- เมษายน
- วันที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- —กฎมณเฑียรบาลพะม่า (ต่อ) (๓)
- วันที่ ๑๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- —กฎมณเฑียรบาลพะม่า (ต่อ) (๔)
- วันที่ ๑๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๒๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- —กฎมณเฑียรบาลพะม่า (ต่อ) (๕)
- วันที่ ๒๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- —บันทึกความเห็น เรื่องกฎมนเทียรบาลพะม่า (ต่อ) (๓)
- วันที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- —บันทึกความเห็น กฎมนเทียรบาลพะม่า (ต่อ) (๔)
- —บทระเบง (ตามที่สืบสอบมาได้)
- พฤษภาคม
- วันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- —บันทึกความเห็นในกฎมนเทียรบาลพะม่า (ต่อ) (๕)
- วันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- มิถุนายน
- วันที่ ๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๑๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- —ระเบียบแห่งการแสดงความเคารพของภิกษุ
- วันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- กรกฎาคม
- วันที่ ๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๑๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๑๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- —วันที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๘
- สิงหาคม
- วันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๑๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๒๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๒๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- กันยายน
- วันที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๗ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๑๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร (๒)
- วันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร (๓)
- วันที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๒๘ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- ตุลาคม
- พฤศจิกายน
- วันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- —ประวัติย่อของเมืองชุมพรเก่าตอนหนึ่ง
- วันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- —อธิบายเรื่องเมืองตะกั่วป่า
- วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- —อธิบายเรื่องเมืองตะกั่วป่า ตอนที่ ๒
- วันที่ ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- —อธิบายเรื่องเมืองตะกั่วป่า ตอนที่ ๓
- วันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- ธันวาคม
- วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- —อธิบายเรื่องเมืองตะกั่วป่า ตอนที่ ๔
- วันที่ ๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- —เรื่องตั้งเมืองในมณฑลอุดรและอิสาณ
- —อธิบายเรื่องเมืองตะกั่วป่า ตอนที่ ๕
- วันที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- —รายการงานพระศพ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์
- วันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- —อธิบายชื่อเมืองในมณฑลอุดรและอิสาณ
- —กะรายวันไปเที่ยวเมืองพะม่า
- วันที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- มกราคม
- วันที่ ๒ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- —กำหนดระยะทาง สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
- —อธิบายรูปฉายาลักษณ์งานพระศพสมเด็จกรมพระสวัสดิ ฯ
- —อธิบายเรื่องเมืองตะกั่วป่า ตอนที่ ๖
- วันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๒๒ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- กุมภาพันธ์
- มีนาคม
- วันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- วันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๘
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๑ ออกจากเมืองปีนังไปเมืองร่างกุ้ง
- วันที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๒ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขาไป
- วันที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
- วันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๒
- วันที่ ๒๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ น
วันที่ ๒ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ดร
Cinnamon Hall,
206 Kelawei Road, Penang. S.S.
วันที่ ๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๗๘
จดหมายถวายสัปดาหะนี้ หม่อมฉันมีเรื่องเบ็ดเตล็ดที่สะสมไว้จะทูลบันเลงหลายเรื่อง คือ
๑. จะทูลเรื่องตอนที่สุดงานพระศพ สมเด็จกรมพระสวัสดิฯ ก่อน เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๗ ธันวาคม เปนวันส่งพระอัษฐิเข้าไปกรุงเทพฯ ทางรถไฟ เวลาเช้ารัฐบาลอังกฤษให้เรือไฟหลวง รับพระอัษฐิจากท่าเมืองปีนังไปส่งถึงสถานีรถไฟที่ตำบลไปร ตัวเรสิเดนต์เคาน์ซิลเลอร์เจ้าเมืองปีนังก็ลงไปส่งจนถึงท่าเรือ แต่กงสุลสยาม (อาจจะเปนเพราะไม่ทราบ) ไม่ได้ไปส่ง ส่วนเจ้านายชายหญิงและบรรดาไทยที่มาจากกรุงเทพฯ ไปส่งถึงสถานีรถไฟด้วยกันทั้งนั้น พระอัษฐิตั้งไปในรถไฟห้องเดียวกันกับที่พระธรรมวโรดมไป ข้อนี้ได้ทราบความว่าเมื่อครั้งสมเด็จกรมพระสวัสดิฯ จะออกจากเมืองสงขลามาเมืองปีนัง เสด็จไปลาพระธรรมวโรดม ซึ่งออกไปพักอยู่เมืองสงขลาในเวลานั้น ตรัสว่าถ้าสิ้นพระชนม์ที่ปีนัง ขอให้ท่านออกมารับเอาพระอัษฐิไปบรรจุที่วัดราชาธิวาศ เมื่อประชวรก็ได้ตรัสสั่งความไว้ ๒ ข้อ คือข้อ ๑ ว่าให้เผาพระศพที่เมืองปีนัง กับอีกข้อ ๑ ว่าให้นิมนต์พระธรรมวโรดมออกมารับพระอัษฐิเข้าไปบรรจุที่อนุสสรณ์สถานณวัดราชาธิวาศ และเมื่อจะเชิญพระอัษฐิกลับยังมีกรณีแปลกออกไปอีก ที่พระธรรมวโรดมขอหีบแบบฝรั่งที่ทรงพระศพนั้นเข้าไปกรุงเทพฯ ด้วย มีคนถามท่านว่าจะเอาไปทำไมท่านก็ไม่บอก หม่อมฉันเกรงใจจึงมิได้ถามท่าน
๒. ผู้ที่ออกมาช่วยงานพระศพ สมเด็จกรมพระสวัสดิฯ กลับไปรถไฟเดียวกันกับพระอัษฐิแทบทั้งนั้น แม้ผู้ที่ออกมาช่วยรักษาพยาบาลเมื่อเวลาประชวร สิ้นกิจก็กลับไปหลายคน ส่วนพระองค์หญิงอาภาฯ นั้น ตั้งแต่ส่งพระอัษฐิสมเด็จกรมพระสวัสดิฯ ไปแล้ว ชายนนท์ก็รับไปอยู่กับเธอที่บ้านหนึ่งต่างหาก เธอมาหาหม่อมฉันวันหนึ่งดูไม่ทรุดโทรมนัก ได้ยินว่าคิดจะแปรสถานไปเที่ยวเมืองสิงคโปร์ในเดือนมกราคมนี้ แต่ยังมีหม่อมเจ้าในสมเด็จกรมพระสวัสดิฯ กับหญิงฉวี อยู่ที่ตำหนักถนนพะม่าหลายองค์ เพราะเรียนหนังสืออยู่ในโรงเรียนเมืองปีนังบ้าง ที่อยู่เปนเพื่อนก็มี ที่ว่าจะหาเช่าบ้านใหม่นั้นยังหาไม่ได้
๓. ในระวางเวลางานพระศพ สมเด็จกรมพระสวสัดิฯ หม่อมฉันได้พบปะมิตรที่มาจากกรุงเทพฯ หลายคน โดยฉะเพาะกรมหมื่นเทววงศฯ ซึ่งมาอยู่ที่ Cinnamon Hall กับหม่อมฉันกว่า ๑๐ วัน พระธรรมวโรดมก็มาหาหม่อมฉันและได้ไปพบกันที่อื่นอีกหลายครั้ง ชวนให้เกิดรื่นรมย์ตรงกับเช่นว่า “ได้เห็นพระเห็นเจ้า” เพราะสนทนากันได้ตามภูมิรู้ ผิดกับคนชั้นต่ำ เมื่อกลับไปเสียรู้สึกอาลัยอยู่บ้าง
๔. ตั้งแต่หญิงจงออกมาถึง หม่อมฉันมีหน้าที่เพิ่มขึ้น ด้วยต้องคอยไต่ถามและสังเกตดูเธออยู่เสมอ มีความยินดีที่จะทูลว่าเธอสบายดีอาการยังฟื้นขึ้นเรื่อยมา เธอบอกว่าตั้งแต่ออกมาอยู่ปีนังน้ำหนักเธอเพิ่มขึ้น ๓ ปอนด์
๕. เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๕ ธันวาคม พระองค์หญิงอาทรทิพยนิภาจะเสด็จไปเมืองชะวาผ่านมาทางปีนัง หม่อมฉันไปรับถึงบูกิตมาตายัมระยะทางรถไฟแล่นสัก ๑๕ นาที จึงถึงสถานีตำบลไปรที่ข้ามมาเมืองปีนัง ธรรมเนียมของรถไฟเขาจอดพักอยู่ที่นั่นสัก ๒ ชั่วโมงแล้วจึงแล่นต่อไปยังเมืองสิงคโปร์ เดิมหม่อมฉันคิดจะเชิญเสด็จมาเสวยเครื่องว่างที่ Cinnamon Hall แต่เมื่อสมเด็จกรมพระสวัสดิฯ สิ้นพระชนม์ก็เกิดลำบากใจ ด้วยเธอข้ามมาปีนังจะไม่ไปเยี่ยมพระศพก็ดูไม่มีอัธยาศัย จะไปเยี่ยมเวลาก็มีน้อย เมื่อหม่อมฉันทูลความตามปรารภ เธอตรัสบอกว่าพระองค์ท่านก็ได้ตรัสเตือนเช่นนั้น เมื่อก่อนเธอจะมา เผอิญรถไฟวันนั้นช้ากว่ากำหนดสัก ๒๐ นาที ก็เปนอันไม่มีเวลาพอจะเสด็จข้ามมาถึงเมืองปีนังได้ เธอตรัสว่าขากลับจะพักอยู่ปีนังสักสองสามวัน หม่อมฉันจึงเชิญให้เสด็จมาพักที่ Cinnamon Hall เวลานั้นจะเปนเวลากำลังหม่อมฉันเที่ยวอยู่ในเมืองพะม่า ห้องเรือนหลังที่หม่อมฉันอยู่ว่างทั้งหลังพอเธอจะประทับได้สบาย จะให้หญิงจง หญิงเป้า ชายใหม่ กับหม่อมเจิม รับเสด็จ ก็เปนอันตกลงกันดังทูลมา
๖. ในสัปดาหะที่ล่วงมา มีเรือรบใต้น้ำของอังกฤษ ๕ ลำ และเรือรบใหญ่อย่างเปนแม่ลำ ๑ มาทอดที่ปีนัง แต่ก่อนมาหม่อมฉันเคยเห็นเรือรบใต้น้ำแต่ที่ในหนังสือพิมพ์หรือหนังฉาย พึ่งได้เห็นตัวจริงคราวนี้ ด้วยเมื่อวันไปส่งพระอัษฐิสมเด็จกรมพระสวัสดิฯ ขากลับเจ้าท่าที่คุมเรือ เขามีแก่ใจให้มาถามว่าอยากดูเรือรบใต้น้ำหรือไม่ หม่อมฉันก็รับในทันทีว่าอยากดู เขาจึงแปรทางเรือไปแล่นเวียนเรือรบเหล่านั้นใกล้ ๆ ให้เห็นชัด เมื่อหม่อมฉันได้เห็นตัวจริงก็ออกหูผึ่ง ด้วยเรือรบใต้น้ำนั้นรูปร่างสัณฐานมันเหมือนกับปลาปรานี่เอง โดยปกติตัวเรืออยู่ใต้น้ำ มีแต่ที่ตั้งปืนและที่สำหรับพนักงานเดินเรือโผล่ขึ้นมาอยู่พ้นน้ำ เหมือนอย่างคลีบปลา เพราะฉะนั้นที่ในตัวเรือซึ่งเขาพรรณนาว่ามีแต่เครื่องจักรเต็มไป โดยปกติคงเปนห้องมืดลำบากแก่ผู้คนที่อยู่ในเรือจึงจำเปนต้องมีเรือแม่ สำหรับทั้งเก็บรักษาของอาไหล่และแก้ไขเครื่องจักรตลอดจนเสบียงอาหารของเรือรบใต้น้ำ นอกจากนั้นเปนที่อาศัยของทหารเรือที่ประจำเรือรบใต้น้ำพอผ่อนพักมีความสุขสบายด้วยหรือว่าอีกอย่างหนึ่งเรือรบใต้น้ำเปนบ่อเกิดภัยอันตรายมาก ทั้งข้าศึกและผู้ที่ไปในเรือนั้นเองอย่างหนึ่ง ในเวลาปกติอยู่โดยลำภังตัวไม่ได้ ต้องมีเรือแม่อยู่ด้วยอีกอย่างหนึ่ง ที่มาทอดที่อ่าวเมืองปีนังนี้ก็เห็นได้ที่ทอดเรือแม่ไว้เปนสถานี ผูกเรือรบใต้น้ำแอบไว้ข้างหนึ่ง ๓ ลำข้างหนึ่ง ๒ ลำ ไม่ได้ทอดสมอโดยลำพังเรือรบใต้น้ำเอง ดูเปนเรือที่ใช้ยากและรักษายากทั้งสองสถาน
๗. เมื่อสัปดาหะที่ล่วงแล้ว เวลาบ่ายวันหนึ่งหม่อมฉันขึ้นรถไปเที่ยวตากอากาศตามเคยด้วยกันกับหญิงพูน ไปเห็นคน ๒ คนนั่งมาในรถเจ๊กลาก รู้ได้ว่าเปนชาวตะวันออกดูคล้ายเจ๊ก แต่งตัวอย่างเดียวกันทั้ง ๒ คน คือนุ่งกางเกงจีนสีดำใส่เสื้อขาวอย่างหลวม ๆ โพกศีร์ษะด้วยผ้าขาวคล้ายกับแขกซิก แต่มีผ้าแดงแนบเปนเครื่องหมาย หญิงพูนถามหม่อมฉันว่าเปนคนพวกไหน หม่อมฉันก็จน นึกไม่ออกบอกได้แต่ว่าไม่รู้ ครั้นต่อมาอีก ๒ วันขึ้นรถไปเที่ยวทางสวนหลวง สวนกับรถมีคนพวกนั้น แต่งตัวอย่างนั้น นั่งมาในรถ ๔ คน ก็เกิดสงสัยหนักขึ้น ลองถามซุยบี้คนขับรถของหม่อมฉัน จึงได้ความว่าเปนทหารพะม่าของอังกฤษ เอามาไว้ที่เมืองไต้เผงอยู่ข้างใต้อาณาเขตต์ปีนังลงไป จะมีจำนวนเท่าใดหาทราบไม่ หม่อมฉันเคยได้ยินมาแต่ก่อนว่าอังกฤษตั้งสถานีทหารเพิ่มขึ้นที่เมืองไต้เผงอีกแห่งหนึ่ง เคยนึกว่าเปนทหารแขกอินเดีย พึ่งรู้และพึ่งเห็นว่าเปนทหารพะม่าของอังกฤษ ดูแปลกอยู่
๘. หม่อมฉันได้รับลายพระหัตถ์ฉะบับลงวันที่ ๒๘ ธันวาคม มีหนังสือพิมพ์ตัดลงคำขอขมาของหนังสือพิมพ์เทอดรัฐธรรมนูญ ต่อเจ้าพระยาวรพงศฯ และผู้อื่นซึ่งมีชื่อในคดีฟ้องหมิ่นประมาท และที่ปรากฏว่าเจ้าพระยาวรพงศฯ ถอนฟ้อง ส่งมาด้วยนั้น หม่อมฉันไม่ปลาดใจอันใด อยากจะอวดด้วยซ้ำไปว่าหม่อมฉันได้เคยพูดกับลูกตั้งแต่แรกได้ยินข่าวคดีนั้น ว่าเรื่องนี้ลงปลายก็สำเร็จ เพียงหนังสือพิมพ์ขอโทษเจ้าพระยาวรพงศฯ ถอนฟ้องเท่านั้น ก็ไม่ผิดพลาด แต่ก็เห็นเปนการสมควรแล้วที่จะตกลงกันเช่นนั้น เพราะเจ้าพระยาวรพงศฯ จะดึงดันต่อไปก็ไม่เปนประโยชน์อันใดแก่ตัว ระงับให้สิ้นเวรกรรมเสียดีกว่า.