วันที่ ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๒ น

ตำหนักปลายเนิน คลองเตย

วันที่ ๘ เมษายน ๒๔๘๒

กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรง ฯ ทราบฝ่าพระบาท

ลายพระหัตถ์เวร ลงวันที่ ๓๐ มีนาคม ได้รับประทานแล้ว

หนังสือเวรซึ่งเขียนถวายมา สิ่งใดจับใจก็เขียนมาถวาย โดยมากเป็นการบรรเลง ไม่ได้ตั้งใจให้มีพระดำรัสวินิจนัย แม้ว่าติดธุระอย่างไร เช่นกำลังทรงเรียงประวัติเจ้าพระยายมราชอยู่ ก็ไม่จำเป็นต้องประทานพระดำริเลย ประวัติเจ้าพระยายมราชเป็นสิ่งสำคัญ ในชั้นต้น ๆ นอกจากฝ่าพระบาทแล้วก็ไม่มีใครจะรู้พอที่จะเรียงขึ้นให้ละเอียดดีได้เลย เป็นการจำเป็นแท้ที่จะต้องทรงเรียง

เมื่อวันที่ ๔ เกล้ากระหม่อมเข้าไปพระที่นั่งดุสิต ในการพระราชกุศล ๕๐ วันพระศพทูลกระหม่อมหญิง การทั้งปวงก็เป็นไปตามหมายกำหนดการอันได้ถวายมาแล้ว ครั้นเสร็จงานกลับบ้านก็พบส้มจัฟฟาถาดหนึ่ง มีการ์ดพระนามสอดอยู่ หญิงอามบอกว่าคุณหญิงอนิรุทธนำมาส่ง ก็เป็นอันเข้าใจได้ว่าฝ่าพระบาททรงพระเมตตาโปรดฝากให้นำเข้าไปประทาน ในการครั้งนี้จัดว่าเป็นโอกาสอันสมควร ขอถวายบังคมฝ่าพระบาท เป็นพระเดชพระคุณล้นเกล้า จะกราบทูลต่อไปในเรื่องส้ม เป็นของที่เกล้ากระหม่อมชอบเป็นล้นพ้น แต่ก่อนนี้เลือกรับประทานแต่ที่หนังบาง ถ้าหนังหนาก็ต้องงด เพราะไม่อร่อย แต่ครั้นเมื่อไปเที่ยวร้านที่บันดุง ไปเห็นเขาขายเครื่องคั้นส้มทำด้วยแก้วก็รู้สึกจับใจ จึงได้ซื้อมาลองทำดูก็สำเร็จ เดี๋ยวนี้รับประทานส้มทุกวัน ไม่เนื้อก็น้ำ ซ้ำฝ่าพระบาททรงพระเมตตาโปรดประทานส้มจั๊ฟฟาเข้าไปอีกด้วย ก็ขึ้นสวรรค์กันเท่านั้น

ฝ่าพระบาทตรัสถึงประเพณีที่เขาตีอะไรกันต่าง ๆ เป็นเหตุให้คิดเห็นขึ้นว่าการตีอะไรก็ดี แต่ล้วนประสงค์จะเตือนคนให้เอาใจใส่ แล้วก็ประกาศอะไร หรือสั่งอะไรไปตามความประสงค์ ที่ตีหมายให้เป็นสัญญา ก็คือแทนคำบอกคำสั่งให้ไม่ต้องพูดเป็นของประณีตบัญญัติขึ้นในภายหลัง

เท่าที่กราบทูลมาแล้วมากไปในเรื่องเครื่องตี ส่วนเรื่องเครื่องเป่ายังไม่ได้กราบทูล เพราะยังไม่ได้คิด ครั้นคิดเข้าก็เห็นเป็นว่าเครื่องเป่าของไทยเรามีน้อยเต็มที ดูเหมือนจะมีอย่างเดียวแต่แตรงอนอันทำเอาเยี่ยงเขาควาย ที่เราใช้เป่าเป็นสัญญากันอยู่บ้างแต่ก่อน ในเวลาเมื่อเข้าป่าไปเที่ยวไล่สัตว์ นอกกว่านั้นสังเกตดูสิ่งที่เข้าอยู่ในกระบวนแห่ก็เป็นของต่างประเทศทั้งนั้น เช่น สังข์ก็เป็นของแขกพราหมณ์ แตรฝรั่งก็เป็นของฝรั่ง ชื่อบอกอยู่ในตัวแล้ว ปี่ไฉนที่เป่ากับกลองชะนะก็เป็นของแขกอินเดียโดยปรากฏด้วยชื่อตามที่ได้กราบทูลมาแล้ว รวมทั้งปี่ในเครื่องปี่พาทย์ด้วย ปี่ชวาที่เป่ากับกลองแขก ก็เป็นของแขกชวา โดยชื่อบอกปรากฏอยู่แล้ว แตรสังข์เป่าในกระบวนแห่ก็ไม่เห็นมีหมายสัญญาอะไร นึกอยากเป่าขึ้นมาเมื่อไรก็เป่า ตกไปเป็นอันว่าจะให้ดังกึกก้องเป็น “ประโคม” เท่านั้น อะไรก็ใช้ได้ จึงเห็นว่าเครื่องใช้เป็นสัญญาในทางเป่าของเราเกือบจะว่าได้ว่าไม่มี ปี่ต่างๆ ก็เป่าเพื่อบรรเลงให้เป็นเพลงไพเราะไม่เป็นสัญญาเช่นเดียวกัน

เรื่องอัษฎาพานร ซึ่งทรงพระเมตตาโปรดแนะนำเข้าไปว่ามีจารึกที่วัดพระเชตุพนนั้น ไม่เคยอ่านทราบเรื่องเลย ครั้นได้ตรวจก็เป็นเรื่องที่ไปทางหนึ่ง ไม่เกี่ยวกับเรื่องพระรามซึ่งฝันว่าจะเป็นนั้นเลย

ข่าวในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๔ มีหมายออกมาจากสำนักพระราชวัง ๒ ฉบับ บอกกำหนดการพระราชทานเพลิงศพเจ้าพระยายมราช เป็นใบพิมพ์ตะกั่วฉบับ ๑ ซึ่งได้ถวายมาให้ทราบฝ่าพระบาทคราวนี้แล้ว กับบอกการฉลองอัฐิบรรจุอังคารอีกฉบับ ๑ เป็นพิมพ์โรนิโอซึ่งไม่มีสำเนาจะส่งมาถวาย จึงจะกราบทูลแต่รายการให้ทราบฝ่าพระบาท มีว่าวันที่ ๑๑ เวลา ๑๗.๐๐ นาฬิกา มีการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดมนต์และทรงธรรมที่บ้านศาลาแดง วันที่ ๑๒ เวลาเพล เลี้ยงพระที่บ้านศาลาแดง แล้วมีบังสุกุล ๗๗ รูป เวลา ๑๖.๐๐ นาฬิกา บรรจุอังคารที่วัดหงส์ ทรงทอดผ้าไตร ๑๐ ไตรในพระอุโบสถ แล้วทรงบรรจุอังคาร (ที่ไหนก็ไม่ทราบเข้าใจว่ามีอนุสาวรีย์) หมายเป็นงานเสด็จพระราชดำเนินทั้ง ๓ เวลา แต่งเครื่องยศปกติ

เมื่อวันที่ ๖ เป็นวันจักรี เกล้ากระหม่อมได้พร้อมด้วยครอบครัว พากันไปบูชาถวายบังคมพระบรมรูป ที่ปราสาทพระเทพบิดร และที่ปฐมบรมราชานุสรณ์ ได้แต่งโคมตราปทุมอุณาโลมประกอบรอบเป็นพวงหรีด ไปตั้งบูชาถวายที่ปฐมบรมราชานุสรณ์ด้วย ปีนี้พวงหรีดน้อยไป แต่มีของใหม่มาแทน คือ ธงชาติปักไสวไพโรจน์อยู่บนเกย ทั้งสองแห่ง พอลงจากรถก็มีเด็กเอาดอกไม้ช่อกับธูปเทียนมายื่นขาย น่าสงสารที่กะหน้าไม่ถูก ว่าคนชนิดเกล้ากระหม่อมจะมีดอกไม้ธูปเทียนไปบูชาหรือไม่ ต้องชี้แจงให้ฟังว่ามีแล้ว และดีกว่าเป็นหลายเท่า

เมื่อวานนี้ได้ข่าวมาว่า กรมขุนสิงห์ประชวรโดยปัจจุบัน ฟังพระอาการดูเป็นไปทางข้างลมอัมพาต ยังไม่ได้ไปฟังพระอาการนึกน่าวิตก

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ