๗๘
๏ ฝ่ายทองเทียนกาจู๊ให้รบพุ่งรักษาค่ายเป็นสามารถ ทองเทียนกาจู๊ถือกระบี่เข้าไล่ฟันพวกง่วนสีเทียนจุ๋นแตกกระจายไป เจียบอินโตหยินถือแซ่เข้ารบต้านไว้ เล่าจือเอาไม้เท้าตีถูกทองเทียนกาจู๊ ทองเทียนกาจู๊เหาะหนีขึ้นบนอากาศ เหียนเตาไต้สูเอาประคำแก้วขว้างถูกทองเทียนกาจู๊ตกลงมา ทองเทียนกาจู๊หนีแทรกแผ่นดินไป ค่ายจูเซียนติ้นก็แตกทั้งสี่ด้าน ง่วนสีเทียนจุ๋นกับอาจารย์ทั้งปวงก็กลับมาบอกเกียงจูแหยตามซึ่งชนะแก่ข้าศึกจึงว่าเรามาช่วยท่าน บัดนี้ก็สำเร็จการแล้วจะลาท่านไปก่อน ง่วนสีเทียนจุ๋นกับอาจารย์น้อยใหญ่ต่างเหาะกลับไปที่อยู่ เกียงจูแหยก็ไปหาบูอ๋องบอกว่า ง่วนสีเทียนจุ๋นกับอาจารย์ทั้งปวงมาช่วยมีชัยแก่ข้าศึก บูอ๋องได้ฟังก็ดีใจ จึงให้แต่งโต๊ะเลี้ยงเกียงจูแหยกับนายทัพนายกองทั้งปวง
๏ ฝ่ายชีไก้นายด่านไต้ไปก๋วน รู้ว่าเกียงจูแหยได้ด่านกีจุยก๋วนก็ตกใจ จึงมีหนังสือบอกไปถึงเมืองจิวโก๋ กีจิวขุนนางผู้ใหญ่แจ้งหนังสือนั้น จึงเข้าไปกราบทูลพระเจ้าติวอ๋อง แล้วว่าเกียงจูแหยยกทัพมาถึงหกสิบหมื่นตีล่วงเข้ามาได้ถึงด่านกีจุยก๋วน แลพระองค์จะเสวยแต่สุราอยู่กับนางขันกีไม่คิดอ่านป้องกัน เห็นเมืองจิวโก๋จะเสียแก่ข้าศึกเป็นมั่นคง พระเจ้าติวอ๋องได้ฟังก็ตกพระทัยนิ่งตะลึงอยู่ นางขันกีจึงทูลว่าพระองค์อย่าเชื่อกีจิว กีจิวแกล้งเพ็ดทูล ทั้งนี้หวังจะให้เกณฑ์กองทัพ ให้ราษฎรได้ความเดือดร้อน แลเสียข้าวของพระราชทรัพย์หาต้องการไม่ จงเอาตัวผู้ถือหนังสือไปฆ่าเสีย แล้วให้มีกฎหมายรับสั่งประกาศไปแก่หัวเมืองทั้งปวง ตั้งแต่นี้ใครถือหนังสือมาเมืองหลวงด้วยการศึกจะให้ประหารชีวิตเสีย พระเจ้าติวอ๋องมัวเมาด้วยอำนาจปีศาจ เหตุด้วยบ้านเมืองจะเสียเชื้อพระวงศ์จึงเผอิญให้ฟังคำนางขันกีเห็นชอบด้วย จึงให้เอาผู้ถือหนังสือด่านไต้ไปก๋วนไปฆ่าเสีย แล้วให้มีกฎหมายตามคำนางขันกี กีจิวจึงทูลว่าพระองค์ให้ฆ่าผู้ถือหนังสือแล้วมีกฎหมายห้ามดังนี้ ถ้าข้าศึกจะเข้ามาเหยียบชานเมืองก็หามีผู้ใดอาจเพ็ดทูลไม่ พระเจ้าติวอ๋องจึงว่าเกียงจูแหยจะมีสติปัญญาสักเพียงใด ถึงจะหักด่านกีจุยก๋วนได้ก็แต่ด่านเดียว ยังอยู่ถึงสี่ด้าน แลด่านอุยโหก๋วนเบงจิวก๋วนสองด่านนี้มีแม่น้ำขวางหน้า ที่ไหนเกียงจูแหยจะยกพลข้ามมาได้ กีจิวได้ฟังก็เสียใจ ถวายบังคมลากลับมาบ้าน
๏ ฝ่ายเกียงจูแหยจึงทูลพระเจ้าบูอ๋องว่า พระองค์จงยับยั้งอยู่ในด่านกีจุยก๋วนก่อน ข้าพเจ้าจะไปตีด่านไต้ไปก๋วน ครั้นได้ฤกษ์ให้ยกออกจากด่านกีจุยก๋วนมาถึงด่านไต้ไปก๋วน ตั้งค่ายไกลด่านทางประมาณพันเส้น
๏ ฝ่ายชีไก้นายด่านไต้ไปก๋วนรู้ว่าเกียงจูแหยยกมา จึงขึ้นไปดูบนเชิงเทิน เห็นธงปักเป็นสำคัญมาทุกกอง ชีไก้นายด่านจึงว่าทัพเกียงจูแหยยกมาครั้งนี้เข้มแข็งนัก ใครจะอาสาออกไปสู้ได้บ้าง เหงป้าแห้จุ๋นจึงว่าท่านกลัวเกียงจูแหยหรือ ข้าพเจ้าทั้งสองนี้จะรับอาสาออกไปจับตัวเกียงจูแหยมาให้ท่าน ชีไก้ก็เกณฑ์ทหารให้เหงป้าแห้จุ๋นคุมทหารออกไปยืนอยู่หน้าค่ายเกียงจูแหย เกียงจูแหยก็ให้ฮุยฮุนขี่ม้าถือทวนพาทหารออกไปร้องถามว่าท่านชื่อไร เหงป้าแห้จุ๋นจึงบอกว่าเราชื่อเหงป้าแห้จุ๋นจะมารบเกียงจูแหย ฮุยฮุนก็ขับม้าเข้ารบกับเหงป้าแห้จุ๋นได้สามสิบเพลง แห้จุ๋นเห็นจะต้านทานมิได้ชักม้าหนี ฮุยฮุนขับม้าไล่ตาม แห้จุ๋นจึงเอาหั่นเตาหางจระเข้ทิ้งไป บังเกิดเป็นควันมืดคลุ้มขึ้น ฮุยฮุนเข้าไปในกลางเกลียวควันก็ร้อนทนไม่ได้ ม้าที่ฮุยฮุนขี่ล้มลงฮุยฮุนก็ตายในที่นั้น ทหารก็เอาเนื้อความไปบอกเกียงจูแหย เกียงจูแหยได้ฟังเสียใจนัก คิดถึงฮุยฮุนเป็นคนสัจซื่อไม่พอที่จะตายเสีย
๏ ฝ่ายเหงป้าแห้จุ๋นก็บอกชีไก้นายด่านตามซึ่งได้รบพุ่งกันทุกประการ ชีไก้จึงว่าถึงท่านฆ่าฮุยฮุนตาย เราก็หาหายความวิตกไม่ ทหารเกียงจูแหยที่มีฝีมือนั้นยังอยู่เป็นอันมาก พระเจ้าติวอ๋องหาให้กองทัพมาช่วยเราไม่ เสบียงอาหารของเราก็น้อย ซึ่งเราจะรักษาด่านไว้นั้นยากนัก พูดกันยังไม่ทันขาดคำมีคนเข้ามาบอกว่า เกียงจูแหยให้ทหารมาร้องท้าชวนรบ ชีไก้ก็ให้เหงป้าออกรบ เหงป้าขึ้นม้าถือทวนพาทหารออกไป เห็นทหารเกียงจูแหยหน้าเขียวขี่ม้าเขียวก็ร้องถามว่าท่านชื่อไร เชาฮูบอกว่าเราชื่อเชาฮู เหงป้าเอาทวนชี้หน้าแล้วว่าอ้ายอกตัญญู นางขันกีบุตรของตัวพระเจ้าติวอ๋องก็เลี้ยงเป็นอัครมเหสี เอ็งหารู้จักคุณไม่ กลับไปเข้ากับเกียงจูแหยยังมิหนำซ้ำมารบกับเราอีกเล่า ว่าแล้วขับม้ารำทวนเข้าแทงเชาฮู เชาฮูเอาทวนปัดทวนเหงป้าเสีย
๏ ฝ่ายเชาชวนต๋งเตียเปียซุนจืออูบุตรเชาฮู ก็เข้าช่วยเชาฮูล้อมม้าเหงป้าไว้ เหงป้าแกล้งทำชักม้าหนี เตียเปียขับม้าไล่ตามมาทันม้าเหงป้าเหลียวมาเอามือตบถูกแก้มเตียเปีย ดุจหนึ่งสายฟ้าฟาดถูกเข้า เตียเปียตกม้าตาย ซุนจืออูก็ขับม้าเข้ารบเหงป้า เหงป้าก็เอามือตบซุนจืออูตกจากม้า เอาทวนแทงซ้ำตาย เชาฮูกับเชาชวนต๋งเห็นจะสู้มิได้ชักม้ากลับเข้าค่าย เหงป้าก็ตีกลองชนะศึกขึ้นพาทหารกลับเข้าค่าย เกียงจูแหยจึงปรึกษากับทหารทั้งปวงว่า ใครจะอาสาสู้กับเหงป้าได้ หลุยจินจู๊รับอาสา ขึ้นม้าถือทวนพาทหารออกไปยืนอยู่หน้าค่าย ชีไก้ก็ให้แห้จุ๋นออกต่อสู้ แห้จุ๋นขี่ม้าถือทวนออกมาเห็นหลุยจินจู๊หน้าเขียวผมแดงมีเขี้ยวออกจากปาก จึงถามว่าท่านชื่อใด หลุยจินจู๊บอกว่าเราชื่อหลุยจินจู๊ หลุยจินจู๊ก็บินขึ้นจากหลังม้า เอากระบองตีถูกไหล่แห้จุ๋นตกม้าตาย