๑๐๔. กรมพระราชวังบวรสถานมงคลสวรรคต

กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ประชวรพระโรคนิ่วตั้งแต่เสด็จขึ้นไปเมืองเถินพระอาการค่อยคลายขึ้นคราวหนึ่งแล้ว ครั้น ณ เดือน ๘ ปีกุน เบญจศก จุลศักราช ๑๑๖๕[๘๕] พระโรคกลับมีพิษกำเริบขึ้น พระอาการประชวรก็หนักลงโดยลำดับ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงทราบว่า สมเด็จพระอนุชาธิราชประชวรพระอาการหนัก จะเสด็จขึ้นไปทรงพยาบาลครั้นข้าราชการวังหลวงจะขึ้นไปล้อมวงตามธรรมเนียมเห็นกิริยาพวกข้าราชการวังหน้ากระด้างกระเดื่องจะเกิดวิวาทกันขึ้น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรต้องเสด็จขึ้นไปพร้อมด้วยเจ้าพระยารัตนาพิพิธ และพระยายมราชเดินยึดไปสองข้างพระเสลี่ยง ไปทรงจัดวางการล้อมวงเอง จึ่งเป็นการเรียบร้อย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นไปประทับแรม ทรงพยาบาลสมเด็จพระอนุชาธิราชอยู่ที่ในพระราชวังบวรฯ ถึง ๖ ราตรี

ครั้น ณ วันพฤหัสบดี เดือน ๑๒ แรม ๔ ค่ำ ปีกุน เบญจศก เวลา ๒ ยามเศษ กรมพระราชวังบวรสถานมงคล สวรรคตในพระที่นั่งบูรพาภิมุข พระชนมพรรษา ๖๐ พรรษา เสด็จดำรงเกียรติยศอยู่ในมหาอุปราช ๒๑ ปี ๔ เดือน ๕วัน จึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระราชวงศานุวงศ์และข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยเป็นอันมาก เจ้านายฝ่ายพระบรมมหาราชวังขัดดาบทุก ๆ พระองค์ตามเสด็จเข้าไปสรงและทรงเครื่องพระศพเสร็จแล้ว เชิญพระศพประดิษฐานในพระโกศไม้สิบสอง ซึ่งทรงพระราชดำริให้จัดไว้เมื่อประชวรหนัก โปรดให้รื้อเอาทองคำที่หุ้มพระโกศกุดั่นใหญ่กุดั่นน้อยที่ทรงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอทั้ง ๒ นั้น มาหุ้มพระโกศกรมพระราชวังบวรสถานมงคล และพระโกศกุดั่นใหญ่กุดั่นน้อยนั้น โปรดให้ลงรักปิดทอง ประดับกระจก ไว้สำหรับทรงศพเจ้านายเชิญพระศพไว้ในพระที่นั่งศิวโมกข์พิมาน โปรดให้มีหมายประกาศให้โกนผมทั้งแผ่นดิน เว้นแต่คนผมมวย ผมเปีย ผมจุก



[๘๕] พ.ศ. ๒๓๔๖.

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ