- เมษายน
- วันที่ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- วันที่ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- —ที่ ๑๕/๒๔๘๒ หมายกำหนดการพระราชพิธีเถลิงศก ๒๔๘๓
- —ที่ ๑๖/๒๔๘๒ หมายกำหนดการพระราชพิธีพืชมงคล ๒๔๘๓
- วันที่ ๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- วันที่ ๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- —สำเนาพระราชโทรเลข
- วันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- วันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- วันที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- วันที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- พฤษภาคม
- วันที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- วันที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- วันที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- —พระคัมภีร์พราหมณ์ศาสตร์ทวาทสพิธี
- —พระวิจารณ์ของสมเด็จกรมพระยาดำรงฯ
- วันที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- —ที่ ๑/๒๔๘๓ หมายกำหนดการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชา
- วันที่ ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- วันที่ ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- มิถุนายน
- กรกฎาคม
- วันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- วันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- วันที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- วันที่ ๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- วันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- วันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- วันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- วันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- วันที่ ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- —ลำดับศักดินายาน
- วันที่ ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- สิงหาคม
- กันยายน
- วันที่ ๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- วันที่ ๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- วันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- วันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- —ที่ ๑/๒๔๘๓ หมายกำหนดการพระราชพิธีเฉลิมพระชนม์พรรษา
- วันที่ ๑๗ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- —คำนำนิทานโบราณคดี
- —เรื่องห้ามไม่ให้เจ้าไปเมืองสุพรรณ
- วันที่ ๑๗ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- วันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- วันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- —บันทึก เรื่องพิธีตรุษ
- —เรื่องพระยาอุทัยธรรมออกไปบ้านต่างเมือง
- ตุลาคม
- วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- —เรื่องเสือใหญ่เมืองชุมพร
- วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- วันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- —เรื่องพระครูวัดฉลอง
- วันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- วันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- วันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- —บันทึก เรื่องเห่ช้า
- —ที่ ๗/๒๔๘๓ หมายกำหนดการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวันที่ระลึกรัชกาลที่ ๕
- —ที่ ๖/๒๔๘๓ หมายกำหนดการพระราชพิธีพระราชทานผ้าพระกฐิน
- วันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- วันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- วันที่ ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- วันที่ ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- พฤศจิกายน
- ธันวาคม
- วันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- —เรื่องโจรแปลกประหลาด
- วันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- วันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- —เรื่องพระพุทธรูปแปลกประหลาด
- วันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- —ที่ ๘/๒๔๘๓ หมายกำหนดการรัฐพิธีฉลองรัฐธรรมนูญ
- วันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- วันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- วันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- วันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ น
- —ที่ ๙/๒๔๘๓ หมายกำหนดการพระราชพิธีขึ้นปีใหม่
- วันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร
- วันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ น
วันที่ ๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๓ น
ตำหนักปลายเนิน คลองเตย
วันที่ ๙ เมษายน ๒๔๘๓
กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรง ฯ ทราบฝ่าพระบาท
วันที่ ๖ นี้ เป็นกำหนดเมล์ปีนังเข้า ควรจะได้รับลายพระหัตถ์เวร แต่หาได้รับไม่ ครั้นตอนค่ำอ่านหนังสือพิมพ์ (บางกอกไตม์) จึงได้เห็นข่าวเขาบอกว่ารถไฟจะมาถึงช้า ไม่น้อยกว่า ๒ ชั่วโมงตามกำหนดเวลาที่เคย เพราะติดการระวังในการข้ามสะพานอันน้อยระหว่างสถานีห้วยทรายใต้กับเหนือ ซึ่งต้องทำซ่อมแซมเพราะชำรุดด้วยไฟไหม้ เมื่อเห็นข่าวก็ทำความเข้าใจให้ได้ว่าไม่ได้รับเพราะพนักงานไปรษณีย์จ่ายไม่ทันอย่างหนึ่ง แล้วเป็นวันที่ระลึกมหาจักรีเขาหยุดราชการกันด้วยอีกอย่างหนึ่ง คงต้องเป็นวันรุ่งขึ้นจึงจะได้รับก็จริงๆ ได้รับลายพระหัตถ์เวรซึ่งลงวันที่ ๒ เมษายน เอาต่อวันที่ ๘ จะได้ทูลสนองความในลายพระหัตถ์นั้นอันมีเรื่องสนุกที่จับใจมาก แต่ขยับจะทูลสนองไปไม่ได้เท่าไร เพราะไม่มีสมาธิพอแก่เวลา ด้วยมีคนมารดน้ำสงกรานต์ให้บ่อยๆ เขียนแล้วก็วางไว้ที แล้วเขียนต่อไปอีก ลายพระหัตถ์ก็ได้รับช้าไปวันหนึ่งแล้ว ซ้ำร้ายชายถาวรก็ตายลงในวันที่ได้รับลายพระหัตถ์นั้นด้วย เสียใจเป็นล้นพ้น จะได้กราบทูลรายละเอียดต่อไปในเบื้องหน้าออกจะยุ่งเหยิง เพราะฉะนั้นก็ไม่มีอะไรนอกจากจะต้องบ่น แต่เห็นไม่เป็นไรที่จะกราบทูลคราวนี้ไม่ได้ก็เอาไว้กราบทูลคราวอื่น
สนองลายพระหัตถ์
ข้อพระดำรัส ที่ว่ามนุษย์เรารู้เห็นมาอย่างไร ความรู้สึกใจก็เป็นไปเช่นนั้น เป็นการจริงที่สุดและจับใจที่สุด ขึ้นชื่อว่าเทวดาแล้วเรารู้สึกกันว่าหัวแหลมๆ แต่ทางฝรั่งเขารู้สึกกันว่ามีปีก ผิดกันไปไกล ทราบความทั้งนี้ได้ก็เพราะได้อ่านหนังสือฝรั่ง ยังเรื่องพระพุทธรูปอีกก็เหมือนกัน เคยได้ยินพระองค์เจ้าประดิษฐ์วรการเล่าให้ฟัง ว่าทูลกระหม่อมไม่โปรดจะให้มีพระเกตุมาลา ด้วยพระอรรถกถาจารย์หรืออะไรอธิบายไว้ว่า พระเกตุมาลานั้นเกิดขึ้นด้วยอำนาจทรงสมาธิ อาจจะกลั้นหายใจลมจึงดันขึ้นเบื้องบนทำให้มีพระเกตุมาลา ทูลกระหม่อมตรัสว่าหัวเป็นปุ่มก็ไปเข้าลักษณะบุรุษโทษ ไม่ควรแก่จะเป็นพุทธลักษณะเลย ทรงตรวจพระบาลีก็มีเรื่องแต่ว่าต้องถามกันว่าองค์ไหนเป็นพระพุทธเจ้า ต้องบอกกันว่าองค์ที่นั่งอยู่หน้าเสา นั่นแสดงว่าพระพุทธเจ้าก็เหมือนกับพระสาวก ถ้าพระเศียรเป็นปุ่มแล้วก็จะต้องบอกกันเช่นนั้นทำไม บอกแต่ว่าองค์ที่หัวเป็นปุ่มก็แล้วกัน ความสงสัยพระราชหฤทัยในข้อนี้ไม่สิ้นสุดลง จนถึงทรงอธิษฐานให้ทรงพระสุบินเห็นพระรูปพระพุทธเจ้าอันแท้จริง ก็ได้ทรงพระสุบินเห็นจริง แต่ก็เห็นพระเศียรมีปุ่มดุจพระพุทธรูปที่ทำกันอยู่นั้นเอง ทั้งนี้ไปเข้ารูปอย่างที่ฝ่าพระบาทตรัสประทานวินิจฉัยได้ด้วยความเคยเห็นนั้นเอง ที่สุดทูลกระหม่อมก็ทรงหักหัวหักหางเอาว่าพระเศียรมีปุ่มไม่ได้ เพราะฉะนั้นพระพุทธรูปซึ่งสร้างขึ้นในรัชกาลที่ ๔ จึงไม่มีพระเกตุมาลา ความข้อนี้เกล้ากระหม่อมก็เก็บเอามาตริตรอง เห็นว่าข้อที่ต้องถามกันว่าองค์ไหนเป็นพระพุทธเจ้านั้น แสดงว่าพระพุทธเจ้าก็ปลงพระเกศาเช่นเดียวกับพระสาวก ถ้าจะทำพระพุทธรูปพระพุทธเจ้าเหมือนกับพระสาวกแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นพระพุทธเจ้า ออกจะขัดข้อง แต่ทีหลังได้เห็นรูปสมัยหนึ่งซึ่งเขาเขียนปฐมสมโพธิมาแต่อินเดีย เขาเขียนพระรูปพระพุทธเจ้าก็ปลงพระเกศาอย่างเดียวกับพระสาวก แต่ก็รู้ได้ว่าเป็นพระพุทธเจ้า เพราะเรื่องนำไป ไม่ได้ทำให้หลงเลอะไปเลย ก็เป็นความรู้ใหม่ขึ้นอีกอย่างหนึ่ง
เรื่องประกาศพิธีตรุษนั้น ได้ความรู้ขึ้นว่าเราเข้าใจผิดกันไปเอง พระสาธุศีลสังวรท่านแต่งคำของท่านขึ้นเป็นภาษามคธ ไม่ใช่แปลภาษาลังกาหรือภาษาสันสกฤตเป็นภาษามคธตามพระดำริ ที่ว่าประกาศพิธีตรุษจะเหมือนกับคำแช่งน้ำนั้นสมยิ่งนัก เพราะเก่าแก่มาเต็มที ทั้งภาษากวีก็ยากที่ใครจะแปลออกได้หมดตามที่ทรงแต่งนั้นเห็นว่าได้แต่เพียงมีสำเนาความว่าอย่างไร เท่านั้นก็พอการทีเดียวแล้ว เกล้ากระหม่อมออกจะมีใจประมาทพวกกวีของเรา ว่าแต่งเอาแต่คำโดยอักษรเพื่อไพเราะ ไม่คำนึงถึงความ ปลาน้ำจืดกับปลาน้ำเค็มมาว่ายปนกันอยู่ในสระก็ได้ กวีในภาษาอื่นเขาจะเป็นอย่างไรไม่มีความรู้ที่จะทราบได้
เรื่องกงเต๊กไม่มีเวลาจะเขียนกราบทูลในคราวนี้ ตามเหตุอันได้กราบทูลมาแล้วในเบื้องต้น จำต้องเลื่อนไปกราบทูลต่อเบื้องหน้า
มีความดีใจที่ได้รับพระพรในการเปลี่ยนปีใหม่หมดทั้งครอบครัว ขอรับพระพรไว้เหนือเกล้าทั่วกัน กับทั้งทรงอำนวยผลแห่งพระกุศล ซึ่งทรงบำเพ็ญในวันปีใหม่ประทานด้วย เป็นพระเดชพระคุณล้นเกล้า ขอถวายอนุโมทนาในพระกุศลอันได้ทรงปฏิบัติไปแล้วนั้นเป็นอย่างยิ่ง
ข่าวกรุงเทพ ฯ
เมื่อวันที่ ๔ เมษายน เกล้ากระหม่อมไปเผาศพหญิงเครือมาศที่วัดมกุฎกษัตริย์ ได้แจกหนังสือมา ๕ เล่ม
๑. “ตำราปรุงอาหาร” หญิงเครือมาสเธอแต่งไว้เอง ตีพิมพ์สำหรับงานนี้
๒. “ความฉลาด” พระเทพเวทีวัดมกุฎกษัตริย์แต่ง ตีพิมพ์ในงานศพนี้เหมือนกัน
๓. “ปัจจุบันพยาบาล” ของหม่อมราชวงศ์ นันทาชุติกร ตีพิมพ์ช่วย
๔ “โบราณคติ” เป็นกลอนภาษิตเก่าอันไม่เคยรับ เป็นของพระสงฆ์หลายองค์ ผู้ได้รับอุปถัมภ์ตีพิมพ์ช่วย ดีอยู่ ถ้าเขาไม่ได้ส่งมาถวายก็จะจัดส่งมาถวาย เห็นว่าเล่มนี้ควรจะทรง ถ้ายังไม่เคยทรง
๔. “ยากันแก้โกรธ” ใครแต่งใครพิมพ์ช่วยก็ไม่ได้บอกไว้ แต่งเป็นทีว่าบทละคร แต่ก็ไม่เป็น เป็นแสดงธัมมะพวก “กายนคร”
กับในวันนั้นเอง พวกหลานๆ ดิศกุลพากันมารดน้ำสงกรานต์ หญิงแดงกับหญิงกุมารีลาไปเที่ยวหัวหิน ลาแทนชายนิพัทธกับชายปานด้วย ได้ออกใบอนุญาตให้ไปตามปรารถนา
เมื่อวันที่ ๗ ได้ข่าวว่าชายถาวรตายเสียแล้ว เมื่อ ๔.๑๕ น. ทำให้งันไปด้วยความเสียใจ ไม่นึกว่าจะเป็นได้เลย ว่าหัวใจหยุดเพราะโรคหืดอันเป็นประจำตัวอยู่นานมาแล้ว กำหนดอาบน้ำศพเฉลา ๑๗.๐๐ น. เกล้ากระหม่อมก็ไป ได้ทำกิจทุกอย่างให้ได้เห็นสิ่งซึ่งพระราชทานเป็นเกียรติยศ มีหีบทองรองชั้นสองชั้นตั้ง
วันที่ ๘ สำนักพระราชวังออกหมายบอกมาว่า วันที่ ๑๓ เวลา ๑๐.๐๐ น. สมเด็จพระพันวัสสาจะเสด็จไปทรงบำเพ็ญพระกุศล ถวายสมเด็จพระปิยมาวดี (ต้องรวมทั้งพระวงศ์) ที่วัดราชาธิวาส
กับได้รับหนังสือสำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ ในวันนี้เหมือนกัน บอกส่งสำเนาพระราชโทรเลข พระราชทานพระพรแต่พระบรมวงศานุวงศ์ในวันที่ระลึกมหาจักรีมา ได้คัดสำเนาส่งมาถวายฝ่าพระบาทให้ทรงทราบด้วยบัดนี้แล้ว.
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด