บันทึกความเห็นในกฎมนเทียรบาลพะม่า (ต่อ) (๕)

พิธีสิบสองเดือน

เดือน ๕ พิธีสงกรานต์ ทำอะไรเหมือนกับเมืองเราทุกอย่าง ต่างไปแต่การสรงมุรธาภิเษก มีพระอัครมเหษีขึ้นพระมณฑปสรงด้วย ซึ่งทางเราสรงแต่พระเจ้าแผ่นดินพระองค์เดียว กับข้าราชการตักน้ำในแม่น้ำแห่มาถวายพระเจ้าแผ่นดินนั้น ทางเมืองเราไม่มีทำ เห็นจะเปนด้วยเมืองพะม่าตั้งชื่อแม่น้ำที่ตั้งเมืองหลวงเรียก “อจิรวดี” ตามชื่อแม่น้ำแถวหนึ่งในห้าแห่งประเทศอินเดีย ซึ่งถือกันว่าเปนแม่น้ำศักดิสิทธิ จึงตักน้ำในแม่น้ำนั้นมาถวายสรงเพื่อเกิดสวัสดิมงคล แต่นามอจิรวดีนั้นเรียกเลือนไปเสียเปน “อิราวดี”

เดือน ๖ พิธีสมโภชน้ำเสก ทางเมืองเราไม่มีทำที่จะพึงเอามาเทียบกันได้ ดูจะเปนพิธีทางพระพุทธศาสนา เหตุว่าลงท้ายน้ำนั้นเอาไปสรงพระพุทธรูป ส่วนการมีละครนั้น ดูจะมาตรงกับที่ทางเรามีละครบวงสรวงในพระบรมมหาราชวัง แต่เราทำในเดือน ๕ เปนงานขึ้นปีใหม่

เดือน ๗ ซึ่งมีพิธีสี่อย่าง คือ

๑) พิธีขอฝน วิธีทำก็คล้ายกันกับทางเมืองเรา แต่เราไม่ได้ทำเปนงานประจำปี ต่อปีใดฝนแล้งเราจึงทำ

(๒) พิธีสอบพระปริยัติธรรม เมืองเราก็มีเหมือนกัน แต่กำหนดวันสอบและหลักสูตรไม่ตรงกัน

(๓) พิธีขออภัย ทางเมืองเราทำกันแต่ทางวัด พระภิกษุนำดอกไม้ธูปเทียนไปถวายพระเถรกล่าวคำขมาโทษ ทำกันในกาลเข้าวรรษา ลางทีทางเมืองพะม่าจะเห็นชอบในการกระทำอันนั้น ถ่ายทอดมาให้คฤหัสถ์ทำกันขึ้น

(๔) พิธีแรกนา มีการกระทำตรงกัน แต่ทางพะม่าพระเจ้าแผ่นดินยังคงเสด็จออก ทรงจรดพระนังคัลด้วยพระองค์เอง ตามประเพณีโบราณอยู่ ทางเราใช้วิธีแต่งผู้แทนพระองค์ไปจรดพระนังคัลเสียแล้ว พิธีแรกนาเราทำในเดือน ๖ ฝนจะตกหรือยังไม่ตกก็ทำ โดยถือว่าเข้าฤดูฝนแล้ว การที่เราทำโดยรีบรุดเช่นนั้น เพราะดูเหมือนแต่ก่อนจะมีข้อห้ามไม่ให้ใครลงมือทำนาก่อน พระเจ้าแผ่นดินทรงทำการแรกนาแล้ว หากว่าไม่รีบรุดทำพิธีแรกนาเสียโดยเร็ว แขวงหัวเมืองที่ฝนตกก่อนราษฎรจะเสียผลด้วยต้องรอการทำนาไว้ภายหลังในกรุง แต่ทางเมืองพะม่าเขาถือเอาการไถนาได้จริงเปนหลัก จึงลากมาถึงเดือน ๗

เดือน ๘ ซึ่งมีพิธีสองอย่าง คือ

(๑) พิธีบวชนาคหลวง เมืองเราก็มีตรงกัน ต่างกันแต่ชนิดบุคคลซึ่งทรงพระกรุณาโปรดบวชพระราชทาน ทางเมืองเราเปนพระราชวงศทางพะม่าเปนตามเณรที่สอบพระปริยัติธรรมได้ครบปีบวช เห็นจะเปนด้วยพระราชวงศสมัคบวชมีน้อยกว่าเมืองเรา

(๒) พิธีเข้าวัสสา ควรจะกล่าวถึงการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในทางพระพุทธศาสนา แต่หาได้กล่าวไม่ ได้กล่าวถึงแต่การเสด็จออกมหาสมาคม ดูจะบกพร่องอยู่

เดือน ๙ พิธี “สะเยดัน-เป๎ว” ดูจะเป็นเฉลิมพระชนมพรรษา ถ้าเทียบด้วยกฎมนเทียรบาลของเรา ทีก็จะได้แก่พิธีตุลาภาร

เดือน ๑๐ พิธี “เห๎ศดอ-เป๎ว”ดูจะตรงกับพิธียาศวยุช ซึ่งมีในกฎมนเทียรบาลของเรา คือพิธีแข่งเรือ แต่เราทำในเดือน ๑๑ ทางพะม่าทำในเดือน ๑๐ อาจเปนด้วยฤดูน้ำมาผิดกัน

เดือน ๑๑ พิธีออกวัสสา อยู่ข้างจะเข้าใจยาก ข้อที่หมาย ก.ข. ดูเฉียดพิธีอินทราภิเษกในกฎมนเทียรบาลของเราเข้าไปทีเดียว แต่ก็คงเปนการฉลองบุญอย่างงานของพระสงฆ์ ซึ่งกล่าวไว้ในข้อ ง. ที่หมาย ค. เปนผ้าป่าแน่ ที่หมาย ฆ. เปนถือน้ำสารท ที่หมาย ง. เปนฉลองบุญของพระสงฆ์ซึ่งอยู่จำวัสสา เมืองเราไม่ได้ทำ

เดือน ๑๒ ซึ่งมีสองพิธีคือ

(๑) พิธีทอดกฐิน ผิดกันอยู่ที่ทางพะม่ามุ่งไปในทางทำผ้า ทางเรามุ่งไปในทางนำผ้าไปทอดถวายพระสงฆ์ ส่วนการที่พระเจ้าแผ่นดินเสด็จไปบูชาเทวรูปที่หอเทวาลัยนั้น ดูไปเข้าทางพิธีตรียัมพวายของเรา ซึ่งแต่ก่อนพระเจ้าแผ่นดินเสด็จตามส่งพระเปนเจ้า ซึ่งนำเทวรูปออกแห่จนถึงเทวสถาน

(๒) พิธีเผารูปประสาทจำลอง หมดปัญญาที่จะคาดเห็นว่าทำเพื่ออะไรเพราะเราไม่ได้ทำ แต่ทางมณฑลอุดรของเรามีพิธีแห่ปราสาทผึ้ง น่าจะเปนพิธีอย่างเดียวกัน แต่พิธีปราสาทผึ้งของเราก็ยังไม่เคยได้ฟังคำอธิบายของใครเลย ว่าทำกันอย่างไร และทำเพื่ออะไร

เดือน ๑ ซึ่งมีสองพิธี คือ

(๑) พิธีถวายเข้าใหม่ เมืองเราไม่ได้ทำ หรือหนึ่งจะได้กับพิธีถวายเข้ายาคูของเรา ซึ่งเราทำในฤดูสารท

(๒) พิธีกติเกยา ชื่อนี้เคยได้ยินที่ไหนนึกไม่ออก และจะทำอะไรก็จำไม่ได้ ที่ทางพะม่าว่าบูชารูปพระขันธกุมารก็ควรแล้ว เพราะว่าคำการติเกยะ เปนชื่อพระขันธกุมาร เปนพิธีพราหมณ์แท้ เราไม่ได้ทำ

เดือน ๒ พิธีออกสนามใหญ่ ต้องกันกับที่มีในกฎมนเทียรบาลของเรา แต่เราทำเรียวลงมา มีแต่แห่ช้างแห่ม้า ลางคราวก็มีผัดช้างด้วย เรียกเสียว่าพิธีคเชนทรัศวสนาน แต่เดี๋ยวนี้เราก็เลิกไม่ทำแล้ว

เดือน ๓ พิธีทำเข้ายาคู เราเคยทำในฤดูสารท แต่ที่กล่าวนี้ดูใกล้ไปทางกวนเข้าทิพย์มากกว่า ซึ่งเราก็ทำในฤดูสารทเหมือนกัน

เดือน ๔ ซึ่งมีสองพิธี คือ

๑) พิธีบวงสรวงเทพารักษ์ ทางเราก็มีประเพณีทรงบวงสรวงเหมือนกัน แต่ฝากอยู่ในพิธีอื่น ไม่มีพิธีทรงบวงสรวงโดยฉะเพาะ

๒) พิธีก่อพระทราย ทางเราก็มีเหมือนกัน แต่ทำในเวลาสงกรานต์ ซึ่งล่าไปกว่าพะม่าน้อยหนึ่ง

อันพิธีเลียบพระนครนั้นเปนพิธีจร ซึ่งควรจะทำเมื่อไรก็ได้

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

ตำหนักปลายเนิน คลองเตย

วันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๔๗๘

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ