๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๑ น

ตำหนักปลายเนิน คลองเตย

วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๔๘๑

พระยาอนุมานราชธน

หนังสือของท่าน ลงวันที่ ๑๙ ตุลาคม ได้รับแล้ว

ความเห็นของท่านในเรื่องอิเหนา รามเกียรติ์ นั้นจะผิดไปไม่ได้ ไม่ว่าเรื่องอะไร จะต้องเป็นนิทานเล่าให้กันฟังก่อน แล้วกวีจึงเก็บเอาไปแต่งเปนหนังสือขึ้นทีหลัง เพราะเหตุฉะนั้น หนังสือที่ต่างฉะบับ คนละคนแต่ง ความผิดกัน ย่อมไม่ประหลาดเลย

ข้อที่พวกดาหลังรู้เรื่องแต่ลางตอน และเล่นแต่ตอนที่ชำนาญนั้นก็เปนธรรมดา เหมือนกับคนขับเสภาของเรา ก็ย่อมรู้เรื่องขับได้แต่ตอนที่จำได้แม่นยำเช่นเดียวกัน บทกลอนในตอนหนึ่ง เช่นเรียกว่าตอนไร่ฝ้าย ตอนขึ้นเรือน ฉะนั้น เปนต้น แต่ละตอนก็เปนต่างคนต่างแต่ง แล้วตัวก็ไปขับหรือสอนให้ศิษย์ไปเที่ยวขับ เพราะฉะนั้นคนขับจึ่งขับได้แต่เปนตอนๆ ที่ติดต่อกันไปได้เปนเรื่องเปนราวนั้น เพราะพวกกวีเที่ยวได้วิ่งขอจดเปนหนังสือลำดับติดต่อกันเข้า สังเกตดูก็เห็น ว่าต่างตอนย่อมต่างฝีปากกันทั้งนั้น ไม่ใช่คนคนเดียวแต่งให้เปนเรื่องตลอดไป

เมื่อเทียบกับทางประเทศอินเดียก็ลงรอยคล้ายคลึงกัน พวกนักปราชญ์ฝรั่งซึ่งเขาสอบสวนชำระคัมภีร์เวทเขาก็ยกย่องมุขปาฐะว่าแม่นยำดีกว่าหนังสือ แต่จะหาบุคคลผู้เดียวซึ่งทรงไตรเพทนั้นไม่มี มีแต่ได้เปนตอน ๆ ต้องวิ่งหาสอบติดต่อกัน ที่ว่าหนังสือไม่แม่นสู้มุขปาฐะไม่ได้นั้นก็แลเห็นเหตุ เพราะคนเขียนหนังสือย่อมไม่รู้ถ้อยคำแห่งพระเวทก็จำต้องเขียนผิด และถ้ายิ่งลอกกันต่อ ๆ ไปหลายทีก็ยิ่งผิดมากขึ้น อย่างบุราณว่าลอกสามที่กินตาย (คำนี้หมายถึงลอกตำรายา) ส่วนมุขปาฐะนั้นเขาได้ต่อจากปากครูผู้รู้ อย่างเราต่อหนังสือค่ำ จะผิดได้น้อยที่สุด เพราะเหตุดั่งนั้นเราจึ่งใช้วิธีท่องต่อหนังสือค่ำกัน ไม่ใช้ให้อ่านหนังสือ จนพระสวดปาฏิโมกข์ก็ใช้มุขปาฐะ หนังสือจะต้องมาทีหลังปากเปนแน่นอน

สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ