๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๒ น

ตำหนักปลายเนิน คลองเตย

วันที่ ๑๒ มกราคม ๒๔๘๒

พระยาอนุมานราชธน

หนังสือของท่าน ลงวันที่ ๑ มกราคม ถามอะไรไปหลายอย่าง จะตอบท่านตามรู้ตามเห็นต่อไปนี้

เกษตร ท่านทราบแล้วว่าคำเดียวกับ เขตต์ เปนคำพูดตัดมาจาก ทับเกษตร ซึ่งชาวปักษ์ใต้เขาใช้เรียกพระระเบียง อาจเหมือนกับทางพายัพและอีศานก็ได้ ไม่ทราบแน่ว่าทางนั้นเขาเรียกอย่างไร เพราะยังไม่เคยไป แต่สังเกตได้อยู่ว่า ลางคำที่ใช้กันทางปักษ์ใต้ขึ้นไปตรงกับทางพายัพอีศานก็มี คำว่า ทับ หมายความว่าที่อยู่หรือที่อาศัย เช่น ทับกวาง ก็เปนที่อยู่ของหมู่กวาง ทับช้าง เปนที่อยู่ของช้าง โพธิ์ทับช้าง คือต้นโพธิ์ที่อาศัยช้าง ทับตะโก เปนที่อยู่ของเสือ คำเกรียงและเงาะเรียกเสือว่า ตะโก๊ะ เราลากเอามาเข้าภาษาไทยจึงเปน ตะโก เลยไม่ได้ความ โปรดปรานได้ประทานทับกระท่อม คือกระท่อมที่อยู่ แล้วที่อยู่นั้นมันก็เลื่อนความเข้าใจมาเปนเรือน ทับเกษตร ก็หมายถึงเรือน ซึ่งเปนขอบเขตต์ตรงกับ พระระเบียงคด และอะไรต่าง ๆ บรรดาที่เปนเรือนล้อมคั่นเขตต์

เช็ดหน้า หรือ กรอบเช็ดหน้า วงเช็ดหน้า คือกรอบประตูหน้าต่างแห่งเรือนตึก ที่ใช้คำอย่างนั้น ทีแต่ก่อนเขาจะผูกผ้าขาวเท่าผืนผ้าเช็ดหน้าทำขวัญเมื่อยกขึ้นตั้ง เปนสิ่งเดียวกันกับที่เรียก กบ วงกบ ช่องกบ และ บานกบ ความหมายสำคัญในคำนี้อยู่ที่ กบ คือตัดไม้แหลมดุจปากกบ เข้าปากกบให้เลี้ยวไป เมื่อเลี้ยวไปรอบตัวจึ่งได้เรียกว่า วงกบ ถ้าเปนแต่ช่องเปล่าไม่มีบานจึ่งเรียกว่า ช่องกบ ที่เรียกว่า บานกบ นั้นควรจะมีบานปิดช่องกบด้วยจึงควรเรียกบานกบ คือวงกบอันมีบานปิด บานซึ่งติดบานพับนั้นเพิ่งมีขึ้นเมื่อฝรั่งเขาทำบานพับมาให้ใช้เมื่อเร็ว ๆ นี้เอง บานประตูหน้าต่างแต่ก่อนทำเดือยทั้งนั้น ตัวไม้ที่สวมเดือย ข้างล่างเรียก ธรณี ข้างบนเรียก ทับหลัง กรอบประตูหน้าต่างเรือนฝากระดานซึ่งท่านพูดถึงนั้น ฉันไม่ทราบว่าเขาเรียกอะไร จริงอยู่ที่บ้านปลายเนินมีเรือนฝากระดานมาก ควรจะรู้ แต่ไม่รู้ เพราะฉันไม่ได้สร้างไม่ได้ติดต่อกับช่าง เปนแต่รับซื้อมาด้วยราคาถูก ๆ เพราะเปนของพ้นสมัย ใครมีก็อยากบริจาคให้พ้นไปเสียโดยวิธีขายขาดทุน

ตะพานหนู เปนไม้กระดานเล็ก เขาตรึงทับบนไม้เชิงกลอน เห็นจะประสงค์ไม่ให้น้ำตกราดไม้เชิงกลอน ที่ชื่อว่า ตะพานหนู เห็นจะหมายความว่าควรจะเปนตะพานให้หนูไต่ไป หรือจะหมายความว่าไม้ตะพานตัวเล็กก็ได้ เปนของอยู่บนหลังคา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรอบประตูหน้าต่างซึ่งอยู่ที่ฝานั้นเลย

การชักศพที่เอาเท้าไปหน้า เห็นจะหมายให้เดินไปอย่างคนเปน ที่ว่าเพื่อให้ผีจำทางไม่ได้นั้น กลัวจะคิดยัดให้ทีหลัง

ท่านสอบได้มา ว่าทางอินเดียเรียก อุทุมพร เปน ทุมพร นั้นดีมาก ทุมพร เปน ชุมพร ได้ง่ายที่สุด เพราะ ช กับ ทย ก็เปนอันเดียวกันอยู่แล้ว

เรื่องตาร้อยปม สมเด็จกรมพระยาดำรงก็ตรัสอ้าง ว่าพระสุเมธมุนีแปลมาจากหนังสือมอญ ชื่อว่า ธรรมเจดีย์ แต่ฉันไม่ได้บอกแก่ท่านมาโดยละเอียด สำเนาเรื่องที่ท่านเล่าก็เปนอย่างเดียวกับเรื่อง ท้าวแสนปม ผิดกันแต่รายละเอียด เช่นมะเขือเปนมะนาวไปเปนต้น ไม่สำคัญอะไร สำคัญอยู่ที่ว่าเมืองใกล้เขาก็มีเหมือนกัน ทำให้รู้สึกว่าเปนนิทานเก่าซึ่งน่าจะมาแต่ไกล จึ่งสงสัยว่าจะมาแต่อินเดีย เช่นเดียวกับเรื่องลูกนางนาค

เรื่องเกิดในจั่นหมากจั่นมะพร้าว เปนคำของกวี มีตัวอย่างจะเล่าให้ท่านฟัง ฉันเห็นรูปในหนังสือพิมพ์ เปนนางนั่งอยู่ในอะไรดูไม่ออก ถามลูกบอกว่าดอกบัว ดูไม่ออกที่ดอกบัวนั้นมันใหญ่เต็มที ผิดสเคล นั่นก็เปนปากกวีเหมือนกัน

เรื่องศรีชนญชัย ท่านว่าทางมลายูมีนั้นไม่ทำให้ประหลาดใจ เชื่อแน่ว่าเปนเรื่องแพร่หลายมาจากอินเดีย ดูแต่ชื่อก็บอกอยู่ในตัวแล้ว

พูดถึงเรื่องเก่า ๆ ก็นึกขึ้นมาได้ หนังสือเรื่องจารึกเล่มที่ ๒ ฉันไม่มี มีแต่เล่มที่ ๑ ซึ่งเจ้าพระยามุขมนตรี ตีพิมพ์เก่าใหม่อยู่ถึง ๒ เล่ม ดูคำนำกล่าวว่า สมเด็จกรมพระสวัสดิทรงตีพิมพ์เล่มหนึ่ง เข้าใจว่าคือเล่มที่ ๒ นั้น ถ้ามีฉะบับสำหรับจำหน่ายอยู่ในหอสมุด โปรดจัดส่งไปให้ฉันฉะบับหนึ่ง จะขอบใจมาก เปนราคาเท่าไรบอกไปให้ทราบ จะส่งเงินมาใช้แก่หอสมุด

ในโอกาศนี้ได้ส่งแบบโรยแป้งตั้งรูปเทวดานพเคราะห์ กับสำเนารายงานถ้อยคำโหรในเรื่องเซ่นข้าวแม่ซื้อ มาให้ท่านด้วย

แบบโรยแป้งตั้งรูปเทวดานพเคราะห์นั้น ได้มาจากพราหมณ์ ดูคล้ายกับวิธีตั้งเทวรูปนพเคราะห์ในสานพระอาทิตย์ในอินเดีย มีพระอาทิตย์เปนรูปใหญ่ตั้งกลาง นอกนั้นเปนรูปเล็กตั้งล้อมแปดทิศ จำได้ว่าพระราหูอยู่ตกใต้ พระเกตุอยู่ตกเหนือ ต้องกันกับแบบโรยแป้งนี้ แต่วิธีที่โหรเราตั้งบัตรบูชานพเคราะห์ เขาทำบัตรพระเกตุใหญ่กว่าเพื่อนตั้งไว้กลาง เอาบัตรพระอาทิตย์ไปไว้ออกเหนือ รู้สึกว่าต่ำไป ที่เปนดังนั้นคงเปนด้วยพระจันทร์เปนพระเคราะห์รอง วางไว้ด้านหน้า คือทิศตะวันออก เปนพยานส่อให้เห็นว่าเดิมพระอาทิตย์อยู่กลาง แต่เพราะเปลี่ยนเอาพระเกตุเข้าตั้งกลางแทนที่พระอาทิตย์ พระอาทิตย์จึงถูกไล่ไปอยู่ออกเหนือ ที่เอาพระเกตุเข้าแทนที่พระอาทิตย์ เห็นจะมาแต่กลัวฤทธิ ธูมเกตุ คือดาวหาง ดาวหางขึ้นทำให้แผ่นดินฉิบหาย เพราะฉะนั้นจึ่งตื่นบูชาพระเกตุ พระเกตุเลยกลายเปนใหญ่ยิ่งกว่าพระเคราะห์อื่น เข้าสู่ท่ามกลางแย่งที่พระอาทิตย์ ทางอินเดียเขาไม่ได้ถือว่าพระเกตุเปนสำคัญ เขาว่าเปนตนเดียวกับราหูเสียด้วยซ้ำ ว่าราหูนั้นรูปเดิมหัวเปนยักษ์ หางเปนมังกร ถูกจักรนารายณ์ตัวขาดเปนสองท่อน เพราะพระอาทิตย์พระจันทร์บอกแก่พระนารายณ์เมื่อราหูปลอมตัวจะเข้ากินน้ำอมฤต ท่อนหัวเปนราหู คอยจับพระอาทิตย์พระจันทร์เพื่อจะกินเสียด้วยความแค้น ส่วนท่อนท้ายนั้นเปนเกตุ ยังไม่พบตำนานทางอินเดียกล่าวว่าดีร้ายประการใด ตกว่าเปนหางมังกรเท่านั้น แต่เรามาถือกันว่าเปนเทวดาอีกองค์หนึ่งต่างหาก ทรงมังกร ที่โรยแป้ง ในตำแหน่งราหูเปนรูปมังกรนั้น ใกล้ข้างถูกตามตำนานเดิม แต่ที่โรยในตำแหน่งพระเกตุเปนรูปธงสามชายนั้นติดจะเคลื่อนคลาศ ที่จริงควรจะเปนธงตะเข้ เพราะมีรูปดุจมังกร หรือตัวตะเข้นั้นเองคือมังกร ถึงธงที่กล่าวไว้ในคำฉันท์เก่าก็ว่า ธงชัยทำนุกใบ และสบัดคือกรกราย นั่นก็เปนว่าธงปลิวดุจไกวแขน ธงเหมือนแขนก็ต้องเปนธงยาวอย่างมังกร การโรยแป้งเดิมเห็นจะโรยแต่แป้งเปนเครื่องหมายเท่านั้น ไม่ได้ตั้งเทวรูปหล่อทับลงด้วย เทวรูปนพเคราะห์หล่อเห็นจะหายาก ในเทวสถานของพราหมณ์ก็เข้าใจว่าไม่มี

เรื่องเซ่นแม่ซื้อนั้น นึกว่าทางโหรเขาจะมีตำรา จึ่งได้ถามไปเขาก็ไม่มี แต่เขาก็ไม่ดูดาย ช่วยวิ่งเที่ยวสืบผู้ซึ่งเคยทำบอกให้ เมื่อฉันส่งให้ลูกคัดคำของโหรเพื่อจะส่งมาให้ท่าน ลูกบอกว่าตัวเองยายก็เคยทำให้ สิ้นเคราะห์ไปเถิด ในบ้านก็มีคนรู้ แต่ฉันไม่ทราบเลย เที่ยววิ่งสืบไปไหนๆ ไล่เลียงก็ได้ความอย่างเดียวกับที่โหรเขาบอกมา ว่าเมื่อเด็กไม่สบายแล้วก็ทำการเซ่น ทำข้าวเปนสี่ก้อน ย้อมเปนสีต่าง ๆ สามก้อน ไม่ย้อมก้อนหนึ่ง ใส่ฝาละมีเอาไปที่ตัวเด็ก หยิบทีละก้อนขึ้นวนที่ตัวเด็ก กล่าวคำฟาดเคราะห์ว่า แม่ซื้อเมืองล่าง แม่ซื้อเมืองบน แม่ซื้อเดินหน แม่ซื้อหัวกะได แม่ซื้อใต้ที่นอน เชิญมารับ (ก้อน) ข้าว ขาว เหลือง แดง ดำ (ว่าเปลี่ยนไปตามสีก้อนข้าว) ของลูกไป อย่าให้กินข้าวขม อย่าให้กินนมราก อย่าให้นอนสดุ้งนอนหวาด หายเจ็บหายไข้ แล้วขว้างข้าวข้ามหลังคาเรือนที่เด็กอยู่ไปสามก้อน โยนลงแผ่นดินไปก้อนหนึ่ง แล้วเอาน้ำล้างฝาละมีราดตามลงไปด้วย เมื่อโยนเข้านั้นร้อง วู้ กู่เรียกด้วย คิดดูทีว่า แม่ซื้อเมืองล่าง นั้นหมายถึงผีบาดาล แม่ซื้อเมืองบน หมายถึงผีฟ้า แม่ซื้อเดินหน หมายถึงผีที่อยู่บนพื้นดิน แม่ซื้อหัวกะไดกับแม่ซื้อใต้ที่่นอนหมายถึงผีเรือน ที่เอาข้าวโยนลงดินก้อนหนึ่งนั้น คงหมายถึงเซ่นผีบาดาล น้ำล้างฝาละมีก็คือให้กินน้ำด้วย

สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ