๔๐

เตียวไก่กับพวกพ้องได้ฟังจึงชวนกันถามซินแสว่า หนังสือที่ปลอมไม่เหมือนหรือตราที่แกะนั้นจะผิดประการใด เซียวเหยียงกับกิมไตเกียนจึงพูดว่า ข้าพเจ้าเขียนหนังสือและแกะตรานั้นก็เหมือนกับลายมือชัวไทซือมิได้ผิดพลั้งที่ตรงไหนเลย โงวหยงว่าท่านทั้งหลายไม่เข้าใจข้าพเจ้าผิดเองหาทันคิดไม่ ซึ่งลายมือที่ปลอมและตราที่แกะนั้นก็เหมือน แต่ในเรื่องหนังสือนั้นผิดอยู่ เดิมชัวไทซือเป็นขุนนางที่ฮันหลิม บัดนี้เป็นไทซือเกรงจะใช้ตราอื่นดอกกระมัง แล้วใจความหนังสือปลอมเช่นนั้นก็ไม่ถูกคงทำให้ดูออก จะต้องคิดแก้ไขอย่างอื่น เตียวไก่ว่าถ้าดังนั้นก็ไปตามไตจงกลับมาก่อน โงวหยงว่าไตจงมีของวิเศษ วันหนึ่งเดินได้ถึงแปดร้อยลี้ผู้ใดจะไปติดตามทัน แล้วพูดกับเตียวไก่ว่าท่านไปเองจึงจะได้ โงวหยงก็บอกอุบายความลับให้รู้ทั่วกันแล้ว เตียวไก่และพี่น้องเหล่านั้นคำนับรับคำสั่งพากันมาจัดการเสร็จ รีบรัดไปในเวลากลางคืนจะให้ทันวันกำหนด

ฝ่ายไตจงครั้นถึงเมืองกังจิวก็เอาหนังสือตอบที่ปลอมนั้นเข้าไปให้ชัวเกาตีฮู ๆ เห็นไตจงกลับมาก็มีความยินดี รับหนังสือตอบแล้วเอาสุราให้ไตจงกินสามถ้วยด้วยดีใจ จึงถามไตจงว่าท่านได้ไปพบกับบิดาเราหรือเปล่า ไตจงแก้ไขว่าข้าพเจ้าไปถึงบ้านบิดาท่านเวลาจวนจะค่ำ ข้าพเจ้าส่งหนังสือกับทรัพย์สิ่งของแล้วก็ค้างอยู่คืนหนึ่ง ครั้นรุ่งเช้าได้หนังสือตอบข้าพเจ้าก็รีบกลับมาไม่ได้พบกับบิดาท่าน ชัวเกาตีฮูก็ฉีกผนึกออกอ่านในหนังสือตอนต้นมีว่าได้รับสิ่งของได้พร้อม ตอนกลางนั้นว่าซ้องกั๋งคนนี้สำคัญนักหนา เจ้าแผ่นดินซ้องอยากใคร่ดูหน้าแล้วไต่ถามเอาความจริง ให้ส่งตัวซ้องกั๋งเข้าไปเมืองหลวงอย่าให้ล้มตายหลีกหนีไปตามทาง ตอนปลายนั้นว่า อึงบุนเปงมีสติปัญญาควรจะเป็นขุนนางผู้ใหญ่ได้ บัดนี้ก็คอยท่วงทีจะกราบทูลให้อึงบุนเปงเป็นที่มียศศักดิ์ยิ่งขึ้นไป ชัวเกาตีฮูแจ้งความก็ดีใจ จึงเอาเงินยี่สิบห้าตำลึงรางวัลให้ไตจง แล้วสั่งให้จัดเกวียนไว้อีกสองวันจะส่งตัวซ้องกั๋งเข้าไปเมืองหลวง ไตจงคำนับลากลับมาที่อยู่ จัดซื้อสุรากับสิ่งของต่างๆ มาเยี่ยมซ้องกั๋งที่ในคุก กระซิบบอกตามซึ่งได้พบพวกพ้องที่เขาเนียซัวเปาะให้ฟังทุกประการ ซ้องกั๋งมีความยินดีนัก

ฝ่ายอึงบุนเปงจัดสิ่งของต่างๆ ไว้เป็นอันมากลงเรือข้ามฟากมาหาชัวเกาตีฮูผู้รักษาเมืองกังจิว ๆ เห็นก็เรียกเข้าไปข้างในบอกว่า ท่านจะได้เป็นขุนนางผู้ใหญ่ในเร็ว ๆ นี้ อึงบุนเปงถามว่าเหตุไรจึงรู้ ชัวเกาตีฮูว่าผู้ที่ถือหนังสือกลับมาแล้ว บิดาเรามีหนังสือตอบมาให้เอาตัวซ้องกั๋งส่งเข้าไปในเมืองหลวง ถ้าสำเร็จการเรื่องนี้แล้วจะกราบทูลให้ตั้งแต่งท่านเป็นขุนนางผู้ใหญ่ อึงบุนเปงได้ฟังก็ยินดีจึงพูดว่า พระคุณของไทซือบิดาท่านนักหนา แต่ข้าพเจ้าจะขอทำราชการอยู่ในท่านกว่าจะหาชีวิตไม่ ผู้ถือหนังสือของท่านเข้าไปเมืองหลวงช่างกลับมาเร็วนัก ชัวเกาตีฮู้ว่า ไตจงมีของวิเศษวันหนึ่งเดินได้แปดร้อยลี้ ถ้าไม่เชื่อเอาหนังสือตอบมาดูก็จะเห็นจริง จึงไปหยิบหนังสือส่งให้อึงบุนเปงดู อึงบุนเปงรับมาอ่านตั้งแต่ต้นจนปลายแล้วพลิกดูสลักหลัง เห็นตราที่ประทับนั้นผิดประหลาดก็สงสัย สั่นศีรษะว่าไม่ใช่บิดาท่านดอกกระมัง ชัวเกาตีฮูว่าทำไมท่านจึงพูดเช่นนั้น บิดาข้าพเจ้าเขียนหนังสือลายมือก็จำได้ทุกสิ่ง อึงบุนเปงว่าบิดาท่านเดิมเป็นขุนนางที่ฮันหลิม บัดนี้เป็นที่ไทซือโตใหญ่ขึ้น เหตุใดจึงเอาตราเมื่อขณะยังว่าที่ฮันหลิมมาประทับหาควรไม่ ประการหนึ่งไทซือมีหนังสือมาถึงท่านผู้บุตรความว่าดังนั้นก็ไม่ถูก หนังสือฉบับนี้ปลอมแน่แล้ว ถ้าท่านไม่เชื่อก็เอาหนังสือที่บิดามีมาแต่ก่อน ๆ ออกเทียบดู ที่ประทับตราและถ้อยคำคงจะผิดกัน ชัวเกาตีฮูมีหนังสือมาทุกครั้งทุกทีก็ไม่ได้ประทับตราเช่นนี้ หรือเป็นการร้อนบิดาเราเขียนหนังสือแล้วเห็นตราดวงนี้อยู่ใกล้ จึงหยิบเอาประทับดอกกระมัง อึงบุนเปงว่าท่านไม่เข้าใจ คนในแผ่นดินซ้องทุกวันนี้มีสติปัญญามาก ชวนกันฝึกหัดเขียนหนังสือทำนองนี้และแกะตราชนิดใดก็แกะได้เหมือน บิดาท่านเป็นขุนนางผู้ใหญ่ที่ไหนจะทำการให้ผิด หนังสือตอบฉบับนี้ไม่ใช่ ท่านจงเอาตัวผู้ถือหนังสือมาถามดูว่าไปถึงบ้านบิดาท่านมีสิ่งใดบ้าง เข้าออกทางไหน ผู้ใดรับหนังสือก็คงแจ้งว่าเท็จและจริง

ชัวเกาตีฮูได้ฟังก็เห็นชอบ ออกมาข้างนอกให้เอาไตจงมาแล้วพูดว่า เวลาวันก่อนเรามีธุระอยู่พอท่านมาถึงไม่ทันไต่ถาม เมื่อไปถึงบ้านบิดาเราเข้าทางไหนมีสิ่งใดที่ประตูบ้าง ไตจงได้ฟังก็มีความวิตกด้วยตัวไม่ได้เห็น จึงแก้ไขว่าเมื่อข้าพเจ้าไปถึงก็เป็นเวลาค่ำไม่ทันสังเกตว่ามีสิ่งไร ชัวเกาตีฮูก็ถามอีกว่าท่านไม่พบบิดาเรา เอาหนังสือกับสิ่งของส่งให้ผู้ใดเล่า แล้วไปพักอยู่ไหน จำหน้าผู้นั้นได้หรือเปล่า

ไตจงนั้นในอกใจไม่สบายก็แก้ไขไปตามที่ว่าข้าพเจ้าเอาหนังสือและสิ่งของไปส่งให้ เวลานั้นก็มืดค่ำจำหน้าไม่ได้ ข้าพเจ้าไปอาศัยโรงเตี๊ยม รุ่งขึ้นเช้ารับหนังสือที่ท่านผู้นั้นแล้วก็กลับมา ชัวเกาตีฮูว่าผู้ที่รับสิ่งของและเอาหนังสือตอบมาส่งให้นั้น รูปร่างสูงต่ำดำขาวอายุคราวผู้ใดมีหนวดหรือไม่ ไตจงได้ฟังก็จนใจด้วยไม่เห็น จึงตอบว่าชายผู้นั้นสันทัดคน ขณะนั้นยังไม่ทันสว่างข้าพเจ้าดูหน้าไม่ถนัดเห็นจะมีหนวดบ้างดอกกระมัง ชัวเกาตีฮูได้ฟังผิดประหลาดก็โกรธร้องตวาดว่า เจ้ามาล่อลวงให้เราดีใจนักหนาสำคัญว่าจริง ผู้รับหนังสือคนเก่านั้นมีหนวดบ้างเล็กน้อยก็ตายเสียแล้ว บัดนี้ผู้ที่รับหนังสือใหม่ยังไม่มีหนวดเจ้าว่ามีหนวดก็ไม่ถูกต้อง ประการหนึ่งถ้ามีหนังสือไปถึงบิดาเราก็ต้องมีขุนนางออกมารับเป็นชั้น ๆ ซึ่งหนังสือนี้เจ้าไปเอามาแต่ไหน ผู้ใดปลอมให้ก็รับเสียโดยดี พูดดังนั้นแล้วสั่งคนใช้ให้จับตัวไตจงมัดไว้ ไตจงว่าข้าพเจ้าไม่มีผิด ท่านให้จับมัดไว้ด้วยเหตุอันใดข้าพเจ้าไปถึงบ้านบิดาท่านในเวลาค่ำไม่ทันสังเกต พอได้หนังสือตอบแล้วก็รีบกลับมา

ชัวเกาตีฮูได้ฟังดังนั้นก็โกรธยิ่งนัก จึงสั่งทหารให้ยึดไตจงลงเฆี่ยนเนื้อแตกโลหิตไหล ไตจงทนไม่ได้ก็รับว่าหนังสือปลอมจริง ชัวเกาตีฮู้ถามว่าผู้ใดให้ถือมา ไตจงแจ้งว่าข้าพเจ้าเดินไปทางเขาเนียซัวเปาะ พบพวกโจรจับตัวไปได้จะฆ่าเสีย ข้าพเจ้าอ้อนวอนขอชีวิตไว้ ครั้นจะกลับมาก็กลัวท่านพวกโจรจึงทำหนังสือปลอมให้ข้าพเจ้าถือกลับมา ชัวเกาตีฮูได้ฟังแจ้งว่าไตจงกับซ้องกั๋งเป็นพวกพ้องกับโจรที่เขาเนียซัวเปาะ แต่ไม่รับตามจริง จึงถามไตจงว่า ซึ่งหนังสือพวกเขาเนียซัวเปาะปลอมมาเจ้าก็รับเป็นสัตย์แล้ว แต่เจ้ากับซ้องกั๋งรู้กันเป็นไส้ศึกจะคิดกบฏจงรับเสียโดยดี ไตจงก็ไม่รับ ว่ามิได้เป็นพวกพ้องกับโจรที่เขาเนียซัวเปาะ ชัวเกาตีฮูสั่งให้เฆี่ยนไตจงอีกเป็นอันมาก แล้วเอาตัวไปขังคุกไว้ ชัวเกาตีฮูก็กลับเข้าไปข้างในพูดกับอึงบุนเปงว่า ท่านนี้ล่วงรู้การลึกซึ้งนักหนา ถ้าท่านไม่ชี้แจงข้าพเจ้าก็คงเสียที บัดนี้ไต่ถามได้ความจริงแล้ว อึงบุนเปงว่าท่านจงคิดกำจัดไตจงกับซ้องกั๋งเสียก่อน อย่าได้นอนใจ ถ้าเนิ่นช้าไปกลัวจะเกิดเหตุขึ้น ชัวเกาตีฮูก็เห็นชอบ จึงว่าเราฆ่าคนทั้งสองเสียแล้วมีหนังสือบอกไปให้บิดาทราบ จะได้นำความขึ้นกราบทูลเห็นจะไม่เป็นไร อึงบุนเปงว่าท่านพูดถูกต้องแล้ว ชัวเกาตีฮูจึงสั่งให้จัดโต๊ะและสุรามาเชิญอึงบุนเปงกินโต๊ะเสพสุราพูดจาสนทนากันเล่นตามสบาย อึงบุนเปงก็ลาผู้รักษาเมืองกลับไปบ้านบออุยกุน ครั้นรุ่งเช้าชัวเกาตีฮูออกว่าราชการให้หาอึงคงมกขุนนางสำหรับจดหมายมาสั่งให้จดเอาเรื่องความซ้องกั๋งกับไตจงเป็นพวกพ้องกับโจรที่เขาเนียซัวเปาะจะคิดกบฏ ไตจงรับเป็นสัตย์นั้นไว้ แล้วตระเตรียมทหารถือเครื่องศัสตราอาวุธคุมตัวคนทั้งสองไปฆ่าเสีย มีธงเขียนอักษรปักไว้ที่หลังนักโทษอันเป็นธรรมเนียมมาแต่โบราณ อึงคงมกได้ฟังก็มีความวิตก ด้วยอึงคงมกกับไตจงเป็นคนรักใคร่ชอบพอกัน คิดจะช่วยก็ไม่มีอุบายสิ่งไร จำจะหน่วงเหนี่ยวให้เนิ่นช้า เผื่อจะมีพวกพ้องมาแก้ไขไว้บ้าง คิดแล้วจึงพูดว่า ซึ่งท่านจะให้ฆ่านักโทษเวลาวันนี้ เป็นวันถือทั้งแผ่นดิน รุ่งขึ้นพรุ่งนี้ก็เป็นวันสารท ถัดไปอีกสองวันคนทั้งปวงนับว่าเป็นวันดีทำการมงคลจะให้ประหารชีวิตนักโทษในสี่ห้าวันนี้ยังไม่ควร ถ้าพ้นห้าวันนี้ไปจึงจะประหารชีวิตได้ ชัวเกาตีฮูว่าถ้าดังนั้นก็ต้องคอยให้ถึงวันที่หกจึงจะเอาผู้คิดกบฏไปฆ่าเสีย แล้วสั่งให้ทหารไปจัดสนามไว้ที่หนทางสามแพร่งนอกเมืองกังจิว ทหารก็ไปจัดไว้พร้อมเสร็จ ครั้นถึงวันที่หกชัวเกาตีฮูสั่งทหารประมาณห้าร้อยเศษ ให้ถือเครื่องศัสตราอาวุธพร้อมมือกัน ผู้คุมก็ไปเอาตัวซ้องกั๋งกับไตจงมาแล้ว ชัวเกาตีฮูขึ้นม้ากำกับทหารคุมนักโทษทั้งสองไปยังสนาม

ฝ่ายลีขุยเห็นทหารเอาตัวซ้องกั๋งกับไตจงไปก็โกรธแค้นยิ่งนัก เอาขวานเข้าซ่อนไว้ในอกเสื้อก็ติดตามไป ชัวเกาตีฮูครั้นถึงสนามแล้วสั่งทหารให้เอาตัวซ้องกั๋งกับไตจงมัดไว้กับหลัก แล้วเอาธงปักไว้ให้คนทั้งปวงรู้ว่าโทษกบฏ พอถึงกำหนดเวลาบ่ายก็จะฆ่าเสีย

ฝ่ายพวกเขาเนียซัวเปาะคุมไพร่พลรีบลัดมาใกล้จะถึงเมืองกังจิวก็แยกกันออกไปสี่พวกตามอุบายโงวหยงซินแสสั่งเตียวไก่ ฮวยหยง ลือฮวง กวยเส็ง อึงซิน ห้านายปลอมเป็นพวกพ่อค้าเกวียนพวกหนึ่ง เอียสุน เล่าตง โตวเซียน ซองบาน สี่นายปลอมเป็นคนขายยากอเอี๊ยะและรำเพลงอาวุธพวกหนึ่ง จูกุ้ย เฮงลีโฮ้ว แต้เทียนซิน เจียะย้ง สี่นายปลอมเป็นคนหาบฟืนพวกหนึ่ง อวนเซียวยี อวนเซียวเหงา อวนเซียชิด แป๊ะสินสี่นายปลอมเป็นคนขอทานพวกหนึ่ง คุมไพร่พลทหารประมาณห้าร้อยเศษแยกย้ายกันไปคนละทิศ มาถึงสนามพร้อมกันจะขอเข้าไปดูคนโทษซึ่งจะฆ่าเสียนั้น ชัวเกาตีฮูกับพวกทหารก็ห้ามไว้ไม่ให้เข้าไป พวกที่ปลอมมานั้นขืนดื้อดึงเข้าไปได้ทั้งสิ้น เห็นมัดผูกซ้องกั๋งกับไตจงไว้ก็พากันยืนคอยดูท่วงทีอยู่ ชัวเกาตีฮูไม่รู้ว่าพวกเขาเนียซัวเปาะปลอมมา สำคัญว่าพ่อค้าและคนขอทานจริงก็ไม่สงสัย

ฝ่ายลีขุยตามมายืนอยู่ในสนาม เห็นพวกขอทานและพ่อค้าแยกมาทั้งสี่ทิศ ก็คิดว่าเห็นจะเป็นพวกเขาเนียซัวเปาะปลอมมาช่วยซ้องกั๋งกับไตจง ถ้าได้ทีจะฟันเสียให้สิ้นก็ยืนเขม้นคอยทีอยู่ พอได้เวลาชัวเกาตีฮูสั่งทหารให้ลงดาบ พวกเขาเนีย ซัวเปาะที่ปลอมมาได้ฟังก็เอิกเกริกขึ้นพร้อมกัน ต่างคนชักอาวุธที่ซ่อนมานั้นตรง เข้าฆ่าฟันพวกทหารเป็นตะลุมบอน ลีขุยเห็นก็ดีใจถือขวานสองมือเข้าฆ่าฟันทหารล้มตายลงเป็นอันมาก ชัวเกาตีฮูก็ตกใจวิ่งหนีไป เตียวไก่กับพวกพ้องเหล่านั้นก็เข้าแก้เอาซ้องกั๋ง ไตจงกลับมาได้แล้วเตียวไก่จึงคิดว่าผู้ที่ฆ่าฟันพวกเมืองกังจิวนั้นเห็นจะเป็นลีขุยที่ไตจงบอกไว้ดอกกระมัง จึงร้องถามไปว่าท่านชื่อลีขุย ยี่ห้อเฮ็กชวนฮองหรือ

ขณะนั้นลีขุยกำลังโกรธไม่ทันได้ยิน เข้าไล่ฆ่าฟันทหารล้มตายลงอีกหลายสิบคน เตียวไก่เห็นดังนั้นก็ร้องสั่งพวกพ้องให้ล่าถอยตามลีขุยไปประมาณทางแปดลี้ เห็นมีแม่น้ำอยู่ข้างหน้า เตียวไก่คิดวิตกกลัวพวกทหารจะไล่ติดตามมา เหลียวไปดูเห็นลีขุยเข้าไล่ฆ่าทหารและราษฎรวิ่งอื้ออึง เตียวไก่ร้องว่าอย่าฟันราษฎรให้ได้ความเดือดร้อนเลย ลีขุยได้ฟังพวกเขาเนียซัวเปาะร้องห้ามก็หยุด เดินเข้าไปยืนอยู่ใกล้ผู้ที่แบกซ้องกั๋งกับไตจง เตียวไก่จึงพูดว่าบัดนี้มีแม่น้ำขวางหน้า ถ้าพวกทหารไล่ตามมาจะทำประการใด ลีขุยว่าเราพากันเข้าไปสำนักศาลเจ้าแป๊ะเล่งเปียวนี้ก่อน แก้พี่ซ้องกั๋งกับไตจงออกแล้วจึงค่อยคิดต่อไป เตียวไก่ก็เห็นชอบจึงแวะเข้าไปศาลเจ้า แล้วแก้เชือกที่มัดออก เตียวไก่ร้องเรียกซ้องกั๋งกับไตจงเป็นหลายคำ

ฝ่ายซ้องกั๋ง ไตจงสำคัญว่าตัวตายจิตลอยไม่รู้สึกตัว ครั้นได้มีผู้ร้องเรียกก็ลืมตาขึ้น เห็นเตียวไก่กับพี่น้องทั้งปวงก็ร้องไห้พูดว่าข้าพเจ้าคิดอยู่ว่าครั้งนี้คงตายแน่แล้ว เป็นบุญนักหนาพี่น้องทั้งหลายมาช่วยชีวิตไว้ได้ เตียวไก่จึงว่าเดิมข้าพเจ้ากับพี่น้องชักชวนให้พี่อยู่ด้วยกันก็ไม่อยู่ จึงได้มาทนทุกข์เวทนาดังนี้ แล้วถามซ้องกั๋งว่าที่หน้าดำรูปร่างสูงใหญ่นั้นผู้ใด ซ้องกั๋งบอกว่าชื่อลีขุยที่เรียกว่าเฮ็กชวนฮอง เตียวไก่ได้ฟังก็ยินดี จึงพูดว่า ลีขุยนี้ดีนักหนา มีน้ำใจช่วยท่านทั้งสองจริง ๆ ตรงเข้าฆ่าฟันทหารล้มตายลงเป็นอันมาก ซ้องกั๋งว่า เมื่อขณะติดอยู่ในคุก ลีขุยจะหักพังคุกเข้าไปหลายครั้ง ข้าพเจ้ากลัวจะหนีไม่พ้นจึงห้ามไว้ พอพูดดังนั้น เห็นลีขุยลุกขึ้นจะเดินออกไปนอกศาลเจ้า ซ้องกั๋งเรียกลีขุยเข้ามาถามว่า น้องจะไปข้างไหน ลีขุยบอกว่าข้าพเจ้าจะไปตามผู้รักษาศาลเจ้ามาฆ่าเสียเอาฤกษ์สักคนหนึ่ง เพราะไม่คอยระวังปิดประตูศาลเจ้าเสียยังค่ำ ซ้องกั๋งก็ห้ามไว้ บอกให้ลีขุยคำนับเตียวไก่กับพี่น้องทั้งปวงเสีย ลีขุยคุกเข่าคำนับเตียวไก่พูดว่า ท่านอย่าถือเลย ข้าพเจ้าเป็นคนเขลาไม่รู้จักธรรมเนียม เตียวไก่รับคำนับแล้วก็หัวเราะ ลีขุยเห็นจูกุ้ยจำได้ว่า เป็นคนเมืองเดียวกันก็มีความยินดีสนทนาอยู่ประมาณครู่หนึ่ง ฮวยหยงจึงพูดขึ้นว่า เราพากันมาพักอยู่ที่นี่เห็นจะไม่ได้ ลีขุยว่าอย่าตกใจ ถ้าพวกทหารยกมาเราช่วยกันบุกรุกเข้าไปในเมือง จับชัวเกาตีฮูฆ่าเสีย จะมานั่งกลัวทำไม ไตจงได้ฟังก็ร้องตวาดว่า พวกทหารในเมืองกังจิวยังอยู่อีกประมาณแปดพัน พวกเราเท่านี้ที่ไหนจะต้านทานได้ จะต้องหาเรือข้ามฟากไปเสียก่อน อวนเซียวยี อวนเซียวเหงา อวนเซียวชิดว่า ข้าพเจ้าเห็นมืเรือจอดอยู่ฟากข้างโน้นสองสามลำ จะว่ายน้ำข้ามไปเอาเรือมารับพี่ทั้งปวงข้ามไป เตียวไก่ว่าดีแล้ว จงข้ามไปถอยเรือมาเถิด อวนเซียวยี อวนเซียวเหงา อวนเซียวชิดคำนับลาเดินมาถึงแม่น้ำก็ผลัดเพื่อกางเกงโดดลงไป ด้วยสามคนพี่น้องชำนาญในทางน้ำ

ฝ่ายเตียสุน เตียหวย กับพวกพ้องอีกหลายคนเที่ยวหากินอยู่ที่แม่น้ำชิมเอียงกัง แจ้งว่าซ้องกั๋งกับไตจงต้องโทษอยู่ในคุก จึงปรึกษาชักชวนพวกพ้องตระเตรียมเครื่องศัสตราวุธ ประมาณห้าสิบคนลงเรือลำหนึ่ง ลี้จุน ลี้ลิบ ทองอุย ทองเม็งและพวกพ้องอีกสิบห้าคนลงเรือลำหนึ่ง สิย้ง มกชุน มกหองกับพวกพ้องอีกสิบห้าคนลงเรือลำหนึ่งรวมสามลำด้วยกันล่องน้ำตรงมาเมืองกังจิว

ฝ่ายอวนเซียวยี่พี่น้องสามคนว่ายน้ำไปประมาณสามลี้เห็นมีเรือล่องลงมาก็หยุดดู

ฝ่ายเตียวไก่กับซ้องกั๋งและพวกพ้อง นั่งอยู่ที่ศาลเจ้าแป๊ะเล่งเปียวเห็นเรือล่องลงมาสามลำ ในเรือมีเครื่องศัสตราอาวุธกับไพร่พลเป็นอันมากก็ชวนกันวิตก ซ้องกั๋งจึงพูดว่า ข้าพเจ้านี้อาภัพนักหนาจะหนีไปข้างไหนก็ไม่พ้นความตาย ครั้นเรือล่องใกล้เข้ามาซ้องกั๋งพิเคราะห์ดู เห็นคนที่ยืนอยู่หัวเรือถือเหล็กสามง่ามก็จำได้ว่าเตียสุน จึงร้องว่าน้องเอาเรือมาช่วยพี่ด้วย เตียสุนได้ยินก็เหลียวมาดู เห็นซ้องกั๋งจึงร้องบอกพวกเรือสองลำว่า พี่ซ้องกั๋งอยู่นี่รีบไปหาโดยเร็วเถิด ก็แจวเรือแอบเข้าไปริมฝั่ง อวนเซียวยีสามคนพี่น้องเห็นดังนั้นก็ว่ายน้ำกลับมา เตียสุนกับพวกในเรือชวนกันขึ้นมาหาซ้องกั๋งที่ศาลเจ้าแป๊ะเล่งเปียว คำนับแล้วบอกว่าข้าพเจ้าชักชวนพวกพ้องมาจะแย่งชิงพี่ออกจากคุก บัดนี้ออกได้แล้วก็ยินดียิ่งนัก ซ้องกั๋งจึงแจ้งความแก่พวกเหล่านั้นว่า เตียวไก่ผู้เป็นใหญ่ที่เขาเนียซัวเปาะกับพวกพ้องมาแย่งชิงเอาพี่มาได้ ท่านจงคำนับเตียวไก่กับพี่น้องให้รู้จักกันไว้ เตียสุนกับพวกพ้องก็คำนับเตียวไก่และพี่น้องเหล่านั้น แล้วพูดจาสนทนากัน แต่ตัวนายยี่สิบเก้าคน ไพร่พลทั้งสองฝ่ายประมาณร้อยห้าสิบคนเศษพักอยู่ที่ศาลเจ้าแป๊ะเล่งเปียว ปรึกษาการที่จะสู้รบกับทหารเมืองกังจิว

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ