๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๔ น

ตำหนักปลายเนิน คลองเตย

วันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๔๘๔

พระยาอนุมานราชธน

หนังสือของท่านลงวันที่ ๒๖ เมษายน ได้รับแล้ว ขอบใจท่านที่อุตส่าห์เขียนหนังสือไปให้ บรรดาหนังสือซึ่งเขียนให้กันควรจะเข้าใจว่าเปนการให้ความเห็นแก่กันเท่านั้น จะถือเอาว่าอะไรเปนถูกเปนจริงหาได้ไม่

ฉันเคยพูดกับคนสมัยนี้ ที่เขาอ้างพจนานุกรมฉบับนั้นฉบับนี้อยู่เสมอว่า พจนานุกรมก็คนทำไม่ใช่เทวดาทำ คนก็ย่อมเข้าใจผิดบอกไว้ให้ผิดไปก็ได้ คำใดๆ ในพจนานุกรม ก็คือคนทำสังเกตเอาที่ใช้กันมาเปนหลัก คำใช้ก็ย่อมเปลี่ยนความหมายไปเปนคราว ๆ ผู้ทำพจนานุกรมพบกี่อย่างก็จดไว้ให้เปนเท่านั้นอย่าง แต่ความจริงคนที่ทำพจนานุกรมไม่พบมีอีกเห็นจะมาก

คำ เมขลา จะหมายความว่าอะไรก็ทราบแน่ไม่ได้ เข้าใจกันไปก็เปนต่างๆ ตามธรรมดาของคำ ทั้งคำ สอิ้ง สเอ้ง ก็ทราบยาก ท่านเข้าใจว่าหมดนั้นหมายถึงสายคาดเอว ก็เปนความเห็นอันหนึ่ง ตามที่จับเอาคำไทยถิ่นต่างๆ มาเทียบก็เปนทางเดินอันหนึ่ง อาจจะผิดหรือถูกก็ได้ แต่ที่สอบเอาคำไทยถิ่นต่าง ๆ มานั้นเปนทางดี

มาลา ของเราที่มียอดสูง ฉันคิดว่ามาแต่เครื่องแต่งหัวของเรา เครื่องแต่งหัวนั้นฉันคิดเอาโดยความสังเกตเห็นว่าโพกผ้า แล้วประดับเครื่องทอง เป็น ๓ ชั้น ตั้งชื่อเรียกเอาเอง คือ ๑ มาลาพวงดอกไม้รัดหัว (เรียกกันว่าเกี้ยว ว่ากระบังหน้าก็มี) ๒ เกี้ยว (หมายความว่าผูก) ฉันเอาไปยกให้เป็นผูกมวยผม กับ ๓๑ ปิ่น คือสิ่งที่ปักมวยผม เมื่อต้องการไม่ให้ผมลุ่ยก็ปักข้าง เมื่อต้องการให้เปนยอดแหลมสูงก็ปักบน ยอดมาลา ฉันคิดว่ามาแต่ปิ่นโดยต้องการให้แหลมสูง

ในการที่มีหัวแหลมสูง ฉันคิดว่าเปนด้วยเกล้าผม ถ้าเกล้าผมสูงเครื่องประดับผมก็จะต้องเปนทรงแหลมสูงอยู่เอง เมื่อแหลมสูงยังไม่พอใจ ก็ส่งเสริมอะไรให้แหลมสูงยิ่งขึ้น จะเปนด้วยเหตุใดไม่ทราบ สมัยยิ่งใหม่ลงมา อะไรๆ ก็ต้องการให้แหลมยาวขึ้นทุกที ของใหม่มาสั้นลงได้ที่ฉันเปนผู้นำ ทำด้วยเหนของเก่าท่านทำสั้น ๆ ที่จริงคำว่า มงกุฎ เดิมก็ทีหมายความค่าพวงดอกไม้สวมหัว ไม่ใช่หมายว่ายอดสูงแหลม มีพยานเห็นได้ในพวกลิงที่เรียกว่า สิบแปดมงกุฎ ในพวกนั้นสรวมแต่พวงมาลา จะหาว่าตัวใดซึ่งมีหัวแหลมก็หามิได้เลย คำว่า ชฎา ก็แปลว่ารก มาแต่ตาฤษีแกเกล้าผมมวยผมยุ่ง ๆ อันไม่ได้หวี ไม่ใช่ยอดสูงแหลมเลย ทีหลังทั้งมงกุฎและชฎาก็มาเข้าใจกันว่าเปนยอดสูงแหลมไป เปนเข้าใจผิดทั้งนั้น

เรื่องสังข์ เขางัว กลศ ภฤงคาร อะไรที่ฉันบอกท่านนั้น เปนคำของพราหมณ์ศาสตรี แต่เปนอันยุตติรู้ได้ว่า ที่รดน้ำด้วยสังข์ก็เปนว่าหม้อกับถ้วย จะรินน้ำในหม้ออันเก็บไว้มากก็ไม่เหมาะจึงเอาอะไรใช้เปนถ้วย มีสังข์และเขาเปนต้น รินแบ่งเอาออกใช้อีกทีหนึ่ง อนึ่ง เครื่องหลังคาโดมที่ว่าเหมือนหม้อน้ำหรืออะไรนั้น ขอให้ระวังว่าฝรั่งเขาจับช่างผู้อธิบาย ได้ผู้รู้จริงหรือไม่ด้วย อนึ่งปรางค์นั้นเปนของเขมรคิด เอาเทวสถานในอินเดียกับปราสาทในเมืองเขมรเข้าผสมกัน เปนชั้นหลังเสียด้วย อย่างไรก็ดี ในอินเดียหามีปรางค์ไม่ ที่ทางฮินดูเรียกเสาว่า โลห นั้นไปเข้ารูปโลหปราสาท เคยได้ถามเขาว่า โลหปราสาทที่ลังกาเปนอย่างไร ก็ได้ความแต่ว่า เสาเกะกะ ไม่ได้รูปลักษณะ

คำไทยเก่าซึ่งเรียกปืนว่า ก้อง นั้นฉันได้ทราบแล้ว กรมพระจันทบุรีบอก

เรื่องเรือประทุกสัตว์ของโนอานั้น ชอบกลหนักหนา หลายชาติแห่งมนุษย์มักมีเรื่องอย่างนั้นนำเหมือนกันอยู่เสมอ เช่นพวกอินเดียก็มีเรื่อง มัตสยาวตาร นำทั้งชื่อโนอาก็มักจะคล้ายๆ กันด้วย รู้สึกว่าทีจะเปนเรื่องอันเดียวกัน

เรื่องแต่งตัวนั้นเพ่นพ่านมาก แต่งเพื่อสวยก็มี เพื่อกันอาวุธก็มี เพื่อขู่ให้ศัตรูกลัวก็มี เพื่อปกปิดความอายก็มี เพื่อป้องกันร้อนหนาวก็มี และอื่นอีก แต่อย่างไรก็ดี ตกเปนแต่งตาม ๆ กันไปเท่านั้น ถ้าจะว่าไปโดยปกติก็มักจะแต่งตามถิ่น ถิ่นที่ร้อนก็มีผ้าน้อย ถิ่นที่หนาวก็มีผ้ามาก เหมือนหนึ่งเทวรูปในอินเดียแต่งตัวก็ไม่เหมือนกัน ข้างเหนือห่มผ้าออมคอม ข้างใต้เนื้อเถะทั้งนุ่งขัดเตี่ยว เห็นได้ว่าทางเหนือหนาว ทางใต้ร้อน เสื้อกางเกงนั้นเปนของทีหลังเมื่อมนุษย์รู้จักตัดเย็บแล้ว ชั้นแรกต้องเปนผ้าผืนก่อน เอาอย่างใช้หนังสัตว์ปกคลุม แม้กระนั้นการค้นคำไทยถิ่นต่างๆ ว่าเสื้อกางเกงเขาเรียกอย่างไรกันก็ไม่เปล่าประโยชน์เลย ที่พวกแขกมลายูนุ่งกางเกงข้างใน นุ่งโสร่งข้างนอกกลัวจะเปนฝรั่งนำไป อยากนุ่งกางเกงแต่เลิกโสร่งทีจะผิดทางศาสนา

เตียว เตี่ยว ฉันเข้าใจว่าหมายถึงผูกมัด จะเปนเชือกหรือแถบผ้าแถบอะไรก็ได้ทั้งนั้น มีเพลงปี่พาททีเดียวเรียกว่า เตียว เรียกให้ทำเวลามัดลิงหัวค่ำเปนต้น ที่นั้นแสดงว่าเปนเชือก ขัดเตี่ยว เปนแถบผ้า เตี่ยว คาดห่อของเปนใบตองหรือใบมะพร้าว

ขาหยั่ง มาแต่ไม้ต่อขา ฉันเห็นด้วยเต็มตัว อันไม้ต่อขานั้นขอให้ท่านสังเกต ว่าของไทยกับของฝรั่งผิดกัน ของฝรั่งเห็นเขาเขียนเอาเบื้องบนผูกติดกับท้าวทีเดียว แต่ของไทยทำลูกดอยเสียบไว้เปนที่เหยียบ เหลือปลายไม้เปนที่ถือ การประจารนักโทษคงเอาอะไรพาดกับลูกดอยให้เปนที่นั่ง ไม้ขาหยั่งที่จะปักดิน

ขอบใจท่านเปนอย่างยิ่งที่มีหวังดีต่อฉันในวันเกิด แต่จะขอทักคำหลัง ซึ่งเชิญพระรัตนตรัยบันดาลให้ฉันสบายสิ้นกาลนานนั้น เห็นจะเขวเปนถือผี พระรัตนตรัยจะบันดาลอะไรไม่ได้ นอกจากประโยชน์ที่เกิดแต่พระรัตนตรัย อันฉันจะพึงยึดถือไว้ด้วยตัวเอง

สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ