๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๑ น

ตำหนักปลายเนิน คลองเตย

วันที่ ๒๔ เมษายน ๒๔๘๑

พระยาอนุมานราชธน

หนังสือของท่าน ลงวันที่ ๒๓ สองฉะบับ ได้รับแล้ว

มกร อาจารย์จิลเดอส์แปลว่า สัตว์ร้ายในทะเล อาจารย์โมเนียว่าลางทีก็เอาไปคลุกกับจรเข้ ตามที่ว่าเช่นนี้เห็นชอบกลหนักหนา ด้วยมังกรจีนก็เห็นมีสองอย่าง อย่างหนึ่งหน้าคล้ายสิงห์โต ตัวยืดยาวเปนงู มีตีน อีกอย่างหนึ่งหน้าคล้ายจรเข้ ตัวก็สั้นใกล้ไปข้างจรเข้ แต่อย่างหลังนี้พวกเราที่เล่นลายครามเขาตัดสินกันว่าเปนมังกรญี่ปุ่น จะอย่างไรก็ตามที แต่ได้เห็นของจีนในสิ่งอื่น มีมังกรหน้าจรเข้อยู่จริง ๆ ทำให้เข้าใจว่า มังกรหน้าสิงห์โตเปนของใหม่ หน้าจรเข้เปนของเก่า มังกรของไทยเราก็เปนพวกจรเข้ ดูพระราชลัญจกร ซึ่งโปรดพระราชทานบัณฑิตสภาลงมา อันได้จำลองตีหนังสือรุ่นเก่าของหอพระสมุดนั้นเถิด เมือความเปนไปอย่างว่านี้มีอยู่ ธงจรเข้ก็คือธงมังกรนั่นเอง ผิดกันแต่เขียนเปนจรเข้จริง ๆ กับเขียนใส่สีไปเล็กน้อยเท่านั้น เปรียบเหมือนราชสีห์ มีตัวจริงอยู่แท้ๆ ยังดัดแปลงใส่สีเปนอะไรไปได้ ไกลกว่าจรเข้กับมังกรไปเสียอีก

ท่านพบตู้ที่ฉลักเปนรูปมังกร ว่าอยู่ในหอพระสมุดวชิรญาณนั้นดีแล้ว ฉันจะไปพิจารณาดูให้ดีอีกทีหนึ่ง

คำ Kum’hîra ฉันเห็นจะลงเนื้อเห็นว่า เปนคำนี้เองที่เคลื่อนมาเปน เหรา จึ่งมักติดมากับจรเข้ Kum’hîra ก็ตกตัว b ไปตัวเดียวเท่านั้น จะต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า เหรา ก็คือจรเข้นั้นเอง

คำ กุฎมพี ฉันเคยตกใจมาแล้ว ในความหมายข้างไทยเปนคนต่ำ แต่ทางสํสกฤตว่าคนมั่งมี ขัดกันตรงข้าม ที่อาจารย์หอบสอน-ชอบสอน ว่าคนต่ำได้มั่งมีขั้นนั้นดีทีเดียว อธิบายให้เปนลูกโซ่เกี่ยวความซึ่งตรงกันข้าม ให้ประสานกันเข้าได้

แทงวิไส สมเด็จกรมพระยาดำรงทรงสันนิษฐานว่า เปนของมลายูจัดมาเล่นถวาย ดุจพวกเมืองหลวงพระบางเอาสิงห์กับและคนป่ามาเล่นถวาย เมื่อครั้งโสกันต์กรมขุนสุพรรณภาควดี แต่ทางสันนิษฐานชะนิดนี้ฉันไม่สู้ จึ่งไม่ได้เขียนบอกมาให้ท่านทราบ ที่เรียกว่า สิงห์กับคนป่า นั้น เราเรียกกันเอาเอง เพราะอ้ายสิงห์นั้นปากมันงับคังกั๊บ ๆ เข้ากับจังหวะกลอง อ้ายคนป่านั้น ใส่หัวโตเบ้อเร่อ ตัวเปนฟางไปทั้งตัว จะหมายความว่าตัวเปนขนหรือห่มคากรองก็หาทราบไม่ วิธีเล่นก็ไม่มีอะไร อ้ายคนป่ามีสองคนรำเข้าล้อสิงห์ แล้วก็ทำตกใจวิ่งหนีออกห่างไป อ้ายสิงห์ก็ลอยหน้าทำปากกับ ๆ ไป ไม่เห็นมีอะไรยิ่งกว่านั้น สิงห์ก็อย่างสิงห์โตที่เจ๊กเล่นนั่นเอง แต่ตัวมีขนทำด้วยฟางไปทั้งตัว การเล่นอันนี้พวกเขาจะเรียกว่าอะไรไม่ทราบ พวกไทยที่ไปหลวงพระบางมาอธิบายว่าคนป่าสองคนนั้น คนหนึ่งเรียกว่า ปู่เยอ เปนชาย อีกคนหนึ่งเรียกว่า ย่าเยอ เปนหญิง เปนต้นสกุลของมนุษย์ดุจอาดัมกับเอวา ฉะนั้น จะถูกจริงหรือไม่ก็ไม่ทราบ

เรื่องหอกมลายู ฉันรู้เปนท่อน ๆ ได้ฟังเขาอ่านบอกทูลถวายได้แต่ชื่อมาเช่นบอกกับท่านแล้วนั้นท่อนหนึ่ง แล้วได้ไปเห็นหอกชะนิดหนึ่ง ตัวหอกกับบ้องโตไล่เลี่ยกัน ที่คอหยักคอดเข้าไป มีทองยับ ๆ หุ้มอยู่ที่คอ เขาบอกว่านี่คือหอกมลายู ฉันก็นึกอ้อเอาในใจว่า นี่เองที่เรียกว่า หอกคอทองเถลิงทอง แล้วได้เห็นม้าในกระบวนแห่คเชนทรัศวสนาน มีซองสองข้างอาน มีเหล็กปลายแหลมสองสามอันเสียบอยู่ในซองกับกำหางนกยูง มีปลายเอนไปข้างหลัง เขาว่าเหล็กแหลมนั้นคือ หอกซัด ซัดด้วยท้าว จะเปนหอกมลายูหรือมิใช่ไม่ทราบเพราะดูอยู่ไกล ความรู้ของฉันต่อกันไม่ติดฉะนี้แล

สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ