๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๑ ยส (๒)

กรมศิลปากร

วันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๑

ขอประทานกราบทูล ทรงทราบใต้ฝ่าพระบาท

ข้าพระพุทธเจ้าได้รับลายพระหัตถ์ลงวันที่ ๒๕ และวันที่ ๒๙ มิถุนายน รวม ๒ ฉะบับไว้แล้ว พระเดชพระคุณล้นเกล้าฯ หาที่สุดมิได้

ข้าพระพุทธเจ้ารู้สึกโล่งใจเมื่อได้อ่านพระอธิบายเรื่อง ตรามังกร ที่ทรงพระเมตตาประทานอธิบายมาในลายพระหัตถ์สองฉะบับนั้น

ข้าพระพุทธเจ้าได้พบสำเนาพระราชสารคำหับ ครั้งปลายรัชกาลกรุงธนบุรีฉะบับหนึ่ง ว่าใช้พระราชลัญจกรเป็นตราพระมังกรหก ประทับในพระราชสารนั้นด้วยดวงหนึ่ง ตรามังกรของโบราณคดีสโมสร ที่ทรงสันนิษฐานว่าเป็นของเก่า คงไม่ต่ำกว่ารัชกาลที่ ๑ ก็มีเค้าตรงกันกับที่ทรงสันนิษฐาน แต่จะไม่ใช่องค์ที่ใช้ประทับพระราชสารไปเมืองจีน ซึ่งเป็นชะนิดมังกรหก หากไปเข้าใจรวมกันว่า เป็นตราองค์เดียวกัน

ข้าพระพุทธเจ้าขอประทานพระเมตตาทราบคำอธิบายในคำว่า คำหลวง เมื่อชำระมาถึงคำนี้ กรรมการก็หมดปัญญาแปล ตกลงมอบให้ข้าพระพุทธเจ้ากราบทูลขอพระเมตตาปรานี เพื่อทราบเกล้า ฯ ถึงคำนี้ คำหลวง ถ้าจะแปลว่าเป็นถ้อยคำของในหลวง ก็ไปติดขัดที่มี พระมาลัยคำหลวง และ นันโทปนันทสูตรคำหลวง ซึ่งเจ้าฟ้าธรรมธิเบศทรงนิพนธ์ หาใช่เป็นพระราชนิพนธ์ไม่ ถ้าจะสังเกตดูข้อความในหนังสือคำหลวง มีลักษณะร่วมกันอยู่อย่างหนึ่ง ที่ยกคาถามาตั้งไว้ แล้วก็แต่งขยายความจากคาถานั้น ทำนองกาพย์ห่อโคลง หรือคำหลวง จะหมายความถึงลักษณะทำนองนี้ แล้วบรรจุคำประพันธ์รูปต่าง ๆ ลงไปได้ทุกอย่าง ไม่จำกัดร่ายหรือโคลง ทั้งนี้ ก็เหลือปัญญาสามารถที่ข้าพระพุทธเจ้าจะเดาได้

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรดเกล้า ฯ

ข้าพระพุทธเจ้า พระยาอนุมานราชธน

----------------------------

พระราชสารคำหับ จุลศักราช ๑๑๔๖

พระราชสารสมเด็จพระเจ้ากรุงมหานครศรีอยุธยาผู้ใหญ่ ปราบดาภิเษกตามบุราณราชประเพณีสืบมาแต่ก่อน มีพระราชรำพึงคิดถึงทางพระราชไมตรีสมเด็จพระเจ้ากรุงตาฉิงผู้ใหญ่ ซึ่งมีมาแต่กาลก่อน แต่งให้ พระสวัสดิสุนทร ราชฑูต หลวงบวรเสนหา อุปทูต หลวงพัฒนาพิมล ตรีทูต ขุนพัฒนาพิจิตร ท่องสื่อใหญ่ หมื่นพิพิธวาจา ปั่นสื่อ จำทูลพระสุพรรณบัตรสุวรรณพระราชสาร เชิญเครื่องพระราชบรรณาการ และพระราชสารคำหับอักษรจีน ออกมาจิ้มก้องสมเด็จพระเจ้ากรุงตาฉิงผู้ใหญ่ ตามขนบบุรราชประเพณีสมเด็จพระมหากษัตราธิราชเจ้าสืบมา ฯลฯ

พระราชสารปิดตราโลโต ครั้งนี้หาตราโลโตมิได้ ปิดตราพระไอยราพตมาเป็นสำคัญ

พระราชสารคำหับ จุลศักราช ๑๑๔๓

พระราชสารสมเด็จพระเจ้ากรุงพระมหานครศรีอยุธยาปราบดาภิเศกใหม่ คิดถึงครองพระราชไมตรีกรุงปักกิ่ง จึงให้พระยาสุนทรอภัย ราชทูต หลวงพิชัยเสน่หา อุปทูต หลวงพจนาพิมล ตรีทูต ขุนพจนาพิจิตร ท่องสื่อ หมื่นพิพิธวาจา ป้านสื่อ จำทูลพระสุพรรณบัตร สุวรรณพระราชสาร เชิญเครื่องพระราชบรรณาการ ช้างพลายช้างหนึ่ง ช้างพังช้างหนึ่ง (รวม) ๒ ช้าง ออกมาจิ้มก้องสมเด็จพระเจ้ากรุงต้าฉิ้งผู้ใหญ่ ตามขนบพระราชไมตรีสืบมาแต่ก่อน ฯลฯ

แต่ก่อนพระราชสารคำหับปิดตราโลโต ครั้งนี้หาตราโลโตมิได้ ปิดตราพระไอยราพตมาเป็นสำคัญ

วันอังคารเดือน ๗ แรม ๒ ค่ำ ปีฉลูตรีนิศก เพลาบ่าย ๔ โมง เสด็จออกท้องพระโรง ทรง ฯ เรียกเอาพระราชสารคำหับ ให้พระยาพิพัฒโกษาอ่าน ๆ ถวายจนสิ้นเรื่อง ทรง ฯ สั่งพระยาพิพัฒโกษาว่าดีอยู่แล้ว เอาไปให้ล่ามแปลออกเป็นอักษรจีน พระยาพิพัฒโกษาให้ขุนแก้วอายัต นอกราชการ คัดเอาไปแปลเป็นอักษรจีน ถึง ณ วันพฤหัสบดี เดือน ๗ แรม ๘ ค่ำ ปีฉลูตรีนิศก ให้จารึกพระราชสารเถิด

พระยาราชทูตว่า อย่างแต่ก่อน ท้ายพระราชสารว่า เคื่อนหล่งเสวยราชสมบัติได้ ๔๖ ปี

เวนนายทองคำ นายสัง แปลง ๓ ครั้ง ตราพระครุฑพาห์

ตราพระราชโองการ

ตราพระครุฑพาหน

๔ องค์

ตราพระไอยราพต

ตราพระมังกรหก

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ