วันที่ ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร

Cinnamon Hall,

206 Kelawei Road, Penang. S.S.

วันที่ ๑๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๗๘

ทูล สมเด็จกรมพระนริศร ฯ

หม่อมฉันได้รับลายพระหัตถ์ฉะบับลงวันที่ ๑๓ มีความยินดีที่ทราบว่าโปรดเรือนที่หม่อมฉันสร้างไว้ณสำนักดิศกุล แต่ออกรำคาญที่ทราบว่ามีอาการไม่ทรงสบายอยู่บ้าง น่าจะเปนด้วยระดูกาลปีนี้วิปริตตั้งแต่ต้นปีมาลูกหมากรากไม้อะไรบกพร่องไม่บริบูรณ์ทั้งนั้น แต่ก่อนมาพอเปลี่ยนเปนระดูลมตะวันตกยืนที่ ฝนตกแล้วอากาศก็เย็น แต่ปีนี้หม่อมฉันได้ยินจากคนที่ออกมาจากกรุงเทพ ฯ พูดต้องกันหลายคนว่าระดูกาลไม่เปนปกติ ฝนก็ตกแต่ยังร้อนและมักมีไข้จับ สังเกตดูที่ปีนังนี้ก็ผิดกับปีกลาย เมื่อปีกลายพอระดูลมตะวันตกลงเต็มทีแล้ว กลางคืนก็เย็นต้องนอนห่มผ้าทุกคืน มาในปีนี้กลางคืนยังร้อนไม่ต้องห่มผ้ามาจนบัดนี้ คนที่ปีนังก็บ่นกันอยู่เหมือนกัน หรือมันจะเปนเรื่องเนื่องจากภูเขาไฟอะไรระเบิดที่ช่องเกาะชะวาเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่ที่ปีนังก็ไม่ห่างเท่าใดไม่ได้รู้สึกว่ามีเหตุการณ์เปนอย่างใด นอกจากเห็นในหนังสือพิมพ์

เรื่องประวัติเมืองสุราษฎร์ธานี เมื่อมาเห็นความในลายพระหัตถ์ฉะบับนี้จึงรู้สึกว่าหม่อมฉันทูลอธิบายขาดไปข้อ ๑ คือเรื่องที่เปลี่ยนชื่อเมืองกาญจนดิษฐ์เปนเมืองไชยา หม่อมฉันเองเปนผู้เปลี่ยน เพราะมณฑลชุมพรอาณาเขตต์น้อยจัดเปน ๔ เมือง คือชุมพร หลังสวน ไชยา กาญจนดิษฐ์ ตามเมืองที่มีอยู่เดิมสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น จึงให้รวมเมืองไชยากับเมืองกาญจนดิษฐ์เข้าเปนเมืองเดียวกัน ให้ชื่อเมืองไชยาด้วยเปนชื่อเก่า เอาชื่อเมืองกาญจนดิษฐ์ซึ่งเปนชื่อใหม่ไปให้เปนชื่ออำเภอ รักษาชื่อนั้นไว้ไม่ให้สูญเสีย

หนังสือรัตนาวลีของพระนาคารชุน หม่อมฉันได้มาเล่ม ๑ เหมือนกัน นึกสรรเสริญความรู้และความอุตสาหะของพระสารประเสริฐที่แปลได้ถึงอย่างนั้น หวังใจว่าสมุดเล่มนั้นจะเปนเครื่องพิศูจน์คุณวุฒิของพระสารประเสริฐอยู่ต่อไป

เรื่องคำที่เรียกมหายานและหินยานไปต่าง ๆ อย่างอื่นนั้น ต้นตำนานดูเหมือนจะมีมาแต่ครั้งทุติยะสังคายนาเมื่อ พ.ศ. ๑๐๐ เมื่อสังคายนาแล้วพวกพระสงฆ์ที่ทำสังคายนา (ซึ่งมาได้นามว่าหินยานเมื่อภายหลัง) เรียกนามพวกของตนเองว่านิกายเถรวาท เรียกพวกที่ไม่เข้าทำสังคายนาว่านิกายอาจาริยวาท ครั้นต่อมาพวกหินยานเรียกตนเองว่าสทาวีระ เรียกพวกอื่น ๆ ว่ามหาสังทิกะ พระเจ้าอโศกฟื้นพระสาสนากำจัดพวกสังทิกะ เหลือแต่พวกสทาวีระ แต่พวกมหาสังทิกะนั่นเอง ไปเฟื่องฟูขึ้นในคันธารราษฐ์เมื่อ พ.ศ. ๕๐๐ เกิดเปนนิกายมหายาน จึงเรียกพวกสทาวีระว่าหินยาน มันเปนแล้วแต่ทีของใครก็ให้ชื่อยกย่องพวกของตน กดพวกโน้นให้เลวลง แต่คำที่เรียกว่ามหายานและหินยานในเวลานี้ ดูมันเหมือนกับคนชื่อดำชื่อแดง เรียกกันเสียแพร่หลายแล้ว ในหนังสือที่ฝรั่งแต่งที่เขาพยายามจะแก้เรียกว่านิกายเหนือและนิกายใต้ เหมือนเช่นพระสารประเสริฐจะเรียกว่าอุดรยานและทักษิณยานก็มี แต่ก็ไม่สามารถจะเปลี่ยนชื่อมหายานและหินยานได้ ด้วยเรียกกันเสียเคยปากมานานแล้ว

หม่อมฉันนึกถึงกถามรรคที่จะทูลในจดหมายฉะบับนี้ สำหรับทรงพิจารณาได้เรื่อง ๑ ว่าด้วยลักษณพระเจดีย์ สังเกตดูลักษณพระเจดีย์ที่สร้างในเมืองเรามาแต่โบราณมี ๕ อย่าง คือ

๑. พระเจดีย์อินเดีย ก่อฐานเปน ๔ เหลี่ยมยกสูงขึ้นไปชั้นหนึ่งหรือสองชั้น แล้วตั้งองค์พระสถูปบนนั้น พระเจดีย์ทรงอินเดียเก่าที่สุดเปนพระเจดีย์ศิลาทราย จะได้มาจากที่ไหนหม่อมฉันจำไม่ได้ มีอยู่ในพิพิธภัณฑสถานองค์ ๑ สูงสักศอกหนึ่ง

๒. พระเจดีย์ทรงมณฑปแบบศรีวิชัย มีพระธาตุไชยาเปนตัวอย่าง

๓. พระปรางค์ ได้แบบมาแต่เขมร

๔. พระเจดีย์ลังกา แปลงมาจากพระเจดีย์อินเดียนั่นเอง แต่ทำทรงระฆังสูง ฐานต่ำลง

๕. พระเจดีย์เหลี่ยม พระเจดีย์เหลี่ยมนี้เดิมทีเดียวทำเปนยอดพุ่มเข้าบิณฑ์ตั้งบนฐาน ๓ ชั้น เกิดขึ้นในอาณาเขตต์สุโขทัย หม่อมฉันเห็นรูปในหนังสือพิมพ์จึงทราบว่าพระเจดีย์สุโขทัยนั้น ได้แบบมาจากเมืองจีน คงจะมาครั้งพระเจ้ารามคำแหง แต่มาเลิกสร้างเพียงสิ้นสมัยกรุงสุโขทัยนั้นเอง พระเจดีย์เหลี่ยมมาเกิดขึ้นอีกอย่างหนึ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา เปนทรงสถูป แก้แต่ทำเปนเหลี่ยม คิดดูตามตัวอย่างที่พบน่าจะเกิดขึ้นไม่ก่อนรัชชกาลพระเจ้าปราสาททองช้านานนัก

คราวนี้จะทูลต่อลงมาถึงพระเจดีย์ในครั้งกรุงรัตนโกสินทรนี้ให้ทรงพิจารณาว่าหม่อมฉันจะสังเกตผิดหรือถูก คือในรัชชกาลที่ ๑ และที่ ๒ สร้างแต่พระปรางค์ เช่น พระปรางค์วัดระฆัง วัดพระศรีรัตนศาสดารามเปนต้น กับพระเจดีย์เหลี่ยม เช่น พระเจดีย์ทองในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระเจดีย์ศรีสรรเพ็ชญ์ในวัดพระเชตุพน ฯ เปนต้น แต่พระเจดีย์ลังกาหาได้สร้างในวัดสลักสำคัญอันใดไม่ มาจนถึงรัชชกาลที่ ๓ น่าจะอาศัยเหตุที่ทูลกระหม่อมเสด็จไปเที่ยวเมืองเหนือ จึงริสร้างพระเจดีย์ทรงลังกาในกรุงเทพฯ นี้ น่าจะเปนองค์ที่วัดบวรนิเวศนฯ และวัดประยูรวงศ์ฯ เปนก่อนเพื่อน พระบาทสมเด็จนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวไม่ทรงสร้างพระเจดีย์ทรงลังกาเลยสักองค์เดียว หม่อมฉันขอถวายคดีเรื่องนี้ได้ทรงพิจารณาหาหลักฐานต่อไป.

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ