๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๑ น

ตำหนักปลายเนิน คลองเตย

วันที่ ๑๖ เมษายน ๒๔๘๑

พระยาอนุมานราชธน

หนังสือของท่าน ลงวันที่ ๑๔ เรื่องศัพท์ต่าง ๆ นั้น ได้รับแล้ว

ศัพท์ ปิไส ตกลงเปน ปริไส แน่ แต่ท่านอยากทราบการเล่น แทงวิไส ก็จะต้องเขียนคำให้การยาว จะเขียนมาให้ท่านเปนส่วนพิเศษฉะบับหนึ่งต่างหากจากหนังสือนี้

มังกร ลักษณที่ทำกันก็เข้ารูปเปนจรเข้อยู่แล้ว ฉันได้เห็นหนังสืออะไร เจ็บใจเหลือเกิน จำไม่ได้ เปนหนังสือฝรั่ง เขาว่ามังกรทำกันมีหน้าเปน ๓ อย่าง เปนช้างอย่างหนึ่ง เปนแพะอย่างหนึ่ง แล้วเปนอะไรอีกอย่างหนึ่งจำไม่ได้ ฉันคิดตามก็เห็นจริง ที่ว่าเปนช้างก็ลงกับชนิดที่ทำมีงวงมีงา ในประเทศชะวามีดกดื่น ในเมืองเราก็มีที่ซุ้มเรือนแก้วพระชินราชเปนต้น ที่ว่าเปนแพะก็ลงกับชนิดที่ทำคล้ายหัวนาคแต่มีเขา แล้วอยู่มากาลวันหนึ่ง ฉันมาที่หอพระสมุดวชิราวุธ เห็นตู้ลายรดน้ำใบหนึ่ง เขาฉลักสาหร่ายติดไว้ที่ใต้ขา เปนรูปมังกรทั้งสามด้าน ยักทำหัวไปด้านละอย่าง ลงกันได้กับที่เห็นฝรั่งเขาว่าไว้นั้นหมดทีเดียว ยังได้นึกว่า อ่อ ไทยเราก็รู้เหมือนกัน แต่ตู้นั้นเดี๋ยวนี้จะเอาไว้ที่ไหนไม่ทราบ

ที่ฉันว่า ตเข้ เปน ตัวเข้ นั้น เปนแต่คิดเดา อย่าเพ่อถือเอาว่าเปนถูกแน่ จเข้ จรเข้ ก็มาจาก ตเข้ นั้นเอง เปลี่ยน เปน แม้ ตะกวด ฉันเคยได้ยินเรียกกันว่า จะกวด ก็มี

สัตวคู่กับ จรเข้ มี เหรา สัตวคู่กับ ตเข้ มี ตโขง เหรา กับ ตโขง จะเปนสัตว์อะไร

ส่ง โซง ทรง ดูท่วงทีจะเปนคำเดียวกัน หมายความว่ากางเกงด้วยกัน ทรงดำ น่าจะหมายความว่ากางเกงดำ ที่ลาวโซ่งมาอยู่เพชรบุรีนั้นกวาดครัวมาไว้ ประเพณีแต่ก่อนแม้ว่าตีเมืองได้ก็กวาดเอาครัวมา เอาเหนือไปไว้ใต้ เอาใต้ไปไว้เหนือ เพื่อให้หนีกลับไปบ้านยาก เขาว่าชาวปักษ์ใต้ทุกวันนี้ก็เปนชาวเหนือ เพราะปรากฏมีคำข้างเหนือใช้อยู่มาก แต่ฉันไม่ถนัดทางพงศาวดาร บอกท่านมากกว่านี้ไม่ได้ ท่านคิดจะสอบเอาคำลาวโซ่งนั้น เปนทางดีประเสริฐเลิศแล้ว

กินนรเนื้อ นั้น เขาเห็นท่านอยากรู้ เขาก็ผูกชื่อขึ้นสด ๆ บอกท่าน หากท่านได้พิจารณาแล้วจะเห็นได้ว่าไม่ใช้เนื้อ เพราะเนื้อหางลุ่นสั้น นี่หางยาวมีภู่ปลายดุจหางสิงห์หางโคฉะนั้น แม้ว่าท่านตรวจลายชามเทพประนมนรสิงห์ท่านจะได้เห็นนรสิงห์เปนสองอย่าง คือ ท้าวเปนเล็บก็มี ท้าวเปนกีบก็มี นรสิงห์ คือ ครึ่งคนครึ่งสิงห์ เปนสัตวแบบ ย่อมมีอยู่เกือบทุกพวกทุกภาษา แต่ที่ของเรามีมายักทำท้าวเปนกีบนั้นประหลาดหนักหนา ในรูป ตำราสัตวหิมพาน ก็มี ดูเหมือนเรียกว่า อัปสรสีหะ ทำไมจึ่งมายักทำท่อนล่างเปนดังเนื้อ แต่มีหางยาวปลายเปนลู่ ดูชื่อก็เห็นปรากฏว่าเขารู้และตั้งใจจะทำเปนสิงห์ เมื่อคิดเดาดูก็เห็นเหตุว่า ในทางบาลีเรามีราชสีห์สีอย่าง คือ เกสรสีห ติณสิห บัณฑุสีห กาลสีห ได้แก่ราชสีหที่มีสร้อยคอ ราชสีหกินหญ้า ราชสีหเหลือง ราชสีหดำ เราเดากันว่า สิงห์โค โคกะทิง เสือ หมี ที่เขาเปลี่ยนจากเล็บเปนกีบนั้น ย้ายจากเกสรสีห์ไปทำเปนติณสีห์ เพราะเปนสิงห์เหมือนกัน มีศักดิ์เสมอกัน ที่ย้ายไปนั้นเพราะจะให้ดูงามเข้ากัน นางเปนรูปอ้อนแอ้น ถ้าเอาไปต่อกับสิงห์โตซึ่งมีรูปอึ้ดทึ่ดก็ดูไม่งาม สู้เอาไปต่อกับโคกะทิงไม่ได้ ดูโปร่งชะแล่มเข้ากันงามกว่า เข้าใจว่าเปนเจตนาดังนี้ รูปที่ท่านเห็นก็คือนรสิงห์นั้นเอง เปนนรสิงห์ตัวเมีย

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ