บันทึกความเห็น เรื่องกฎมนเทียรบาลพะม่า (ต่อ) (๓)

พระราชานุกิจ

๑. เสด็จออกสามเวลาอยู่ข้างจะมาก แต่เห็นจะกล่าวไว้เปนว่าอย่างเต็มที่ ถ้าทรงเหน็ดเหนื่อยก็อาจลดลง เอาแต่เพียงสองเพลา หรือแต่เพลาเดียวก็คงได้

๒. เสด็จออกเวลาเช้าเปนเวลาสำคัญ ที่ตรัสว่าราชการงานเมืองเพลานั้น ผิดกันกับกฎมนเทียรบาลไทย ซึ่งเสด็จออกว่าราชการเปนเพลาบ่าย แต่กำหนดเวลาเสด็จออกนั้นไม่เปนสิ่งสำคัญ คงจะได้เปลี่ยนแปลงไปตามความสดวกของพระเจ้าแผ่นดินเปนคราวๆ ไม่อยู่ที่

๓. พระเจ้าแผ่นดินเสวยวันละ ๔ เพลา คือ เช้า กลางวัน เย็น ค่ำ นั้น ที่แท้ก็คงเปนแต่ ๓ เพลาเท่านั้น เพลาค่ำคงเปนของแถม หากว่าเสด็จอยู่ดึกจึงเรียกเครื่องว่างเวลาค่ำ

๔. พระภรรยาเจ้ากับเจ้านายผู้หญิงปฏิบัติในเวลาเสวยนั้นงดงาม ทั้งนั้นก็เปนการตามปกติแห่งพระเจ้าแผ่นดินทางแถบนี้

๕. เมื่อเสวยแล้วเลื่อนเครื่องถวายเจ้านายที่ทรงปฏิบัติเสวย นี่ก็เปนปกติเหมือนกัน ซึ่งควรแล้วที่จะเปนเช่นนั้น

๖. นางสนมผลัดเวรกันอยู่ยามในเวลาเข้าที่พระบรรทมนอกห้องพระบรรทมนั้นก็เปนประเพณีปกติ ที่ว่าอ่านหนังสือถวายทรงฟังตลอดรุ่งนั้น เห็นจะเปนอุบายพอให้เปนที่สังเกตได้ ว่าผู้อยู่ยามมิได้หลับเสียเท่านั้น

๗. หน้าที่พระมเหษีปฏิบัติเวลาทรงเครื่องนั้น ดูไม่สู้จำเป็นว่าจะต้องเปนเช่นนั้น

๘. พระชายากับนักสนมเปนเวรกันประจำอยู่ในพระราชมนเทียรนั้นก็เปนการปกติ แต่ที่กล่าวว่ามีขันทีใช้ด้วยนั้นสดุดใจอยู่ เราก็เคยมีขันทีใช้เหมือนกัน แต่เห็นจะเลิกเสียนานมาหนักหนาแล้ว ได้เคยเห็นรูปเขียนเรื่องพระภูริทัตในสมุดหนังสือสวดของโบราณ ตอนอาลัมภายนำพระภูริทัตไปเล่นถวายพระเจ้าลุง ที่บนพลับพลาท้ายนางนักสนมมีแขกนั่งต่ออยู่สองคน จะเปนอื่นไม่ได้นอกจากเปนขันที ทำให้ได้ความรู้ขึ้นว่าขันทีนั้น เราสั่งเอาขันทีแขกเข้ามาใช้ ไม่ได้ทำไทยให้เปนขันที เชื่อว่าพะม่าก็น่าจะเปนเช่นเดียวกัน

ขนบธรรมเนียมในพระราชสำนัก

๑. เจ้านาย เสนาบดี ข้าราชการ ขาดเฝ้าต้องรับโทษนั้น อยู่ข้างจะเปนการเรี่ยวแรงเกินเหตุ

๒. เวลาเกิดไฟไหม้ เจ้านายและข้าราชการต้องเข้าไปในพระราชวัง ถ้าไม่เข้าไปมีโทษนั้น เปนการระวังกบฏ มีเหตุพอให้เห็นการกระทำได้

๓. ขุนนางอ่านรายงานและรายชื่อผู้เข้าเวรประจำซองถวายนั้น ทางเราก็มี แต่เปนมหาดเล็กอ่านถวายในเวลาค่ำในพระที่นั่งอมรินทร ประทับทรงสดับในพระที่นั่งไพศาล ก่อนอ่านต้องเป่าสังข์ให้ทรงทราบก่อน

๔. ปิดประตูพระนครทุกคืนนั้น เข้าใจว่าแต่ก่อนเราก็ปิดเหมือนกัน การยิงปืนเช้ามืดเปนสัญญาให้เปิดประตู แต่ทีหลังเราเลิกไม่ปิดเพราะเห็นเปนการลำบาก คงยังปิดแต่ประตูพระราชวัง

๕. การนำฎีกาขึ้นถวายเราก็มีเหมือนกัน แต่หน้าที่ผู้ถวายไม่ตรงกัน

๖. ประเพณีถวายฎีกา ทางเราชั้นแรกถวายต่อพระหัตถ์ ใครมีคดีก็มาตีกลองร้องฎีกาให้เสด็จออกรับ ยังมีห้องกลองวินิจฉัยเภรีอยู่ที่ทิมดาบกรมวังเพิ่งรื้อเลิกเสียเมื่อรัชชกาลที่ ๕ เพราะว่าประเพณีเปลี่ยนไปเป็นยื่นฎีกาที่ตำรวจหลวงนำขึ้นถวาย อย่างเดียวกับประเพณีพะม่า ไม่ต้องตีกลอง

๗. ทางรับสั่งราชการ พะม่ากับไทยตรงกันไม่ได้กระดิก

๘. เมื่อก่อนนี้การส่งเงินภาษีอากรของเรา ส่งอย่างไร และจ่ายอย่างไร หาได้เรียนทราบวิธีไว้ไม่ เห็นแต่พระยาชัยยศสมบัติทำบัญชีรับจ่ายทูลถวายเท่านั้น จึงเปนการยากที่จะเอามาเทียบกับพะม่าได้

๙. ข้าราชการรับตำแหน่งใหม่ต้องถือน้ำนั้น เปนการที่เขาถี่ถ้วนมากกว่าเรา

๑๐. ข้าราชการออกไปรักษาราชการหัวเมือง ต้องให้ภรรยาอยู่เปนตัวจำนำนั้น อยู่ข้างเปนการแสดงความขลาดมาก

๑๑. เจ้าประเทศราชต้องเข้ามาเฝ้าปีละครั้งนั้น ทางเราเห็นจะกำหนดสามปีต่อครั้ง

๑๒. ความถี่ถ้วนในเรื่องพระมหาอุปราชของเรา ไม่ค่อยจะเคยได้ยิน

๑๓. เจ้านายและข้าราชการที่เข้าไปนอนประจำซองในพระราชวัง ของเราเคยมีแต่เวลาเสด็จไม่อยู่ เรียกว่าเฝ้าวัง

๑๔. ผู้เข้าไปเฝ้าวังต้องนั่งยามนั้นเราไม่เคยทำ

๑๕. ทหารเข้าเวรประจำในพระราชวัง เปลี่ยนกันเดือนละครั้งนั้นตรงกัน

๑๖. พระเจ้าแผ่นดินเสด็จออกนอกพระราชวัง ต้องปิดประตูเมืองจนเสด็จกลับ เห็นจะไม่หมายถึงเสด็จไปค้างแรม ถ้าปิดประตูเมืองตลอดเวลาเสด็จไปค้างแรมราษฎรจะต้องติดประตูอดตาย

๑๗. ยิงปืนใหญ่สัญญาบอกเวลาสงกรานต์เราไม่ได้ทำ

๑๘. วิธียอมความเปนทางปฏิบัติในศาลหลวง แต่เข้ามาอยู่ในกฎมนเทียรบาลก็เพราะแต่ก่อนพระเจ้าแผ่นดินทรงพิพากษาความเอง

๑๙. ลักษณะลงโทษก็อย่างเดียวกันกับที่กล่าวแล้วในข้อ ๑๘

๒๐. ห้ามขายเนื้อขายปลาในเวลาเข้าวรรษานั้น เอาการบุญในศาสนามาใช้เปนอาญาเกินสมควร

๒๑. เสด็จออกมหาสมาคมปีละสามครั้งนั้น หนแรกขึ้นปีใหม่ กับหนหลังออกพรรษานั้น ตรงกับเสด็จออกถือน้ำตรุสสารทของเรา แต่เสด็จออกหนกลางเข้าวรรษานั้นเราไม่มี เห็นจะเปนการนับถือศาสนามากพาไป

๒๒. เสด็จออกมหาสมาคมปีละสามครั้ง เจ้านายและข้าราชการฝ่ายใน ทั้งภรรยาข้าราชการ ต้องเข้าเฝ้าฝ่ายในเหมือนฝ่ายหน้านั้น ทางเรามีเสด็จออกแต่สองครั้งก็มีฝ่ายในและภรรยาข้าราชการเฝ้าเหมือนกัน คือถือน้ำตรุสสารท

๒๓. ข้อบังคับในการเข้าเฝ้า ดูจะไม่ผิดกัน การสูบบุหรี่ก่อนนี้เราก็เห็นจะสูบไม่ได้ แต่เดี๋ยวนี้เคลื่อนคลายไป การสวมรองเท้าแต่ก่อนเราก็สวมไม่ได้ แต่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนธรรมเนียมแล้วจึงสวมได้

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ