๖๔. เจ้าอนัมก๊กมีศุภอักษรนัดให้ไปตีเมืองตังเกี๋ย

ลุจุลศักราช ๑๑๕๔ ปีชวด จัตวาศก[๖๓] เป็นปีที่ ๑๑ ในรัชกาลที่ ๑ เมื่อเดือน ๕ ขึ้น ๙ ค่ำ เจ้าอนัมก๊กมีหนังสือเข้ามาฉบับ ๑ ใจความว่า พวกขุนนางของเจ้าอนัมก๊กซึ่งอยู่ ณ เมืองไซ่ง่อน องลองเยืองยกกองทัพมาตีจับได้แต่ก่อนเอาไปไว้เมืองเว้ตั้งเป็นขุนนาง ถ้าองลองเยืองคิดการประการใด ก็แต่งคนถือหนังสือลับเล็ดลอดมาให้ทราบทุกครั้ง จึงรู้ว่าองลองเยืองแต่งให้นายทัพนายกองออกไปตั้งอยู่ ณ เมืองตังเกี๋ยและว่าเมืองลาวจับเอาทูตขององลองเยืองที่ไปเมืองพม่า ส่งลงมากรุงเทพมหานครโปรดให้จำไว้ องลองเยืองผูกพยาบาทคิดจะยกไปตีเมืองลาวได้แล้ว จะให้ยกไปตีเมืองเขมร แล้วจะยกกองทัพบกทัพเรือเข้าไป ณ กรุงเทพฯ ถ้ากรุงเทพฯ จะยกกองทัพไปตีองลองเยือง ขอให้ยกไปทางเหนือเข้าตีเมืองตังเกี๋ย เจ้าอนัมก๊กจะยกกองทัพบกทัพเรือไปตีเมืองกุยเยิน เมืองเว้ ถ้าจะยกออกไปตีเมื่อใด ขอให้มีตราออกไปให้แจ้งจะได้ยกออกไปด้วยให้พร้อมกัน

ครั้น ณ วันอาทิตย์ เดือน ๙ แรม ๑๑ ค่ำ โปรดให้มีหนังสือพระยาพระคลังตอบออกไปใจความว่า ญวนเมืองตังเกี๋ยยกกองทัพมาตีเมืองเวียงจันทน์ กองทัพเมืองเวียงจันทน์ยกออกไป ได้รบกันที่เมืองพวน กองทัพญวนเมืองตังเกี๋ยแตกไปจึงกวาดเอาครอบครัวชายหญิงใหญ่น้อยส่งมา ๔,๐๐๐ เศษและซึ่งองลองเยืองมีความพยาบาท จะยกกองทัพไปตีเมืองลาวได้แล้ว จะยกเข้ามาตีกรุงเทพฯ นั้น ตามแต่มันจะคิดเถิดหาวิตกไม่ และข้อซึ่งว่าจะแต่งกองทัพไปเมื่อใดให้บอกออกไปให้แจ้ง เจ้าอนัมก๊กจะยกกองทัพไปตีเมืองกุยเยิน เมืองเว้พร้อมกันทีเดียวนั้น ฝ่ายกรุงก็จัดเตรียมกองทัพหัวเมืองฝ่ายตะวันออกและกองทัพกรุงอยู่ เพราะบัดนี้แมงจันจาพม่าเจ้าเมืองทวายสวามิภักดิ์มาขึ้นกรุงสยาม แมงจันจากับขุนนางพม่าที่มาขอพึ่งพระบรมราชกฤษฎาภินิหารจะอาสาไปตีเมืองเมาะตะมะ เมืองร่างกุ้ง การศึกเมืองอังวะครั้งนี้เป็นท่วงทีอยู่ จะต้องคิดทำให้สำเร็จเสียก่อน ถ้าจะไปทำแก่องลองเยืองได้เมื่อใด จึงจะมีตรากำหนดออกมาให้แจ้งครั้งหลัง และให้เจ้าอนัมก๊กรักษาบ้านเมืองไว้ให้มั่นคง บัดนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้องเบ็ดเลืองคุมสิ่งของออกมาพระราชทานเจ้าอนัมก๊ก แพรมังกรสีม่วง ๒ สีดำ ๒ กระดาษหีบ ๑ หมึกหีบ ๑



[๖๓] พ.ศ. ๒๓๓๕

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ