วันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร

Cinnamon Hall,

206 Kelawei Road, Penang. S.S.

วันที่ ๑๙ กันยายน พุทธศักราช ๒๔๗๘

ทูล สมเด็จกรมพระนริศร ฯ

หม่อมฉันได้รับลายพระหัตถ์ฉะบับลงวันที่ ๑๔ กันยายน ทราบว่าจะเสด็จแปรสถานไปประพาสบางปะอิน เห็นว่าเปนการดี ด้วยในกรุงเทพ ฯ ตอนกลางเดือนกันยายนฝนมักชุกชื้นมาก มักเปนระดูเกิดไข้เจ็บ ที่บางปอินก็ไม่ห่างจากกรุงเทพ ฯ เท่าใดนัก แต่อากาศเขาสบายไม่สู้ชื้น เมื่อแรกหม่อมฉันออกจากมหาดไทยเคยพาแม่หนีชื้นขึ้นไปอยู่บ้านแป้ง จึงทราบว่าที่บางปะอินสบายดีในเดือนกันยายนจนตลอดเดือนตุลาคม

คำว่า “สยาม” เปนคำชาวต่างประเทศเรียกเปนแน่ ที่ใช้เปนลายลักษณ์อักษรเก่าที่สุดดูเหมือนจะเปนที่จำหลักไว้ใต้รูปภาพกระบวรแห่ที่นครวัดบอกว่า “พลสยาม” ในหนังสือไทยเห็นใช้แต่ในบทกลอนเช่นในเตลงพ่าย ว่า

“ขุนเสียมสมัตถต้าน ขุนเตลง” เปนต้น

และยังพบที่อื่นอีกบ้าง แต่ในหนังสือราชการปลาดที่พึ่งมาใช้เรียกนามประเทศว่า สยาม เมื่อในรัชชกาลที่ ๔ กรุงรัตนโกสินทรนี้เอง แต่ก่อนนั้น แม้ในรัชชกาลที่ ๓ เมื่อทำหนังสือสัญญากับอังกฤษ ในหนังสือสัญญาก็ยังเรียกนามประเทศว่ากรุงศรีอยุธยา แต่หนังสือต่างประเทศเรียกว่าประเทศสยามมาแต่โบราณทั้งนั้น

ข้อที่ท่านทรงพระวิตกว่าวินิจฉัยดี ๆ ที่เขียนในจดหมายรายสัปดาหะจะสูญไปเสียนั้น ในเวลานี้ได้แต่หวังใจว่าเขียนลงไว้เปนลายลักษณ์อักษรแล้ว บางทีก็จะอยู่ได้ไม่สูญ ด้วยเคยเห็นหนังสือเก่าซึ่งลี้ลับนับตั้ง ๕๐-๖๐ ปีแล้วกลับมาปรากฏขึ้นเมื่อภายหลัง ยกตัวอย่างดังเช่นหนังสือเรื่องความทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวี ที่สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงแต่งพระราชวิจารณ์ หนังสือจดหมายของหลวงอุดมสมบัติและหนังสือพงศาวดารฉะบับหลวงประเสริฐเปนต้น เรื่องหลังนี้ยายแก่ที่เปนเจ้าของเอาใส่กะชุมูลฝอยจะไปเผาไฟอยู่แล้ว (พระยาปริยัติธรรมธาดา แพ เมื่อยังเปน) หลวงประเสริฐไปเห็นเข้า สังเกตว่าเปนสมุดเก่าขอมาให้หม่อมฉันที่หอพระสมุด ฯ หม่อมฉันจึงให้เรียกว่าพงศาวดารฉะบับหลวงประเสริฐ เพื่อสนองคุณ แต่วินิจฉัยเรื่องต่าง ๆ ที่พระองค์ท่านกับหม่อมฉันเขียนถึงกันอยู่เนือง ๆ นี้ พวกลูกหญิงของหม่อมฉันชอบกันมาก ขออ่านทุกคราวว่าได้ความรู้แปลก ๆ เสมอ และปรารภกันว่าน่าจะพิมพ์ไว้มิให้สูญเสีย หม่อมฉันตอบว่านั่นเปนธุระของคนภายหลังมิใช่กิจของหม่อมฉัน แต่เมื่อคิดตามกระแสที่ท่านทรงปรารภ มานึกขึ้นอย่างหนึ่งว่าเรื่องอะไร ๆ ที่เราได้พิจารณากันมาแต่ก่อนก็ดี หรือมาพิจารณาในตอนนี้ก็ดี บรรดาที่ลงมติเปนวินิจฉัย ถ้าเขียนลงไว้เปนลายลักษณ์อักษรในจดหมายรายสัปดาหะนี้ก็เห็นจะดี

ในลายพระหัตถ์ตรัสว่าส่งสมุดหนังสือเรื่องธรรมยุติกับมหานิกายกับผลลางสาดอย่างดีมาประทาน สมุดนั้นได้รับแล้ว หม่อมฉันเปิดออกดูตอนว่าด้วยนิกายธรรมยุติก่อน เห็นตั้งต้นตอนนั้นเปนสำนวนมิตร แต่ยังหาได้อ่านต่อไปไม่ ผลลางสาดนั้นมีความเสียใจที่มาไม่ถึงปีนัง จะเปนเพราะผู้ส่งไม่สามารถฝากรถไฟได้ หรือจะมีใครลักกินเสียหมดในกลางทางสืบไม่ได้ความ แต่อย่างไรก็ตาม หม่อมฉันขอบพระเดชพระคุณเปนอันมาก

หญิงแดง หญิงโสฬศ กับหม่อมเจิม ซึ่งออกมาเมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม มาอยู่เดือนเศษจะกลับกรุงเทพ ฯ ในคราวรถเมล์วันที่ ๒๐ นี้ หม่อมฉันได้มอบจดหมายฉะบับนี้ให้หญิงโสฬศถือมา และสั่งให้ส่งขึ้นไปถวายท่านที่บางปะอิน เธอรับว่าจะส่งให้ถึงในวันอาทิตย์ที่ ๒๒ ทั้ง ๔ คนที่มาอ้วนท้วนผ่องใสดี หญิงโหลจะยังอยู่ปีนังต่อไปสักสองสามเดือน ด้วยเมื่ออยู่ที่นี่ไปดูโรงเรียนคอนเวนต์ เห็นเขามีการสอนวิชชาเบ็ดเตล็ดสำหรับประกอบการอาชีพ เธอปราร์ถนาจะเรียนวิชชานั้น หม่อมฉันก็เห็นชอบด้วย เพราะเรียนได้สดวก เช้าไปเย็นกลับด้วยกันกับหลานอีก ๓ คน โรงเรียนก็ไม่อยู่ห่างไกลเท่าใดนัก

ข่าวคราวทางปินังในตอนนี้ เมื่อวันที่ ๑๑ เรือเมล์เยอรมันชื่อ Potsdam ลำที่บริษัท North German Lloyd ต่อใหม่ ขากลับจากเมืองยี่ปุ่นจะไปยุโรป แวะรับคนโดยสารที่ปินัง Dr. Anmis ที่เคยเปนราชทูตเยอรมันอยู่ในกรุงเทพ ฯ แต่ก่อน กับทั้งบุตรภรรยาโดยสารมาในเรือนั้นด้วย เชิญหม่อมฉันกับลูกหญิงลงไปเลี้ยงกลางวันที่ในเรือ แล้วพาเที่ยวดูเรือปอตสดัมตลอดลำ เห็นน่าพิสวงสมกับที่เลื่องลือว่าเรือลำนี้ทำดีนัก หม่อมฉันมาอยู่ปินังได้เคยลงไปดูเรือเมล์ของ อังกฤษ อิตาเลี่ยน ยี่ปุ่น เยอรมัน อเมริกัน (ยังไม่ได้ดูแต่เรือฝรั่งเศสกับเรือฮอลันดา ด้วยเขาไม่แวะปินัง) สังเกตดูลักษณเรือเมล์ ที่เหมือนกันหมดก็คือตั้งใจจะให้เปนความสุขสำราญแก่คนโดยสารทุกอย่างที่จะทำได้ แต่ความสุขที่นิยมกันนั้น พวก English กับพวก Continent ผิดกันที่พวก English ชอบเล่นกีฬา แต่พวก Continent ชอบนั่งสนทนาและร้องรำยิ่งกว่ากีฬา เพราะฉะนั้นถ้าเปนเรืออังกฤษมักทำที่เล่นกีฬาพิสดาร ถ้าเปนเรือคอนติเนนต์มักทำที่ Café และห้องเต้นรำเล่นดนตรีพิสดาร แต่ไม่เลือกว่าเรือพวกไหนที่ได้เห็นมา คงมีที่น่าชมและน่าติปะปนกัน แต่เรือเยอรมันที่ต่อใหม่นี้เขาคิดแก้ไขให้เปนสายกลางเกือบไม่มีที่ติเลยทีเดียว ดูเหมือนจะเที่ยวสืบสวนตรวจตราคิดแก้ไขอยู่ช้านานจึงสำเร็จรูปให้เห็นอยู่ปานฉะนี้ ใช่แต่คิดทำเรือให้ดีขึ้นเท่านั้น ยังพยายามลดค่าโดยสารให้ถูกลง เหมาะแก่กำลังและความสามารถของคนโดยสารด้วย เขามีวิธีรับคนโดยสารให้เที่ยวอย่าง “สุวรรณลอยล่อง” ซึ่งน่าเที่ยวมาก คือถ้าอยู่ปินังซื้อตั๋วลงเรือที่ปินังอยู่กินในเรือตลอดทางไปสิงคโปร์ มานิลา ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ โกเบ และโยโกฮามาเปนที่สุดทาง

แล้วกลับทางเดิมมาส่งที่ปินัง คิดค่าโดยสารเพียงคนละ ๓๒ ปอนด์ หรือถ้าจะเลือกห้องให้เปนอย่างวิเศษก็ราว ๔๐ ปอนด์ เวลาเดินทางรอบหนึ่งราว ๔๐ วัน การเที่ยวอย่างสุวรรณลอยล่องเดี๋ยวนี้ดูคนนิยมกันมาก พวกเรือเมล์ก็จัดให้มีวิธีรับคนโดยสารเช่นนั้นขึ้นแทบทุกสาย มีอีกทางหนึ่งซึ่งน่าเที่ยวมาก คือเรือของบริษัท British India มีวิธีรับคนโดยสารไปเมืองร่างกุ้ง และเมืองกาลัคกตา แล้วกลับมาส่ง รอบหนึ่งคิดเปนเงินราวคนละ ๒๔๐ เหรียญ หญิงพูนถึงออกปากว่าน่าทูลเชิญเสด็จอาว์มาเที่ยว “สุวรรณลอยล่อง” ด้วยกัน แต่เมื่อคิดไปถึงจำนวนคนที่ก็จะต้องชักธงเขียวด้วยความสิ้นเปลืองมันจะพ้นกำลัง ถึงกระนั้นคิดเล่นก็สนุกดี ทำนองเดียวกับซื้อตั๋วลอตเตอรี่ ซื้อแล้วคิดว่าถ้าถูกจะทำอะไร ๆ จนกระทั่งรู้ว่ามันกินก็เปนอันระงับไป.

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

  1. ๑. พระยาปริยัติธรรมธาดา (แพ ตาละลักษณ์)

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ