- คำนำ
- สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙
- กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙
- ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙
- พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙
- ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ยส
- ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- ๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ยส (๒)
- ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ยส (๓)
- ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น (๒)
- ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น (๓)
- ๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ยส
- ๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ยส
- ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ยส (๒)
- ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น (๒)
- ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ยส
- ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙
- ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ยส
- ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ยส (๒)
- ๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- ๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ยส
- ๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น (๒)
- ๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ยส (๒)
- ๑๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ยส
- ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ยส
- ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ยส (๒)
- ๒๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- ๒๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น (๒)
- มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙
- พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๐
- มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๐
- กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๐
- ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐
- ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น (๒)
- ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ยส
- ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ยส
- ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ยส (๒)
- ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- ๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ยส
- ๒๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- ๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ยส (๒)
- ๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ยส (๓)
- ๒๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น
- ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ยส
- พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๐
- ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๐
- มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๐
- มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๐
๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ยส
กรมศิลปากร
วันที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙
ขอประทานกราบทูล ทราบใต้ฝ่าพระบาท
ข้าพระพุทธเจ้าได้รับลายพระหัตถ์ ลงวันที่ ๑๑ เดือนนี้ ทรงพระปรารภเรื่องตั้งหลักในการแก้และเติมคำในหนังสือกฎมนเทียรบาลพะม่านั้น ข้าพระพุทธเจ้ารับใส่เกล้าพิจารณาหลัก ๕ ข้อที่ทรงตั้งมานั้นตลอดแล้วเห็นพ้องด้วยในหลักที่ประทานมาทุกข้อ ไม่มีความเห็นอื่นที่จะเพิ่มเติมอย่างไรหามิได้
ในข้อที่ทรงปรารภถึงการอ่านหนังสือชาติต่าง ๆ ว่า เขียนกันอย่างหนึ่ง แต่ออกสำเนียงอ่านเป็นอีกอย่างหนึ่งนั้น ข้าพระพุทธเจ้าได้รับความลำบากอยู่บ่อย ๆ ถ้าไปผูกภาษาที่หาหนทางสอบไม่ได้ เช่น ภาษาธิเบต ข้าพระพุทธเจ้าก็ต้องใช้เดา ในส่วนภาษาที่เป็นเพื่อนบ้านอย่างพะม่าและเขมรมอญ ถ้าเป็นคำในภาษาเดิมของเขา หรือโดยเข้าใจว่าเป็นเช่นนั้น ข้าพระพุทธเจ้าเคยเขียนตามเสียงของตัวโรมันที่ถอดเอามาจากภาษาเหล่านั้น หรือถ้าสามารถจะสอบสำเนียงอ่านได้จากชาติที่เป็นเจ้าของภาษา ถ้าเสียงไม่ห่างไกลกับเสียงในตัวโรมันมาก ข้าพระพุทธเจ้าก็ใช้จดตามสำเนียงที่เจ้าของภาษาบอก ส่วนคำที่ทราบว่ามาจากภาษาบาลีและสันสกฤต ข้าพระพุทธเจ้าก็เขียนตามรูปของภาษาบาลีและสันสกฤตอย่างที่เข้าใจกันในภาษาไทย ถ้าจำเป็นต้องการให้ทราบสำเนียงของภาษานั้น จึงจะลงสำเนียงเป็นพิเศษไว้ในวงเล็บ ที่ข้าพระพุทธเจ้าเขียนเช่นนี้ เพราะได้เคยเห็นผู้แปลนิยายพะม่าเรื่องหนึ่งมาลงไว้ในหนังสือพิมพ์ เขียนว่า เทวดาองค์หนึ่งชื่อ สัคยา ซึ่งในที่นี้ถ้าผู้เขียนทราบและเขียนตามรูปในภาษาสันสกฤตว่า สักระ ก็จะทำให้อ่านเรื่องนั้นซึมซาบดีขึ้นและไม่งง ส่วนคำที่ไทยนำเอามาจากชาติอื่นและกลายเป็นคำในภาษาไทยขึ้นแล้ว เช่น มาส ในภาษา เขมร หรือ เก๋ง ในภาษาจีน ถึงแม้ว่าในสำเนียงเดิมเขาจะอ่านว่า เมียะ หรือ เกง ก็คงจดเสียง มาส และ เก๋ง อยู่ตามเดิม ทั้งนี้จะเป็นการสมควรประการใด ขอรับพระบารมีปกเกล้าเป็นที่พึ่ง
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรดเกล้า ฯ
ข้าพระพุทธเจ้า
ขอประทานกราบทูล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศเธอ เจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงษ์ ทราบใต้ฝ่าพระบาท