ตอนที่ ๔๓ นางเสาวคนธ์ยิงแก้ม

๏ จะกล่าววังลังกาวัณฬาราช เสียหน่อนาถนึกหมายเหมือนทายฝัน
กับรำภาผกาสุลาลีวัน ปรับทุกข์กันเห็นจะมีหมอดีมา
เพราะหัสไชยได้ธงลงอักษร มาถอดถอนเวทมนตร์ดลคาถา
ไม่ทันรู้จู่ไปเสียไกลตา จะตรึกตราแก้ไขฉันใดดี ฯ
๏ นางละเวงเกรงว่าพวกข้าศึก จะหาญฮึกรบพุ่งเอากรุงศรี
อนึ่งพระอนุชากับสามี ได้หมอดีมาแก้จะแปรปรวน
ทางปรึกษาปรารมภ์ระทมทุกข์ ไม่มีสุขเศร้าสร้อยละห้อยหวน
เขาชิงรักหักหาญเป็นการจวน จะก่อกวนการศึกให้นึกกลัว
นางยุพาลาลีทั้งพี่น้อง ไม่จากห้องร้องไห้อาลัยผัว
คิดถึงที่มีท้องให้หมองมัว ต่างซ่อนตัวซบสะอื้นกลืนน้ำตา ฯ
๏ ฝ่ายโฉมยงองค์ละเวงวัณฬาราช คิดถึงบาทหลวงครูคู่ปรึกษา
จำจะไปงอนง้อขอสมา ขอวิชาช่วยประจญคนทั้งปวง
จึงแจ้งความสามนางเหมือนอย่างนึก จะไปตึกสังฆราชพระบาทหลวง
ถึงโกรธาด่าทอว่าล่อลวง เราทั้งปวงง้องอนคงอ่อนใจ
อย่าถือโทษโกรธขึ้งไปพึ่งพระ เห็นพระองค์คงจะไม่เสียได้
จงรีบจัดรถาหาดอกไม้ จะรีบไปขอสมาท่านอาจารย์ ฯ
๏ ทั้งสามนางต่างรับคำนับน้อม มาเตรียมพร้อมรถาที่หน้าฉาน
เทียนข้าวตอกดอกไม้จัดใส่พาน พร้อมทหารแห่แหนมาแน่นนันต์
นางวัณฬาอ่าองค์แล้วทรงเครื่อง ค่อยย่างเยื้องขึ้นรถพระกลดกั้น
นางรำภายุพาสุลาลีวัน ขึ้นนั่งชั้นลดเลื่อนให้เคลื่อนคลา
ถึงกุฎีที่ฝรั่งสังฆราช ค่อยลีลาศเลียบบันไดขึ้นไปหา
เห็นพระนั่งตั้งธูปเทียนบูชา ขอสมาหมอบเรียงเคียงเคียงไป ฯ
๏ บาทหลวงแก่แลเห็นเขม้นมุ่ง โมโหฟุ้งร่ำด่าไม่ปราศรัย
อีตอแหลแร่ออกมาหากูไย กูมิได้ปรารถนาคบค้ามึง
ทั้งเจ้าข้าหน้าสดปดเป็นครอก มีแต่หลอกลวงกูไม่รู้ถึง
ไปรับตัวผัวเขามาเคล้าคลึง เมียเขาหึงโรมโรมเหมือนโหมโรง
อียุพาลาลีอีตอแหล ไม่ทันแก่จะเป็นม่ายอีตายโหง
ช่างชักสื่อหาผัวอีตัวโกง จนท้องโป่งป่องหยอดยอดตำแย ฯ
๏ นางวัณฬาสารภาพกราบบาทหลวง ฉันทั้งปวงผิดหมดปดตอแหล
รู้สึกในใจตัวว่าชั่วแท้ สุดแล้วแต่เจ้าคุณกรุณา
ยังเคืองแค้นแม้นว่าจะลงโทษ ไม่ถือโกรธเลยสักนิดผิดหนักหนา
ฉันไม่มีที่เห็นเป็นกำพร้า จงเมตตาหลานรักอีกสักครั้ง
จะสัตย์ซื่อถือพระละพยศ ไม่โป้ปดตอแหลเหมือนแต่หลัง
บาทหลวงด่าว่ากูไม่พอใจฟัง นางชาววังปากหวานน้ำตาลทา
ถ้าถึงที่มีการมาวานใช้ ส่วนบุญไม่ได้ทำกรรมหนักหนา
กูคิดถึงคุณท้าวเจ้าลังกา กรุณานับถือคนซื่อตรง
ครั้นมาถึงมึงได้ครองไอศูรย์ ผ่าประยูรเสียศักดิ์กูรักหลง
เสียดายเหลือเชื้อกษัตริย์ขัตติย์วงศ์ ไม่ดำรงรักศักดิ์รักแต่ตัว
พลอยให้หญิงสิงหลปะปนเปื้อน แต่เล่นเพื่อนแล้วมิหนำยังซ้ำผัว
กูเป็นพระละชีวิตไม่คิดกลัว มึงจะคั่วหรือจะยำมิทำไย
อันร่างเหมือนเรือนโรครับโศกสุข ตายแล้วทุกข์มันจะมีมาที่ไหน
กูสัตย์ซื่อถือมั่นแม้บรรลัย จะขึ้นไปเป็นพระอินทร์กินสุรา
นี่ธุระอะไรที่ไหนหรือ จึงด้านดื้อมากุฎีอีมุสา
หรือรู้ตัวกลัวบาปที่หยาบช้า จะสมาโทษทัณฑ์หรือฉันใด
กูก็จะอนุญาตไม่คาดโทษ หาถือโกรธให้มึงตกนรกไม่
ถือคุณพระให้ดีแต่นี้ไป จงอย่าได้โป้ปดประชดกู
จงป้องกันอันตรายเสียดายศักดิ์ แม้ไม่รักษายศจะอดสู
เห็นพวกพ้องของเขาชาวชมพู มาตั้งอยู่พร้อมพรั่งระวังภัย ฯ
๏ นางฟังพระอนุญาตประภาษถาม จึงเล่าความจริงแจ้งแถลงไข
แล้วหยิบธงลงอักษรที่ซ่อนไว้ กับดอกไม้ยื่นให้ดูอยากรู้ความ ฯ
๏ บาทหลวงรับจับต้องมองพินิจ อักษรผิดลังกาภาษาสยาม
เคยเรียนครูรู้ว่าคือหนังสือพราหมณ์ จึงอ่านตามปริศนาว่าอย่าทำ
ใครผูกไว้ไม่แก้เป็นแม่ม่าย เคยนอนหงายมาแต่ก่อนจะนอนคว่ำ
พออ่านออกดอกร่วงยับระยำ รู้ว่าทำด้วยข้าวตอกเป็นดอกฟ้า
แล้วดูธงลงยันต์พระพิเนก ประจุเสกล้างเล่ห์เสนหา
จึงว่าออหมอเฒ่าเจ้าตำรา เห็นจะมากับกษัตริย์หัสไชย
คือทิศาปาโมกข์โลกเชษฐ์ ผู้วิเศษการะเวกเสกมาให้
ทั้งปริศนาว่าเหน็บให้เจ็บใจ นึกจะใคร่ลองฤทธิ์ไม่คิดกลัว
เกลียดแต่มึงซึ่งตอแหลมาแต่หลัง ให้นึกชังน้ำหน้ากะลาหัว
แล้วร่ำบอกดอกฟ้าเขาว่าตัว เป็นผู้หญิงชิงผัวไม่กลัวใคร
ซึ่งแต่ก่อนนอนหงายจะกลายคว่ำ เป็นข้อคำเยาะเย้ยเฉลยไข
มีผัวเหมือนเดือนหงายสบายใจ พอผัวไปจะต้องคว่ำกินน้ำตา ฯ
๏ นางฟังคำร่ำบอกยิ่งชอกช้ำ ทั้งแค้นคำค่อนคิดเป็นปริศนา
จึงวิงวอนผ่อนผันด้วยปัญญา เจ้าคุณด่าดีใจเหมือนให้พร
แต่ครั้งนี้มิช่วยเห็นม้วยมิด อย่าถือผิดหนหลังช่วยสั่งสอน
แม้ได้ตัวสินสมุทรสุดสาคร เหมือนแต่ก่อนเห็นจะกลับกองทัพไป ฯ
๏ พระฝรั่งฟังคำยังอ้ำอึ้ง เขาวอนถึงหลายหนทนไม่ได้
จึงว่ากูสู้สลัดตัดอาลัย หมายจะไปสู่สวรรค์ชั้นวิมาน
เหตุเพราะมึงจึงต้องทำบาปกรรมด้วย แม้มิช่วยก็จะฉาวจะร้าวฉาน
จงพร้อมกันตั้งสัตย์ปฏิญาณ กูคิดการให้แล้วทำตามคำกู ฯ
๏ ทั้งสี่นางรับคำแล้วทำสัตย์ ไม่ข้องขัดคิดคดให้อดสู
มิสัตย์ซื่อถือมั่นกตัญญู พระเยชูจงสังหารผลาญชีวี ฯ
๏ บาทหลวงว่าสาธุสะกูจะรับ ให้ผัวกลับมาอีกไม่หลีกหนี
แต่พวกเขาเล่าไม่ชั่วล้วนตัวดี เราใช้ผีแพ้เขาเราก็อาย
จะต้องเชือดเลือดอกออกประสม กับน้ำนมฝิ่นเสกเมฆฉาย
แม้ใครกินโลหิตไม่คิดกาย รักจนตายทั้งชาติไม่คลาดคลา
ให้หอมเนื้อเหลืออดซึ่งรสราค เหมือนเด็กอยากนมแม่ชะแง้หา
ค่ำวันนี้อียุพาผกาสุลา จงเอายาพาย่องตอดดอดออกไป
ให้มันเข้าเป่ามนต์สะกดทัพ แม้ไม่หลับพราหมณ์แก่คิดแก้ไข
เองเป็นหญิงยิงเกาทัณฑ์ข้ามมันไป พอมนต์ไสยเสื่อมหายให้พรายทับ
จึงเอายาทาลิ้นอ้ายสินสมุทร กับอ้ายสุดสาครทั้งนอนหลับ
ปลุกให้ตื่นกลืนน้ำนมอาคมวับ จะรักกลับตามมาในราตรี
นางละเวงวัณฬารำภาเล่า ทำเหมือนเขาอย่าให้ผัวเอาตัวหนี
คอยระวังขังไว้พอได้ที ออกไปตีกองทัพไล่จับตัว
บรรดาเหล่าเผ่าพงศ์วงศ์กษัตริย์ ทั้งข้าเฝ้าเอามามัดแล้วตัดหัว
เอาไพร่ไว้ใช้เล่นเหมือนเช่นวัว ตัวกับผัวจะได้อยู่เป็นคู่กัน
ต้องลงยันต์ฟันลิ้นให้สิ้นเสร็จ ถึงพูดเท็จก็เห็นจริงทุกสิ่งสรรพ์
แล้วเรียกไปในตึกจารึกยันต์ ลงลิ้นฟันให้สตรีทีละคน
แล้วเอามีดกรีดถันคั้นโลหิต ทำยาติดเกลือกกินแทรกฝิ่นฝน
รสสตรีแม้บุรุษปุถุชน ให้รักทนไปไม่รอดต้องกอดกัน
แล้วสอนว่าครั้งนี้มิตีทัพ เขาจะจับตัวฆ่าให้อาสัญ
ทั้งสี่นางต่างรับอภิวันท์ พอสายัณห์กราบลามาในวัง
เรียกย่องตอดยอดรักมาซักซ้อม มันรับพร้อมใจสมอารมณ์หวัง
ต่างผูกม้ามาประทับแล้วยับยั้ง ขึ้นหยุดนั่งหน้าพลับพลาในราตรี ฯ
๏ ฝ่ายทิศาปาโมกข์โลกเชษฐ์ เสกทรายเวทอาถรรพณ์ให้กันผี
โรยรอบค่ายควายธนูประตูมี ในราตรีตรวจตราเรียกหากัน
บ้างตีฆ้องกองไฟมิให้หลับ เห็นคนจับเข่นฆ่าให้อาสัญ
กองตระเวนเกณฑ์รบไว้ครบครัน คอยป้องกันเจ้านายรายระวัง ฯ
๏ ฝ่ายสุวรรณมาลีปรานีบุตร กลัวสินสมุทรจะไม่ชื่นคิดคืนหลัง
เหมือนนกผู้คู่พรากมาจากรัง ใจจะยังปั่นป่วนถึงนวลนาง
จำจะจัดสตรีที่น้อยน้อย ให้เคียงคอยปรนนิบัติไม่ขัดขวาง
แล้วฝึกหัดจัดเหล่าสาวสุรางค์ ที่รูปร่างรุ่นราวสาวน้อยน้อย
ให้สำหรับขับกล่อมอยู่พร้อมพรัก ให้ลูกรักร่วมใจเรียกใช้สอย
ถือโทนทับพับเพียบล้วนเรียบร้อย ร้องดอกสร้อยเสียงหวานประสานเพลง
ย้ายลำนำฉ่ำเฉื่อยระเรื่อยเสียง สอดสำเนียงระนาดฆ้องหน่องหน่องเหน่ง
เสียงผู้หญิงนิ่งฟังยิ่งวังเวง จนดึกดื่นครื้นเครงบรรเลงลาน ฯ
๏ ฝ่ายนงเยาว์เสาวคนธ์วิมลพักตร์ กับน้องรักสิ้นทุกข์สนุกสนาน
แต่งละครฟ้อนรำเล่นสำราญ ร้องนิทานพระมณีเปรียบพี่ยา
ให้คนรำทำบทกำสรดเศร้า คิดถึงเจ้ายอพระกลิ่นถวิลหา
เป็นทุกข์ร้อนนอนอู้อยู่ศาลา แล้วรับช้าปี่นอกแกล้งหยอกกัน ฯ
๏ สุดสาครนอนดูรู้ว่าเย้ย พลอยชมเชยชื่นชวนกันสรวลสันต์
ด้วยสามองค์จงรักดั่งร่วมครรภ์ มาถึงกันก็สนิทไม่คิดแคลง ฯ
๏ ฝ่ายยุพาลาลีสองพี่น้อง ถึงยามสองดาวฤกษ์ขึ้นเบิกแสง
ต่างขึ้นม้าพากันออกนอกกำแพง ย่องตอดแต่งตัวนำช่วยกำบัง
มาริมค่ายนายไพร่มิได้เห็น เสียงยังเล่นทุกพลับพลาทั้งหน้าหลัง
ค่อยลัดแลงแฝงลับคอยตรับฟัง ถึงที่ฝังอาถรรพณ์เป็นควันโพลง
เหมือนเพลิงพลามลามไหม้ในพิภพ ย่องตอดหลบหลีกโลดกระโดดโหยง
ทั้งม้านางต่างเต้นเผ่นตะโพง ฉุดชโลงลากไว้มิใคร่ฟัง
ออกห่างค่ายหายวับเพลิงดับหมด เห็นปรากฏว่าเขากันอาถรรพณ์ฝัง
สองนางใช้ย่องตอดตาบอดบัง กลับเข้ายังกองทัพที่พลับพลา
น้าวธนูผู้หญิงขึ้นยิงข้าม หลังคาพราหมณ์ไพร่นายทั้งซ้ายขวา
ภูมิเจ้าที่หนีออกนอกพลับพลา เสียงโศกาแซ่ซ้องกึกก้องไป ฯ
๏ พอเสื่อมมนต์คนเล่นเห็นประหลาด เสียงหวีดหวาดเผืองฝาหลังคาไหว
ย่องตอดเข้าเป่ามนต์ดลฤทัย ทั้งนายไพร่สามทัพหลับระเนน
นางละครฟ้อนรำยังทำบท ล้มหลับหมดมือเท้ายังกราวเขน
พวกหน้าที่ตีฆ้องกลองตระเวน ล้มระเนนนิ่งเงียบเซียบสำเนียง
เสนาะเสียงจังหรีดวะหวีดแว่ว ทั้งแจ้วแจ้วจักจั่นสนั่นเสียง
ฝ่ายพี่น้องสองราขับม้าเรียง ย่องตอดเคียงเข้าประตูธนูควาย
มันขวิดขวับตับปอดย่องตอดแตก กระดูกแหลกย่อยยับแล้วกลับหาย
ชักพร้าโต้โย้ตัวไม่กลัวตาย เข้าฟันควายคึกคักจะหักคอ
แล้วฟันฟาดพลาดมือกระบือสู้ สองนางรู้แยบคายว่าควายหมอ
น้าวธนูคู่มือแล้วถือรอ หมายแต่พอตรงข้างสองนางยิง
พอถูกควายหายเห็นแต่เส้นตอก มนต์ต้องออกหนีธนูอีผู้หญิง
พลทั้งหลายนายไพร่ไม่ไหวติง ระเนนนิ่งนอนหลับทุกทัพชัย
แต่ปาโมกข์โลกเชษฐ์วิเศษขลัง ร่ายมนต์บังนิ่งระงับไม่หลับใหล
แต่ความรู้ผู้หญิงแก้สิ่งไร ก็เสื่อมไปเป็นว่าแก้ได้แต่ตัว ฯ
๏ ส่วนยุพาลาลีสองพี่น้อง เที่ยวทุกห้องพลับพลามองหาผัว
นางลีวันนั้นถือกริชไม่คิดกลัว มาพบตัวภัสดาสุดสาคร
เห็นหลับเรียงเคียงน้องทั้งสองข้าง ชิดกับนางเสาวคนธ์บนบรรจถรณ์
หมายว่าชู้รู้แท้ด้วยแสงอน นึกเคืองค้อนคิดจะทำให้หนำใจ
เข้าถีบเอาเสาวคนธ์ที่บนอาสน์ แต่แคล้วคลาดพลาดผิดคิดสงสัย
เดชะสัตย์อัศจรรย์ให้พรั่นใจ จำจะใส่กลแกล้งให้แคลงกัน
จึงยั้งหยุดจุดเทียนเขียนหนังสือ ทำลายมือเหมือนของผัวตัวขยัน
แกล้งกล่าวกลอนค่อนว่าสารพัน แล้วลีวันจึงวางข้างเสาวคนธ์
เอายาใส่ให้ผัวของตัวตื่น พระหอมชื่นซาบชุ่มทุกขุมขน
กลับคลุ้มคลั่งดั่งเดิมเคลิ้มสกนธ์ รู้สึกตนลืมตาเห็นลาวัน
จึงผวาคว้ากอดสอดมือยุด นางทำผลุดผลุนปัดสะบัดหัน
สุดสาครร้อนใจดังไฟกัลป์ ตามลีวันวิ่งมาขึ้นพาชี ฯ
๏ ฝ่ายยุพามาถึงพลับพลาสุด เห็นสินสมุทรกับพระมเหสี
นางสำหรับขับไม้มโหรี หลับกับที่เกลื่อนกลาดดาษดา
ให้นึกแสนแค้นพวกชาวผลึก เป็นข้าศึกจะใคร่จับสับเกศา
แต่คิดกลัวผัวจะขัดหัทยา ไม่เข่นฆ่าแต่จะทำให้หนำใจ
ให้แจ้งความว่าเราเข้ามาชิด แม้จะปลิดเอาศีรษะก็จะได้
คิดแล้วลักชักดาบอันปลาบไฟ เอาพาดไว้กับอุรานางมาลี
แล้วเที่ยวส่องมองดูตามหมู่หญิง ไม่ไหวติงต้องมนต์สะกดผี
พลางเลี้ยววงตรงมาเห็นสามี หยิบขยี้ยาใส่ค่อยไหวติง
สะดุ้งตื่นกลืนน้ำนมอารมณ์รื่น ให้ฉุนชื่นเชยสตรีเพราะผีสิง
เห็นยุพามาใกล้ดีใจจริง ผวาวิ่งตามมาแล้วคว้ามือ
พลางกอดจูบลูบคลำแล้วซ้ำว่า ไปไหนมาให้พี่คอยน้อยไปหรือ
นางผลักไสไม่หยุดพระยุดยื้อ แล้วจูงมือกันออกมาขึ้นพาชี
ต่างควบขับกลับหลังเข้าวังใน ต่างพาไปเข้าห้องทั้งสองศรี
เมื่อคราวผัวมัวยาในราตรี นางเมียมิอยากนอนจนอ่อนแรง
ครั้นรุ่งเช้าเป่ามนต์ดลประทับ เห็นเธอหลับแล้วไปเฝ้าเล่าแถลง
ต่างยิ้มหัวผัวมาหน้าตาแดง ไม่หน้าแห้งเหมือนเมื่อผัวจากตัวไป ฯ
๏ นางวัณฬาว่าระวังนะครั้งนี้ หมอคงมีมาเป็นแน่จะแก้ไข
คอยป้องกันอันตรายข้างภายใน แต่พอได้ท่วงทีจะตีทัพ
จะเอาใจไพร่นายฝ่ายฝรั่ง ให้พร้อมพรั่งปกปิดกิตติศัพท์
พรุ่งนี้ป่าวชาวพาราให้มารับ จะแจกทรัพย์ให้ทั่วทุกตัวคน
ทั้งสามนางต่างฟังสรรเสริญ จะจำเริญยศยิ่งในสิงหล
แล้วทูลลามาข้างนอกบอกยุบล ให้ป่าวคนเข้ามารับหน้าพลับพลา ฯ
๏ จะกล่าวความสามทัพหลับสนิท ครั้นรุ่งฤทธิ์มนต์สร่างต่างผวา
รู้สึกตัวทั่วทัพทุกพลับพลา ต่างเที่ยวหาสินสมุทรสุดสาคร
นางเสาวคนธ์อัดอั้นให้พรั่นจิต เห็นลิขิตที่สุวรรณบรรจถรณ์
ว่าสารศรีพี่ยาสุดสาคร เจริญพรโฉมเฉลาเสาวคนธ์
เมื่อแรกเริ่มเดิมทีเราพี่น้อง หมายจะครองความรักเป็นพักผล
บุญหาไม่ให้พี่จากนีฤมล เป็นต่างคนขาดกันแต่นั้นมา
เดี๋ยวนี้พี่มีคู่ที่ชูชื่น อันหญิงอื่นตัดขาดไม่ปรารถนา
ซึ่งน้องตามข้ามฝั่งมาลังกา พระบิดาจะให้อยู่เป็นคู่ครอง
เดี๋ยวนี้พี่เข้ารีตฝรั่งแล้ว จะคลาดแคล้วเสาวคนธ์อย่าหม่นหมอง
จะรับเจ้าเข้ามาเลี้ยงเคียงประคอง ฝรั่งสองเมียห้ามบอกตามจริง
จึงออกมาหาให้พบประสบพักตร์ พอสมรักร่วมห้องแม่น้องหญิง
จงกลับหลังยังนครอย่าวอนวิง อุส่าห์นิ่งนอนอยู่กับบูรี
คงได้คู่สู่ขอหน่อกษัตริย์ ครองสมบัติการะเวกภิเษกศรี
นี่เป็นหญิงวิ่งมาเหมือนกาลี จะไม่มีใครสู่เป็นคู่ครอง
หรือรักเราเจ้าไม่กลับจะรับเลี้ยง อย่าทุ่มเถียงทะเลาะเขาเป็นเจ้าของ
จงวันทาลาลีเป็นที่รอง จะเลี้ยงลองไว้สักครั้งที่ลังกา ฯ
๏ พอจบคำนางรำพึงตะลึงคิด ความนี่ผิดทรงเดชพระเชษฐา
ชะรอยอีลีวันมันมารยา มาแกล้งว่าจะให้ขาดญาติวงศ์
แต่มิใช่ลายมือหนังสือฝรั่ง สำนวนทั้งลายลิขิตน่าพิศวง
ดูคลับคล้ายลายพระหัตถ์จัดประจง เห็นมั่นคงเชษฐาสุดสาคร
ยิ่งแค้นคั่งดังชีวิตจะปลิดปลด โศกกำสรดเศร้าทรวงดวงสมร
คิดเหมือนพี่ที่กำเนิดร่วมอุทร ควรหรือค่อนขอดน้องให้หมองมัว
แต่เด็กมาอายุถึงเพียงนี้ ก็ยังมิได้รู้จักรักชู้ผัว
มาตามพี่มิได้คิดชีวิตตัว กลับเป็นชั่วเชษฐาว่ากาลี
กรรมเอ๋ยกรรมซ้ำร้ายอายอดสู แม้ใครรู้สารพัดจะบัดสี
เพราะตามติดผิดพลั้งเสียครั้งนี้ ถึงจะดีก็เหมือนชั่วมัวมลทิน
เป็นสาวแส้แร่วิ่งมาชิงผัว อันความชั่วดังเอามีดเข้ากรีดหิน
ถึงจะคิดปิดหน้าสิ้นฟ้าดิน ก็ไม่สิ้นสุดอายเป็นลายมือ
มิขออยู่สู้ตายวายชีวิต นางชักกริชข้างองค์มาทรงถือ
คิดจะแทงที่คอแล้วรอมือ อารมณ์รื้อรักน้องเป็นสองใจ
สงสารพระชนนีที่ปกเกศ ไม่ทราบเหตุเคืองเข็ญเป็นไฉน
จะพรายแพร่งแจ้งกระจัดกับหัสไชย จะเสียใจพระน้องไม่ต้องการ
จำจะปิดกิตติศัพท์ให้ลับลี้ พบพระพี่ภายหน้าจึงว่าขาน
ให้เห็นจริงสิ่งสัตย์ปฏิญาณ แล้วจะผลาญชีวีอีลีวัน
ดำริพลางนางซ่อนหนังสือไว้ ให้เจ็บใจดังชีวาจะอาสัญ
ยิ่งคิดถึงเชษฐายิ่งจาบัลย์ สะอื้นอั้นมิได้ออกนอกพลับพลา
พวกสาวศรีพี่เลี้ยงอยู่เคียงข้าง คิดว่านางพูนเทวษถึงเชษฐา
พระหัสไชยไปเที่ยวค้นแล้ววนมา ถึงพลับพลาเข้าในที่ทูลพี่นาง
ไม่ทราบเหตุเชษฐาหามิได้ เห็นจะไปตามสตรีเพราะผีสาง
นางฟังคำทำประชวรแกล้งครวญคราง สะอื้นพลางตรัสบอกพระอนุชา
พี่ปวดเศียรเจ็บหลังนั่งไม่ได้ พระน้องไปองค์เดียวเถิดเที่ยวหา
แล้วนิ่งนอนถอนสะอื้นกลืนน้ำตา อนุชาตกใจกระไรเลย
เรียกหาหมอรอฟังอยู่พรั่งพร้อม เตรียมยาหอมเครื่องอานคาวหวานเสวย
กำชับสั่งสี่พี่เลี้ยงที่เคียงเคย อย่าละเลยคอยระวังฟังอาการ
พระเข้านอกออกในมิได้หยุด อุตลุดเลี้ยวมาข้างหน้าฉาน
ให้ไพร่นายนั่งจุกทุกทวาร ตรวจทหารพร้อมพรั่งระวังภัย ฯ
๏ ฝ่ายสุวรรณมาลีไม่มีชื่น สะอึกสะอื้นอ่อนซบสลบไสล
ท้าวทศวงศ์พงศาพวกข้าไท ช่วยแก้ไขพร้อมเพรียงเคียงประคอง
นางรู้สึกนึกถึงสินสมุทรหาย กับน้องชายคืนหลังไปทั้งสอง
เห็นแก้ไขไม่หยุดสุดทำนอง ยิ่งฟูมฟองชลนาโศกาลัย
แล้วทูลท้าวทศวงศ์ผู้ทรงยศ มันสะกดกองทัพให้หลับใหล
แล้วมิหนำซ้ำย่องเข้าห้องใน เอาดาบไว้ริมอาสน์พาดอุรา
อันไพรีมีฤทธิ์ความคิดมาก เห็นแสนยากยิ่งนักจะรักษา
คิดถึงองค์พงศ์กษัตริย์ภัสดา นางโศกากำสรดสลดใจ ฯ
๏ ท้าวทศวงศ์สงสารรำคาญจิต ให้มืดมิดไม่เห็นแผลจะแก้ไข
ตรัสว่าเราก็เห็นจนไม่พ้นภัย จำจะไปวอนว่าท่านอาจารย์
ช่วยแก้ไขให้หายเหมือนหมายพึ่ง หรือจะถึงโรคตัดอติสาร
แล้วพาเหล่าเผ่าพงศ์พระวงศ์วาน มาหาท่านพราหมณ์พร้อมน้อมประณต
แล้วเล่าความยามสองพวกกองทัพ พากันหลับเหมือนกับต้องมนต์สะกด
ประเดี๋ยวนี้พี่น้องสองโอรส หายไปหมดมิได้รู้ทุกผู้คน
เป็นผีสางนางใช้ให้มารับ หรือจะกลับไปด้วยหลงงงฉงน
เขาศักดิ์สิทธิ์ฤทธิ์เดชด้วยเวทมนตร์ จะผ่อนปรนคิดอ่านประการใด ฯ
๏ ฝ่ายทิศาปาโมกข์โลกเชษฐ์ จึงแจ้งเหตุให้พระองค์สิ้นสงสัย
หม่อมฉันเล่าก็เฝ้านั่งระวังภัย คอยแก้ไขผีสางปะรางควาน
แต่เหตุด้วยผีป่านัยน์ตาบอด มันรู้ถอดชีวาจึงกล้าหาญ
ควายธนูสู้มันประจัญบาน บรรลัยลาญแล้วก็กลับเข้าจับควาย
ซึ่งป้องกันมันไม่อยู่เพราะผู้หญิง มันลอบยิงข้ามหลังคาคาถาสลาย
จึงได้เข้าเป่ามนต์พลนิกาย ทั้งไพร่นายนอนหลับพากลับไป
ซึ่งสตรีผีป่าเข้ามาปล้น พระเวทมนตร์ป้องกันมันไม่ไหว
จะตั้งกรรมทำมันให้บรรลัย เล่าก็ได้ดอกแต่ผิดในกิจพราหมณ์
เพราะถือศิลกินบวชสวดสวัสดิ์ ไม่ฆ่าสัตว์ทำบาปที่หยาบหยาม
ได้แต่ทำกำราบเพียงปราบปราม ก็เสียความข้องขัดด้วยสตรี
แม้มีใครไปถึงจึงจะเสก นกการเวกการวิกให้จิกผี
โลหิตออกนอกกายจึงหายดี แต่ไม่มีใครจะไปถึงในวัง
ครั้นจะให้ท่านยายไปขายนก ก็วิตกกลัวจะไม่เหมือนใจหวัง
ขอบพิตรคิดด้วยช่วยกำลัง ได้เข้าวังแล้วก็เห็นจะเป็นการ
แม้กลับหลังครั้งนี้อีผู้หญิง มาตามชิงแล้วจงแปลงแต่งทหาร
มิให้กลับจับจำทำประจาน แต่อย่าผลาญชีวันให้บรรลัย ฯ
๏ กรุงกษัตริย์ตรัสรับคำนับน้อม ต่างยินยอมยินดีจะมีไหน
พอเวลาสายัณห์พรั่นพระทัย ต่างลาไปพลับพลาตรวจตราพล ฯ
๏ ฝ่ายฝรั่งลังกาพวกข้าเฝ้า เที่ยวร้องเป่าชายหญิงชาวสิงหล
ให้รู้รอบขอบประเทศเขตมณฑล ทั้งคนจนเข็ญใจไพร่ผู้ดี
พรุ่งนี้เช้าเจ้านายจะจ่ายทรัพย์ เข้าไปรับหน้าพลับพลาหลังคาสี
ฝ่ายฝรั่งฟังรู้ทั้งบูรี แต่ราตรีมาบ้างที่ทางไกล
พอเช้าตรู่ผู้คนอลหม่าน แน่นพระลานยัดเยียดเบียดไม่ไหว
ยังมาหลามตามทุ่งนอกกรุงไกร ต่างเข้าไปเตรียมรับที่พลับพลา ฯ
๏ ฝ่ายนงเยาว์เสาวคนธ์ยิ่งหม่นหมอง แต่ตรึกตรองตรอมจิตกนิษฐา
คิดบอกป่วยด้วยจะกลับไปพารา แต่รอรั้งหวังจะฆ่าอีลาลี
พอรู้ว่าเจ้านายฝ่ายฝรั่ง จะออกนั่งยังพลับพลาหลังคาสี
จะปลอมแปลงแต่งเป็นชายชาวบุรี ไปดูทีเผื่อจะพาเมียมาตาม
อีฝรั่งครั้งนี้แล้วศีรษะ กูจะฉะเสียให้เด็ดไม่เข็ดขาม
ไหนก็ขาดญาติวงศ์จะสงคราม เราจะข้ามคุ้งไปทำไมมี
ด้วยแรกรุ่นฉุนเฉียวไม่เหนี่ยวหน่วง สั่งข้าหลวงเหล่านางอยู่ข้างที่
เราธุระจะไปดูชาวบูรี อยู่ที่นี่นะอย่าให้ใครสงกา
แล้วทรงดำสำหรับสัประยุทธ์ เหน็บอาวุธไว้กับกายทั้งซ้ายขวา
แล้วลัดแลงแฝงออกนอกพลับพลา แขกกะลาสีตามสองสามคน
ขึ้นพาชีรี่มาทางหน้าป้อม เข้าเดินปลอมชายหญิงชาวสิงหล
ผู้ใดเห็นว่าเป็นชายพวกนายพล เข้าไปจนถึงพลับพลาหน้ากำแพง ฯ
๏ ฝ่ายโฉมยงองค์ละเวงวัณฬาสมร ครั้นแดดอ่อนสุริย์ฉายเมื่อบ่ายแสง
พร้อมบุตรีสี่กษัตริย์ต่างจัดแจง เลียบกำแพงมาประทับที่พลับพลา
ให้ชาวคลังนั่งรายจำหน่ายทรัพย์ ให้คนรับคนละขันด้วยหรรษา
ที่รับได้ไปบ้างที่ยังมา นางวัณฬานั่งดูกับภูวไนย
นางพี่น้องสองสุดากับสะหรี เคียงสามียิ้มย่องสนองไข
ทั้งสี่คู่อยู่ที่บนพลับพลาชัย เอาทองในคลังโกยมาโปรยปราย ฯ
๏ ฝ่ายนงเยาว์เสาวคนธ์วิมลมิ่ง คิดจะยิงเสียให้สมอารมณ์หมาย
พอเห็นหน้าลาลีเคียงพี่ชาย จึงขึ้นสายเกาทัณฑ์ค่อยผันแปร
จะยิงล่อพอให้เมียนั้นเสียโฉม เมื่อผัวโลมจะได้เห็นว่าเป็นแผล
พอลีวันผันเพ่งไปเล็งแล นางหมายแน่ยิงขวับกลับอัสดร
พอถูกปรางนางฝรั่งเข้าดังปุ แก้มทะลุลูกตลอดไม่ถอดถอน
นางร้องกรีดหวีดคว้าสุดสาคร ประคองกรกอดเมียนึกเสียใจ
ดูคนยิงวิ่งหนีเห็นขี่ม้า ใส่เสื้อผ้าสีดำพอจำได้
ยิ่งกริ้วโกรธโดดลงหน้าพลับพลาชัย ทะลวงไล่เลี้ยวลัดสกัดสะแกง
กนิษฐากล้าหาญในการรบ แกล้งหลีกหลบล่อลั่นเกาทัณฑ์แผลง
พระโถมทันกั้นกางไว้กลางแปลง เข้าจับแพลงพลัดพลาดประหลาดจริง
เขม้นดูรู้ว่าน้องร้องอุเหม่ ช่างโว้เว้วิปริตผิดผู้หญิง
เขาว่าไรให้มั่งจึงชังชิง มาลอบยิงแก้มเมียเขาเสียงาม ฯ
๏ กนิษฐาว่าน้อยหรือพี่เจ้า ส่วนว่าเขาละก็เจ็บดังเหน็บหนาม
หรือเห็นเมียว่าหอยพลอยว่าตาม มันหยาบหยามเย่อหยิ่งจึงยิงมัน
ถ้ารักเมียเสียญาติขาดกันหมด อย่าละลดเลยมาฆ่าให้อาสัญ
เชิญเชษฐาพาอีลาลีวัน มาสู้กันกับน้องทั้งสองคน ฯ
๏ สุดสาครค่อนแค้นว่าแสนแง่ เหมือนอีแม่ค้าถั่วหัวถนน
แล้วนึกห่วงเมียรักพะวักพะวน ละลานละลนแล่นกลับมาพลับพลา
เห็นเมียป่วยช่วยประคองแล้วร้องชะ เป็นแผลหวะเห็นไม่หายทั้งซ้ายขวา
นางละเวงเกรงกษัตริย์ภัสดา ให้หามมาปรางค์มาศปราสาทชัย ฯ
๏ นางลีวันรันทดสลดสลบ จนค่ำพลบลุกนั่งยังไม่ไหว
สุดสาครนอนประคองอยู่ห้องใน เอายาใส่แผลแก้มแต้มน้ำมัน
ถึงว่าแผลแลตลอดไม่มอดม้วย เพราะเหตุด้วยได้กินดินถนัน
จึงจานเจือเนื้องอกออกมาทัน ไม่ถึงวันแผลติดสนิทดี ฯ
๏ ฝ่ายโฉมยงองค์ละเวงวัณฬาราช พยาบาทองค์พระมเหสี
มันแกล้งใช้ให้มาฆ่าสุลาลี จะออกตีตอบแทนแก้แค้นมัน
จึงลอบสั่งนางรำภาผกาด้วย วันนี้ช่วยกำกับกองทัพขันธ์
ให้ยันตังทั้งวิรุญกับกุนตัน ไปตั้งกันกองทัพจะกลับไป
แล้วเร่งลากปืนใหญ่ขึ้นใส่ป้อม ยิงค่ายอ้อมเสียให้ยับยกทัพไล่
สกัดสะแกงแทงฟันให้บรรลัย แม้ถอยไปกองซุ่มเร่งรุมรบ
ให้พวกเราตีประดาล้อมหน้าหลัง อย่าให้ตั้งติดแยกแตกตลบ
พรุ่งนี้เช้าเราจะยกทัพสมทบ ออกประจบจับไว้ทั้งไพร่พล ฯ
๏ ฝ่ายสองนางต่างบังคมประนมสนอง จะเกณฑ์กองทัพไว้ไม่ขัดสน
ถึงไพรีมีปีกหลีกไม่พ้น แล้วต่างคนต่างลารีบคลาไคล
เที่ยวลอบสั่งทั้งหลายพวกนายทัพ เป็นความลับเล่าแจ้งแถลงไข
พวกขุนนางต่างยอมเห็นพร้อมใจ ต่างเตรียมไว้พร้อมกันตามสัญญา
พอเย็นย่ำค่ำคลุ้มชอุ่มอับ ต่างยกทัพแยกย้ายตามซ้ายขวา
บ้างโอบหลังตั้งหลีกเป็นปีกกา สกัดหน้าปิดทางที่กลางไพร ฯ
๏ ฝ่ายนงเยาว์เสาวคนธ์อยู่บนตำหนัก แต่น้องรักก็ไม่แจ้งแถลงไข
ด้วยอ่อนศักดิ์หนักเบาไม่เข้าใจ มิให้ใครล่วงรู้ทุกผู้คน
ครั้นพลบค่ำย่ำฆ้องทุกกองทัพ ตรวจกำชับโยธาโกลาหล
ท่านปาโมกข์โลกเชษฐ์ร่ายเวทมนตร์ ช่วยคุ้มพลคุ้มกษัตริย์กำจัดภัย ฯ
๏ ฝ่ายลูกสาวเจ้าลังกาเวลาดึก เห็นข้าศึกสามทัพจะหลับใหล
พอฤกษ์ดีตีฆ้องฆาตกลองชัย ยิงปืนใหญ่เป็นสัญญาเข้าราวี
ทั้งปืนป้อมพร้อมพรั่งยิงพังค่าย หักทำลายชายหญิงออกวิ่งหนี
ทัพฝรั่งตั้งโห่ต้อนโยธี เข้ารุมตีตึงตังประดังปืน ฯ
๏ ฝ่ายพวกพ้องกองทัพออกรับรบ บ้างหลีกหลบลุยแฝกบ้างแตกตื่น
ไม่แลเห็นหนทางด้วยกลางคืน เสียงครึกครื้นตายยับแทบอับจน ฯ
๏ ฝ่ายทิศาปาโมกข์โลกเชษฐ์ ร่ายพระเวทวิทยาเป็นห่าฝน
ให้ถูกตัวทั่วไปทั้งไพร่พล ต่างคงทนแทงฟันไม่บรรลัย
แล้วบังตัวผัวเมียเสียให้หาย อยู่สบายในพลับพลาที่อาศัย
นางเสาวคนธ์เร่งกษัตริย์หัสไชย พ่อรีบไปช่วยรักษาแม่มาลี
แล้วโฉมยงทรงสิงห์หญิงน้อยน้อย ทั้งห้าร้อยเจนจบไม่หลบหนี
ออกรับรองป้องกันประจัญตี เสียงโยธีฮึกโห่เป็นโกลา ฯ
๏ ฝ่ายสุวรรณมาลีเสียทีทัพ ทหารยับแยกย้ายทั้งซ้ายขวา
จูงลูกน้อยสร้อยสุวรรณจันทร์สุดา ไม่รู้ว่าจะไปหนตำบลใด
พวกผู้หญิงวิ่งหลามมาตามเจ้า เรียกขอเฝ้าเหล่าขุนนางไปข้างไหน
พอเหลียวเห็นหน่อกษัตริย์หัสไชย นางดีใจจูงกรแล้ววอนวิง
พ่อช่วยแม่แก้ไขพอให้รอด แล้วอย่าทอดทิ้งน้องทั้งสองหญิง
หน่อกษัตริย์หัสไชยชอบใจจริง ฉันไม่ทิ้งมารดาอย่าปรารมภ์
แล้วเชิญองค์ทรงรถขับลดเลี้ยว ให้คนเที่ยวต้อนเหล่านางสาวสนม
พวกมดหมอขอเฝ้าทั้งเจ้ากรม บ้างหกล้มหลงทางเพราะกลางคืน
พวกผู้หญิงวิ่งตลบเข้ารบพุ่ง เหลือผ้านุ่งมาไม่ถึงสักครึ่งผืน
ตกประหม่าข้าศึกเสียงครึกครื้น ด้วยเสียงปืนทัพฝรั่งดังระดม ฯ
๏ ท้าวทศวงศ์องค์อรุณกับอัคเรศ ทั้งแก้วเกษราสุรางค์นางสนม
อุตลุดยุดเหนี่ยวกันเกลียวกลม ทั้งสี่กรมเข้าประสมเป็นกรมเดียว
ข้างหน้าออกนอกประตูคนอยู่หลัง ช่วยกันรั้งยุดยื้อล้วนมือเหนียว
จอมกษัตริย์ขัดเขมรออกเป็นเกลียว หม่อมห้ามเหนี่ยวเหนื่อยหอบบอบเต็มที ฯ
๏ ฝ่ายเจ้าพราหมณ์สามนายออกรายรบ เห็นไพร่หลบหลีกหายพลัดพรายหนี
จึงรีบจัดรถาเทียมพาชี มาเทียบที่ริมพลับพลาหน้าพระลาน
แล้วเชิญท้าวทศวงศ์ขึ้นทรงรถ อยู่พร้อมหมดมเหสีบุตรีหลาน
ข้าหลวงเหล่าเจ้าจอมหม่อมอยู่งาน ปีนทะยานยุดตะกายขึ้นท้ายรถ
บ้างพลัดตกหกคะเมนโคลนเลนเปื้อน นางตัวเพื่อนพยุงย่องค่อยจ้องจด
ทั้งสามพราหมณ์ตามระวังหน้าหลังรถ อ้อมบรรพตผ่านมาข้างป่ารัง
พบกุนตันกั้นกางออกขวางทัพ ต้องถอยกลับทวนทบตลบหลัง
พวกห้ามแหนแสนสาวนางชาววัง เหลือกำลังล้มลุกลงคลุกคลาน
เห็นแสงไฟไหม้ขอนเขาทอนสุม เสือตะคุ่มคิดว่าโยธาหาญ
ที่ขลาดเลาทิ้งดาบลงกราบกราน โปรดประทานชีวาอย่าฆ่าตี
เสือโฮกปีบถีบไปจิตใจหาย ลงนอนหงายแน่นิ่งไม่วิ่งหนี
ฝรั่งกลุ้มรุมรุกไล่คลุกคลี แต่ถ้อยทีแทงฟันไม่บรรลัย
ด้วยถูกฝนทนคงทรงชีวิต ที่เหนื่อยจิตเจ็บจุกลุกไม่ไหว
ที่กลัวตายชายหญิงวิ่งร่ำไป ฝรั่งไล่รบพุ่งจนรุ่งราง ฯ
๏ ฝ่ายลูกสาวเจ้าลังกาอยู่หน้าป้อม เตรียมไพร่พร้อมพอเวลาฟ้าสางสาง
จึงคุมพลคนละกองกับสองนาง ยกแยกทางซ้ายขวาเข้าราวี
นางรำภาหาพวกรมจักร จะหาญหักเกษรามารศรี
นางวัณฬาหาสุวรรณมาลี เที่ยวไล่ตีไพร่พลอยู่จนเช้า
นางยุพามาที่เสาวคนธ์อยู่ จะเชือดหูแก้แค้นแทนน้องสาว
เห็นรบรับขับเคี่ยวเสียงเกรียวกราว สั่งให้บ่าวโบกธงเข้ายงยุทธ์
สมทบทัพขับฝรั่งจะพังค่าย ขึ้นปีนป่ายตีต่อไม่รอหยุด
บ้างพุ่งซัดศัสตราแกว่งอาวุธ อุตลุดจับกุมตะลุมบอน ฯ
๏ ฝ่ายโยธาการะเวกทั้งเล็กน้อย ไม่หนีถอยรบรับสลับสลอน
อันฝูงคนฝนช่วยไม่ม้วยมรณ์ ครั้นแดดอ่อนฤทธิ์หายค่อยคลายมนต์
กลับแทงฟันกันตายทั้งนายไพร่ ทะลวงไล่รบรับกันสับสน
ส่วนโฉมยงนงเยาว์เสาวคนธ์ เห็นนายพลนางผกาออกมารบ
จึงขับสิงห์วิ่งออกมานอกค่าย ห้ามไพร่นายน้อยใหญ่ให้สงบ
แล้วร้องว่านางผกาเรามาพบ ให้พลรบกันทำไมมิใช่การ
แต่ฆ่าฟันกันตายเสียหลายหมื่น มิได้คืนเคหาน่าสงสาร
มาเราสองลองกันประจัญบาน ให้ทหารเห็นทั่วไม่กลัวกัน
เราเด็กกว่าอายุก็ยังอ่อน เจ้าฝึกสอนมาแต่ผัวตัวขยัน
เร่งออกมาราวีทั้งมีครรภ์ ไม่ควรพรั่นดอกอุส่าห์เอาผ้ารัด
นางยุพาผกาไม่กล้าศึก ด้วยได้ฝึกไว้แต่กลปรนนิบัติ
ที่ยิงแย้งแทงฟันไม่สันทัด แต่ปากจัดร้องชะเจ้าเสาวคนธ์
สุดสาครหล่อนไม่เลี้ยงเพราะเปรี้ยงแปร้น มาคุมแค้นลอบยิงชาวสิงหล
ใช่เผ่าพงศ์วงศ์วานใช่การตน พลอยคุมพลมารบสมทบทัพ
วานซืนนี้พี่ผัวพบตัวแล้ว หรือน้องแก้วติดใจยังไม่กลับ
พระธิดาการะเวกภิเษกลับ จะรบรับเรานั้นไม่พรั่นใจ
แต่ตัวเจ้าเล่าเดี๋ยวนี้อยู่ที่ล้อม ยังไม่ยอมแพ้หรือถือไฉน
ถึงตัวดีมีปีกจะหลีกไป ก็เห็นไม่พ้นมาวันทาเรา ฯ
๏ นางเสาวคนธ์ฟังคำยิ่งซ้ำแค้น จึงว่าแสนส่ำสามใส่ความเขา
พระเชษฐามาเป็นผัวเพราะมัวเมา มึงอีเจ้ากลเสน่ห์ทำเล่ห์ลวง
พระพี่มาหากูอยู่ที่ทัพ มึงพากลับเข้าไปขังไว้วังหลวง
จึงยิงน้องของมึงแถมให้แก้มกลวง เพราะล่อลวงเชษฐาสุดสาคร
น้อยหรือชะพระธิดาอีกาฝาก แต่ต้นรากก้านกิ่งอยู่สิงขร
มิคิดที่มีครรภ์จะบั่นรอน สมที่ค่อนว่าเขาเพราะเมามัว ฯ
๏ นางยุพาว่าน้อยหรือช้อยชด นางงอนรถรักพี่ไม่มีผัว
เขาหุ้มห้อมล้อมไว้ยังไม่กลัว จะจับตัวทารกรรมให้หนำใจ
จึงร้องว่าฝรั่งสิ้นทั้งทัพ ถ้าใครจับตัวศัตรูให้กูได้
จะแต่งตั้งดังมหาเสนาใน แล้วจะให้ทองคำพันตำลึง ฯ
๏ ฝ่ายฝรั่งทั้งหลายพวกนายไพร่ ประมาทใจว่าเป็นหญิงต่างวิ่งถึง
เข้าจับกุมกลุ้มกลมพลาดล้มตึง สิงห์ทะลึ่งไล่กัดทั้งฟัดยี
เขย่งตบขบเขี้ยวลดเลี้ยวไล่ ทั้งนายไพร่กลาดกลิ้งบ้างวิ่งหนี
นางขยับขับสิงโตไล่โยธี เที่ยวต้อนตีแตกพลัดกระจัดกระจาย ฯ
๏ ฝ่ายยุพาผกายืนม้ามุ่ง เห็นรบพุ่งขึ้นคันเกาทัณฑ์หมาย
ฝ่ายนงเยาว์เสาวคนธ์คอยชม้าย พอลั่นสายเสียงขวับนางรับทัน
ถึงสามทีมิถูกรับลูกได้ ด้วยว่องไวไสสิงห์วิ่งถลัน
จะฆ่าเสียเมียพี่ทั้งมีครรภ์ เข้าตีรันนางผกาตกพาชี
พอย่องตอดลอดลัดสกัดจับ จะฟันสับสักเท่าไรมันไม่หนี
แทงทะลุปรุยับแล้วกลับดี รู้ว่าผีตาบอดถอดเกาทัณฑ์
นางยิงถูกลูกตาถึงห้าดอก มันชักออกหักทิ้งวิ่งถลัน
สิงโตตบขบขย้ำนางซ้ำฟัน ดิ้นยันยันประเดี๋ยวหนึ่งลุกตึงตัง ฯ
๏ นางยุพาผกาขึ้นม้าได้ ขับแต่ไพร่พรั่งพร้อมเข้าล้อมหลัง
นางเสาวคนธ์รนร้อนอ่อนกำลัง พวกฝรั่งไล่รุกเข้าคลุกคลี
คิดจะฆ่าตาบอดให้มอดม้วย ไม่รบด้วยแกล้งผละสละหนี
กลับเข้าค่ายให้ทหารออกต้านตี นางไปที่โลกเชษฐ์แจ้งเหตุการณ์
อ้ายผีป่าตาบอดดอดมาด้วย ฆ่าไม่ม้วยมรณามันกล้าหาญ
ขอความคิดวิทยาคุณอาจารย์ ให้หลานผลาญตาบอดให้วอดวาย ฯ
๏ ฝ่ายปาโมกข์โลกเชษฐ์แจ้งเหตุสิ้น เสกสายสิญจน์สามเกลียวลงเรียวหวาย
ส่งให้นางพลางให้มนต์กลอุบาย อย่าให้ตายแต่พอหลาบทำปราบปราม ฯ
๏ นางคำนับรับหวายกับสายเชือก วิ่งเสลือกสลนมาหน้าสนาม
ขึ้นทรงสิงห์วิ่งตรงออกสงคราม ทหารตามตีฝรั่งไม่รั้งรอ ฯ
๏ ย่องตอดเห็นเผ่นมาเงื้อพร้าโต้ ฟันสิงโตผิดตัวมันหัวร่อ
นางชักด้ายสายสิญจน์ไปสวมคอ มันกลัวงอยอบยุบลงฟุบตัว
นางได้ทีตีซ้ำด้วยลำหวาย มันดิ้นหงายใจริกริกเข้าจิกหัว
ไปผูกไว้ในค่ายเหมือนควายวัว ย่องตอดกลัวนอนนิ่งไม่ติงกาย
นางขับไพร่ไล่ฆ่าพวกฝรั่ง ก็แตกพังหลบลี้วิ่งหนีหาย
ทหารนางต่างสกัดไล่พลัดพราย ทิ่มแทงตายตีล้มลงซมซาน ฯ
๏ นางยุพาผกาขับม้าหนี ด้วยเสียทีเสียย่องตอดยอดทหาร
ทั้งสามทัพยับย่นไม่ทนทาน เที่ยววิ่งพล่านพลัดพรายกระจายกัน
นางยุพามาพบพวกนายทัพ ต่างรอรับพวกพหลพลขันธ์
ประชุมได้ไพร่นายเป็นหลายพัน สมทบกันตามลูกสาวเจ้าลังกา ฯ
๏ ฝ่ายนงเยาว์เสาวคนธ์ขับพลไล่ เก็บของได้ดาษดื่นดาบปืนผา
เที่ยวตามน้องสองทัพที่อัปรา ไม่รู้ว่าจะไปหนตำบลใด ฯ
๏ ฝ่ายสามพราหมณ์ตามท้าวรมจักร ทหารชักรถทรงเที่ยวหลงใหล
ทั้งสาวสรรค์กัลยาเสนาใน ข้าศึกไล่รบพุ่งจนรุ่งราง
พอพบกับทัพรำภาพวกฝรั่ง มาคับคั่งคอยสกัดก็ขัดขวาง
ต้องรอรั้งยั้งหยุดอยู่หว่างกลาง สมนึกนางรำภาจะฆ่าฟัน
ขับฝรั่งพรั่งพร้อมเข้าล้อมรบ ตีตลบหุ้มทัพถึงขับขัน
บ้างยิงแย้งแทงรุกไล่บุกบัน เสียงครื้นครั่นคราวทัพเข้าอับจน
พวกขอเฝ้าสาวสนมชาวรมจักร ละล่ำละลักวิ่งเสือกเสลือกสลน
พราหมณ์วิเชียรโมราเจ้าสานน ทั้งสามคนขับม้าเข้าราวี ฯ
๏ เจ้าโมราฝ่าฟันถลันไล่ ทั้งนายไพร่พลัดพรายกระจายหนี
วิเชียรนั้นลั่นธนูสู้ไพรี ยิงไปทีละเจ็ดลูกถูกไพร่พล
บ้างล้มตายหลายร้อยก็ถอยหลัง ไล่ฝรั่งแตกยับวิ่งสับสน
ที่ทัพขวางข้างขวาเจ้าสานน ไล่ฟันพลพวกผรั่งแตกพังไป
แต่รำภาสะหรีไม่หนีหน้า ต้อนโยธาหุ้มห้อมเข้าล้อมไล่
ต่างยิงแย้งแทงฟันกันบรรลัย ฝรั่งได้ทีโห่ก้องโกลา
พอยันตังทั้งทหารมาพานพบ ช่วยรุกรบรำขวานเข้าด้านขวา
ฟันขอเฝ้าสาวใช้ไล่โยธา รุกเข้ามาริมรถท้าวทศวงศ์ ฯ
๏ จอมกษัตริย์กวัดแกว่งพระแสงสู้ ตะโกนกู่พราหมณ์พี่เลี้ยงจนเสียงหลง
เห็นศึกชิดติดตามพาสามองค์ กระโดดลงจากรถเลี้ยวลดไป
เจ้าพราหมณ์กลับขับม้ารบฝรั่ง ยิงยันตังตกม้าเลือดตาไหล
พวกขอเฝ้าเข้าไปฟันจนบรรลัย บ้างแทงไพร่พลตายลงก่ายกัน ฯ
๏ นางรำภากล้าหาญถือขวานพ่อ ไม่รั้งรอเร็วรวดรบหวดหัน
ใครกีดขวางเหวี่ยงขวานประหารฟัน วิเชียรกั้นหน้านางนางขว้างคลี
เจ้าพราหมณ์หลบรบรุมเข้ากลุ้มกลัด แกล้งสกัดกั้นหน้ารำภาสะหรี
แต่มีครรภ์ครั้นว่าจะฆ่าตี พระหน่อที่ครรภ์นางจะวางวาย
จึงแหวกทางพลางว่านางฝรั่ง เดิมเราหวังว่าจะห้ามสงครามหาย
ให้สัญญาว่าเป็นมิตรไม่คิดร้าย มาปล้นค่ายฆ่าฟันด้วยอันใด ฯ
๏ นางรำภาว่าใครก่อข้าขอถาม ทั้งสามพราหมณ์ไม่รู้ไปอยู่ไหน
เมื่อวานนี้พี่สาวเจ้าหัสไชย ปลอมเข้าไปหน้าพลับพลายิงลาลี
ว่าไม่รู้อุแหม่มาแก้เก้อ เพราะพวกเธอทิ้งสัตย์ไม่บัดสี
จึงแก้แค้นแทนบ้างเหมือนอย่างนี้ ยังจะมีหน้าว่าน่าไม่อาย ฯ
๏ เจ้าพราหมณ์แจ้งแกล้งว่าฉาหม่อมห้าม ดูรูปงามปากกล้าประดาหาย
หากธิดาการะเวกทำวุ่นวาย จะคิดร้ายรบแก้ก็แต่กัน
ตัวเป็นแต่พระสนมเมืองรมจักร ควรจะรักอย่างเป็นข้านราสรรค์
บัดนี้ท้าวทศวงศ์พาพงศ์พันธุ์ มาพร้อมกันอัคเรศเกศสตรี
จงไปเฝ้าเคารพอภิวาท จะพ้นราชอาชญารำภาสะหรี
แม้มิฟังยังจะดื้อเฝ้าถือดี โทษจะมีไม่แคล้วแล้วนะนาง ฯ
๏ นางรำภาสามารถชาติทหาร จึงว่าขานอะไรปากมาถากถาง
ถึงชาตินี้ชีวิตจะวายวาง ไม่ไหว้นางอัคเรศเกษรา
พระผ่านเกล้าเข้ารีตเป็นสิทธิ์ขาด ไม่นับญาตินับวงศ์เผ่าพงศา
เป็นอุปราชราชวังอยู่ลังกา เราได้ว่าที่พระเสาวนีย์
แต่บรรดามาอยู่ก็รู้หมด เรามียศอย่างพระมเหสี
ตัวเป็นข้าฝ่าละอองรองธุลี ชอบภักดีด้วยเราเป็นเจ้านาย
จะได้เกียรติเจียดกระบี่ได้มียศ ให้ปรากฏกตัญญูไม่รู้หาย
อันข้าครอกนอกเจ้าบ่าวนอกนาย หลังจะลายเลอะล้นถึงต้นคอ
แม้เจ้าพราหมณ์สามส่งองค์กษัตริย์ ให้เราตัดชาติเชื้อไม่เหลือหลอ
จะทูลให้เป็นเจ้าทั้งเหล่ากอ ไม่ลวงล่อเลยนะเจ้าเราจะเลี้ยง ฯ
๏ สามพราหมณ์ฟังคั่งแค้นแทนกษัตริย์ ต่างเคืองขัดคิดเกลียดขี้เกียจเถียง
จึงว่ากูผู้เป็นพระพี่เลี้ยง มีชื่อเสียงศักดินาเจ้าธานี
อันพวกเจ้าเหลาวิเรนเป็นเดนห้าม มาหยาบหยามต่อกษัตริย์น่าบัดสี
ถึงโปรดเจ้าเล่าก็เลี้ยงแต่เพียงนี้ ไม่ทันที่จะถึงหม่อมจอมมารดา
จะให้เกียรติเจียดกระบี่เป็นที่พึ่ง ไม่คิดถึงต่างชาติวาสนา
มาจาบจ้วงล่วงพระราชอาชญา โทษถึงผ่าปากเจ้านางชาววัง
แม่สี่องค์ทรงทราบว่าหยาบหยาม นางหม่อมห้ามเห็นจะยับไม่กลับหลัง
แล้วยิงขาม้าคะมำด้วยกำลัง นางพลาดพลั้งพลัดหงายตะกายอาน
เผ่นขึ้นนั่งหลังม้าไม่กล้ารบ ควบสินธพเที่ยวหาโยธาหาญ
ประชุมได้ไพร่นายเหลือวายปราณ มาประมาณสามพันตามวัณฬา ฯ
๏ ฝ่ายเจ้าพราหมณ์สามนายหญิงชายพร้อม ไม่เห็นจอมกษัตริย์สกัดหา
พอเห็นออกนอกชะง่อนก้อนศิลา ต่างเชิญมาทรงนั่งบัลลังก์รถ
กรุงกษัตริย์ตรัสกับสามพราหมณ์พี่เลี้ยง เดี๋ยวนี้เล่าเราเสบียงลำเลียงหมด
จะรบรับขับเคี่ยวเที่ยวเลี้ยวลด จะมิอดหรือจะไปข้างไหนดี ฯ
๏ เจ้าพราหมณ์ฟังบังคมประนมสนอง จำจะต้องตามพระมเหสี
กับกษัตริย์หัสไชยรบไพรี จะเสียทีหรือพระองค์ยังสงคราม
แม้พบปะจะสมทบช่วยรบรับ โยธาทัพพร้อมพรั่งกันทั้งสาม
เดี๋ยวนี้น้อยถอยกลับแม่ทัพตาม จะเสียความขัดขวางทุกอย่างไป ฯ
๏ จอมกษัตริย์ตรัสตอบว่าชอบอยู่ เจ้าเคยรู้ผันแปรช่วยแก้ไข
เจ้าพราหมณ์รับนับพลสกลไกร ทั้งนายไพร่ติดตามสักสามพัน
รถฝรั่งลังกามันล่าทิ้ง เก็บให้หญิงขี่ไปในไพรสัณฑ์
ทั้งเครื่องมือถือรบมีครบครัน แล้วพากันตัดทางมากลางไพร ฯ
๏ ฝ่ายสุวรรณมาลีหนีฝรั่ง ไปกับทั้งหญิงชายพร้อมนายไพร่
แต่สองยามตามกษัตริย์หัสไชย หมายจะไปยังเขาเจ้าประจัญ
ทัพฝรั่งตั้งซุ่มออกรุมรบ ต้องหลีกหลบเลี้ยวเวียนเที่ยวเหียนหัน
ออกทางใหญ่ไปพอแจ้งแสงตะวัน พบวิรุญกุนตันออกกั้นทาง
จะหักไปเห็นไม่พ้นด้วยคนน้อย จะกลับถอยหลีกลัดก็ขัดขวาง
พอเหลียวหลังยังเห็นคนข้างต้นทาง กองทัพนางวัณฬาออกมาตาม
สกัดล้อมพร้อมพรั่งทั้งหลังหน้า ดาษดาดูคนออกล้นหลาม
สุมาลีมีทหารต้านสงคราม ประมาณสามสี่ร้อยน้อยเท่านั้น
นางตกใจไหวหวาดจะขาดจิต เห็นสุดคิดเขาจะฆ่าให้อาสัญ
กอดธิดานารีร่วมชีวัน สะอื้นอั้นอารมณ์ไม่สมประดี
พระหัสไชยใจกล้าว่าพระแม่ อย่าท้อแท้ทุกข์ทำไมฉันไม่หนี
ถึงโกฏิแสนแน่นมามากกว่านี้ ลูกจะตีตัดออกไปคงไม่ฟัง
พวกขอเฝ้าชาววังสิ้นทั้งหมด คอยรุนรถตามทางไปข้างหลัง
พระมาตุรงค์ทรงพระแสงแกว่งระวัง สองน้องนั่งบังฝารถาไว้
สร้อยสุวรรณจันทร์สุดาว่าพระพี่ แล้วอย่าหนีน้องรักให้ตักษัย
สุมาลีศรีสวัสดิ์กอดหัสไชย ไม่เห็นใครแล้วพ่อคุณกรุณา
ถึงแม่นี้มิรอดจะมอดม้วย พ่อจงช่วยชีวิตกนิษฐา
แม่ยกให้ไว้เป็นน้องทั้งสองรา เจ้าเมตตาน้องหญิงอย่าทิ้งกัน ฯ
๏ พอเสียงโห่โยธาเข้ามาใกล้ พระหัสไชยลุกขยับจับพระขรรค์
สร้อยสุวรรณจันทร์สุดาต่างจาบัลย์ นางช่วยกันยุดคร่าเชษฐาไว้
พวกฝรั่งลังกามันมากลุ้ม จะจับกุมแล้วพระพี่นี้ไปไหน
อยู่ช่วยฉันมารดาเถิดอย่าไป พระหัสไชยจูบกอดพูดพลอดพลาง
พี่จะไปไล่ฆ่าอ้ายฝรั่ง คอยระวังพระน้องอย่าหมองหมาง
แล้วลูบหลังสั่งน้องทั้งสองนาง พอนางวางหัตถาออกหน้ารถ
ขึ้นทรงสิงห์วิ่งเข้ารับทัพฝรั่ง ต่างแตกพังล้มตายกระจายหมด
ใครกีดกั้นฟันฉะไม่ละลด แล้วนำรถฝ่าฟันป้องกันไป ฯ
๏ ฝ่ายวิรุณกุนตันมันแรงร้าย ทั้งสองนายเห็นทหารต้านไม่ไหว
ต่างหัวร่อหน่อกษัตริย์หัสไชย เหมือนลูกไก่กระจ้อยร่อยมาพลอยตาย
ต่างชัยม้าถาโถมเข้าโจมจับ กุมารรับรุกไล่มิได้ขยาย
ฟาดพระขรรค์ฟันต้องทั้งสองนาย คอขาดตายตกม้าไล่ฆ่าพล
พวกฝรั่งทั้งทัพไม่รับรบ ต่างหลีกหลบล้มเสือกเสลือกสลน
นางละเวงเกรงจะไปเสียได้พ้น เร่งต้อนพลหุ้มห้อมเข้าล้อมรถ
พระป้องกันฟันฟาดตายดาษดื่น อ้ายพวกอื่นเข้ามาอีกไม่หลีกหลบ
พอยุพารำภายกมาพบ เข้าช่วยรบรุมสกัดจับหัสไชย
พระควบสิงห์วิ่งระวังหน้าหลังรถ จนแรงหมดฆ่าฟันมันไม่ไหว
ทั้งสามนางขับพลสกลไกร เข้ารุกไล่จับกุมตะลุมบอน
เดชะแก้วแคล้วคลาดก็พลาดเพลี่ยง พระเหนื่อยเพียงสิ้นแรงหยุดแผลงศร
บ้างถูกเหน็บเจ็บป่วยบ้างม้วยมรณ์ มันยิ่งต้อนกันเข้าไปมิได้ลด
พวกตามเจ้าชาวผลึกไม่นึกรอด หมายม้วยมอดมิได้คิดชีวิตหมด
ทั้งชายหญิงวิ่งวุ่นเข้ารุนรถ เที่ยวเลี้ยวลดหลบพัลวันมา ฯ
๏ หน่อกษัตริย์หัสไชยมิได้หยุด ออกรบรุดแหลกทางไปข้างขวา
เห็นรถทรงองค์ลูกสาวเจ้าลังกา จึงร้องว่าถากถางนางละเวง
เป็นผู้หญิงชิงเอาผัวเขาไว้ แล้วยังไม่สาสมทำข่มเหง
เขารู้เช่นเห็นชั่วไม่กลัวเกรง มารำเพลงอาวุธยุทธนา ฯ
๏ ฝ่ายโฉมยงองค์ละเวงนึกเกรงฤทธิ์ ลูกนิดนิดมันแข็งแรงหนักหนา
แต่ยังเล็กเด็กอ่อนหย่อนปัญญา จะพูดจาล่อลวงดูท่วงที
แล้วห้ามไพร่ให้สงบที่รบสู้ หมายจะดูเหลี่ยมเล่ห์มเหสี
จึงเสแสร้งแกล้งว่านางมาลี ใช้ให้พี่สาวเจ้าถือเกาทัณฑ์
ไปยิงแก้มนางลาลีหน้าที่นั่ง จึงตรัสสั่งให้มาฆ่าให้อาสัญ
แต่ตัวเจ้าเขายุจึงดุดัน จะผ่อนผันปล่อยไปมิให้ตาย
นางมาลีนี้ข้าแค้นแสนสาหัส จะต้องตัดเอาศีรษะไปถวาย
แม้จะใคร่ได้รอดไม่วอดวาย อย่าอับอายออกมาพูดจากัน
แม้งอนง้อขอโทษไม่โกรธขึ้ง นั่นแหละจึงจะไม่ฆ่าให้อาสัญ
แม้มิฟังตั้งปึ่งทำดึงดัน จะห้ำหั่นเสียให้แร้งมันแย่งกิน
จะบอกเจ้าเราให้ทัพไปนับแสน ตั้งปิดแดนด่านท่าชลาสินธุ์
อย่าว่าแต่แม้เพียงจะเดินดิน จึงจะบินขึ้นบนไม่พ้นมือ
ด้วยมากมายหลายทัพจะจับเจ้า น้อยกว่าเรานี้จะสู้ได้อยู่หรือ
จงตรองตรึกไปปรึกษาพูดหารือ แม้นดึงดื้อก็จะได้ไล่ตะลุย ฯ
๏ พระหัสไชยไม่กลัวกลับหัวเราะ ตบมือเยาะยิ้มย่องร้องกุ๋ยกุ๋ย
เมื่อตะกี้นี้ตายกระจายกระจุย จนต้องลุยเลือดนองดังท้องธาร
ถึงโกฏิแสนแน่นมากเหมือนหยากเยื่อ เราเหมือนเชื้อเพลิงน้อยจะคอยผลาญ
ไม่ย่อท้อง้องอนมารอนราญ อย่ามาพาลผิดที่นะพี่ยา
เมื่อพี่นางครางครวญประชวรไข้ หมอยังไปพร้อมพรักอยู่รักษา
พาโลเขาเอาแต่โทษมาโจทนา ไม่ปรารถนาง้องอนจะรอนราญ ฯ
๏ ฝ่ายสุวรรณมาลีอยู่ที่รถ ได้ยินหมดเมื่อวัณฬาร้องว่าขาน
จะฆ่าเราเอาโทษตัวโปรดปราน มันคิดอ่านแอบรับสั่งสิ้นทั้งนั้น
จะตายร้ายตายดีก็ทีหนึ่ง โมโหหึงหมกมุ่นให้หุนหัน
จึงแต่งองค์นงเยาว์ถือเกาทัณฑ์ ออกยืนยันหน้ารถไม่ลดละ
แล้วร้องว่าฉาฉีอีฝรั่ง ขึ้นเสียงดังข่มขู่กูหรือหวะ
มาแต่งกลปล้นคายหมายชนะ เห็นว่าพระหลงใหลแล้วได้ที
จะให้กูผู้ใหญ่นี้ไหว้กราบ ช่างหยามหยาบยิ่งกว่ากะลาสี
ถึงชั้นไพร่ในจังหวัดปถพี ก็ไม่มีผู้ใดไหว้เมียน้อย
มึงอย่าพักยักยอกตะคอกขู่ ถึงม้วยสู้ไว้ยศไม่ถดถอย
เห็นเอนเอียงเพลี่ยงพล้ำมาซ้ำพลอย อีกิ่งก้อยก็จะแปรเป็นแม่มือ
แม้มึงกล้าก็มาสู้ตามผู้หญิง พลางหมายยิงเยื้องคันเกาทัณฑ์ถือ
เห็นแม่นมั่นสันทัดเคยหัดปรือ ขยับมือขวาขวับดูฉับไว
ถูกที่ถันวัณฬาผวาหวีด แต่เกราะกีดขีดเชือดพอเลือดไหล
ครั้นยิงซ้ำนางรำภาฉวยคว้าไว้ ละเวงได้สมประดีดูที่ทรวง
เอาเสื้อปิดมิดแผลร้องแก้หน้า กูจะผ่าอกเสียอีเมียหลวง
แล้วเร่งทัพขับไล่ไพร่ทั้งปวง ลุยทะลวงไล่ล้างให้วางวาย
ฝรั่งล้อมห้อมหุ้มเข้ารุมรบ ตีตลบเลี้ยวไล่ไพร่ทั้งหลาย
พระหัสไชยไล่ฆ่าโยธาตาย แตกข้างซ้ายฝ่ายขวาเข้าราวี
ต้องรบเวียนเหียนหันป้องกันรถ เที่ยวเลี้ยวลดลัดป่าจะล่าหนี
ฝรั่งรุมกลุ้มกลัดสกัดตี เสียงโยธีครื้นครั่นสนั่นดัง ฯ
๏ ทั้งสามพราหมณ์ตามเที่ยวเลี้ยวตลบ มาพบรบชุลมุนช่วยหนุนหลัง
ให้โยธีตีรุดไม่หยุดยั้ง ฟันฝรั่งล้มตายลงก่ายกัน
พระหัสไชยได้ทีตีกระทบ ฝรั่งรบรวนเรระเหหัน
ทั้งสามนางต่างขับทัพประจัญ เสียงครื้นครั่นครึ้มฟ้าสุธาธาร
พอนงเยาว์เสาวคนธ์คุมพลรบ มาพานพบพวกฝรั่งไล่สังหาร
ต่างตื่นแตกแยกย้ายกลัววายปราณ อลหม่านเมื่อเวลาจะสายัณห์ ฯ
๏ นางละเวงเกรงกลับขับสินธพ เลี้ยวตลบหลีกไปในไพรสัณฑ์
นางรำภากล้าหาญแกว่งขวานฟัน คอยป้องกันลูกสาวเจ้าลังกา ฯ
๏ ฝ่ายข้าเฝ้าชาวผลึกรมจักร กลับฮึกฮักโห่ลั่นด้วยหรรษา
ทั้งสามทัพขับกันไล่ฟันมา พลลังกาแตกพลัดกระจัดกระจาย ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ