- คำนำ (เล่ม ๑)
- แจ้งความ (เล่ม ๑)
- คำนำ (เล่ม ๒)
- แจ้งความ (เล่ม ๒)
- แจ้งความ (เล่ม ๓)
- คำนำ (เล่ม ๓)
- แจ้งความ (เล่ม ๔)
- คำนำ (เล่ม ๔)
- รูปภาพ
- ๑
- ๒
- ๓
- ๔
- ๕
- ๖
- ๗
- ๘
- ๙
- ๑๐
- ๑๑
- ๑๒
- ๑๓
- ๑๔
- ๑๕
- ๑๖
- ๑๗
- ๑๘
- ๑๙
- ๒๐
- ๒๑
- ๒๒
- ๒๓
- ๒๔
- ๒๕
- ๒๖
- ๒๗
- ๒๘
- ๒๙
- ๓๐
- ๓๑
- ๓๒
- ๓๓
- ๓๔
- ๓๕
- ๓๖
- ๓๗
- ๓๘
- ๓๙
- ๔๐
- ๔๑
- ๔๒
- ๔๓
- ๔๔
- ๔๕
- ๔๖
- ๔๗
- ๔๘
- ๔๙
- ๕๐
- ๕๑
- ๕๒
- ๕๓
- ๕๔
- ๕๕
- ๕๖
- ๕๗
- ๕๘
- ๕๙
- ๖๐
- ๖๑
- ๖๒
- ๖๓
- ๖๔
- ๖๕
- ๖๖
- ๖๗
- ๖๘
- ๖๙
- ๗๐
- ๗๑
- ๗๒
- ๗๓
- ๗๔
- ๗๕
- ๗๖
- ๗๗
- ๗๘
- ๗๙
- ๘๐
- ๘๑
- ๘๒
- ๘๓
- ๘๔
- ๘๕
- ๘๖
- ๘๗
- ๘๘
- ๘๙
- ๙๐
- ๙๑
- ๙๒
- ๙๓
- ๙๔
- ๙๕
- ๙๖
- ๙๗
- ๙๘
- ๙๙
- ๑๐๐
รูปภาพ
พระเซ็กเกียมองนิฮุดโจ๊
รูปที่ ๑
คำว่า (ฮุดโจ๊ไลย) แปล (ฮุด) ว่าพุทโธ (โจ๊) ว่าเจ้า (ยู่ไลย) ว่ามาชอบ อธิบายว่า พระองค์มาชอบทุกชาติทุกภพ ได้แก่สร้างพระบารมีสามสิบประการมา คือพระบารมี ๑๐ พระอุปะปาระมี ๑๐ พระปะระมัดถะปาระมี ๑๐ จนถึงปัจฉิมะภะวิก ตั้งจิตรในสติปัฏฐาน ๔ เจริญโพชฌงค์ ๗ ภาวนาให้มรรคเกิดขึ้น ถึงความตรัสรู้เปนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อาไศรยเหตุนี้นักปราชญ์จีนจึงได้ออกพระนามว่า (ฮุดโจ๊ไลย) แปลว่าผู้มาชอบด้วยประการฉะนี้
แต่พระองค์ออกพระนามของพระองค์เองนั้น มักทรงตรัสว่า (ตะถาคต) แปลว่า ไปชอบฉะนั้น จึงเปนความติดต่อสำพันธ์กันได้ว่ามาชอบไปชอบด้วยประการทั้งปวง คือ (สุคะโต) แปลว่าไปแล้วดี
พระถังซัมจั๋ง
รูปที่ ๒
พระถังซัมจั๋ง คือพระโพธิสัตว์ แปลว่าเปนผู้องอยู่ในที่จะได้ตรัสรู้ เดิมคือกิมเสี้ยนโพธิสัตว์ เวลาสดับธรรม ถีนะมิทธะครอบงำง่วงเหงา พระเห็นดังนั้นจึงให้จุติลงมาสร้างบารมีในประเทศจีนเปนบุตรตั๊นกองหยีจอหงวน มารดาชื่อนางอุนเกี๋ยว เอาลอยน้ำไปแต่เล็ก ท่านเจ้าวัดกิมซัวยี่เก็บมาเลี้ยงไว้จนเติบใหญ่พระพุทธสาสนาช่ำชองกว่าพระสงฆ์ทั้งปวง พระอาจารย์ให้อุปสมบท จึงมิได้ตกไปเปนมิจฉาทิ ครั้นไปอาราธนาพระไตรยปิฎกกลับมาแล้ว จึงได้กลับขึ้นไปเปนพระโพธิสัตว์อยู่ตามเดิม
พระกวนอิม
รูปที่ ๓
พระโพธิสัตว์กวนอิม มีบุญญาบารมีมาก ควรตรัสรู้เปนพระพุทธเจ้าได้ แต่ยังไม่พอแก่ความอัทธิฐานเดิม ท่านจึงได้เที่ยวไปทุก ๆ อาณาเขตร เห็นควรจะช่วยก็โปรดให้เห็นหนทางมรรคแลผล แปลงมาเปนกิริยาภาคต่าง ๆ ชักนำให้สัตว์นทุกข์ แม้ในทุกวันนี้าใครจิตรบริสุทธิ์หรือเศร้าหมองต้องทุกข์ไภยอันใด ยกมือขึ้นนมัสการระลึกถึงพระนามของท่านว่า (นะโมกวนอิมโพธิสัตว์) ขอจงมาช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด สามคำหรือเจ็ดคำหรือมากๆ ท่านก็มาช่วยให้เห็นปรากฎได้ เพราะท่านมีบุญญาภิสังขารมากมาย
พระโอเซ้า
รูปที่ ๔
พระโอเซ้า ท่านสำเร็จมรรคผลเปนพระอระหันต์ อาไศรยอยู่บนภูเขา ภูท่อซัว ทำสำนักนิ์บนต้นไม้ใหญ่ สัตว์เดระฉานทั้งหลายย่อมหาผลไม้มาถวายอยู่เสมอเนืองนิตย์มิได้ขาด เมื่อพระถังซัมจั๋งไปอารธนาพระไตรยปิฎกถึงที่เขาตำบลนี้ พระโอเซ้าจึงให้คาถาธรรมซิมเกงแก่พระถังซัมจั๋งไปเพื่อกันตัว ตั้งแต่นมาพระถังซัมจั๋งจึงค่อยคลายวิตกหวั่นหวาด เพราะได้พระคาถาวิเศษภาวนาอยู่เสมอ ๆ
เง็กเซียงฮ่องเต้
รูปที่ ๕
พระอิศวร คือเง็กเซียงฮ่องเต้ ผู้เปนใหญ่ในดาวดึงษ์พิภพเพราะท่านมีกุศลกรรมแลอิทธิฤทธิ์บุญญาธิการมากแก่กล้า จึงได้มาเปนเจ้าแห่งเทพยดาทั้งปวง เสวยซึ่งทิพย์กามารมย์ เช่นคำที่พระตรัสแก่เห้งเจียว่า ตำแหน่งที่พระอิศวรนี้ใช่จะได้าย ๆ ต่อมีความบริสุทธิ์ในทานแลศีลมากถึงพันห้าร้อยห้าสิบกัลป์ ๆ หนึ่ง เปนหมื่นเก้าพันหกร้อยปี จึงจะได้มารับบรมศุขเปนเจ้าอยู่ในชั้นดาวดึงษ์ เห้งเจียเปนเดระฉานชาติต่ำช้า จะชิงที่เง็กเซียงฮ่องเต้ได้หรือ
อ๋องโป๊เนี่ยเนี้ย
รูปที่ ๖
นางท้าวเทวะราช คืออ๋องโป๊เนี่ยเนี้ย ท่านประกอบด้วยทานศีลอันบริสุทธิ์ แลได้รักษากุศลกรรมบท ๑๐ บริสุทธิ์ จึงได้มาเปนนางฟ้าที่หนึ่งรับซึ่งความศุขอยู่ในชั้นดาวดึงษ์ มีนางเทพธิดาเปนบริวานห้อมล้อม ก็โดยกุศลสุจริตที่ได้สะสมมาแต่ในชาติก่อน จึงได้มาเปนเทพอัปษรสาวสวรรค์องโป๊เนี่ยเนี้ย ใหญ่งกว่าอัปษรกัลญาทั้งปวงในชั้นดาวดึงษ์พิภพ
ท้ายเสียงเล่ากุน
รูปที่ ๗
ท้ายเสียงเล่ากุน ท่านอยู่ในวิมานดุสิตสำนักลีนเทียน ท่านได้สำเร็จในการประกอบยาทิพย์ มีฤทธาอานุภาพใหญ่กว้าง เทพยดาทั้งหลายต้องมาเคารพทั้งสิ้น คือเปนเซียนใหญ่อยู่ในชั้นดุสิต รักษาอารมณ์ทางพรหมวิหาร คือฌานสมาบัติ
เห้งเจีย
รูปที่ ๘
เห้งเจีย เดิมอยู่เขาฮวยก๊วยซัว แขวงเมืองเง่าล่ายก๊ก กำเนิดเกิดออกจากฟองศิลา ๆ นั้นถึงกำหนดก็ลั่นแตกออกมาเปนลิงเผือก ครั้นออกมาได้อายอากาศเข้าก็เปนกายสิทธิ์ ครั้นไปเที่ยวศึกษาหาอาจาริย์เรียนวิชา ไปพบสุโพธิ์สอนธรรมอันวิเศษให้ ก็งมีฤทธิ์เดชเชี่ยวชาญมากขึ้น ขึ้นไปกระทำการร้ายในวิมานดาวดึงษ์ พระพุทธเจ้าบันดานเขาห้ายอดครอบไว้ ภายหลังพระถังซัมจั๋งแก้ออก จึงได้อาศาตามเปนศิษย์ไปไซที อาราธนาพระไตรยปิฎก กลับมาถึงเมืองใต้ถังแล้วก็ได้สำเร็จมรรคผล
โป๊ยก่าย
รูปที่ ๙
โป๊ยก่าย เกิดเปนเทพบุตรอยู่นดาวดึงส์ เปนขุนนางนายทหารของเง็กเซียงฮ่องเต้ เปนผู้บังคับการทหารเรือในแม่น้ำทงทีฮ้อ เง็กเซียงฮ่องเต้ให้เปนแม่ทัพเรียกว่า ที่องง่วนโซ่ย มาเวลาหนึ่งนางอ๋องโป๊เนี่ยเนี้ยเลี้ยงโต๊ะก็ไปประชุมด้วย เสพสุราเมาเข้าไปแล้วก็ไปหยอกนางฟ้าที่ประตูพระราชวังของเง็กเซียงฮ่องเต้
เทพบุตรที่รักษาประตู นำความมากราบทูลเง็กเซียงฮ่องเต้ เง็กเซียงฮ่องเต้โปรดให้ชำระได้ความจริง ทรงติว่าอุลามก จึงสาปลงมาเมืองมนุษย์ โป๊ยก่ายจุติจากเทวะโลก ปฏิสนธิในท้องแม่สุกรอาไศรยอยู่เขาฮุ้นจั่นซัว ภายหลังตามพระถังซัมจั๋งไปไซทีอาราธนาพระธรรม กลับมาถึงเมืองใต้ถังแล้วได้สำเร็จมรรคผล
ซัวเจ๋ง
รูปที่ ๑๐
ซัวเจ๋ง เดิมอยู่บนสวรรค์ เปนเทพบุตร เปนขุนนางข้างที่ของเง็กเซียงฮ่องเต้ สำหรับพระองค์เสด็จราชรถพนักงานคอยแหวกพระวิสูตร มาเวลาหนึ่งเง็กเซียงฮ่องเต้ประชุมอินทร์พรหมแลเทพบุตรเลี้ยงเครื่องทิพย์ เวลานั้นซัวเจ๋งเปิดพระวิสูตรหาทันพิจารณาไม่ ชายพระวิสูตรสะบัดไปถูกคุนโทน้ำแก้วมณีเศษตกแตก เง็กเซียงฮ่องเต้กริ้วทรงปรับโทษสาปให้ลงมาเกิดเปนเงือกอยู่ในลำแม่ลิ้วซัวฮ้อ ต่อภายหลังได้ตามพระถังซัมจั๋งไปไซทีอาราธนาพระธรรม กลับมาถึงเมืองใต้ถังได้สำเร็จมรรคผล
ยี่หนึงจินกุน
รูปที่ ๑๑
ยี่หนึงจินกุนเดิมอยู่ลำแม่น้ำก๊วนจิวที่ปากน้ำ เปนหลานของเง็กเซียงฮ่องเต้ เวลาเมื่อเห้งเจียทำสงครามกับเทพบุตร ๆ สู้เห้งเจียไม่ได้เง็กเซียงฮ่องเต้รับสั่งให้มาช่วยกำจัดจับตัวเห้งเจียได้ ยี่หนึงจินกุนมีฤทธิ์อานุภาพมากแปลงตัวได้หลายประการ จึงสามารถจับเห้งเจียได้ ครั้นกำจัดเห้งเจียแล้ว มีความชอบได้รับรางวัลของเง็กเซียงฮ่องเต้
พระเจ้าถังไทจงฮ่องเต้
รูปที่ ๑๒
พระเจ้าถังไทจงฮ่องเต้ คือหลีซิบิ๋นเปนพระเจ้าแผ่นดินใต้ถัง พระองค์เปนสมเด็จพระราชโอรสของพระเจ้าถังโกโจ๊คือถังตงหลีเอี๋ยน พระเจ้าถังไทจงฮ่องเต้ได้ครองราชสมบัติมาได้สิบสามปี ก็ประชวนสวรรคตได้สามวันแล้วกลับฟื้น เมื่อพระองค์นิ่งแน่ไปสามวันนั้น พระองค์ลงไปยังเมืองนรก ได้เห็นสัตว์นรกทนทุกเวทนาแสนสาหัส ครั้นพระองค์กลับฟื้นคืนมา ก็มีพระไทยศรัทธาเชื่อกรรมเชื่อผล ทรงสละพระราชทรัพย์แจกจ่ายไชยทาน กระทำการพระราชกุศลต่าง ๆ ครั้นมาวันหนึ่งพระโพธิสัตว์กวนอิม แปลงกายเปนเถรมาแนะนำให้พระองค์คิดไปอาราธนาพระไตรยปิฎก มาตั้งพิธีสวดอุทิศให้พวกที่สู่กรรมนั้นได้พ้นโทษ พระองค์รับจึงสั่งให้พระถังซัมจั๋งไปไซทีอาราธนาพระไตรปิฎกธรรม
งุยเต็ง
รูปที่ ๑๓
งุยเต็ง เปนขุนนางผู้ใหญ่ของพระเจ้าถังไทจงฮ่องเต้ เปนผู้สำเร็จราชการ งุยเต็งถอดดวงจิตรได้ทำราชการอยู่ในเมืองมนุษย์ แต่ถอดดวงจิตรไปเปนเพ็ชฆาฏของเง็กเซียงฮ่องเต้ในสวรรค์ เมื่อพระเจ้าถังไทจงฮ่องเต้ทรงพระสุบินว่า มีพระยานาค มาขอให้พระองค์ช่วยชีวิตร พระองค์ได้รับคำกับพระยานาคแล้ว จึงให้งุยเต็งเข้ามาในพระราชวังทรงเล่นหมากรุก มิได้ทรงทราบว่างุยเต็งถอดดวงจิตรได้ เมื่อเวลากำลังเดินหมากรุกอยู่งุยเต็งง่วงหลับไปทีหนึ่ง ก็ไปฆ่าพระยาเล่งอ๋องที่กลางอากาศ งุยเต็งมีบุตรหญิงคนหนึ่งยกให้ตั๊นกองหยีจอหงวนเปนภรรยา
ถักทะลีทีอ๋อง
รูปที่ ๑๔
ถักทะลีทีอ่อง คือท้าวจัตุราชเปนที่แม่ทัพของเง็กเซียงฮ่องเต้ มีบุตรชายสามคนคือ กิมจาหนึ่ง หมอกจาหนึ่ง โลเฉียหนึ่ง ถักทะลีทีอ๋องมีอานุภาพเชี่ยวชาญ เง็กเซียงฮ่องเต้จึงให้เปนแม่ทัพสำหรับปราบปิศาจในที่ทั้งปวงเมื่อปิศาจร้ายเกิดขึ้นในที่ใด ก็คุมพลเทพบุตรไปกำจัดพวกปิศาจมารร้ายเหล่านั้น
โลเฉีย
รูปที่ ๑๕
โลเฉียเปนบุตรที่สามของถักทะลีทีอ๋อง มีศักดาเดชานุภาพกล้าหาญแลมีอาวุธหกอย่างสำหรับกำจัดจับพวกผีศาจยักษ์มารร้าย แปลงกายได้หลายประการ เปนทหารเอกของเง็กเซียงฮ่องเต้
ตั๊นกองหยีจอหงวน
รูปที่ ๑๖
ตั๊นกองหยีจอหงวนเข้าสอบไล่วิชาหนังสือได้ชั้นที่หนึ่ง เปนขุนนางของพระเจ้าถังไทจงฮ่องเต้ ชำนาญในการหนังสือยิ่งกว่าขุนนางทั้งปวงในเวลานั้น ได้บุตรสาวงุยเต็งชื่อนางอุนเกี๋ยวเปนภรรยา มีบุตรชายคือถังซัมจั๋ง มารดาคือนางเตียวสีมีรับสั่งให้ไปกินเมืองกังจิว เมื่อลงเรือจ้างเล่าฮองเจ้าของเรือคิดร้าย จับตั๊นกองหยีมัดผลักลงน้ำ พระยานาครับไปเลี้ยงไว้มาจนพระถังซัมจั๋งบวชแล้ว จึงได้กลับมาเมืองมนุษย์ได้
นางอุนเกี๋ยว
รูปที่ ๑๗
นางอุนเกี๋ยวเปนบุตรงุยเต็งขุนนางผู้ใหญ่ ได้สามีคือตั๊นกองหยีจอหงวน มีบุตรชายคือพระถังซัมจั๋ง เมื่อนางตั๋นกองหยีจอหงวนจะไปเมืองกังจิว มากลางทางถูกโจรจับสามีทิ้งน้ำ เก็บเอาตรากับหนังสือสำคัญพานางไปเมืองกังจิว เวลานั้นนางกำลังมีครรภ์จำเปนต้องตามใจเล่าฮ่องไปจนคลอดบุตรแล้ว ต่อพระถังซัมจั๋งได้บวชแล้ว นางจึงได้กลับเมือง
นางเตียวสี
รูปที่ ๑๘
นางเตียวสีเปนมารดาของตั๊นกองหยีจอหงวน เปนย่าของพระถังซัมจั๋ง เมื่อตั๊นกองหยีได้เปนขุนนางจะออกไปกินเมืองกังจิวก็รับมารดาไปด้วย แต่มากลางทางบังเอินมารดาเปนไข้ไปไม่ได้ ตั๊นกองหยีมีราชการร้อน ก็เช่าที่พักให้มารดาอยู่รักษาตัว ครั้นตั๊นกองหยีไปถูกโจรกระทำร้าย ตั้งแต่นั้นมาก็มิได้ข่าวเลย นางเตียวสีตั้งตาคอยบุตรร้องไห้จนตามัวมืดเปนฝ้าแลไม่เห็นสิ่งใด มาจนพระถังซัมจั๋งได้บวชแล้วมาตามหา เลียตาให้ตาจึงได้สว่าง ต่อภายหลังมารดากับบุตรแลวงศ์ญาติจึงได้พร้อมกัน
จีนแสอวนซิ้วเซ้ง
รูปที่ ๑๙
จีนแสอวนซิ้วเซ้งเปนบุตรอวนทีกังขุนนางฝ่ายโหร จีนแสอวนซิ้วเซ้งเปนหมอดูทายดุจตาเห็น วิเศษกว่าหมอดูทั้งปวง พระยาเล่งอ๋องในมหาสมุดเกียฮ้อแปลงตัวมาทดรองความรู้ จีนแสทายดังตาเห็นเธอตั้งโต๊ะดูอยู่ที่ประตูเมืองข้างทิศตวันตกในเมืองเชียงอาน
เล่าช้วน
รูปที่ ๒๐
เล่าช้วน ๆ คนนี้เปนคนพลเรือนอยู่ในเมืองเชียงอาน เวลาวันหนึ่งเล่าช้วนไม่อยู่มีพระสงฆ์มาเรี่ยรายหล่อพระพุทธรูป ภรรยาเอากำไลทองคำที่ใส่ข้อมือถวายพระสงฆ์ไป เล่าช้วนโกรธพูดอยาบคาย ภรรยามีความเสียใจผูกฅอตาย เล่าช้วนคิดถึงภรรยาร้องไห้ทุกวันทุกคืน เวลานั้นพระเจ้าถังไทจงฮ่องเต้ได้กลับจากเมืองนรกมีประกาศว่า ผู้ใดรับอาศาเอาแตงโมไปเมืองนรก จะมีบำเหน็จรางวัลให้ เล่าช้วนคิดถึงภรรยาจึงเข้ารับอาศาไป ภายหลังได้พบกับภรรยาแลกลับมายังมนุษโลกย์ตามเดิม
สมภารฮวดเม้ง
รูปที่ ๒๑
ท่านสมภารฮวดเม้งอยู่วัดกิมซัวยี่ เปนที่พระราชาคณะใหญ่ บันดาวัดที่อยู่ในหัวเมืองกังจิวต้องมาขึ้นและเคารพทั้งสิ้น โดยเหตุท่านเปนผู้มัทยัดถือสิกขาวินัยเคร่งครัด ทั้งเปนผู้สำเร็จในทางณานเชี่ยวชาญมาก เมื่อพระถังซัมจั๋งยังเปนทารกมารดาปล่อยลอยมาในน้ำ ท่านเก็บได้เลี้ยงไว้จนได้บวชเรียน คือท่านเปนอาจาริย์ของพระถังซัมจั๋ง
พระยาเล่งอ๋อง
รูปที่ ๒๒
พระยานาคเล่งอ๋องนี้เปนผู้รักษาการอยู่ในแม่น้ำเกียฮ้อ มีฤทธิ์อานุภาพแปลงตัวมาหาหมอดู จีนแสอวนซิ้วเซ้งก็ดูให้ดังตาเห็น แต่เล่งอ๋องแกล้งทำให้ฝนตกเคลื่อนคลาดเวลาไป เง็กเซียงฮ่องเต้จึงได้ลงโทษให้งุยเต็งเอาไปประหารชีวิตรเสียในกลางอากาศ
เล่าฮอง
รูปที่ ๒๓
เล่าฮองผู้นี้เปนคนแจวเรือจ้าง อาไศรยอยู่ในแม่น้ำฮองกังคอยรับคนโดยสารข้ามฟาก ถ้าเห็นผู้โดยสารมีทรัพย์สิ่งของควรจะเอาได้ ก็ฆ่าเจ้าของทรัพย์เก็บเอาทรัพย์สิ่งของนั้น ๆ ทำอยู่อย่างนี้เนือง ๆ มาเวลานั้นตั๊นกองหยีจอหงวน ลงโดยสานมาในเรือเล่าฮองก็นำเรือไปที่ลับจับเบ่าไพร่ฆ่าเสียหมด แล้วจับตัวตั๊นกองหยีจอหงวนตีจนตายผลักลงในน้ำ ยังแต่นางอุนเกี๋ยวไม่ฆ่า พาไปเลี้ยงเปนภรรยา นำท้องตราขึ้นไปกินเมืองกังจิว ต่อภายหลังงุยเต็งยกกองทัพไปจับตัวเล่าฮองฆ่าเอาศพเส้นตั๊นกองหยีที่แม่น้ำฮองกัง
เฮ๊กฮองใต้อ๋อง
รูปที่ ๒๔
เฮ๊กฮองใต้อ๋อง เดิมกำเนิดเปนหมีดำ ได้ปฏิบัติบวชสำเร็จแบ่งภาคเปลี่ยนแปลงเปนมนุษย์ได้ มีฤทธิ์เดชศักดากล้าหาญ อาไศรยอยู่ที่เขาเฮ๊กฮองซัวถ้ำเฮ๊กฮองต๋องใกล้วัดกวนอิมเซียนยี่ เมื่อเวลาพระถังซัมจั๋งมาถึงวัดก็เข้าพักอาไศรยนอน เฮ๊กฮองใต้อ๋องลักเอาผ้ากาสาวะพัตร์ของพระถังซัมจั๋งไป ถูกเห้งเจียกำจัดจับได้ พระโพธิสัตว์กวนอิมเอาตัวไปเลี้ยงที่น่ำไฮ้
อึ้งฮองใต้อ๋อง
รูปที่ ๒๕
อึ้งฮองใต้อ๋อง กำเนิดเปนหนูขนเหลือง มีฤทธิ์เดชมาก ลมปากเป่าออกมาถูกผู้ใดเข้าก็ไปไกลหมื่นโยชน์ อาไศรยอยู่ที่เขาอึงฮองซัว ในถ้ำอึงฮองต๋อง เมื่อเวลาพระถังซัมจั๋งมาถึงก็ออกสกัดจับพระถังซัมจั๋ง เห้งเจียไปเชิญพระโพธิสัตว์เล่งเกี๊ยดมาจับตัวอึ้งฮองไปถวายพระพุทธเจ้า
ติ๋นหงวนต้ายเซียน
รูปที่ ๒๖
ติ๋นหงวนต้ายเซียน คือฤาษีใหญ่องค์หนึ่ง อยู่ที่เขาบ้วนซิ่วซัว ในที่สำนักเหงาจึงกวน ติ๋นหงวนฤาษีองค์นี้สำเร็จภาคด้วยยาวิเศษ ยานั้นเรียกว่าเช้าฮวนตัน คือยิ่นเซียมก๊วย หรือเรียกว่ามรรคลีผลก็ได้
ฤๅษีติ๋นหงวนองค์นี้ เธอได้กินผลยิ่นเซียมก๊วย จึงมีกำลังเชี่ยวชาญทั้งความปฏิบัติก็แก่กล้า มีฤทธานุภาพกว้างใหญ่เหาะเหินเดินอากาศได้ แลสามารถเปลี่ยนแปลงกายได้ต่าง ๆ เปนเซียนวิเศษ ภายหลังได้พบกับพระถังซัมจั๋ง แลสานุศิษย์ทั้งสามได้รบพุ่งกัน แล้วภายหลังกลับทำไมตรีกัน
ฮกแช
รูปที่ ๒๗
ท่านฮกแชองค์นี้ เปนเทวดาดาวบุญ อยู่ที่เกาะแปะฮุ้นเปนมิสหายแก่ท่านลกแชซิวแช เธอมีอภิหารบารมีแก่กล้าอย่างอุกฤษ บุญภาคก็เชี่ยวชาญ เมื่อเห้งเจียตามพระถังซัมจั๋งไปอาราธนาพระธรรมมาถึงตำบลเขาบ้วนซิ่วซัว สำนักเหงาจึงกวน เห้งเจียได้ไปเชิญมาประชุมที่สำนักเหงาจึงกวน การธุระของเห้งเจียจึงได้สำเร็จตลอดไปได้
ลกแช
รูปที่ ๒๘
ท่านลกแชองค์นี้ เธอเปนเทวดาดาวโภคา แปลว่ามีทรัพย์สมบัติมากบริบูรณ์ ท่านอยู่ที่เกาะแปะฮุ้นสำนัก ท่านเปนมิสหายกับดาวฮกแชซิวแช
เมื่อพระถังซัมจั๋งกับสานุศิษย์ทั้งสามมาถึงที่สำนักเหงาจึงกวน เธอก็มาพบกับพระถังซัมจั๋ง แลสานุศิษย์ทั้งสามแลติ๋นหงวนต้ายเซียนด้วย ได้ช่วยชักโยงให้ดีกัน
ครั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม มาช่วยชุบต้นยิ่นเซียมก๊วยเปนขึ้นมาอย่างเดิมแล้ว ท่านจึงได้ลากลับไปยังที่เดิม
ซิ่วแช
รูปที่ ๒๙
ซิ่วแชองค์นี้ คือเทวดาดาวอายุยืน ท่านเปนมิสหายกันกับฮกแชแลลกแช ซิวแชเธอสำเร็จภาคอย่างวิเศษอายุยืนชั่วกัลป เมื่อเห้งเจียทำลายโค่นต้นยิ่นเซียมก๊วย ท่านติ๋นหงวนต้ายเซียนให้เห้งเจียไปเที่ยวหายามาแก้ให้กลับฟื้นคืนเปนมายังเดิม จึงได้สิ้นความโกรธเคืองกัน
ครั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม มาชุบต้นยิ่นเซียมก๊วยฟื้นแล้ว ซิ่วแชก็พร้อมด้วยท่านฮกแชแลลกแช พากันกลับไปยังสำนักเกาะพ้องโล้ยังเดิม
อึ่งเพ้า
รูปที่ ๓๐
ปิศาจยักษ์ อึ่งเพ้าใต้อ๋องตนนี้ เดิมคือดาวกุยแช อยู่ในหมู่ดาว ๒๘ ดวงบนสวรรค์ เมื่อครั้งก่อนนั้นผูกสมรรครักใคร่กันกับนางฟ้าองค์หนึ่ง ซึ่งมีนามว่าเง็กหนึง นางเง็กหนึงจุติลงมาเอากำเนิดเปนพระราชธิดาของพระเจ้าแผ่นดินเชียงโป๊ก๊ก อึ่งเพ้าปิศาจยักษ์ก็จุติตามลงมาอาไศรยที่เขาอั๊วจือซัว แลลักเอาราชบุตรีของเจ้าเมืองเชียงโป๊ก๊กไปเปนภรรยา ภายหลังได้รบกันกับเห้งเจีย เง็กเซียงฮ่องเต้ให้หมู่ดาวยี่สิบแปดดวงลงมาตามตัวกลับขึ้นไปอยู่สวรรค์เปนดาวอยู่ตามเดิม
เชียงโป๊ก๊ก
รูปที่ ๓๑
ระเจ้าแผ่นดินเชียงโป๊ก๊กพระองค์นี้ พระองค์ครองราชสมบัติตามทางทศพิธราชธรรม ปกครองฝูงราษฎรในพระราชอาณาเขตร์ของพระองค์ให้อยู่เย็นเปนศุขทั่วหน้าประชาชน
พระองค์มีพระราชบุตรีสามพระองค์ พระองค์ที่สามทรงพระนามว่าแปะฮวยเซียว ๆ นี้ถูกอึ่งเพ้าใต้อ๋องปิศาจยักษ์จับเอาไปเปนเมียอยู่ในถ้ำสิบสามปี เกิดบุตรด้วยอึ่งเพ้าสองคน ขายหนึ่งหญิงหนึ่ง
ภายหลังพบกับพระถังซัมจั๋งแลสานุศิษย์ทั้งสามคน ช่วยเปนธุระแก้ไขรบพุ่งแก่ปิศาจอึ่งเพ้า นางจึงได้กลับไปยังสฐานบ้านเมืองตามเดิม
เง็กนึ้งฮวยเซียว
รูปที่ ๓๒
นางเง็กนึ้งฮวยเซียวนี้เดิมเปนนางฟ้า อยู่ในวิมานตำหนักทีเฮียง มีจิตร์ปฏิพัดผูกรักกับดาวกุยแช นางจึงได้จุติลงมาเอากำเนิด เปนราชธิดาแห่งพระเจ้าแผ่นดินเชียงโป๊ก๊ก เปนพระราชบุตรีที่สามทรงพระนามว่า เง็กนึ้งกงจู๊
อึ่งเพ้าปิศาจยักษ์จึงได้ลักไปไว้เปนภรรยา เกิดบุตรด้วยอึ่งเพ้าสองคนเปนขายหนึ่งหญิงหนึ่ง เห้งเจียไปปราบอึ่งเพ้าได้จึงได้พานางเง็กนึ้งกงจู๊กลับไปบ้านเมือง อึ่งเพ้าก็กลับไปเปนดาวกุยแชอยู่ตามเดิม
กิมกั๊กใต้อ๋อง
รูปที่ ๓๓
กิมกั๊กใต้อ๋อง เดิมเปนสานุศิษย์ของท่านท้ายเสียงเล่ากุน กิมกั๊กเปนผู้รักษาเบ้าทอง ที่ลักเอาของวิเศษของท้ายเสียงเล่ากุนไปหนีลงมาเกิดในมะนุษย์โลก ตั้งตัวเปนอ๋องอยู่ตำบลเขาเพ่งเต๊งซัวถ้ำเน่ยฮวยต๋อง สกัดจับพระถังซัมจั๋งไปขังไว้ในถ้ำเน่ยฮวยต๋อง เห้งเจียแผลงฤทธิ์ไปจับตัวได้ ท้ายเสียงเล่ากุนต้องลงมาตามขอโทษเห้งเจีย พากลับไปอยู่วิมารดุสิตตามเดิม
งึ้นกั๊ก
รูปที่ ๓๔
งึ้นกั๊กใต้อ๋องตนนี้ เดิมเปนสานุศิษย์ของท่านพรหมท้ายเสียงเล่ากุน ร่วมคิดกันกับกิมกั๊กลักเอาของวิเศษของท้ายเสียงเล่ากุนพรหมไปจุติลงมาเกิด อาไศรยตั้งตัวอยู่ในตำบลเขาเพ่งเต๊งซัวตั้งตัวเปนอ๋อง ทั้งสองคนนี้แผลงฤทธานุภาพ จับพระถังซัมจั๋งไปไว้ในถ้ำ เห้งเจียตามไปพบได้สู้รบกันโดยความสามารถ เห้งเจียจับได้ ท่านพรหมท้ายเสียงเล่ากุนลงมาขอโทษพาไปไว้ยังชั้นดุสิตตามเดิม
อาชิด
รูปที่ ๓๕
อาชิตใต้อ๋องตนนี้ กำเนิดเดิมเปนเสือปลา ได้รักษาศีลภาวนาอยู่ที่เขาน่ำซัวช้านาน จึงได้สำเร็จภาคนิฤมิตบิดเบีอนเปลี่ยนแปลงกายได้ต่าง ๆ กิมกั๊กงึ้นกั๊กใต้อ๋องทั้งสอง นับอาชิดใต้อ๋องว่าเปนน้าชาย เมื่อกิมกั๊กงึ้นกั๊กใต้อ๋องทั้งสองรบกับเห้งเจียสู้เห้งเจียไม่ได้ กิมกั๊กงึ้นกั๊กทั้งสองจึงได้ไปเชิญอาชิดใต้อ๋องผู้น้าให้มาช่วย ถูกเห้งเจียโป๊ยก่ายสับด้วยคราดเหล็ก จึงได้ถึงแก่ความตาย
โอเกยก๊ก
รูปที่ ๓๖
เจ้าเมืองโอเกยก๊กพระองค์นี้ ครองราชสมบัติโดยทศพิธราชธรรม มีพระไทยเมตาปรานีแก่ประชาราษฎร ไสมยนั้นฝนแล้งบังเกิดการบันดารเข้าปลาอาหารแพง พระองค์จึงได้ตั้งพิธีฃอฝน มีปิศาจช่วนจินแปลงกายเปนฤาษรี เต้าหยินมาช่วยเรียกฝนเรียกลม ครั้นฝนแลลมมีมาดังประสงค์ ราษฎรได้ความศุข พระองค์จึงได้ทรงนับถือเต้าหยินเปนมิสหาย ภายหลังช่วนจินผลักพระองค์ลงในสระ ช่วนจินชิงเอาสมบัติขึ้นครองเมือง พระถังซัมจั๋งมาถึงเมือง รู้เหตุจึงให้เห้งเจียช่วยพระองค์ได้กลับคืนครองราชสมบัติไปตามเดิม
ช่วนจิน
รูปที่ ๓๗
ช่วนจินเต้าหยินผู้นี้ เดิมกำเนิดเปนราชสีห์ของพระโพธิสัตว์บุญซู้ขี่พาหนะ เธอแปลงกายลงมาเปนเต้าหยิน ผูกสมรรครักใคร่เปนมิตรสหายกับพระเจ้าแผ่นดินโอเกยก๊กได้สองสามปี จึงคิดประทุษฐร้ายต่อพระเจ้าแผ่นดินโอเกยก๊ก แปลงตัวปลอมเปนพระเจ้าแผ่นดินโอเกยก๊กครองราชสมบัติมาได้
เมื่อเห้งเจียมาถึงเมืองจึงได้กำจัด พระโพธิสัตว์บุญซู้ก็เสด็จมาช่วยเห้งเจียจับ พาไปไว้ยังเดิม
ไท้จื๊อ
รูปที่ ๓๘
ไท้จื๊อเปนพระราชโอรสของพระเจ้าแผ่นดินโอเกยก๊ก พระองค์นี้เมื่อช่วนจินปิศาจขึ้นครองราชสมบัติแทนพระราชบิดา ไท้จื๊อก็สำคัญว่าช่วนจินเปนพระราชบิดาแห่งพระองค์ ๆ มิได้ทรงทราบว่า ช่วนจินประทุษฐร้ายต่อพระราชบิดาของพระองค์
ต่อเมื่อพระองค์เสด็จไปประพาศป่า ได้พบกับพระถังซัมจั๋งแลเห้งเจีย พระองค์จึงได้ทรงทราบเหตุว่า ช่วนจินเปนปิศาจยักษ์ เห้งเจียคิดอุบายช่วยพระเจ้าแผ่นดินโอเกยก๊กให้กลับมาได้ พ่อลูกจึงได้มาพบกัน ครองราชสมบัติบ้านเมืองไปตามเดิม
อั้งฮั้ยยี้
รูปที่ ๓๙
อั้งฮั้ยยี้ตนนี้ คือบุตรชายของงู้หม้ออ๋อง มารดาชื่อว่านางล่อซัว คือรากโษตยักษ์ อั้งฮั้ยยี้ประกอบธาตุให้เปนกำลัง มีฤทธาอานุภาพเชี่ยวชาญตั้งตัวเปนใต้อ๋อง อยู่ตำบลเขาจั๊บเท้าพ้อซัว ในถ้ำฮ้วยหุ่นต๋อง
เมื่อพระถังซัมจั๋งมาถึงตำบลนั้น อั้งฮั้ยยี้แผลงฤทธิ์จับเอาพระถังซัมจั๋งไปขังไว้ในถ้ำ เห้งเจียตามไปได้รบพุ่งกันโดยสามารถ เห้งเจียสู้ไม่ได้ จึงไปนิมนต์พระโพธิสัตว์กวนอิมมาจับเอาตัวไปไว้เปนสานุศิษย์ยังเขาน้ำไฮ้ ได้สำเร็จเปนเซียน
กูเคียด
รูปที่ ๔๐
ปิศาจกูเคียดตนนี้ กำเนิดเดิมเปนเต่า คือเปนบุตรของพระยาเล่งอ๋อง ที่ต้องโทษเง็กเซียงฮ่องเต้ให้งุยเต็งไปประหารชีวิตร์เสียนั้น ปิศาจกูเคียดมาตั้งตัวเปนใหญ่อยู่ในลำแม่น้ำเฮ๊กจุ๊ยฮ้อ เธอแผลงฤทธิ์ทำกลอุบายจับเอาพระถังซัมจั๋งลงไปไว้ในบาดาร เห้งเจียจึงได้ไปหามอหงังไท้จื๊อ มาช่วยจับกูเคียดเอาตัวไปทำโทษยังทเลทิศตวันตก เพราะเห้งเจียยกโทษประหารชีวิตรให้ด้วยเห็นแก่เล่งอ๋องผู้บิดา
ม่อหงังไท้จื๊อ
รูปที่ ๔๑
ม่อหงังไท้จื๊อผู้นี้ คือเปนบุตรชายใหญ่ของเล่งอ๋องพระยานาคฝ่ายทะเลทิศตวันตก เมื่อพระถังซัมจั๋งถูกกูเคียดจับลงไปขังไว้ในบาดาร เห้งเจียมาฟ้องเล่งอ๋องผู้บิดา พระยาเล่งอ๋องจึงให้ม่อหงังไท้จื๊อคุมทหารไปช่วยเห้งเจียจับตัวกูเคียดปิศาจ เมื่อจับตัวกูเคียดได้แล้ว ม่อหงังไท้จื๊อจึงคุมตัวกูเคียดกลับไปยังบาดาร ม่อหงังมีฤธาอานุภาพมาก
เซียตี้ก๊ก
รูปที่ ๔๒
เจ้าเมืองเซียตี้ก๊กพระองค์นี้ เดิมก็ครองราชสมบัติโดยทางทศพิธราชธรรม และเปนผู้เลื่อมไสยเชื่อถือในพระพุทธสาสนา แต่ครั้งเมื่อปิศาจใต้เซียทั้งสาม แปลงลงมาทำกลอุบายสำแดงอิทธิฤทธิ์เดชานุภาพต่าง ๆ พระองค์กลับมีพระไทยทรงเชื่อถือเลื่อมไสยในลัทธิแลคำสอนแห่งปิศาจทั้งสามผู้เปนอาจาริย์ เปนมิจฉาทิฐิไป ภายหลังเมื่อเห้งเจียมาปราบปิศาจทั้งสามนั้นราบคาบแล้ว พระองค์จึงได้กลับพระไทยเลื่อมไสยศัทธานับถือพระพุทธสาสนาต่อไปอย่างเดิม
เฮ้าลัด
รูปที่ ๔๓
เฮ้าลัดตนนี้ กำเนิดเดิมเปนเสือโคร่ง ถือศีลภาวะนาอยู่ในป่าเขามาช้านาน ภายหลังสำเร็จภาคได้เปนเซียน มีอิทธิฤทธิ์เดชานุภาพเปนอันมาก แปลงกายบิดเบือนได้หลายประการ ตั้งตัวเปนใต้เซียนอาจาริย์ใหญ่ เปนมิดสหายแก่ลกลัดใต้เซียน เอี๊ยวลัดใต้เซียน
เมื่อพระถังซัมจั๋งกับศิษย์ทั้งสามมาถึงที่เมืองเซียตี้ก๊กเฮ้าลัดขันพนันลองวิชาความรู้กับเห้งเจีย สู้ฤทธิ์เห้งเจียไม่ได้จึงได้ถึงแก่ความตาย ร่างกายก็กลับเปนเสือโคร่งไปตามกำเนิดเดิม
ลกลัดใต้เซียน
รูปที่ ๔๔
ลกลัดใต้เซียนผู้นี้ คือกำเนิดเดิมเปนกวางป่า เธอรักษาศีลภาวนาอยู่ช้านานหลายปี จึงได้สำเร็จภาคเปลี่ยนแปลงกายได้หลายประการ เวทมนต์ประสิทธิ์ขลังตั้งตัวเปนเซียน เมื่อพระถังซัมจั๋งกับศิษย์ทั้งสามมาถึงเมืองเซียตี้ก๊ก ลกลัดขันพนันแก่เห้งเจียกระทำอิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ สู้ฤทธิ์เห้งเจียไม่ได้ ก็ถึงแก่ความตายเพราะฝีมือเห้งเจีย ร่างกายของลกลัดก็กลายกลับเปนกวางขาวไปตามกำเนิดเดิม
เอี๊ยวลัด
รูปที่ ๔๕
เอี๊ยวลัดใต้เซียนตนนี้ กำเนิดเดิมเปนแพะป่า ได้เรียนรักษาศีลภาวะนามาช้านานหลายร้อยปี สำเร็จภาคนิมิตบิดเบือนเปลี่ยนแปลงกายได้หลายประการ ตั้งตัวเปนใต้เซียนอาจาริย์ใหญ่ แปลงกายมาอยู่ในเมืองเซียตี้ก๊ก เมื่อพระถังซัมจั๋งกับศิษย์ทั้งสามมาถึงเมืองเซียตี้ก๊ก เอี๊ยวลัดใต้เซียนขันพนันสู้วิชาแก่เห้งเจีย แพ้ความรู้เห้งเจียจึงได้ถึงแก่ความตาย ร่างกายก็กลายกลับเปนแพะป่าไปตามกำเนิดเดิม
ตาเฒ่าตั๊นเท่ง
รูปที่ ๔๖
ตาเฒ่าตั๊นเท่ง ตั้งบ้านเรีอนอยู่ริมแม่น้ำทงทีฮ้อ ตั๊นเท่งผู้นี้เปนคนมั่งมีบริบูรณ์ยิ่งกว่าคนในตำบลนั้น มีคนนับถือมากเปนหัวหน้าราษฎรทั้งหลายในหมู่บ้านนั้น
เมื่อพระถังซัมจั๋งกับศิษย์ทั้งสามมาถึงตำบลนี้ ตาเฒ่าตั๊นเท่งก็ได้ประคับประคองรับรองเลี้ยงดูพระถังซัมจั๋งแลศิษย์ทั้งสาม
เห้งเจียโป๊ยก่าย ได้แปลงตัวเปนเด็กชายหญิงแลช่วยปราบปิศาจเล่งก๊ำใต้อ๋อง ช่วยให้บุตรของตั๊นเท่งรอดพ้นจากความตายได้
ตั๊นกวนโป๊
รูปที่ ๔๗
ตั้นกวนโป๊คนนี้ คือบุตรชายของตาเฒ่าตั๊นเชง เมื่อพระถังซัมจั๋งกับศิษย์ทั้งสามมาถึงหมู่บ้านเกจึง ตาเฒ่าได้รับรองเลี้ยงดูพระถึงซัมจั๋งกับศิษย์ทั้งสาม เวลานั้นเปนเวรของตาเฒ่าตั๊นเชงจะต้องส่งบุตรชายไปเส้นเจ้าที่ศาลเจ้าเล่งก๊ำ ตาเฒ่าตั๊นเชงมีความอาไลยในบุตรชายยิ่งนัก พระถังซัมจั๋งจึงให้เห้งเจียแปลงเปนเด็กบุตรตาเฒ่าตั๊นเชงไปแทน บุตรตาเฒ่าตั๊นเชงคนนี้ได้รอดพ้นจากความตาย
เจ๊กชิ้นกิม
รูปที่ ๔๘
เจ๊กชิ้นกิมคนนี้ คือบูตรหญิงของตาเฒ่าตั๋นเท่ง เมื่อพระถังซัมจั๋งกับศิษย์ทั้งสามมาถึงหมู่บ้านเกจึง ตาเฒ่าได้รับรองเลี้ยงดูพระถังซัมจั๋งกับศิษย์ทั้งสาม เวลานั้นเปนเวรของตาเฒ่าตั๊นเท่งจะต้องส่งบุตรหญิงไปเส้นเจ้าที่ศาลเจ้าเล่งก๊ำ ตาเฒ่าตั๊นเท่งมีความอาไลยในบุตรหญิงยิ่งนัก พระถังซัมจั๋งจึงให้โป๊ยก่ายแปลงเปนเด็กหญิงบุตรตาเฒ่าตั๊นเท่งไปแทน บุตรตาเฒ่าตั๊นเท่งคนนี้จึงได้รอดพ้นจากความตาย
เล่งเกี๊ยดโพธิสัตว์
รูปที่ ๔๙
พระโพธิสัตว์เล่งเกี๊ยดนี้ เปนผู้ได้ปฏิบัติสำเร็จแล้วในทางที่จะได้ตรัสรู้เปนพระพุทธเจ้าต่อไปในภายภาคน่า แลมีฌานแลสมาบัติแก่กล้าสามารถที่จะรู้จะเห็นเหตุการณ์ในที่ใกล้แลไกล อาจไปมาในทางอากาศวิถีแลเปลี่ยนแปลงรูปกายอัทธิฐานให้เปนได้ตามความประสงค์ ทั้งไม่เกี่ยวข้องในกามะคุณ ที่เรียกว่า (โพธิสัตว์โต) นั้น แปลว่าเปนผู้ข้องอยู่ในที่จะได้ตรัสรู้ในเบื้องน่า สำนักอยู่ข้างเขาพระสุเมรุ
นางล่อซั่ว
รูปที่ ๕๐
นางล่อซั่วผู้นี้กำเนิดเดิมนางเปนยักษ์รากโษฐ นางมีพัดเหล็กวิเศษอยู่พัดหนึ่ง มีฤทธาอานุภาพมาก อาจพัดให้บังเกิดเปนลมพยุห์ใหญ่แลห่าฝนตกลงมาได้ในที่ใช่ฤดูแห่งฝน แลจะพัดให้ไฟติดขึ้นจนไม่รู้จักดับก็ได้ นางเปนภรรยาของงู่ม่ออ๋องแลเปนมารดาของอั้งฮั้ยยี้ซึ่งมีฤทธิ์เดชมากปากพ่นเปนไฟได้ ที่สำนักของนางอยู่เขาที่ม่อฮุ่นซัว ถ้ำปอเจียวต๋อง แต่งูม่ออ๋องไปมีภรรยาใหม่ นางอยู่ในสำนักแต่เดียว
งู่ม่ออ๋อง
รูปที่ ๕๑
งู่ม่ออ๋องผู้นี้กำเนิดเดิมเปนกระบือเผือก มีฤทธาอานุภาพมาก ถือพลองเหล็กเปนอาวุธสำหรับมือ เปนสามีของนางล่อซั่ว บุตรชายชื่ออั้งฮั้ยยี้ เดิมเปนมิตรสหายกันกับเห้งเจีย ภายหลังได้เกิดรบพุ่งกันเพราะเห้งเจียไปทำอุบายเอาพัดที่นางล่อซัวไป แต่ภายหลังก็แพ้แก่เห้งเจียแลกลับเปนกระบือไปตามเดิม
เจ้าเมืองเจ่จั๊ยก๊ก
รูปที่ ๕๒
เจ้าเมืองเจ่จั๊ยก๊กนี้เปนเมืองเอกฝ่ายประเทศทิศตวันตก เปนผู้ถือพระรัตนไตรยเปนที่พึ่ง ในเมืองมีพระบรมสารีริกธาตุพระพุทธเจ้าบันจุไว้ในพระเจดีย์วัดกิมกวางยี่เปนของวิเศษสำหรับให้บ้านเมืองเจริญอยู่เย็นเปนศุขทั่วกัน แต่ได้มีปิศาจลักเอาพระบรมสารีริกธาตุไปเสีย จึงได้เกิดความเดือดร้อนเข้ายากหมากแพง ภายหลังพระถังซัมจั๋งกับสานุศิษย์มาถึง ได้ช่วยติดตามเอาพระบรมสารีริกธาตุกลับมาบันจุไว้ตามเดิมได้
บ้วนเซี้ยเล่งอ๋อง
รูปที่ ๕๓
บ้วนเซี้ยเล่งอ๋องกำเนิดเดิมเปนนาค สำนักอยู่เขาตำบลล้วนเจี๊ยซัวบึงเพ็กปอท้ำ มีอานุภาพเชี่ยวชาญ มีบุตรหญิงชื่อนางเล่งอ่องก๋งจู๊ บุตรเขยชื่อเก๊าเท้าใต้อ๋อง ได้รบกันแก่เห้งเจียแลโป๊ยก่าย แต่ได้พ่ายแพ้ถึงแก่ความตาย เพราะเห้งเจียไปคืนเอาพระบรมสารีริกธาตุกลับมาไว้ยังเดิมได้
เก๊าเท้าใต้อ๋อง
รูปที่ ๕๔
เก๊าเท้าใต้อ๋องผู้นี้ กำเนิดเดิมเปนกิมิคือหนอน มีศีศะเก้าศีศะ ได้ถือศีลเจริญฌานสำเร็จภาคย์อาจเปลี่ยนแปลงรูปกายได้หลายประการ เปนบุตรเขยของบ้วนเซี้ยเล่งอ๋อง สำนักอาไศรย์อยู่กับบ้วนเซี้ยเล่งอ๋องในบึงเพ็กปอท้ำ ได้ต่อสู้แก่เห้งเจียโดยสามารถ แต่สู้เห้งเจียไม่ได้ก็หนีไป
จับโป๊ยกง
รูปที่ ๕๕
ตาเฒ่าจับโป๊ยกง กำเนิดเดิมเปนต้นไม้สนมานานปีเข้า ก็กลับกลายเปนมนุษย์ขึ้น เวลานั้นกักเอาพระถังซัมจั๋งไว้ในป่า เห้งเจียโป๊ยก่ายซัวเจ๋งตามมาพบพระอาจารย์เข้าในที่นั้น โป๊ยก่ายเอาคราดเหล็กฟันต้นสนเหล่านั้นโค่นล้มลงไปหมดทั้งสิ้น รูปกายตาเฒ่าจับโป๊ยก๋งจึงได้สูญหายกลายกลับเปนต้นไม้ไปตามเดิม
โกเต๊กกง
รูปที่ ๕๖
โกเต๊กกงนี้เปนต้นไม้ชื่อว่าไม้เป็ก ครั้นนานปีเข้าก็กลายเปนปิศาจแปลงรูปกายได้ต่าง ๆ เมื่อเวลาสานุศิษย์ของพระถังซัมจั๋งมาตามหาอาจาริย์รู้เข้าว่าต้นเป็กเปนปิศาจ โป๊ยก่ายก็เอาคราดเหล็กสับกระชากล้มโค่นลงกลับกลายเปนต้นไม้ไปตามเดิม
ลินกงจื๊อ
รูปที่ ๕๗
ลินกงจื๊อคือต้นไกร นานปีเข้าก็กลายเปนปิศาจไป กระทำการฬ่อลวงพระถังซัมจั๋งต่าง ๆ ครั้นเห้งเจียซัวเจ๋งตามมาทันเข้ารู้ว่าไม้ไกรเปนปิศาจฬ่อลวงอาจาริย์ จึงเอาคราดเหล็กสับฟันต้นไกรล้มลงทั้งสิ้น ไม่กลับกลายเปลี่ยนแปลงหลอกลวงใครได้ต่อไป
ฮุดหุ้นโซ๊
รูปที่ ๕๘
ฮุดหุ้นโซ๊นี้คือปิศาจไม้ไผ่ นานปีเข้าก็กลายเปนปีศาจไป มีฤทธาอานุภาพเปลี่ยนแปลงรูปกายได้หลายประการ เห้งเจียบอกให้โป๊ยก่ายรู้ โป๊ยก่ายจึงเอาคราดเหล็กสับกระชากจนโค่นล้มแล้วก็สับฟันจนป่นละเอียดไป ไม่สามารถจะกลับกลายเปนภูตผีปิศาจได้อิกต่อไป
อึ้งไบ๋ใต้อ๋อง
รูปที่ ๕๙
อึ้งไบ๋ใต้อ๋องนี้เปนสานุศิษย์ของพระสีอาริยะเมตไตรย ลักเอาถุงย่ามของพระสีอาริยะหนีมา ตั้งตัวเปนใต้อ๋องยังสำนักที่วัดเซี้ยวลุ่ยอิมยี่ ได้กระทำอันตรายแก่พระถังซัมจั๋งแลพวกศิษย์ได้ความเดือดร้อนแสนสาหัศ เห้งเจียได้รบพุ่งกันเปนสามารถ ภายหลังพระสีอาริยะมาตามจับเอาตัวไปยังสวรรค์ตามเดิม
จินบู๊ตึงซัว
รูปที่ ๖๐
จินบู๊ตึงซัวนี้บางทีเรียกว่าจินบู้โจ๊ซือ เดิมเมื่อบู๊ตึงซัวยังเด็กอยู่ในมนุษย์โลกย์นี้มีศรัทธาแลรักษาศีลปฏิบัติตามธรรม ครั้นฌานแก่กล้าก็ได้สำเร็จภาคขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ เง็กเซียงฮ่องเต้ตั้งให้เปนจินบู๊เทพยดาองค์ใหญ่ รักษาตำหนักพนักงานที่สาม
กูเจียงกุน
รูปที่ ๖๑
กูเจียงกุนนี้เดิมเปนเต่าทอง มีความเพียรถือศีลภาวนารักษาจิตรจนได้สำเร็จฌานแก่กล้า สำเร็จภาคย์แปลงกายได้ต่าง ๆ มีฤทธิ์เดชอานุภาพเชี่ยวชาญ ท่านจินบู๊จึงเอาไว้เปนทหารฝ่ายขวา เวลาเห้งเจียเข้าที่คับขันจึงให้กูเจียงกุนมาช่วยรบแก่ปิศาจร้าย
จั๊วเจียงกุน
รูปที่ ๖๒
จั๊วเจียงกุนนี้กำเนิดเดิมเปนงูเห่า ได้ปฏิบัติธรรมรักษาศีลภาวนาจนได้สำเร็จภาคย์ อาจเปลี่ยนแปลงรูปกายได้ต่าง ๆ มีฤทธาอานุภาพกล้าแข็ง ท่านจินบู๊เอาเปนทหารฝ่ายซ้าย เมื่อคราวเห้งเจียมาขอพลทหาร จินบู๊ได้ให้จั๊วเจียงกุนไปช่วยเห้งเจียปราบปิศาจ
พระสีอาริย์
รูปที่ ๖๓
พระสีอาริยะเมตไตรยนี้ อยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิตท่านเปนพระโพธิสัตว์มีบุญญาบารมีได้สะสมไว้มาก ไปภายภาคน่าจะได้ตรัสรู้เปนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในโลกย์นี้ เมื่อสานุศิษย์ของท่านลักเอาย่ามวิเศษหนีลงมาจากสวรรค์ชั้นดุสิต มาตั้งตัวเปนอึ้งไบ๋ใต้อ๋องที่เซี้ยวลุ่ยอิมยี่ ท่านก็เสด็จตามลงมาจับได้ตัวแล้วก็เสด็จกลับไปยังดุสิตตามเดิม
เจ้าเมืองจูจี๊ก๊ก
รูปที่ ๖๔
เมืองจูจี๊ก๊กนี้เปนเมืองขึ้นอยู่ในเมืองเจ๊จ๊ายก๊ก เธอเปนผู้มีศรัทธาเชื่อถือพระพุทธสาศนา เวลาพระองค์ประขวรพระโรคเรื้อรังมาหลายปี เมื่อพระถังซัมจั๋งกับสานุศิษย์มาถึงเข้าก็ได้ช่วยประกอบยารักษาพระโรคของพระองค์ให้หาย และยังได้ไปติดตามรบกับปิศาจพาเอาพระมเหษีคืนกลับมาถวายได้ด้วย
ไซ้ทั้ยส่วยใต้อ๋อง
ไซ้ทั้ยส่วยนี้กำเนิดเดิม เปนสัตว์สิงห์เปนพาหนะสำหรับพระโพธิสัตว์กวนอิมขี่ มีฤทธาอานุภาพเชี่ยวชาญเพราะมีระฆังสามระฆังแขวนอยู่ที่ฅอ เวลานั้นรบแก่เห้งเจียเปนการขับเขี้ยว ปิศาจก็จวนจะพ่ายแพ้อยู่แล้วก็พอพระโพธิสัตว์กวนอิมมาตามทัน จึงได้รอดชีวิตรกลับเปนสิงห์ให้พระโพธิสัตว์กวนอิมขี่กลับไปอยู่ตามเดิม
จิ๋เอี๊ยงจินหยิน
รูปที่ ๖๖
เซียนจี๋เอี๊ยงจินหยินองค์นี้ เปนเซียนองค์ใหญ่บำเพ็ญฌานแก่กล้าสำเร็จภาคย์เหาะเหินเดินอากาศได้ เวลาเมื่อนางกิมเซี้ยเกงตกไปอยู่กับปิศาจ ท่านได้ให้เสื้อวิเศษตัวหนึ่งคุ้มตัวมิให้ปิศาจเข้าใกล้ตัวได้ เพราะฉนั้นปีศาจจึงมิได้ร่วมประเวณีแก่นาง จนถึงเวลาที่เห้งเจียปราบปิศาจแล้วจึงกลับมาเมืองได้
นางตีตูเจียง คือ นางแมลงมุม
รูปที่ ๖๗
นางตีตูเจียงนี้กำเนิดเดิมเปนแมลงมุมตัวเมีย มีฤทธาอานุภาพด้วยไย สำนักอาไศรยอยู่ในถ้ำปั๊วซือต๋อง ตำบลเขาปั๊วซือซัว เมื่อพระถังซัมจั๋งมาถึงเข้าไปบิณฑบาต นางลวงจับไว้เห้งเจียตามมาพบนางที่สระน้ำได้ลักเอาเสื้อผ้าไปเสีย แล้วโป๊ยก่ายมารบกับนางถูกไยล้มกลิ้งอยู่ แล้วพากันหนีไป
เจ้าแม่นางลี่ซัวเล่าโป๊
รูปที่ ๖๘
นางลี่ซัวเล่าโป๊นี้เปนฝ่ายฤาษีเซียนใหญ่ มีเดชานุภาพเชี่ยวชาญทั้งวุฒิฤทธิ์เดชอานุภาพกล้าหาญทั้งฌาณก็แก่กล้า สำนักอยู่ที่เขาลี่ซัวเปนผู้แนะนำให้เห้งเจียไปหานางไผ้นาฝอปราบปิศาจ
เจ้าแม่นางไผ้นาฝอ
รูปที่ ๖๙
นางไผ้นาฝอนี้รักษาศีลอยู่ที่เขาจี๋หุ้นซัวถ้ำเชยฮวยต๋อง ความปฏิบัติแก่กล้ามีเข็มทองอันหนึ่ง อาจปราบปิศาจแลสัตว์ร้ายได้ นางเปนมารดาของเบ้ายิด คือพระอาทิตย์ได้มาช่วยเห้งเจียปราบปิศาจร้าย
ตาเฒ่าไท๊เป๊กกิมแช
รูปที่ ๗๐
ตาเฒ่าลี้ตึ้งแกนี้ คือดาวไท๊เป๊กกิมแช แปลงรูปเปนตาเฒ่ามาบอกข่าวให้พระถังซัมจั๋งรู้ว่าบนเขาไซท่อซัวมีศาจร้าย แล้วก็เหาะไปมิได้อยู่ช่วยเหลืออะไร
เล่งก๊ำอึ้ง
รูปที่ ๗๑
เล่งก๊ำอึ้งนี้เดิมกำเนิดเปนปลาทองของพระโพธิสัตว์กวนอิม ท่านเลี้ยงไว้ในสระบัวแก้วเมื่อน้ำทเลท่วมมาก ปลาทองก็หนีออกจากสระบัวแก้วไปตั้งตัวเปนเจ้าเล่งก๊ำอึ้ง มีฤทธาอานุภาพเชี่ยวชาญ ต่อภายหลังพระโพธิสัตว์กวนอิมมาตามจับเอาตัวไปไว้ดังเดิม
ตาเฒ่าตั๊นเชง
รูปที่ ๗๒
ตั๊นเชงผู้นี้เปนน้องของตั๊นเท่ง เมื่อเวลาพระถังขัมจั่งกับสานุศิษย์มาถึงบ้านเกจึงได้ช่วยบุตรตั๊นเชงกับบุตรตั๊นเท่งทั้งสองให้รอดพ้นจากความตาย แลได้เลี้ยงดูเคารพนับถือพระถังซัมจั๋งกับสานุศิษย์เปนอันดี
ไซจื๊อ
รูปที่ ๗๓
ปิศาจไซจื๊อนี้ กำเนิดเดิมเปนราชสีห์ พระโพธิสัตว์บุญซู้เอาไปทบุบำรุงเลี้ยงไว้ ยังสำนักนิ์เขางอมิซัว ได้สดับตรับฟังพระสัทธัมคำสอนมากเข้า จิตรใจก็เชื่องคุ้นในทางฌานและสะมาบัติเชี่ยวชาญสำเร็จมีอิทธิฤทธิ์อาจเปลี่ยนแปลงกายได้ต่าง ๆ มีเดชานุภาพกล้าหาญหลบหนีพระโพธิสัตว์บุญซู้ลงมาสำนักนิ์อยู่ที่เขา ซือท่อซัว ถ้ำซือท่อต๋อง คอยสกัดจับพระถังซัมจั๋งไปไว้ยังเมืองซือท่อก๊ก เห้งเจียไปกราบทูลพระพุทธเจ้าทรงทราบ จึงโปรดให้พระอานนท์กับพระกัสสปไปนิมนต์พระโพธิสัตว์บุญซู้มาจับเอาตัวไปไว้ตามเดิม
แป๊ะเฉียเจีย
รูปที่ ๗๔
ปิศาจเแป๊ะเฉียเจียนี้กำเนิดเดิมเปนสัตว์ช้างเผือก พระโพธิสัตว์เห้าเฮี้ยง เอาไปเลี้ยงไว้ยังสำนักนิ์เขาเง่าเท้าซัว ได้สดับตรับฟังพระธรรมเทศนามากเข้า จิตร์ใจก็สงบระงับมีอารมย์อันละเอียดได้สำเร็จฌานส่วนโลกิธรรมจึงบังเกิดอิทธิฤทธิ์เดชานุภาพ อาจจะเปลี่ยนแปลงรูปกายได้ดังประสงค์ เปนสมักพักพวกแก่ไซจื้อเจีย แลต้ายพังเจียนกอินทรี สำนักนิ์อาไศรยอยู่ที่เขาซือท่อซัว คอยสกัดจับพระถังซัมจั๋ง เห้งเจียต้องไปกราบทูลพระพุทธเจ้า ๆ ทรงทราบจึงโปรดให้พระอานนท์กับพระกัสสป ไปนิมนต์พระโพธิสัตว์เห้าเฮี้ยนมาจับเอาไปไว้เสียตามเดิม
ต้ายพังเจีย
รูปที่ ๗๕
ปีศาจต้ายพังเจียตนนี้ กำเนิดเดิมเปนนกอินทรี สำนักนิ์อยู่เขาเล่งซัว หลบหนีมาเปนสมักพักพวกแก่แป๊ะเฉียเจียแลไซจื๊อเจียใต้อ๋องทั้งสองที่เขาซือท่อซัว คอยสกัดจับพระถังซัมจั๋ง เห้งเจียไปกราบทูลพระพุทธเจ้าทรงทราบ จึงเสด็จมายังเมืองซือท่อก๊ก จับตัวนกอินทรีพากลับไปไว้ยังสำนักนิ์เขาเล่งซัว ปฏิบัติธรรมเจริญกรรมฐานภาวะนารักษาศีล มิได้ไปทำร้ายฆ่าสัตว์ตัดชีวิตร์อิกต่อไป
ตาเฒ่าเชียงก๊ก
รูปที่ ๗๖
ปิศาจตนนี้เดิมกำเนิดเปนกวาง เปนสัตว์พาหะนะสำหรับท่านเซียนน่ำก๊กแชกุนขับขี่ มันหลบหนีท่านลงมา ไปสำนักนิ์อยู่ที่ถ้ำเช่งฮวยจึง เปนสมักพักพวกกับนางเสือปลา เลี้ยงนางเสือปลาเปนบุตรสาว แปลงกายเปนมะนุษย์รูปร่างสอาดสำอางตา พาไปถวายเจ้าเมืองปี๊เปียก๊กคอยคิดร้ายฆ่าคนในเมืองปี๊เปียก๊ก ครั้นเวลาที่พระถังซัมจั๋งกับสานุศิษย์มาถึงได้รู้เหตุ เห้งเจียจึงกำจัดตาเฒ่าเชียงก๊กกับนางเสือปลาเสีย ฝ่ายตาเฒ่าเชียงก๊กก็กลายเปนกวางไป ท่านน่ำก๊กแชกุนขอเอากวางไปเลี้ยงไว้อย่างเดิม
เจ้าเมืองปี๊เปียก๊ก
รูปที่ ๗๗
เจ้าเมืองปี๊เปียก๊กนี้ ครองราชสมบัติเปนกระษัตริย์อยู่ในเมืองปี๊เปียก๊ก มาวันหนึ่งถูกเล่ห์กลอุบายของปิศาจตาเฒ่าเชียงก๊ก พานางเสือปลาปิศาจแปลงเปนหญิงสาวมาถวาย พระองค์ทรงรับไว้เปนที่พอพระราชหฤไทยจนมัวเมาไม่มีเวลาว่างเว้น ก็บังเกิดพระโรคประชวนมีพระอาการให้ซูบผอมอ่อนเปลี้ยลง จนที่สุดสิ้นพระกำลัง เมื่อเห้งเจียมาถึงทราบเหตุอันนี้แล้ว เห้งเจียจึงได้กำจัดปีศาจทั้งสองเสียได้ พระองค์จึงได้บันเทาพระโรค
นางปีศาจแป๊ะม้อเล่าชื้อ
รูปที่ ๗๘
นางแป๊ะม้อเล่าชื้อนี้ กำเนิดเดิมเปนสัตว์หนูเผือกอยู่เขาเล่งซัว เที่ยวลักของในวัดกิน พระพุทธเจ้าปรับโทษ จึงได้หลบหนีมาเปนปิศาจคอยสกัดจับพระถังซัมจั๋ง
เห้งเจียไปทูลความแก่เง็กเซียงฮ่องเต้ เง็กเซียงฮ่องเต้ให้ลี้ทีอ๋องกับโลเฉียลงมาจับตัวนางปิศาจพากลับไปบนสวรรค์ พระถังซัมจั๋งจึงได้ออกพ้นไปได้
ยิดเบ๊าแชกุน
รูปที่ ๗๙
ยิดเบ๊าแชกุนนี้เปนดาวอยู่ใน ๒๘ ดวง เมื่อเห้งเจียมาถึงได้รบกับปิศาจตะขาบ ๆ มีฤทธาอานุภาพมาก จนเห้งเจียไม่อาจปราบได้โดยลำพังตน จึงต้องไปเชิญยิดเบ๊าแชกุนมาช่วยปราบ จึงได้ปราบปิศาจตะขาบตนนี้ได้ เพราะฉะนั้นตะขาบจึงได้แพ้ไก่ปรากฏจนทุกวันนี้
เจ้าเมืองเปียดฮวดก๊ก
รูปที่ ๘๐
เจ้าเมืองเปียดฮวดก๊กนี้ พระองค์ได้ครองราชสมบัติมาช้านาน ครั้นอยู่มาวันหนึ่ง พระไทยเกิดเปนมิจฉาทิฐิขึ้น ให้เห็นผิดเปนถูกไป ไม่ดำรงทรงพระไทยอยู่ในทางทศพิธราชธรรม รับสั่งให้ข้าราชการจับพระภิกษุสงฆ์ฆ่าเสียมากกว่ามากแล้ว
ครั้นเมื่อพระถังซัมจั๋งกับสานุศิษย์มาถึงเมืองเปียดฮวดก๊กเข้า เห้งเจียแผลงฤทธิ์อานุภาพทรมานพระองค์ให้ทรงกลับพระไทย จึงกลับได้พระสะติเห็นชอบ เกิดศัทธารักษาศีลภาวะนาตามพระพุทธสาศนาเช่นแต่ก่อนมา
ปาโฮ้วเจีย
รูปที่ ๘๑
ปิศาจไต้อ๋องปาโฮ้วเจีย กำเนิดเดิมเปนเสือลายตลับ สำรวมจิตร์ภาวนามาช้านานได้สำเร็จฌานสมาบัติ มีฤทธานุภาพเปลี่ยนแปลงกายได้ตามประสงค์ อาไสยอยู่บนยอดเขาสูง เมื่อเวลาพระถังซัมจั๋งกับศิษย์ทั้ง ๓ ข้ามมาทางนั้น ปิศาจไต้อ๋องปาโฮ้วเจียพาพวกบริวารออกสกัดจับเอาไปไว้ในถ้ำ เห้งเจียเที่ยวค้นหาที่อยู่แห่งปิศาจ ครั้นพบเข้าแล้วก็ตีปิศาจตาย จึงได้พาพระถังซัมจั๋งออกพ้นไปได้
เจ้าเมืองไซจอก
รูปที่ ๘๒
กุ้นเฮาผู้นี้เปนเจ้าเมีองไซจอก ในเมืองไซจอกนั้นฝนแล้งไม่ตกมาสามปีแล้ว เมื่อพระถังซัมจั๋งข้ามมาถึงเมืองนั้น เห้งเจียรับอาสากระทำพิธีเรียกพระยาเล่งอ๋อง คือพระยานาคซึ่งเปนพนักงานให้น้ำฝน ฝนจึงได้ตกจนแผ่นดินชุ่มชื้นราษฎรจึงได้กระทำไร่นาให้เกิดผลแก่บ้านเมือง ไพร่พลเมืองมีความยินดีรื่นเริงจึงได้พากันมาคำนับกราบไหว้พระถังซัมจั๋งกับสานุศิษย์ทั้งสาม
เจ้าเมืองเง็กฮัวจิว
รูปที่ ๘๓
เจ้าเมืองเง็กฮัวจิวผู้นี้ เปนผู้ที่ตั้งมั่นอยู่ในทางยุติธรรม แลนับถือพระพุทธสาศนาปะฏิบัติตามทางสัมมาปะฏิปะธา เมื่อพระถังซัมจั๋งกับสานุศิษย์ทั้งสามคนมาถึงเมืองเข้าเฝ้า เพื่อจะขอเปลี่ยนหนังสือเดินทางก็ทรงอนุญาตเปลี่ยนหนังสือแลประทับตราให้แล้ว สั่งให้เจ้าพนักงานจัดเครื่องแจเลี้ยงจนอิ่มเอิบเปนที่สำราญแล้ว
แต่พระราชบุตรของพระเจ้าแผ่นดินทั้งสามพระองค์ จะใคร่ได้เห้งเจียโป๊ยก่ายซัวเจ๋งเปนอาจาริย์ฝึกหัดเพลงอาวุธ ครั้นปีศาจลักเอาเครื่องมือของเห้งเจียโป๊ยก่ายซัวเจ๋งไป จึงได้ติดตามไปจับตัวปิศาจได้อาวุธคืนแล้ว จึงได้ลาออกจากเมืองไป
ซิฮั่นใต้อ๋อง
รูปที่ ๘๔
ซิฮั่นไต้อ๋องผู้นี้ กำเนิดเดิมเปนกระบือดำ สำนักนิ์อยู่ตำบลเขาเล่งซัว มีพรรคพวกอยู่สามตน อยู่ในถ้ำเหี้ยนเองต๋อง ปะฏิบัติตนรักษาศิลภาวะนามาหลายร้อยปี สำเร็จในทางฌานโลกีมีฤทธาอานุภาพแปลงกายได้ตามประสงค์ เมื่อพระถังซัมจั๋งกับศิษย์ทั้งสามมาถึงเมืองกิมเพ่งฮู้เปนเทศกาลของชาวเมืองนั้น จุดไฟโคมบูชาเปนการรื่นเริงสนุกสนานทุกปี โดยถือว่าเปนการมงคล พระถังซัมจั๋งไปเที่ยวดูโคมไฟ ซิฮั่นไต้อ๋องที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ บันดานอิทธิฤทธิ์กระทำให้มืดมัว แล้วจับเอาตัวพระถังซัมจั๋งไป เห้งเจียติดตามไปจับเอาตัวปิศาจทั้งสามมาได้แล้ว จึงได้พาอาจาริย์กับพี่น้องออกจากเมืองไป
ซิซู้ไต้อ๋อง
รูปที่ ๘๕
ซิซู้ไต้อ๋องนี้ กำเนิดเดิมเปนกระบือดำเปนพวกเดียวกันแก่ซิฮั่นไต้อ๋อง ซิติ้นไต้อ๋องด้วยเปนกระบือดำเหมือนกัน จับเอาพระถังซัมจั๋งไปไว้ในถ้ำ เห้งเจียโป๊ยก่ายซัวเจ๋งทั้งสามคน พากันติดตามไปรบพวกปีศาจทั้งสามแพ้ จึงได้จับตัวมาฆ่าเสียทั้งสามตน แล้วจึงได้แก้อาจาริย์หลุดพ้นมาได้จากถ้ำ
ซิติ้นไต้อ๋อง
รูปที่ ๘๖
ซิติ้นไต้อ๋องนี้ กำเนิดเดิมเปนกระบือดำเปนพวกเดียวกันแก่ซิซู้ไต้อ๋องซีฮั่นไต้อ๋อง ซึ่งได้จับพระถังซัมจั๋ง ซึ่งเดิมมาได้แปลงตัวเปนพระพุทธเจ้าหลอกลวงราษฎรให้เชื่อถือ กระทำสักการะบูชาจุดประทีปโคมไฟทุก ๆ ปีที่ในเมืองกิมเพ่งฮู้พากันหลงเชื่อว่าเปนจริง เห้งเจียรู้เหตุจึงกำจัดจับตัวมาให้ชาวเมืองดูรู้เห็นทุกคน
เจ้าเมืองเทียนเต๊กก๊ก
รูปที่ ๘๗
เจ้าเมืองเทียนเต็กก๊กพระองค์นี้ มีพระราชบุตรีพระองค์หนึ่งพระเจ้าแผ่นดินพาไปชมสวน นางปีศาจกระต่ายบันดานเปนลมหอบเอาไปทิ้งที่ในวัดเป๊ากิมเสียนยี่ จนเมื่อพระถังซัมจั๋งกับสานุศิษย์ทั้งสามมาถึงเมืองเทียนเต๊กก๊ก เห้งเจียได้รู้เหตุจึงได้ปราบปรามนางปิศาจกะต่ายแล้วจึงนำพระเจ้าแผ่นดินเทียนเต็กก๊กไปรับพระราชบุตรีกลับคืนมา
เจ้าแม่นางท้ายอิมแช
รูปที่ ๘๘
แม่นางท้ายอิมแช คือ เปนพระจันทร์ ซึ่งเปนเจ้าของนางปิศาจกะต่าย ๆ หนีลงมาแปลงตัวปลอมเปนนางก๋งจื้อราชบุตรตรีของเจ้าเมืองเทียนเต๊กก๊ก ครั้นเมื่อเห้งเจียไล่นางกะต่ายไปจวนจะถึงแก่ชีวิตร์ ก็เสด็จลงมาพร้อมด้วยนางฟ้า ขอโทษนางกะต่ายได้แล้ว ก็พานางกะต่ายกลับไปยังวิมาน
เจ้าเมืองท่งท้ายฮู้
รูปที่ ๘๙
เจ้าเมืองท่งท้ายฮู้ผู้นี้ เปนผู้มีอัทยาไศรยสุภาพ ตั้งอยู่ในการสัมมาคารวะประกอบด้วยศีลสัตย์มารยาดอันดี เมื่อพระถังซัมจั๋งกับสานุศิษย์ทั้งสามคนมาถึงเมืองนี้ ก็ต้อนรับเลี้ยงดูโดยสมควร พวกราษฎรนับถือสรรเสริญ เปนผู้ที่ตั้งอยู่ในทางยุติธรรม
เข่าญ่วนหลายเสรษฐี
รูปที่ ๙๐
เข่าญ่วนหลายเศรษฐีผู้นี้ อยู่ตำบลบ้านตี๊เล่งกุ้ยเปนผู้นับถือพระพุทธสาศนา ใจเมตตาประกอบแต่การกุศลทำบุญให้ทานเนืองนิตย์จิตรไม่กระหนี่เหนียวแน่น เมื่อพระถังซัมจั๋งกับสานุศิษย์มาถึงก็นิมนต์ไว้ เลี้ยงดูรับรองปฏิบัติโดยเคารพอย่างยิ่งแลมีศรัทธาถวายเข้าสงฆ์มิได้ขาดสักวันเดียว
กิมเต๊งไต้เซียน
รูปที่ ๙๑
กิมเต็งไต้เซียนนี้ เปนเทวดาองค์ใหญ่พระโพธิสัตว์สั่งให้คอยนำทางพระถังซัมจั๋งจะได้พาขึ้นบนเขาเล่งซัว เมื่อพระถังซัมจั๋งไปถึงเขาเล่งซัว กิมเต็งไต้เซียนก็ได้มาคอยต้อนรับให้พักผ่อนอยู่คืนหนึ่ง ครั้นรุ่งเช้าฉันจังหันแล้วจึงได้ช่วยชี้ทางให้ไป พระถังซัมจั๋งกับสานุศิษย์ทั้งสามคนจึงได้ลาพากันไป
พระโพธิสัตว์เตี้ยบจิ๊นโจ๊ซือ
รูปที่ ๙๒
พระโพธิสัตว์เตี๊ยบจิ๊นโจ๊ซือพระองค์นี้ เมื่อพระถังซัมจั๋งมาถึงลำแม่น้ำมหาสมุทไม่มีเรือจะข้าม พระโพธิสัตว์เตี๊ยบจิ๊นโจ๊ซือต้องนิฤมิตรเปนเรือให้ข้าม แต่เรือที่นิฤมิตรนั้นประหลาดโดยไม่มีพื้นท้องเรือแลเห็นน้ำตลอด เพราะความจริงเรือนั้นเปนปัณหาธรรม กล่าวคือสังขาระธรรม
อาจี๋เอี๊ยงจินหยิน
รูปที่ ๙๓
อาจี๋เอี๊ยงจินหยินนี้ เมื่อเวลาพระมเหษีของพระเจ้าแผ่นดินจูจี๊ก๊กถูกปิศาจมันจับเอาตัวไป ท่านเกรงว่าปิศาจจะพานางไปร่วมประเวณี จึงได้เอาหนามพุงดอมาเศกให้เปนเสื้อให้นางใส่ไว้ มิให้ปิศาจเข้าถูกต้องเนื้อตัวได้
ครั้นเมื่อเห้งเจียไปปราบปรามปิศาจสำเร็จแล้ว พานางกลับมาถึงเมือง ท่านจึงได้มาเอาเสื้อหนามพุงดอของท่านกลับคืนไป
ขุนนางรับแขกเมืองจูจี๊ก๊ก
รูปที่ ๙๔
ขุนนางซึ่งเปนพนักงานฝ่ายพลเรือนผู้รับแขกเมืองของเมืองจูจี๊ก๊ก เมื่อเวลาพระถังซัมจั๋งโป๊ยก่ายซัวเจ๋งเห้งเจียมาถึง ได้เปนผู้ต้อนรับแลปฏิบัติดูแลตามน่าที่ของเจ้าพนักงานฝ่ายพลเรือน
ขุนนางนายทหารเมืองจูจี๊ก๊ก
รูปที่ ๙๕
ขุนนางนายทหารผู้นี้ของเจ้าเมืองจูจี๊ก๊ก เมื่อพระถังซัมจั๋งกับเห้งเจียโป๊ยก่ายซัวเจ๋งมาถึงเปนผู้ได้นำพระถังซัมจั๋งศิษย์ทั้งสามเข้าเฝ้าพระเจ้าแผ่นดินจูจี๊ก๊ก แลเปนผู้ที่ได้ตามส่งพระถังซัมจั๋งกับพวกศิษย์ทั้งสามออกจากเมืองจูจี๊ก๊กไป
ลักฮี้เกา
รูปที่ ๙๖
ลักฮี้เกาเปนชาติวานรรูปร่างเหมือนเห้งเจียไม่ผิดกัน ลักฮี้เกามีฤทธาอานุภาพเท่าเสมอแก่เห้งเจีย เปลี่ยนแปลงรูปกายกิริยาไม่ผิดแก่เห้งเจีย จนไม่มีผู้ใดจะรู้ได้ว่าตัวไหนเปนเห้งเจีย ตัวไหนเปนลักฮี้เกา รบกันไปจนกระทั่งถึงพระพุทธเจ้า จึงได้รู้กันว่าลักฮี้เกาแลเห้งเจียแน่ได้ ต้องพระพุทธเจ้าช่วยจึงปราบได้
เซียนฮองงู่เจียงกุน
รูปที่ ๙๗
เซียนฮองงู่เจียงกุนนี้ กำเนิดเดิมเปนกระบือเขาเดียว เปนพวกอยู่ในถ้ำเหี้ยนเอ๋งต๋อง เวลาที่เห้งเจียไปปราบไต้อ๋องทั้ง ๓ ได้แล้ว เห้งเจียก็เอาไฟเผาถ้ำเหี้ยนเอ๋งต๋องเสียจึงได้พากันตายหมดทั้งบริวาร
เง๊กโถ่ว
รูปที่ ๙๘
เง๊กโถ่วนี้กำเนิดเดิมเปนสัตว์กระต่ายเมื่อเวลาพระถังซัมจั๋งกับพวกสานุศิษย์ทั้ง ๓ มาถึงเมืองเทียนเต๊กก๊ก จะไคร่ทำร้ายพระถังซัมจั๋งรบแก่เห้งเจีย สู้ฝีมือเห้งเจียไม่ได้จึงหนีไป เห้งเจียก็ติดตามไปจับตัวมาจนได้
ปาโฮ้วเจียงกุน
รูปที่ ๙๙
ปาโฮ้วเจียงกุนนี้ กำเนิดเดิมเปนสัตว์เสือ เปนนายทหารของปาโฮ้วเจีย ครั้นพระถังซัมจั๋งกับศิษย์มาถึงสำนักนิ์ปาโฮ้วเข้า เห้งเจียฆ่าปาโฮ้วเจียตายแล้ว จึงได้ติดตามจับตัวพวกบริวารของปาโฮ้วเจียฆ่าตายเสียทั้งสิ้น
เสียนเจีย
รูปที่ ๑๐๐
เสียนเจียนี้ กำเนิดเดิมเปนปลาไหลแล้วกลายเปนพังพร ครั้นได้ฌานสมาบัติก็เปลี่ยนแปลงร่างกายเปนมนุษย์ได้ มีฤทธาอานุภาพมากเปนพรรคพวกที่คอยจะจับพระถังซัมจั๋งถูกเห้งเจียปราบปราม จึงได้จับตัวฆ่าเสีย