คำนำ
ในการประชุมคณะกรรมการดำเนินงานจัดพิมพ์หนังสือชุดภาษาไทยเพื่อทบทวนงาน ที่ได้ดำเนินมาแล้วในปีแรก คณะกรรมการดำเนินงานได้มีมติให้เพิ่มการจัดพิมพ์หนังสือชุดภาษาไทยขึ้นอีก สามชุด คือ ชุดประชุมพงศาวดาร ชุดรามเกียรติ์ และชุดพงศาวดารจีน
ชุดพงศาวดารจีนซึ่งจัดเป็นชุดที่ยี่สิบนี้ คณะกรรมการได้มีมติให้จัดพิมพ์เฉพาะเรื่องที่นับเนื่องเป็น "พงศาวดารจีน" จริง ๆ เสียก่อน ส่วนเรื่องจีนอื่น ๆ ที่จัดว่า เป็น "เกร็ด" พงศาวดารบ้าง หรือที่แต่งเป็นแบบนวนิยายบ้าง ให้จัดพิมพ์ต่อภายหลัง
ความจริงหนังสือพงศาวดารจีนไม่ว่าประเภทใดมีผู้นิยมอ่านกันมาก ในสมัยก่อน ชาวบ้านร้านตลาดทั่วไปติดพงศาวดารจีนเหมือนกับการรับประทานอาหาร ฉะนั้น จึงปรากฏว่า บรรดาหนังสือพิมพ์ต่าง ๆ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจะต้องลงเรื่องจีนอย่างน้อย หนึ่งเรื่องเป็นประจำ นักอ่านจะซื้อหนังสือพิมพ์รายวันเพื่ออ่านเรื่องจีนวันต่อวัน เรื่องที่ลงพิมพ์นั้นบางเรื่องก็เป็นเรื่องที่เคยพิมพ์เป็นเล่มมาแล้ว แต่หาอ่านไม่ได้ เพราะต้นฉบับเดิมหายาก และมิได้มีการพิมพ์ขึ้นใหม่ บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่แปลขึ้นใหม่จากนวนิยายจีนซึ่งแต่งอิงพงศาวดาร บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่นักประพันธ์ไทยแต่งข้นเองทำนองแต่งนวนิยายอาศัย พงศาวดารจีน เรื่องอิงพงศาวดารจีนที่น่าอ่านเพราะเป็นเรื่องมีคติแก่ชีวิตและครอบครัวก็ มีหลายเรื่อง เช่น เรื่องจอยุ่ยเหม็ง เป็นต้น
ส่วนเรื่องจีนที่จัดได้ว่า เป็นเรื่อง "พงศาวดาร" นั้นปรากฏจากหนังสือตำนานสามก๊ก พระนิพนธ์สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมีพระราชดำรัสสั่งให้แปลขึ้นสองเรื่อง คือ เรื่องไซ่ฮั่น เรื่องหนึ่ง กับเรื่องสามก๊ก เรื่องหนึ่ง โปรดให้สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ กรมพระราชวังหลัง ทรงอำนวยการแปลเรื่องไซ่ฮั่น และให้เจ้าพระยาพระคลัง (หน) อำนวยการแปลเรื่องสามก๊ก นับเป็นเริ่มแรกของการแปลพงศาวดารจีนมาเป็นภาษาไทย ในรัชกาลที่ ๒ ได้มีการแปลบ้าง แต่ปรากฏว่า ส่วนใหญ่ได้มีการแปลในรัชกาลที่ ๔ และรัชกาลต่อ ๆ มา
แต่การแปลพงศาวดารจีนเป็นภาษาไทยในครั้งนั้นหาได้แปลตามลำดับราชวงศ์ กษัตริย์จีนไม่ เข้าใจว่า อาจเพ่งเล็งไปในความสนุกของเรื่อง หรือตามแต่จะหาต้นฉบับได้มากกว่า ทั้งผู้อ่านไม่ปรารถนาจะหาความรู้ทางประวัติศาสตร์นอกจากความสนุกเป็นสำคัญ แต่ในการพิมพ์คราวนี้ คณะกรรมการมีความคิดเห็นว่า ควรจะจัดพิมพ์ใหม่ตามลำดับราชวงศ์กษัตริย์จีน ซึ่งบางทีจะเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจของประวัติศาสตร์บ้าง จึงได้เรียงลำดับการพิมพ์ดังต่อไปนี้ คือ
๑. ไคเภ็ก | เริ่มตั้งแต่ประวัติศาสตร์ยังเจือปนด้วยนิยาย เช่น การสร้างดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ สร้างโลก ฯลฯ จนถึงตอนใกล้ประวัติศาสตร์ กษัตริย์องค์แรก ๆ ของจีน ตั้งแต่สมัยที่กษัตริย์ได้ขึ้นเสวยราชย์ โดยราษฎรเป็นผู้เลือก จนถึงปฐมกษัตริย์สืบราชวงศ์ คือ กษัตริย์ราชวงศ์แฮ่กับกษัตริย์ราชวงศ์เชียว (ก่อนพุทธศักราช ๒๑๕๔ ปี ถึงก่อนพุทธศักราช ๑๒๔๐ ปี) |
๒. ห้องสิน | ราชวงศ์เซียว และราชวงศ์จิว (ก่อนพุทธศักราช ๑๒๔๐ ปี ถึงพุทธศักราช ๒๙๗) |
๓. เลียดก๊ก | |
๔. ไซ่ฮั่น | ราชวงศ์จิ๋น และราชวงศ์ฮั่น (พ.ศ. ๒๙๘-๓๓๗) |
๕. ไต้ฮั่น | |
๖. ตั้งฮั่น | |
๗. สามก๊ก | ราชวงศ์ฮั่นตอนปลาย ต่อราชวงศ์วุยและราชวงศ์จิ้นตอนต้น |
๘. ไซจิ้น | ราชวงศ์จิ้น ราชวงศ์ซอง ราชวงศ์ชี ราชวงศ์เหลียง และราชวงศ์ตั้น (พ.ศ. ๘๐๘-๑๑๓๒) |
๙. ตั้งจิ้น | |
๑๐. น่ำซ้อง | |
๑๑. ส้วยถัง | ราชวงศ์ซุย และราชวงศ์ถังตอนต้น (พ.ศ. ๑๑๓๒-๑๑๖๑) |
๑๒. ซุยถัง | |
๑๓. เสาปัก | ราชวงศ์ถัง (พ.ศ. ๑๑๖๑-๑๔๕๐) |
๑๔. ซิยิ่นกุ้ย | |
๑๕. ซิเตงซัน | |
๑๖. ไซอิ๋ว | |
๑๗. บูเช็กเทียน | |
๑๘. หงอโต้ว | ราชวงศ์เหลียง, ราชวงศ์จัง, ราชวงศ์จิ้น, ราชวงศ์ฮั่น, ราชวงศ์จิว (พ.ศ. ๑๔๕๐-๑๕๐๓) |
๑๙. น่ำปักซ้อง | ราชวงศ์ซ้อง (พ.ศ. ๑๕๐๓-๑๘๑๙) |
๒๐. บ้วยฮ่วยเหลา | |
๒๑. โหงวโฮ้วเพงไซ | |
๒๒. โหงวโฮ้วเพงหนำ | |
๒๓. โหงวโฮ้วเพงปัก | |
๒๔. ซวยงัก | |
๒๕. ซ้องกั๋ง | |
๒๖. เปาเล่งถูกงอั้น | |
๒๗. ง่วนเฉียว | ราชวงศ์หงวน (พ.ศ. ๑๘๒๐-๑๙๑๑) |
๒๘. เม่งเฉียว | ราชวงศ์เหม็ง (พ.ศ. ๑๙๑๑-๒๑๘๖) |
๒๙. เองเลียดต้วน | |
๓๐. ซองเต๊กอิ้วกังหนำ | |
๓๑. ไต้อั้งเผ่า | |
๓๒. เซียวอั้งเผ่า | |
๓๓. เนียหนำอิดซือ | |
๓๔. เม่งมวดเซงฌ้อ | ราชวงศ์เช็ง (พ.ศ. ๒๑๘๗-๑๔๕๔) |
๓๕. เชงเฉียว |
รวมทั้งสิ้นเป็นหนังสือสามสิบห้าเรื่อง ซึ่งถ้าแบ่งตามขนาดหนังสือชุดภาษาไทยก็อาจจะได้ไม่ต่ำกว่าห้าสิบเล่ม ต้นฉบับพิมพ์พงศาวดารจีนตามบัญชีดังกล่าวนี้ในปัจจุบันหาอ่านกันได้ยาก เพราะส่วนใหญ่มิได้มีการพิมพ์ขึ้นใหม่ นอกจากเรื่องที่นิยมกันว่า สนุก ๆ มากเท่านั้น การพิมพ์คราวนี้ก็ต้องยืมต้นฉบับจากหลายเจ้าของด้วยกัน ซึ่งคุรุสภาต้องขอแสดงความขอบคุณท่านเจ้าของต้นฉบับทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วย เพราะความเอื้อเฟื้อของท่านเท่ากับเป็นการช่วยรักษาวรรณกรรมของชาติให้คงไว้ ส่วนหนึ่ง และการจัดพิมพ์นั้นได้แก้ไขเฉพาะอักขรวิธี ส่วนถ้อยคำสำนวนต่าง ๆ ได้คงไว้ตามเดิม ซึ่งท่านจะได้ทราบภาษาที่คนไทยเรานิยมใช้เมื่อร้อยปีเศษมาแล้วว่าเป็นอย่างไร