ตอนที่ ๘๘ พระมังคลากับพระบาทหลวงตีได้เมืองด่านลังกา

๏ จะกล่าวฝ่ายมังคลานราราช กับครูบาทหลวงครั้นตรู่สุริย์ใส
ให้เข้าฝั่งไปกระทั่งถึงเวียงชัย กำปั่นใบแต่ที่มาสักห้าพัน
คนสำหรับนับแสนแน่นอเนก ทหารเอกกำกับเป็นทัพขัน
เข้าทอดท่าหน้าปากน้ำที่สำคัญ แล้วให้ลั่นปืนใหญ่เอาใบลง
ทอดสมอรอเรียงเคียงขนาน ปิดทางด่านกักเรือที่เหลือหลง
แล้วสั่งพวกเกณฑ์หัดจัตุรงค์ ให้ยกตรงตีด่านชานบุรี
บาทหลวงไล่ไพร่พลขึ้นบนป้อม ทหารล้อมอยู่ด่านชานกรุงศรี
พวกชาวเมืองขึ้นเชิงเทินเนินบุรี แล้วให้ตีกลองศึกเสียงครึกโครม
ประจุปืนน้อยใหญ่ใส่ดินหู ข้างพวกหมู่ข้าศึกวิ่งฮึกโหม
ยกค่ายตั้งบังปืนเสียงครื้นโครม ชาวเมืองโหมโห่พลันให้ลั่นปืน
พวกข้าศึกฮึกหาญถือขวานหมู ฟันประตูด่านหน้าไม่ฝ่าฝืน
ชาวเมืองพุ่งแหลนหลาวทั้งง้าวปืน ฝรั่งยืนต่อแย้งแทงด้วยตรี
บ้างล้มตายก่ายกองทั้งสองฝ่าย จนสุริย์ฉายแสงกล้าในราศี
บาทหลวงเร่งมังคลาอย่าช้าที ให้ขึ้นตีเอาชัยให้ได้การ
แกเร่งรัดจัดไพร่ไล่พหล ให้เพิ่มคนศักดาที่กล้าหาญ
แล้วแต่งตัวขึ้นม้าอาชาชาญ ศิษย์อาจารย์ท้าวภุเกศขึ้นเขตแดน
ยกพหลพลเภตราสิบห้าหมื่น ทหารปืนดาบง้าวทั้งหลาวแหลน
เครื่องอาวุธต่างต่างทั้งดั้งแพน ยกมาแน่นเกลื่อนกลาดดาษดา ฯ
๏ ฝ่ายตาเฒ่าเจ้าพระยารักษาด่าน เห็นทหารคึกคักมานักหนา
จึ่งสั่งพวกม้าใช้ให้ไคลคลา ไปพารากราบทูลมูลความ
เหลือกำลังครั้งนี้เห็นหนักแน่น นับหมื่นแสนผู้คนมากล้นหลาม
ขอกองทัพรีบมาอย่าช้าความ ให้เร่งตามลงมาอย่าช้าที
เหลือกำลังวังชาข้าพเจ้า จงโปรดเกล้าอย่างประณตบทศรี
แม้นช้านักเมืองด่านชานบุรี จะเสียทีข้าศึกเหมือนตรึกตรอง
พวกม้าใช้รีบไปยังนิเวศน์ นำเอาเหตุเข้าประมูลทูลฉลอง
พร้อมเสนาข้าเฝ้าทูลละออง ทูลสนองเรื่องราวแก่ท้าวไท ฯ
๏ ป่างพระสุดสาครบวรนาถ ฟังอำมาตย์ทูลสารแล้วขานไข
ให้เร่งรัดจัดพลสกลไกร เราจะไปเมืองด่านชานชลา
วันนั้นพร้อมเสวกาเจ้าวาโหม ทูลประโลมขอคำนับรับอาสา
เชิญพระจอมนครินทร์ปิ่นประชา อยู่พาราอย่าเพ่อเสร็จเสด็จจร
ข้าพเจ้าจะไปรับเป็นทัพหน้า แม้นเหลือบ่าจึงจะแจ้งแห่งอักษร
มากราบทูลมูลเหตุจึงเสร็จจร สุดสาครกรุงกษัตริย์จึงตรัสพลัน
ว่าดูราวาโหมผู้เพื่อนยาก สู้กรำกรากมาในป่าพนาสัณฑ์
เราจะไปรับรบสมทบกัน ได้ผ่อนผันโดยปัญญาได้หารือ
พระตรัสสั่งเสนาที่กล้าแข็ง เร่งจัดแจงกองทัพเคยนับถือ
เกณฑ์พหลพลศึกเคยฝึกปรือ มีฝีมือเร่งเอาเข้ากระบวน
ครั้นสั่งเสร็จพระเสด็จยุรยาตร ขึ้นปรางค์มาศที่ประทมภิรมย์สงวน
พระนึกถึงความฝันให้รัญจวน โหรคำนวณทายทิศไม่ผิดเลย
พระตรัสเรียกเสาวคนธ์วิมลสมร เป็นการร้อนเต็มทีเจ้าพี่เอ๋ย
มาเกิดศึกขึ้นนะแม้นละเลย เขาจะเย้ยเราได้ต้องไคลคลา
พลางแต่งองค์ทรงเครื่องพิชัยยุทธ์ เหน็บอาวุธพริ้งพรายทั้งซ้ายขวา
พระหัตถ์กุมไม้เท้าของเจ้าตา ทรงมาลาหนังหมีล้วนสีดำ
ประนมหัตถ์พัทยาเทพารักษ์ สิทธิศักดิ์จงช่วยชุบอุปถัมภ์
ข้าถือสัตย์วัจนังเหมือนยังคำ แล้วบริกรรมคาถามหามนต์
เสด็จออกข้างหน้าเสนากลาด ระดาดาษพร้อมพรั่งทั้งพหล
ครั้นฤกษ์ดีคลี่คลายขยายพล เดินเกลื่อนกล่นจากเมืองแน่นเนืองไป
ข้างทัพหน้าวาหุโลมประโคมฆ้อง เสียงกึกก้องธรณินแผ่นดินไหว
จัตุรงค์โยธาเสนาใน ก็ยกไปตามทางกลางบุรินทร์ ฯ
๏ ป่างพระจอมจักรพงศ์องค์กษัตริย์ ทรงกัณฐัศว์ม้ามังกรอาวรณ์ถวิล
ให้คั่งแค้นพวกศัตรูหมู่ไพริน ไม่รู้สิ้นศึกเสือเหลือระอา
พลางเร่งทัพขับพหลพลทหาร เกือบถึงด่านพลางก็ตรึกพระปรึกษา
แก่เสนาธิบดีผู้ปรีชา เร่งให้ม้าเร็วไวไปก่อนเรา
ดูท่าทางกองทัพจะรับสู้ เปิดประตูข้างข้างริมหว่างเขา
จะได้ปล่อยพวกพหลพลของเรา ให้รีบเข้าไปข้างหน้ารักษาทาง
สุริยงลงลับพยับย่ำ จะใกล้ค่ำสุริยันพอจันทร์สาง
ครั้นม้าใช้ไปถึงบ้านที่ย่านกลาง อันหนทางยังอีกกึ่งตะบึงไป
พอได้ยินเสียงปืนดังครื้นครั่น พิลึกลั่นโลกาสุธาไหว
พลางรีบเร่งตีม้าให้คลาไคล ครั้นเกือบใกล้เขตแคว้นแดนนคร
พอม้าใช้ในเมืองวิ่งควบขับ ตีสำทับออกจากด่านชานสิงขร
มาปะพวกม้าใช้ในนคร เป็นการร้อนจะเสียด่านชานบุรี
แล้วทูลว่าพระองค์ดำรงภพ ให้สมทบคอยพหลพลกรุงศรี
แล้วรีบเร่งตีม้าไม่ช้าที จนถึงที่ทัพใหญ่เข้าไปพลัน
เข้าทูลองค์พงศ์กษัตริย์ให้จัดทัพ นายด่านรับกับพหลพลขันธ์
เหลือกำลังครั้งนี้ทีสำคัญ พระทรงธรรม์จงแจ้งแห่งเนื้อความ ฯ
๏ ป่างกษัตริย์สุริย์วงศ์ทรงสดับ เร่งให้ขับพวกทหารชาญสนาม
ไม่รอรั้งตั้งหน้าพยายาม รีบไปตามม้าใช้ในกลางคืน ฯ
๏ จะกล่าวฝ่ายมังคลานราราช กับครูบาทหลวงขี่ม้าเข้าฝ่าฝืน
เร่งพหลพลทหารชำนาญปืน ทั้งสี่หมื่นให้ประสมระดมกัน
พาดบันไดไล่คนขึ้นบนป้อม ทหารพร้อมยิงแย้งด้วยแข็งขัน
พวกชาวด่านสู้รบหลบไม่ทัน พัลวันวุ่นวิ่งเป็นสิงคลี ฯ
๏ ฝ่ายฝรั่งสังฆราชพระบาทหลวง เห็นได้ท่วงทีไล่พวกไพร่หนี
ฟันประตูกรูกราวเข้าบุรี สั่งให้ตีกลองสัญญาพลากร
เมืองด่านแตกแยกย้ายพลัดพรายวุ่น ชุลมุนอุ้มลูกแบกฟูกหมอน
บ้างหอบมุ้งรุงรังทั้งที่นอน แม่ลูกอ่อนวิ่งเบียดกระเดียดเปล
ทั้งผ้าอ้อมน้อยใหญ่ส่งให้ผัว แล้วแหกรั้ววิ่งนุงออกยุ่งเก๋
พวกป่วยไข้โกโรเดินโซเซ เที่ยวหันเหหอบรวนทั้งครวญคราง
ที่เสียตาเมียพาไปแอบรก เอาเสื่อปกซุ่มซ่อนลงนอนขวาง
นางเมียหนีไปแต่ตัวเจ้าผัวคราง มันทิ้งขว้างเสียให้ตายวายชีวา
พวกฝรั่งยกเข้าตั้งยังเมืองด่าน แล้วคิดการผูกพยนต์มนต์คาถา
เอาหญ้าทำรูปคงเป่ามนตรา ให้ถืออาวุธไว้ใช้เหมือนคน
ล้อมจนรอบขอบเขตเมืองปากน้ำ ยืนประจำตามตำแหน่งทุกแห่งหน
เว้นแต่ไม่พูดจาภาษาคน เที่ยวเวียนวนเดินรอบขอบกำแพง ฯ
๏ จะกล่าวฝ่ายทัพลังกาครั้นมาถึง เห็นอื้ออึงล้วนทหารชาญกำแหง
ทั้งฟืนไฟในเมืองรุ่งเรืองแดง ก็รู้แจ้งว่าเสียด่านชานชลา ฯ
๏ ป่างพระจอมนัคเรศเกศกษัตริย์ โองการตรัสสั่งพหลพลอาสา
ทั้งทัพหน้าทัพหนุนขุนเสนา แต่บรรดาหมื่นขุนทั้งมุลนาย
พอรุ่งเช้าเราจะแยกเข้าแหกด่าน จัดทหารไว้ให้ทันจะผันผาย
เข้าหักโหมโจมไล่ให้กระจาย คิดอุบายล่อลวงดูท่วงที
พระสั่งให้รอราโยธาทัพ อย่านอนหลับในระวางหว่างวีถี
ทั้งฟืนไฟจงระงับดับให้ดี อย่าให้มีแสงสว่างกระจ่างตา
แต่งผู้คนพลไพร่ไว้ให้พร้อม จะยกอ้อมชิงแดนให้แน่นหนา
พอเช้าตรู่กรูกราวเข้าประดา ชิงพาราเอาให้ได้ดั่งใจปอง ฯ
๏ จะกล่าวฝ่ายนายด่านเมื่อเมืองเสีย ทั้งลูกเมียวิ่งวนเที่ยวขนของ
ฝรั่งไล่คลุกคลีหนีลงคลอง ทั้งเงินทองใส่กระบุงพะรุงพะรัง
ท่านผู้หญิงห่มมุ้งหิ้วถุงเบี้ย ทั้งผัวเมียสั่นงกดังตกถัง
ลงวิ่งฉุยลุยน้ำเหลือกำลัง กลัวฝรั่งมันจะฆ่าปรึกษาเมีย
เราขึ้นฝั่งยั้งหยุดแล้วขุดหลุม เอาหญ้าคลุมซ่อนตัวอย่างตั้วเหีย
พลางขึ้นฝั่งระวังตัวทั้งผัวเมีย ค่อยแคะเขี่ยขุดหลุมพอหุ้มตัว
ลงไปนอนคุดคู้เหมือนหนูพุก ไม่มีสุขอ่อนเปลี้ยทั้งเมียผัว
สวดนโมตาแฉะที่แพะกลัว ทั้งเมียผัวบ่นภาวนาไป ฯ
๏ จะกล่าวกลับทัพสุดสาครราช ภาณุมาศรุ่งรางสว่างไข
ให้ยกพวกหมู่ทหารอันชาญชัย ทั้งคบไฟโห่ร้องก้องสำเนียง
ยิงปืนผาหน้าไม้ทั้งใหญ่น้อย โยธาพลอยโห่ลั่นสนั่นเสียง
ทั้งทัพหน้าทัพหลังกองข้างเคียง ระดมเสียงปืนลั่นสนั่นดัง ฯ
๏ ฝ่ายบาทหลวงเกณฑ์ไพร่ให้ขึ้นป้อม ทหารพร้อมโยธาทั้งหน้าหลัง
ให้ปล่อยปืนครื้นครั่นสนั่นดัง พวกฝรั่งยืนจ้องช่องเสมา
หลอมตะกั่วคั่วทรายน้ำมันสาด คนขยาดล้มตายวายสังขาร์
หุ่นพยนต์ยืนแย้งแกว่งสาตรา จะเข่นฆ่ามันไม่ตายวายชีวี ฯ
๏ ฝ่ายพระมิ่งมังคลานราราช กับครูบาทหลวงเปรมเกษมศรี
เห็นพหลพลไพร่นั้นได้ที เร่งให้ตีกลองรบสมทบพล
เรียกโยธาห้าหมื่นถือปืนผา ยิงประดาพร้อมเสร็จดังเม็ดฝน
ทหารไทยเหลือกำลังประทังทน ก็แตกย่นย่อยยับอัปรา ฯ
๏ ป่างพระจอมนครินทร์ปิ่นกษัตริย์ ให้แค้นขัดเคืองจิตพวกมิจฉา
จึงเอื้อนอรรถตรัสสั่งขุนเสนา ให้รั้งราพวกพลสกลไกร
จึงปรึกษาวาโหมผู้เรืองฤทธิ์ ท่านจะคิดหักหาญสถานไหน
จะรบราฆ่าฟันไม่บรรลัย ราวกับได้พรประสิทธิ์พระอิศรา ฯ
๏ ฝ่ายพระยาวาโหมประโลมสนอง ข้าตรึกตรองเห็นจริตผิดนักหนา
แล้วไม่มีสำเนียงเสียงพูดจา พวกที่มาล้อมรอบขอบกำแพง
แล้วไม่เห็นกินอยู่ดูจริต ข้าเพ่งพิศนึกอางขนางแหนง
เป็นจนใจหลายอย่างให้คลางแคลง มิได้แจ้งเหตุผลเป็นจนมัน ฯ
๏ ป่างพระสุดสาครบวรนาถ ตรัสประภาษเห็นจริงทุกสิ่งสรรพ์
จึงปรึกษาขุนพหลคนสำคัญ ว่าตัวท่านเล่าก็ดีมีกำลัง
ทั้งวิชาสามารถเป็นชาติเชื้อ เปรียบเหมือนเสือรีบไปเหมือนใจหวัง
สะกดทัพจับคนริมวนวัง จงกำบังตัวไปให้ได้การ
จับเอาคนล้อมรอบขอบจังหวัด เอาเชือกมัดตัวมาที่หน้าฉาน
ท่านรีบไปในเย็นให้เป็นการ อย่านิ่งนานศึกเสือจะเหลือมือ
ความที่ว่าสงสัยเร่งไปสอบ เอาความชอบไว้สักครั้งอย่างเราถือ
อาสาเราเจ้าแผ่นดินให้สิ้นมือ จงไว้ชื่อเถิดสักครั้งจึ่งบังควร ฯ
๏ ฝ่ายกองหนุนขุนพหลเรียกพลรบ มาสมทบตามระบอบจะสอบสวน
ค่อยด้อมมองย่องไปเร่งใคร่ครวญ ดูกระบวนข้าศึกเร่งตรึกตรอง
แอบเข้าไปใกล้เคียงฟังเสียงเงียบ ไม่กรอบเกรียบยืนดูอยู่ทั้งสอง
แล้วแลเล็งเพ่งพิศผิดทำนอง จึงทำร้องเป็นนกวิหคบิน
หุ่นพยนต์นิ่งเฉยไม่เงยแหงน ทำแต่แขนแกว่งกวักคล้ายปักษิณ
ก็ถอยทัพกลับมาพ้นธานินทร์ มาถึงถิ่นที่ประทับแล้วกราบทูล
ว่าข้าแต่พระองค์ทรงพิภพ เหมือนปรารภแห่งพระปิ่นบดินทร์สูร
มิใช่คนจริงจังดังข้าทูล เห็นเค้ามูลมันก็ผิดจริตคน ฯ
๏ ป่างพระปิ่นนคราลังกาทวีป ให้คนรีบเร็วไวไปสิงหล
เชิญท่านครูผู้วิเศษข้างเวทมนตร์ ด้วยเป็นคนมาแต่ครั้งรบลังกา
เป็นศิษย์พระโลกเชษฐ์พระเวทหนัก ชื่อครูจักราศีดีนักหนา
เป็นเชื้อพราหมณ์สยามภูรู้วิชา ได้ตำราของอาจารย์มานานนม
เอาม้าใช้ไปรับมาดับร้อน ได้ผันผ่อนเสียเหมือนอย่างป่างประถม
พวกม้าใช้ได้ฟังกราบบังคม ก็ควบกลมรีบมายังธานี
บอกแก่ท่านจักราว่ารับสั่ง ให้ไปยังกองทัพช่วยขับผี
ฝ่ายท่านครูรู้แจ้งแห่งคดี ออกมาที่นอกชานชำนาญมนต์
แล้วยกเมฆตามตำรามหาเวท ก็แจ้งเหตุในมหาโกลาหล
รู้วิสัยไตรเพทข้างเวทมนตร์ ผ้าพยนต์เป็นแท้แน่แก่ใจ
จึงว่ากับม้าใช้ไปเถิดเจ้า อย่าคอยเราเลยไปแจ้งแถลงไข
อันตัวเราเล่าไม่ช้าจะคลาไคล พลางลุกไปที่ในห้องหยิบของดี
ใส่เข้าปากเดินกลมดังลมพัด แล้วรีบรัดไปประณตบทศรี
ไปถึงก่อนมิ่งม้าพวกพาชี พระภูมีตรัสถามเนื้อความพลัน
ว่าดูราอาจารย์ตัวท่านนี้ มาถึงก่อนพาชีดีขยัน
ช่วยแก้ไขประจามิตรที่ติดพัน แต่รบกันฆ่าไม่ตายวายชีวา
ยกไปตีทีไรก็ย่อยยับ คนตายนับพันหมื่นต้องปืนผา
เราสงสัยไม่แจ้งแคลงวิญญาณ์ เชิญท่านมาช่วยกำราบปราบทมิฬ ฯ
๏ ฝ่ายท่านครูจักราปรีชาเฉลย อย่ารบเลยเหมือนเอาไข่ไปใส่หิน
มันฆ่าตายเสียเปล่าเปล่าชาวบุรินทร์ ข้าแจ้งสิ้นมิใช่คนเป็นมนต์มัน
นี่แหละเรียกผ้าพยนต์ใช่คนผู้ ใครรบสู้มันก็ฆ่าให้อาสัญ
อันมนต์เวทวิทยาสารพัน มันผูกพันฟ่อนหญ้าด้วยอาคม ฯ
๏ ป่างพระองค์ผู้ดำรงนคเรศ ครั้นทราบเหตุกับที่เป็นก็เห็นสม
เชิญท่านแก้วิทยาแลอาคม ที่เตรียมตรมในอุราประชากร ฯ
๏ ฝ่ายท่านครูจักราปรีชาฉลาด จึงทูลบาทบพิตรอดิศร
ขออาสาไทท้าวเจ้านคร คิดผันผ่อนแก้พยนต์ด้วยมนตรา
พระดำรัสตรัสว่าอย่าช้านัก คิดหาญหักเปลื้องปลิดพวกมิจฉา
อาจารย์เฒ่าได้สดับรับบัญชา จึงออกมาตั้งศาลการพลี
แล้วบวรสรวงเทพไทในไตรจักร ที่สำนักในลังกาทุกราศี
แล้วแต่งตั้งสารพัดเครื่องบัดพลี เข้านั่งที่อ่านเวทวิเศษมนต์
เป็นพยุพัดมาในอากาศ ทั้งฝนสาดเสียงฟ้าโกลาหล
ทะเลใหญ่เป็นระลอกกระฉอกชล สุธาดลไหวหวั่นสนั่นดัง
เป็นน้ำนองก้องกึกพิลึกลั่น เสียงสนั่นคลื่นระลอกกระฉอกขัง
เป็นธาราสาชลดั่งวนวัง ท่วมกระทั่งค่ายคูประตูเมือง
ชอุ่มชอ่ำคล้ำฟ้าเวหาหาว ทั้งเดือนดาวอับสีไม่มีเหลือง
ก็มืดมัวทั่วเขตประเทศเมือง ไม่รู้เรื่องเกิดหนาวทั้งหาวนอน
พยนต์หญ้าที่รักษาอยู่ชั้นนอก คลื่นกระฉอกลอยกลิ้งไปพิงขอน
ที่ในด่านโงกหงับบ้างหลับนอน แผ่นดินดอนหวั่นไหวดังไกวเปล ฯ
๏ บาทหลวงเห็นผิดประหลาดอนาถนัก ไม่ประจักษ์ชวนกันเที่ยวหันเห
ทั้งมืดมนอนธกาลเดินซานเซ นึกคะเนเห็นจะมีคนดีมา
ทำไมจักรู้แน่ได้แก้ไข จุดฟืนไฟก็ไม่ติดผิดนักหนา
แล้วมืดค่ำสุริยนสนธยา จะไปมาก็ไม่เห็นเป็นแต่ลม
แล้วมิหนำซ้ำฝนก็ตกหนัก จะหาญหักเอาชัยเห็นไม่สม
จำจะคิดถ่ายเทด้วยเล่ห์ลม คงจะสมปรารถนาไม่ช้านาน
แต่วันนี้ฝนฟ้าในอากาศ ยังไม่ขาดมืดมัวทั่วสถาน
เป็นจนใจไม่รู้แห่งจะแจ้งการ แกคิดอ่านทางอุบายไว้หลายกล ฯ
๏ จะกล่าวฝ่ายจักราพฤฒาเฒ่า จึงก้มเกล้าทูลแถลงแจ้งนุสนธิ์
ให้ทหารคนดีที่ชอบกล ไปลักพยนต์ที่มันล้อมป้อมกำแพง
มาดูให้เห็นจริงที่กริ่งจิต ที่มันคิดผูกพันไว้ขันแข็ง
กำลังฝนมนต์คาถาพระอย่าแคลง ไม่ต่อแย้งสิ้นเขตสิ้นเวทมนตร์
พระจึ่งตรัสเรียกหาเจ้าวาโหม เมืองวาหุโลมอาสาข้าสักหน
ไปเอาหญ้าที่เราเห็นเป็นพยนต์ กำลังมนต์ครูแกแน่ในใจ
เจ้าวาโหมโสมนัสจัดปีกหาง บินไปทางอากาศกลาดไสว
ถลาลงรับรองด้วยว่องไว พยนต์ไล่ฟาดฟันประจัญบาน
แต่ต้องเวทของครูสู้ไม่ได้ ก็บรรลัยล้มวินาศไม่อาจหาญ
พวกวาโหมหิ้วมาหน้าพระลาน ทูลพระผ่านนคราเจ้าธานี ฯ
๏ ป่างพระสุดสาครบวรนาถ จึ่งประภาษแก่ทหารชาญชัยศรี
จงรีบไปช่วยกันขนโยนนที อย่าอึงมี่ไม่ให้รู้ถึงหูมัน
พวกทหารชาญณรงค์เคยยงยุทธ์ ก็รีบรุดพลนิกรค่อยผ่อนผัน
กำลังฝนคนณรงค์คงกระพัน ก็ช่วยกันรีบไปมิได้กลัว
ด้วยว่าครูผู้วิเศษแจ้งเหตุผล รู้ทุกคนหาหนังขึ้นบังหัว
ถึงฝนตกสักเท่าไรก็ไม่กลัว จะมืดมัวสักเท่าไรรีบไปพลัน
ถึงหุ่นมนต์โยนทิ้งเสียจนหมด แล้วเดินลดเลี้ยวป่าพนาสัณฑ์
รีบกลับมาเฝ้าองค์พระทรงธรรม์ หมดด้วยกันทูลท้าวเจ้าบุรินทร์ ฯ
๏ ป่างพระสุดสาครอาวรณ์หวัง จึงตรัสสั่งโดยในพระทัยถวิล
เวลาเช้าเราจะเข้าตีธานินทร์ ให้พร้อมสิ้นแต่บรรดาเสนานาย ฯ
๏ ฝ่ายพระจอมมังคลานราราช กับครูบาทหลวงหาวหนาวใจหาย
มิได้แจ้งเหตุผลกลอุบาย แต่นึกหมายว่าคนดีคงมีมา
แม้นเช้าตรู่สุริยงก็คงรู้ พิเคราะห์ดูที่ในจิตผิดนักหวา
มันหนาวเกินฟ้าฝนพ้นตำรา ทั้งกายาก็เป็นเหน็บเจ็บระบม
จะคิดแก้แผลไรไฉนหนอ ก็เป็นข้อจนใจไหนจะสม
เพราะเกิดความร้าวรานมานานนม เห็นไม่สมคิดไว้ในใจปอง
แกนิ่งนึกตรึกตราขึ้นมาได้ จำจะให้คนเก่าจัดข้าวของ
ไปให้ทันจะใคร่รู้ดูทำนอง อันสิ่งของกับหนังสือให้ถือไป
พลางเขียนสารเสร็จสมอารมณ์นึก แต่ยังดึกฝนพรำเป็นน้ำไหล
ถ้าเช้าตรู่สุริโยอโณทัย จึงจะให้เสนาไปหามัน
แกจึ่งสั่งคนใช้ให้จัดหา ทั้งแพรผ้าอย่างยิ่งทุกสิ่งสรรพ์
อีกพลอยเพชรเม็ดมุกดามีค่าครัน จะกำนัลอ้ายคนร้ายให้ตายใจ
แล้วลงนั่งกอดเข่าหนาวสะท้าน เก็บมุ้งม่านผ้าเสื้อห่มเหื่อไหล
ตัวยังสั่นเทาเทาหนาวในใจ ราวกับไข้จับทั่วทุกตัวคน
ด้วยอำนาจมนต์เวทวิเศษขลัง บาทหลวงนั่งหนาวเย็นทุกเส้นขน
ให้เมื่อยเหน็บเจ็บเนื้อเห็นเหลือทน เล่นเอาจนความคิดดั่งพิษงู
ยิ่งผิงไฟก็ยิ่งหนาวราวกับยุ เสียงจุจุพิงหมอนจนอ่อนหู
จนปัญญาที่จะตรองหาช่องคู พิเคราะห์ดูก็เห็นผิดคิดอาวรณ์
ตั้งแต่ทำกลศึกมาลึกซึ้ง แกรำพึงคับคั่งดังสิงขร
มาทับทุ่มในอุราให้อาวรณ์ แต่จะนอนก็ไม่หลับมันคับใจ
พวกที่นั่งตั้งกองทุกช่องด่าน หนาวสะท้านพากันบ่นทนไม่ไหว
จะไปอยู่สุขเกษมเปรมหัวใจ ก็ยังไม่สมคิดในจิตปอง
เพราะอ้ายเฒ่าสังฆราชชาติอังกฤษ มันช่างคิดพาเจ้าให้เศร้าหมอง
จนพวกเราหนาวล้นจนขนพอง เห็นจะต้องหนีมันเป็นมั่นคง
พลางปรึกษาหารือกันซุบซิบ หนีให้ลิบเข้าในไพรระหง
ไปซุกตายเสียข้างหน้าตามป่าดง แต่คิดสงสารเจ้าเมื่อคราวจน
แม้นลำพังอ้ายนี่กูมิอยู่ เป็นสิ้นรู้สารพัดจะขัดสน
มันพาให้ลำบากแสนยากจน เห็นเหลือทนเต็มประดายิ่งอาวรณ์ ฯ
๏ จะกล่าวข้างลังกาอาณาจักร ก็พร้อมพรักทวยหาญชาญสมร
ทั้งทัพหลังทัพหน้าแสนยากร สุริย์จรไขสีรวิวรรณ
ประจุสมัยเกือบจะได้เวลาฤกษ์ เอิกเกริกคั่งคับล้วนทัพขัน
ทั้งครูจักรราศีชุลีคัล มาพร้อมกันคลายเวทวิเศษมนต์
ห้ามมหาวลาหกที่ตกคล้ำ ให้ขาดน้ำธาราที่ห่าฝน
ทั้งเมฆตั้งบังแสงพระสุริยน นภาดลก็สว่างกระจ่างตา
ที่หนาวเหน็บเจ็บจุกที่ยุคเข็ญ ค่อยวายเว้นเบาใจไพร่นักหนา
บาทหลวงค่อยคลายใจในอุรา เรียกมังคลาสานุศิษย์มาคิดกล
การอุบายที่จะให้หนังสือสาร ไปว่าขานตามกระทู้ดูสักหน
แล้วจะคิดถ่ายเทด้วยเล่ห์กล ให้มันจนความคิดเหมือนติดกรง
เขาย่อมว่าข้าศึกแม้นฮึกหาญ เอาของหวานส่งให้คงใหลหลง
ถึงสี่ตีนจริงนะหวาอย่าทะนง คงล้มลงด้วยประสาทจึ่งกวาดครัว
แม้นสมคิดจะทำให้สมแค้น จะตอบแทนวงศ์กษัตริย์จับตัดหัว
ยกไว้แต่แม่เอ็งต้องเกรงกลัว จะลือชั่วฉาวไปมันไม่ดี
นอกกว่านั้นจริงหนะหวาฆ่าให้หมด พวกขบถเอาให้ยับเหมือนสับสี
จะไว้มันทำไมพวกไพรี ให้สมที่เคืองแค้นแน่นอุรา
แล้วเรียกคนใช้ชิดมาคิดอ่าน เอ็งเอาสารนี้ออกไปไวไวหวา
กับเครื่องใช้อย่างดีมีราคา ให้เสนาที่ประจำมันนำไป
ให้แก่เจ้านคราลังกาทวีป แล้วเอ็งรีบกลับมาด่านดั่งขานไข
แม้นมันจะว่าขานประการใด เอ็งอย่าได้พูดจาเหมือนวาจัง
ทำไม่รู้ดูแต่คนพลไพร่ จะมาไปตรึกตราทั้งหน้าหลัง
แม้นไปถึงพวกศัตรูดูระวัง อย่าให้พลั้งพลาดไปแก่ไพรี
พวกม้าใช้ได้สารกับสิ่งของ โดยทำนองหมายมุ่งไปกรุงศรี
ออกประตูรีบมาไม่ช้าที เห็นอึงมี่ผู้คนขนสาตรา
ทั้งอาวุธน้อยใหญ่นายทหาร มาประมาณสิบหมื่นพร้อมปืนผา
ต่างนั่งอยู่เกลื่อนกลาดดาษดา รีบเข้ามาโดยทำนองแล้วร้องไป
ว่าดูราพวกพหลพลทหาร เราถือสารมาจะแจ้งแถลงไข
กับสิ่งของเครื่องคำนับมารับไป ถวายไทเจ้าจังหวัดปัถพิน
ฝ่ายทหารจึ่งว่ากับม้าใช้ เราจะไปบอกขุนนางอย่างถวิล
ให้กราบทูลมูลความตามระบิล เจ้าแผ่นดินโปรดมาจะพาจร
แล้วรีบไปแจ้งคดีขุนนางใหญ่ เข้าทูลไทบพิตรอดิศร
ว่าฝรั่งถือสารการนคร จะเย็นร้อนราชการสถานใด ฯ
๏ ป่างพระองค์ผู้ดำรงอาณาเขต ครั้นทราบเหตุให้พะวงคิดสงสัย
จึ่งตรัสกับพวกมหาเสนาใน จงเร่งไปรับมันมาอย่าช้าที
เราก็รู้มารยาแห่งข้าศึก แต่ตรองตรึกที่ในการแห่งสารศรี
ครั้นมิรับมันเข้ามาจะฆ่าตี ก็เป็นที่น่าชังไม่บังควร
แล้วจะให้รู้แจ้งที่แห่งเหตุ โดยสังเกตข้อไรได้ไต่สวน
ฟังคารมมันดูรู้กระบวน การที่ควรจะได้ทำเป็นตำรา ฯ
๏ ขุนนางรับกลับมาถึงม้าใช้ รับเข้าไปทูลแถลงแห่งเลขา
พระสั่งให้พวกฝรั่งในลังกา เอาสาราอ่านถวายเป็นใจความ ฯ
๏ ว่าหนังสือมังคลานราราช เป็นหน่อนาถปิ่นลังกาภาษาสยาม
ด้วยรบกันมั่นหมายเสียดายนาม ทำสงครามกันมานานชิงบ้านเมือง
ไม่พอที่พวกอาณาประชาราษฎร์ มาวินาศรบสู้อ่อนหูเหือง
เพราะช่วงชิงถิ่นฐานเขตบ้านเมือง จนขุ่นเคืองเพราะข่มเหงไม่เกรงใจ
อันลังกาตาลุงบำรุงราษฎร์ จนถึงมาตุรงค์แจ้งแถลงไข
เพราะบิดามาดำรงเป็นวงศ์ไทย เธอก็ไปบรรชิตใช่กิจการ
ทวีปวังลังกาอาณาเขต ถิ่นประเทศควรจะได้ในลูกหลาน
สืบตระกูลเผ่าพงศ์ตามวงศ์วาน จึ่งควรการโดยเล่ห์ประเพณี
นี่จะมาครอบครองเอาของเขา ไม่อายเราผู้เป็นน้องให้หมองศรี
ริบเอาตามปรารถนาไล่ราวี เก็บธานีเป็นของตัวทั้งผัวเมีย
มิใช่พี่ร่วมท้องน้องในไส้ ดีแก่ใจไว้ตัวอย่างตั้วเหีย
ให้เจ้าของพลัดพรากจากลูกเมีย ทำให้เสียวงศ์ญาติขาดตระกูล
เป็นผู้ใหญ่ในเชื้อนับเนื้อไข ไม่อายใจตัดญาติให้ขาดสูญ
นี่เยี่ยงอย่างปางใดในตระกูล อันเค้ามูลแต่บุราณสถานใด
จงชี้แจงมาให้แจ้งที่อย่างเยี่ยง จะได้เลี่ยงหลีกไปหาที่อาศัย
หรือเวียงวังลังกามาแต่ไร เป็นของไทยตั้งอยู่แต่บูราณ
แม้นมิยอมให้เราผู้เจ้าของ ก็จะต้องรบราเหมือนว่าขาน
กว่าชีวาข้าจะตายทำลายลาญ พอจบสารพระก็สั่งให้รั้งรอ
อย่าเพ่อยกไพร่พหลพลทหาร จะตอบสารที่มันว่านักหนาหนอ
เป็นผู้ใหญ่เหมือนหนึ่งก้างมาขวางคอ ต้องรีรอไว้ให้สิ้นการนินทา
พระจึ่งสั่งพวกเสมียนให้เขียนตอบ โดยระบอบการกิจพวกมิจฉา
พอเสร็จสรรพพับผนิดแล้วปิดตรา สั่งให้ม้าใช้รับรีบกลับไป ฯ
๏ จะกล่าวถึงหน่อนาถกับบาทหลวง ค่อยหายง่วงที่ในจิตคิดสงสัย
จึ่งชวนพระมังคลาให้คลาไคล เดินขึ้นไปบนเชิงเทินเนินกำแพง
เที่ยวตรวจตราผ้าพยนต์ก็หายหมด แสนสลดนึกอางขนางแหนง
ประหลาดจิตผิดอย่างให้คลางแคลง มิได้แจ้งเหตุผลจนปัญญา
อันคนดีในชมพูมิรู้สิ้น ประเทศถิ่นอยู่ที่ไหนอย่างไรหวา
มันชักนำเอามาไว้ในลังกา แกคิดมาเสียใจกระไรเลย
ลงกอดเข่าเศร้าจิตคิดวิตก ระกำอกเต็มประดานิจจาเอ๋ย
พอม้าใช้กลับหลังมายังเคย เอาสารเลยส่งให้ดั่งใจจง ฯ
๏ แกคลี่อ่านสารองค์พงศ์กษัตริย์ เจ้าจังหวัดในตระกูลประยูรหงส์
สุดสาครจอมเจิมเฉลิมวงศ์ ซึ่งดำรงนครังเกาะลังกา
มิใช่เราแย่งชิงเอาสิงหล หรือลักปล้นอาจอิทธิ์ริษยา
เมื่อแรกเริ่มเดิมเจ้ายังเยาว์มา อันลังกาก็เป็นสิทธิ์อิศโร
ก็ไม่ตั้งอยู่ในสัตย์สุจริต มาก่อกิจการชั่วยั่วโทโส
แล้วมิหนำทำการพาลพาโล จนใหญ่โตน้ำเนื้อก็เหลือทน
ทั้งเผ่าพงศ์วงศาคณาญาติ ต้องนิราศว้าเหว่ระเหระหน
ทวีปวังลังกาประชาชน ก็ยับย่นเต็มประดาทั้งธานี
พระมาตุรงค์ปลงการประทานให้ เราจึ่งได้อยู่บำรุงซึ่งกรุงศรี
มิใช่อยากว่าขานการบุรี พระชนนีโปรดเกล้าให้เราครอง
เมื่ออยากได้ไปเฝ้าเล่าแถลง ประจักษ์แจ้งแล้วประมูลทูลฉลอง
อันโภไคยไอศูรย์ยังมูลมอง เราไม่ต้องการดอกจะบอกความ
อันกรุงไกรรัตนาของย่าปู่ ก็มีอยู่นคราภาษาสยาม
มิใช่เด็กอมมือจะรื้อความ จะตะกลามอยากได้ปองครองบุรินทร์
ไปทูลบาทมาตุรงค์อนงค์นาฏ เธออนุญาตเหมือนอย่างจิตคิดถวิล
เชิญมาครองนคราในธานินทร์ จะได้สิ้นรบพุ่งที่รุงรัง
แม้นจะทำอย่างนี้ที่จะได้ สมดั่งใจทุจริตอย่างคิดหวัง
เราก็ชายถ้าแม้นวายชีวาวัง ญาติก็ยังมีอยู่หลายผู้คน
ท่านทั้งปวงล่วงไปเสียหมดสิ้น นั่นแหละถิ่นแว่นแคว้นแดนสิงหล
จึงจะได้สมคิดดั่งจิตตน ที่จะปล้นเอาอย่างนี้เรามิกลัว
อย่าถือใจว่าจะได้เมืองปากน้ำ ที่ข้อคำพรรณนาก็น่าหัว
อย่าได้นึกตรึกตรองว่าของตัว จะดีชั่วหนหลังเป็นอย่างไร ฯ
๏ ครั้นจบสารแกยิ่งแค้นแสนพิโรธ ใครนับโคตรนับวงศ์ที่ตรงไหน
ถึงมังคลาร่วมพ่อต่อกันไป กูมิให้นับญาติเป็นขาดวงศ์
หรือออเจ้ามังคลาสานุศิษย์ จะใคร่คิดใยเยื่อในเชื้อหงส์
แต่ตัวกูสู้ตายวายชีวง ไม่ขอตรงต่อมันดั่งสัญญา
กับอ้ายพวกชั่วช้าประจามิตร มันมาคิดล้างญาติศาสนา
จนเสื่อมสิ้นเชื้อฝรั่งทั้งลังกา ศาสนาพระยะโฮลงโซเซ
เพราะแม่มึงเป็นสะพานเหมือนร้านผัก ให้แฟงฟักขึ้นประสมไว้ถมเถ
เป็นพืชพันธุ์ปะปนคนเสเพล มันเกเรเสียแผลเพราะแม่มึง
เจ้าตัณหาราคาเพราะหน้าด้าน เอาแต่การโกโรโมโหหึง
ไปเอาผัวของเขามาเคล้าคลึง จนท้องปึ่งป่องหยอดเพราะทอดโกลน
มันทำศึกยังไม่วายกลายเป็นผัว แม่มึงชั่วเหมือนเช่นเขาเล่นโขน
จนเกิดมึงมาทุกวันพรรค์อ้ายโจร ต้องวิ่งโชนบุกป่าจนตาลาย
กูคิดถึงความหลังแล้วคั่งแค้น จะตอบแทนเสียให้สมอารมณ์หมาย
แต่ตกไร้ได้ยากลำบากกาย แทบจะวายชีวังเสียกลางชล
บาทหลวงแค้นแหงนชะแง้จะแก้เผ็ด แกพูดเสร็จมิได้ยั้งสั่งพหล
จัตุรงค์เสนาพลาพล ให้เร่งขนอาวุธยุทธนา
ทั้งปืนใหญ่ในกำปั่นสักพันกระบอก ปืนปลายหอกนับแสนมาแน่นหนา
ทั้งเสน่าหลาวโล่โตมรา เครื่องสาตราต่างต่างล้วนอย่างดี
แล้วผูกหุ่นนับหมื่นยืนไสว อยู่ที่ในเมืองด่านชานวิถี
แล้วปลุกเสกหุ่นมนต์พยนต์ดี ได้ท่วงทีจะได้รบสมทบกัน
สั่งปลัดหัสเกนที่เจนจบ ให้สมทบกำกับเป็นทัพขัน
ให้ยกจากปากน้ำที่สำคัญ พลางโห่ลั่นพร้อมทั่วทุกตัวคน
ยิงปืนใหญ่ได้ฤกษ์ตีกลองศึก เสียงครั่นครึกโยธาโกลาหล
อเนกแน่นแสนยาพลาพล ออกเกลื่อนกล่นยกออกนอกกำแพง ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ