีคอนหินหมุย (ในเขตต์หลังสวน) เหตุที่เรียกบ้านนั้นว่าบ้านท่าทองก็เพราะพระท่าทองมาอยู่เปนคนแรกสร้างบ้านนั้นเอง

๒. พวกพะม่าข้าศึกได้จับบุตรของพระวิสูตรไปขังไว้ที่ค่าย ๒ คน ชื่อนก กับชื่อแถม เปนผู้หญิงทั้งสองคน คนชื่อแถมได้พยายามหนีจากที่คุมขังออกมาได้

๓. ต่อมาเมื่อทหารทางกรุงเทพฯ ออกไปช่วย พวกพะม่าหนีไปหมดแล้ว ทางบ้านเมืองได้ตั้งให้นายสมไปเปนผู้รั้งเมืองท่าทอง นายสมไม่ได้อยู่ที่เมืองเก่าเพราะถูกพะม่าเผาเสียหมดแล้ว ได้มาตั้งบ้านอยู่ที่บ้านกะแดะ (ซึ่งเดี๋ยวนี้ตั้งที่ว่าการอำเภอกาญจนดิฐ) นายสมได้รับบรรดาศักดิเปนหลวงวิเศษ และได้กับแถมบุตรของพระวิสูตร คนที่หนีจากที่คุมขังของพะม่าในข้อ ๒ เปนภรรยา

๔. หลวงวิเศษได้รื้อบ้านจากบ้านกะแดะมาตั้งบ้านอยู่ที่คลองมะข้ามเตี้ยตรงวัดโพข้าม เมื่อ พ.ศ. ๒๓๓๖ ในระหว่างนั้นทางเมืองนครฯ เกณฑ์คนไปซ่อมแซมพระธาตุเพราะถูกพะม่าเผาเสียมาก จึงหลวงวิเศษคิดสร้างวัดในเมืองท่าทองขึ้นเปนจำนวนมาก เพื่อประสงค์ไม่ต้องส่งคนไปซ่อมแซมพระธาตุที่เมืองนครฯ และในเวลานั้นเจ้าเมืองเปนผู้อนุญาตให้ฝังพัทธสีมาได้ โดยไม่ต้องขอพระบรมราชานุญาต หลวงวิเศษได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เปนพระวิสูตรสงครามรามภักดี และได้ถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๕

๕. หลวงเทพพิทักษสุนทร (เดช) บุตรของพระวิสูตร (สม) เปนผู้รั้งเมืองต่อมา

๖. เวลานั้นตรงที่ตลาดบ้านดอนเดี๋ยวนี้ยังเปนพรุหล่ม เปนป่าหวายและผักคราดน้ำแฉะ ยังตั้งบ้านอยู่ไม่ได้จึงไม่ได้อยู่ที่เมืองเดี๋ยวนี้

๗. อาณาเขตรของเมืองท่าทองเวลานั้น ทิศตะวันออกถือเอาคลองครามเปนเขตรจดเขาขิมวลกับทะเล ผ่าสันเขาไปลงต้นน้ำคลองหวาด แล้วขึ้นเขาใหญ่ ไปเขาไฟไหม้ เขารอยคน เขาพนันเมีย เขาไม้ไผ่ เขาสายหูช้าง เขาลิงนั่ง เขาฝ้าย แล้วลงตามลำห้วยเรียน พอถาก ต่อเหยียบราก แล้วออก ห้วยรัตนโกไสย (ตรงสถานีเขาพลูเดี๋ยวนี้) แล้วไปออกคลองแม่น้ำตาปีที่บ้านปากพุนเดี๋ยวนี้ แล้วไปตามคลองถึงคลองลำใน ตามคลองลำในไปแพรกคลองจิกใช้แล้วตัดป่าไปทะเลหอย แล้วตัดป่ามาออกตรงปากทำเรียงในคลองพุมดวง ถือตามคลองพุมดวงมาออกทะเลที่ปากพันธุหา คิดประมาณระยะเหนือกับใต้จากทะเลถึงเขาไม้ไผ่ประมาณ ๒๐๐๐ เส้น คิดทิศตะวันออกกับตะวันตก จากคลองครามกับปากคลองทำเรียง ระยะประมาณ ๔๐๐๐ เส้น อาณาเขตรตามกราบทูลในข้อ ๗ นี้ ข้าพระพุทธเจ้าได้ไปเที่ยวตรวจมาและประมาณโดยที่ข้าพระพุทธเจ้าได้เห็น จะคลาดเคลื่อนกับความเปนจริงประการใดแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ขอพระบารมีปกเกล้า

(ลงนาม) ขุนประกิตกาญจนเขตร

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ