ตอนที่ ๑๕ สินสมุทรโดยสารเรือโจรสุหรั่ง

๏ จะกล่าวถึงสินสมุทรบุตรนางยักษ์ กำลังรักพระธิดามารศรี
เมื่อเรือแตกแบกมาในวารี ไม่มีที่หยุดหย่อนจนอ่อนแรง
ถึงเจ็ดวันเจ็ดคืนแต่คลื่นซัด นางกษัตริย์โศกศัลย์เฝ้ากันแสง
เห็นมัจฉาปลาร้ายขึ้นว่ายแซง ยิ่งแสยงสยองเกล้าเยาวมาลย์
จึงว่าพ่อสินสมุทรสุดสวาท เหนื่อยอนาถนักหนาน่าสงสาร
จงวางแม่เสียในวนชลธาร เร่งคิดอ่านตามติดพระบิดร ฯ
๏ สินสมุทรสุดเหนื่อยด้วยเมื่อยล้า สู้อุตส่าห์ทรงกายสายสมร
แล้วตอบคำร่ำว่าด้วยอาวรณ์ แม่ม้วยมรณ์ก็จะม้วยเสียด้วยกัน
ลูกหมายเหมือนชนนีเป็นที่ยิ่ง ไม่ทอดทิ้งมารดาให้อาสัญ
อันกำลังยังไปได้อีกวัน อย่าทรงกันแสงนักจงหักใจ ฯ
๏ นางฟังคำซ้ำสวาทราชโอรส ยิ่งกำสรดสุดจะขืนสะอื้นไห้
กุมาราพาว่ายคล้ายคล้ายไป เห็นเกาะใหญ่ยินดีค่อยมีแรง
อุตส่าห์รีบถีบเข้าถึงเขาหลวง พอลับดวงสุริเยนทร์ไม่เห็นแสง
หน่อนรินทร์สินสมุทรก็สุดแรง ถึงที่แห้งเสือกซบสลบไป ฯ
๏ ฝ่ายสุวรรณมาลีศรีสวัสดิ์ เห็นหน่อกษัตริย์นิ่งอนาถไม่หวาดไหว
เข้ากอดแอบแนบอกด้วยตกใจ ร่ำพิไรเรียกพลางในกลางคืน
สินสมุทรสุดสวาทของแม่เอ๋ย ไฉนเลยลูกยาไม่ฝ่าฝืน
แม่ปลุกเจ้าเท่าไรก็ไม่ฟื้น พลางสะอื้นอ่อนองค์ทรงโศกี
จะหาไหนได้เหมือนพ่อเพื่อนยาก สู้ลำบากแบกพามารดาหนี
ไม่ม้วยมอดรอดมาในวารี จนถึงที่หยุดแล้วเจียวแก้วตา
ควรหรือพ่อหน่อนาถมาขาดจิต สิ้นชีวิตสิ้นชาติวาสนา
ให้แม่อยู่ผู้เดียวเปลี่ยววิญญาณ์ อนิจจาเจ้าไม่สั่งแม่มั่งเลย
มาทอดกายวายวางอยู่กลางหาด ไม่มีอาสน์อุ่นอ่อนที่นอนเขนย
ระคายคันขวัญใจเจ้าไม่เคย พ่อคุณเอ๋ยอนิจจาน่าปรานี
นางสอดกรช้อนเกศขึ้นประทับ ดังจะดับดวงชีวามารศรี
แสนวิโยคโศกศัลย์พันทวี วิสัญญีภาพนิ่งไม่ติงกาย
ยะเยือกเย็นเส้นหญ้ารุกขาเขา สงัดเหงาเงียบเสียงสำเนียงหาย
จันทร์กระจ่างพ่างพื้นโพยมพราย เรไรรายหริ่งร้องทั้งลองไน
แจ้วแจ้วจักจั่นสนั่นเสนาะ ดังบัณเฑาะว์ดนตรีปี่ไฉน
น้ำค้างพรมลมพาสุมาลัย เย็นระรื่นชื่นใจพระเทพิน
นางฟื้นองค์ทรงกายกระหายหิว ให้หวิวหวิวหวาดไหวฤทัยถวิล
ภาณุมาศผาดเยี่ยมเหลี่ยมเมฆิน นางปลุกสินสมุทรไม่ไหวกายา
ดูลูกรักพักตร์เผือดเลือดสลด แสนรันทดแทบชีวังจะสังขาร์
ด้วยความรักลูกเลี้ยงเพียงชีวา เฝ้าโศกากอดไว้ไม่ไกลกัน
ประหลาดเหลือเนื้อพ่อยังอุ่นอ่อน หรืออดนอนนิทราไม่อาสัญ
นางยอกรวอนไหว้ไทเทวัญ ทุกช่องชั้นฉกามาวจร
ที่ขึ้นล่องท้องทะเลทุกเทเวศร์ รุกขาเขตเขาเขินเนินสิงขร
แม้นพระหน่อบดินทร์นรินทร จะม้วยมรณ์มรณานิคาลัย
ชีวิตข้าอย่าให้รอดจงมอดม้วย ขอตายด้วยลูกรักที่ตักษัย
แม้นบุญหลังยังจะรอดตลอดไป ขอจงให้ลูกน้อยข้าค่อยคลาย
พอขาดคำรำพันพิษฐาน พระกุมารฟื้นสมอารมณ์หมาย
นางนวดเคล้นเส้นศอหน่อนารายณ์ ร้องเรียกสายสวาทพลางไม่วางใจ ฯ
๏ ฝ่ายพระหน่อบพิตรอดิศร หิวหาวนอนเหนื่อยซบสลบไสล
ต้องน้ำค้างกลางคืนชื่นฤทัย จึงกลับได้สมประดีค่อยมีแรง
ลืมพระเนตรเห็นองค์นางนงลักษณ์ เฝ้าฟูมฟักนวดฟั้นแล้วกันแสง
เหมือนแม่ลูกผูกจิตไม่คิดแคลง อุตส่าห์แข็งขืนอารมณ์บังคมคัล
จึงทูลว่าข้าน้อยนี้ม่อยหลับ เปรียบเหมือนกับกายาจะอาสัญ
พระมารดามาด้วยได้ช่วยกัน หาไม่วันนี้เห็นไม่เป็นตัว ฯ
๏ นางฟังตอบปลอบประโลมพระลูกน้อย แม่ได้พลอยพึ่งบุญพ่อทูนหัว
สารพัดศัตรูไม่สู้กลัว ได้รอดตัวมาถึงเกาะเพราะโอรส
เจ้าม้วยมอดวอดวายจะตายด้วย เป็นเพื่อนม้วยมรณาให้ปรากฏ
พ่อกลับคืนฟื้นพ้นชีวงคต ค่อยเปลื้องปลดทุกข์ทนของชนนี ฯ
๏ พระหน่อไทได้สดับอภิวาท ยิ่งรักราชธิดามารศรี
จึงเชิญนางย่างเยื้องขึ้นคิรี ให้อยู่ที่เงื้อมผาศิลาลาย
แล้วเที่ยวไปในเกาะเสาะลูกไม้ เก็บได้ใส่ห่อผ้ามาถวาย
นางเสวยส้มสูกกับลูกชาย ค่อยเหือดหายหิวโหยที่โรยรา ฯ
๏ จะกล่าวฝ่ายนายโจรใจฉกาจ เป็นเชื้อชาติอังกฤษริษยา
คุมสลัดอัศตันวิลันดา เป็นโจราห้าหมื่นพื้นทมิฬ
มีกำปั่นนั้นยาวยี่สิบเส้น กระทำเป็นตึกกว้านสถานถิ่น
หมากมะพร้าวส้มสูกปลูกไว้กิน ไม่รู้สิ้นเอมโอชโภชนา
เลี้ยงทั้งแพะแกะไก่สุกรห่าน คชสารม้ามิ่งมหิงสา
มีกำปั่นห้าร้อยลอยล้อมมา เครื่องศัสตราสำหรับรบครบทุกลำ
คอยตีเรือเหนือใต้ได้สิ่งของ เที่ยวแล่นล่องตามคลื่นทุกคืนค่ำ
มาถึงกลางหว่างบรรพตพออดน้ำ จึงทอดกำปั่นใหญ่ในนที
ให้เรือน้อยลอยแล่นเข้าเหลี่ยมเขา แต่ล้วนเหล่าวิลันดากะลาสี
ประทับจอดทอดท่าหน้าคิรี พวกโยธีหาบหามตามกันมา
ขึ้นตักน้ำลำธารละหานหิน พอเห็นสินสมุทรอยู่ที่ภูผา
กับหญิงสาวขาวผ่องต้องติดตา พวกโยธาซักถามตามทำนอง
กุมารานารีนี้ไฉน เป็นอย่างไรจึงมานั่งอยู่ทั้งสอง
เป็นภรรยาสามีหรือพี่น้อง พลางมุ่งมองดูนางไม่วางตา ฯ
๏ สินสมุทรพูดจาภาษาแขก นัยน์ตาแตกใครอย่าแลดูแม่ข้า
เราเสียเรือเชื้อกษัตริย์พลัดพารา นี่ท่านมาแต่ข้างไหนได้เอ็นดู
โดยสารด้วยช่วยส่งให้ถึงฝั่ง จะไปยังรัตนาพาราปู่
จะรับได้หรือมิได้จะใคร่รู้ เฝ้าแลดูมารดาเราว่าไร ฯ
๏ ทหารโจรแจ้งความขามขยาด เห็นเกินวาสนาตนพ้นวิสัย
แต่เสียดายหมายว่าจะพาไป ให้นายใหญ่ของเราเอารางวัล
จึงพูดปลอบตอบว่าอย่าปรารภ จะให้พบกันกับนายมาผายผัน
แล้วแห่ห้อมล้อมลงสลุบพลัน ไปกำปั่นลำใหญ่ในคงคา
ครั้นถึงเทียบเรียบเรียงเข้าเคียงท้าย แล้วบอกนายว่ามีนางต่างภาษา
จะโดยสารวานส่งจึงลงมา จะโปรดปรานีนางเป็นอย่างไร ฯ
๏ ฝ่ายสุหรั่งอังกฤษพิศเพ่ง เห็นปลั่งเปล่งปลื้มจิตพิสมัย
ด้วยลูกเมียยังไม่มีก็ดีใจ หมายจะได้เล้าโลมนางโฉมยง
จึงเสแสร้งแกล้งว่าได้มาพึ่ง จะให้ถึงฟากฝั่งดังประสงค์
แล้วจัดแจงแต่ห้องให้สององค์ เชิญโฉมยงไปอยู่กับกุมาร
แล้วรีบร้อนถอนสมอไม่รอรั้ง พร้อมสะพรั่งเรือเรียงเคียงขนาน
พอลมคล่องล่องแล่นแสนสำราญ เที่ยวรังควานขวางทางมากลางทะเล ฯ
๏ ฝ่ายสุหรั่งนั่งที่เก้าอี้ใหญ่ กับพวกไพร่กล่าวชวนกันสรวลเส
ให้เหิมฮึกนึกนิยมสมคะเน ด้วยได้เทวีไว้ที่ในเรือ
ต้องตำราว่าดีไม่มีร้าย เป็นแม่ม่ายลูกติดสนิทเหลือ
จะฝังปลูกผูกมิตรให้ชิดเชื้อ อยู่ในเนื้อมือแล้วไม่แคล้วเรา
แต่ลูกนางขวางกีดอยู่นิดหนึ่ง คิดรำพึงอ้อมค้อมจะมอมเหล้า
ให้หลับใหลลืมตัวด้วยมัวเมา แม้นซึมเซาแล้วจะเกี้ยวประเดี๋ยวใจ
คิดพลางทางสั่งปังกะโละ ให้ยกโต๊ะเหล้าเข้มมาเต็มไห
ทั้งของกินสิ้นทุกอย่างมาวางไว้ แล้วเรียกให้กุมาราออกมากิน
พอกุมารขานขาลาแม่เลี้ยง มานั่งเคียงโจรสุหรั่งดังถวิล
นายโจรจับจอกสุราออกมาริน สอนให้กินแก้ทุกข์สนุกใจ ฯ
๏ สินสมุทรสุดซื่อถือว่าน้ำ เขาส่งซ้ำรับซดจนหมดไห
เมาสุราตาแดงดังแสงไฟ ฉวยเป็ดไก่เคี้ยวขยอกจนออกเรอ
ฝ่ายฝรั่งนั่งล้อพระหน่อน้อย สอพลอพลอยพูดพร่ำพะย่ำเผยอ
เสียงฮาเฮเสสรวลชวนเป็นเกลอ กุมารเออเองกับกูมาสู้กัน
แล้วลุกขึ้นมึนหน้าถลาล้ม ไม่เป็นสมประดีเฟือนเหมือนกับฝัน
โจรสุหรั่งสั่งให้ไพร่ทั้งนั้น เข้าช่วยกันยกไปวางกลางที่นอน
พระหน่อไทไม่เคยเสวยเหล้า กำลังเมาม่อยหลับลงกับหมอน
พอสมหมายนายโจรพเนจร ให้อาวรณ์หวังประโลมนางโฉมยง
จึงแต่งกายชายชำเลืองค่อยเยื้องย่อง เข้าในห้องทรามสงวนนวลหง
กระแทกก้นลงบนเตียงเคียงอนงค์ นางลุกลงเสียข้างล่างให้ห่างกาย
ตะโกนเรียกสินสมุทรจนสุดเสียง เงียบสำเนียงนึกพรั่นพระขวัญหาย
ส่วนสุหรั่งนั่งยิ้มอยู่พริ้มพราย พูดภิปรายประสาโจรโลนลำพอง
นี่แน่เจ้าเข้ามานี่อย่าหนีเร้น หรือไม่เห็นหน้าผัวให้มัวหมอง
นิจจาเอ๋ยเคยอยู่เป็นคู่ครอง จะมาต้องเป็นม่ายตะกายดิน
เอ็นดูเจ้าเราจึงมาว่าจะเลี้ยง เป็นคู่เคียงครองชมสมถวิล
ทั้งแม่ลูกปลูกฝังให้นั่งกิน อย่าดีดดิ้นดึงดื้อทำอื้ออึง
ไม่อวดอ้างอย่างพี่นี้จะเจ้า กับผัวเก่าเห็นเปรียบไม่เทียบถึง
อย่านิ่งนึกบึกบึนทำมึนตึง ถึงจะอึงอื้อไปก็ไม่พ้น
จงผันผ่อนอ่อนน้อมยอมด้วยพี่ เสียดีดีจะได้ยืดเป็นพืชผล
เคาะพนักพยักหน้ามาข้างบน ช่วยถอนขนรักแร้พี่ทีเถิดนาง ฯ
๏ ยุพยงทรงฟังอ้ายอังกฤษ ดังพ่นพิษพูดสำรากทั้งถากถาง
มิตอบตามความอายเห็นหลายทาง นึกแล้วนางแสร้งเสด้วยเล่ห์ลวง
ซึ่งเมตตาว่าจะเลี้ยงไว้เคียงคู่ พระคุณอยู่ข้าพเจ้าเท่าเขาหลวง
แต่อย่าให้ได้อายชายทั้งปวง ค่อยหนักหน่วงอย่าเพ่อด่วนทำลวนลาม
ทั้งเดินทางกลางชลาเป็นพาณิช สมสนิทเสน่หาตำราห้าม
ถ้าถึงฝั่งยั้งหยุดสุดแต่งาม จะผ่อนตามสารพัดไม่ตัดรอน
ทั้งลูกน้อยกลอยใจจะได้พึ่ง ไม่ดื้อดึงดอกจะฟังท่านสั่งสอน
ใช่จะดิ้นสิ้นชีพอย่ารีบร้อน นางผันผ่อนเพทุบายให้ตายใจ ฯ
๏ โจรสุหรั่งฟังนางว่าช่างพูด บิดตะกูดเกเรทำเผลไพล่
จะพาเจ้าเข้าฝั่งก็ยังไกล อดอยู่ไม่ได้ดอกบอกจริงจริง
แต่เมียตายหลายปีเข้านี่แล้ว ยังไม่แผ้วพบรสอดผู้หญิง
อย่าปดโป้โว้เว้ประเว่ประวิง ถึงตลิ่งแล้วจะไปเสียไกลมือ
มิโอนอ่อนผ่อนผันทำปั้นปึ่ง จะให้ถึงปล้ำปลุกสนุกหรือ
จงผินผันหันหน้ามาหารือ เจ้าจะถือตามตำราว่ากระไร
เป็นผัวเมียเสียเรือไม่เชื่อน้อง พี่ได้ลองแล้วก็เห็นไม่เป็นไฉน
อย่าหนักหน่วงหวงห้ามความในใจ แล้วกราบไหว้วอนว่าได้ปรานี ฯ
๏ สงสารนางอย่างจะดิ้นสิ้นชีวิต กลัวอังกฤษมันจะปล้ำทำบัดสี
ต้องเอาใจอ้ายขโมยแต่โดยดี แม้นหม่อมพี่ขืนใจไม่เมตตา
มิขออยู่สู้ตายด้วยอายเขา ทั้งลูกเต้าก็ยังไม่ได้ปรึกษา
ท่านกลับไปให้สินสมุทรมา จะพูดจาอ่อนน้อมให้พร้อมใจ
จงหยุดยั้งรั้งรอแต่พอพลบ ข้าไม่หลบหลีกลี้หนีไปไหน
อย่าอยู่เกี้ยวเคี่ยวขับจงกลับไป อโณทัยลงลับจึงกลับมา ฯ
๏ ฝ่ายสุหรั่งยังไม่เคยได้เชยชู้ จึงเสียรู้เพราะรักนั้นนักหนา
จะด่วนได้ให้ขัดอัธยา ก็กลัวว่าโฉมฉายจะวายวาง
จึงตอบคำทำเป็นว่าถ้าเช่นนั้น จะผ่อนผันตามผัดไม่ขัดขวาง
ขอเล่นนอกหยอกเอินพอเพลินพลาง อย่าให้ค้างมรสุมเลยพุ่มพวง
น้อยหรือน้องสองแก้มดูแย้มยิ้ม พี่ขอชิมโฉมงามอย่าห้ามหวง
ให้เห็นแท้แน่ใจว่าไม่ลวง ช่วยเสียขวงเสียสักหน่อยเถิดกลอยใจ ฯ
๏ นางฟังคำทำว่าน่าบัดสี อะไรนี่น่าชังยังสงสัย
ยิ่งโอนอ่อนผ่อนตามยิ่งลามไป เดี๋ยวก็ได้เดือดดอกบอกให้รู้
ถ้ารักจริงสิ่งไรที่ได้ห้าม อย่าลวนลามเลี้ยวลดให้อดสู
ไม่สิ้นวันฉันไหว้ได้เอ็นดู จะขืนอยู่ไยเล่าให้เขาแคลง ฯ
๏ โจรสุหรั่งอังกฤษติดจะโง่ เห็นนางโกรธาเถียงจนเสียงแข็ง
ฉวยเฉินฉุกจุกจิกจะพลิกแพลง ทำยิ้มแห้งห้ามว่าเจ้าอย่าอึง
เพลานี้พี่จะอดสะกดจิต พอมืดมิดก็จะมาหาให้ถึง
แล้วผันผายกายก่ำดังตำลึง ให้รุมรึงร้อนรนสกนธ์กาย
จึงแก้ไขให้สินสมุทรฟื้น กุมารตื่นตาสว่างค่อยสร่างหาย
จึงว่าเหล้าเมาเหลือเบื่อจะตาย จริงนะนายแต่นี้ไปฉันไม่กิน
แล้วลุกมาหาองค์นางนงลักษณ์ เห็นซบพักตร์โศกศัลย์ไม่ผันผิน
นึกสงสัยไต่ถามพระเทพิน นางเห็นสินสมุทรมาจึงจาบัลย์
สะอื้นพลางทางว่านิจจาเอ๋ย พ่อละเลยมารดาให้อาสัญ
แม่มีกรรมจำตายวายชีวัน นางก้มกันแสงกำสรดสลดใจ ฯ
๏ สินสมุทรบุตรเลี้ยงเข้าเคียงอาสน์ อภิวาทวอนถามตามสงสัย
อยู่ดีดีชีวันจะบรรลัย เป็นไฉนเช่นนั้นฉันยังแคลง ฯ
๏ ยุพยงสงสารกุมารน้อย กระซิบค่อยเบาเบาเล่าแถลง
อ้ายอังกฤษคิดหมายทำร้ายแรง มันจึงแกล้งให้พ่อไปเสียไกลตา
มาเกี้ยวพานรานรุกทำอุกอาจ มันเกรี้ยวกราดหยาบคายร้ายหนักหนา
แม่เรียกเจ้าเท่าไรก็ไม่มา ดังมารดานี้จะดิ้นสิ้นชีวัน
ต้องหนักหน่วงลวงล่อว่าพอค่ำ มันเชื่อคำนัดหมายจึงผายผัน
เป็นการด่วนจวนจนไม่พ้นมัน จะอาสัญเสียมิให้มันใกล้กราย
พ่ออยู่หลังฟังแม่ช่วยแก้แค้น ทำทดแทนให้เหมือนจิตที่คิดหมาย
เอาเพลิงเผาสำเภาใหญ่ให้ทลาย แล้วจึงสายสวาทไปในคงคา
ถ้าพบปะพระบิตุเรศเจ้า เผื่อผ่านเกล้าคิดความจะตามหา
ทูลแถลงแจ้งการณ์ว่ามารดา บังคมลาสู่สวรรคครรไล
อันชาตินี้มิได้อยู่เป็นคู่ชื่น ต่อชาติอื่นจึงค่อยชิดพิสมัย
นางครวญคร่ำกำสรดระทดใจ พลางลูบไล้ลูกเลี้ยงเคียงประคอง ฯ
๏ สินสมุทรสุดแสนแค้นสุหรั่ง ขึ้นเสียงดังเดือดด่าว่าจองหอง
ตัวเป็นกามาประสงค์ซึ่งหงส์ทอง จะไปถองเสียให้สมอารมณ์มัน
นางยุดหัตถ์ตรัสห้ามด้วยความรัก ยังเด็กนักหนาพ่อคุณอย่าหุนหัน
ล้วนพวกพ้องของสุหรั่งอยู่ทั้งนั้น จะสู้มันที่ไหนได้อย่าไปเลย
เช่นนี้ต้องตรองตรึกให้ลึกซึ้ง อย่าดื้อดึงดูถูกนะลูกเอ๋ย
จะสู้รบผู้ใหญ่พ่อไม่เคย อย่าอยู่เลยหลีกไปเสียให้พ้น ฯ
๏ กุมาราว่าการจะราญรบ ลูกรู้จบการศึกได้ฝึกฝน
พระโยคีวิเศษให้เวทมนตร์ ทั้งคงทนแทงฟันไม่บรรลัย
แม่ผีเสื้อเมื่ออยู่ในคูหา ให้มนต์ข้าที่มนุษย์ยุดไม่ไหว
สิ้นทั้งลำกำปั่นไม่พรั่นใคร ลูกจะไปถองทุบให้ยุบยับ
แล้ววิ่งผลุนหมุนออกมานอกห้อง นางรื้อร้องเรียกไว้ก็ไม่กลับ
ถึงสุหรั่งตั้งกระทู้ขู่สำทับ มึงพูดกับมารดากูว่าไร
จะปลุกปล้ำทำดูดังชู้ผัว หมายว่ากลัวเกรงฝีมือหรือไฉน
อย่าปั้นเจ๋อเย่อหยิ่งมาชิงชัย จะฆ่าให้ตายสิ้นเหมือนริ้นยุง
แล้วกำหมัดกัดฟันกระชั้นชิด ถีบอังกฤษตกเตียงเสียงดังผลุง
สุหรั่งร้องเรียกไพร่ให้พยุง เป็นหมู่มุงมาพร้อมล้อมกุมาร
บ้างฉวยได้ไม้พลองกระบองสั้น เข้ารุมรันรอบกายหมายประหาร
สินสมุทรผุดโลดโดดทะยาน ฉวยได้ขวานขว้างแขกแตกกระจาย
เห็นนายโจรโผนจับสัประยุทธ์ ทะยานยุดเหยียบอกผงกหงาย
กระชากฉีกซีกโครงครากทลาย เอาศพนายตีไพร่ไล่กระพือ
แขกฝรั่งอังกฤษไม่คิดรบ ถลาหลบล้มกลิ้งบ้างวิ่งตื๋อ
บ้างหมอบราบกราบก้มประนมมือ เสียงอึงอื้ออ่อนน้อมไม่ยอมตาย ฯ
๏ สินสมุทรหยุดยั้งตั้งสง่า ตวาดว่าเหวยทมิฬสิ้นทั้งหลาย
ใครไม่สู้กูไม่ล้างให้วางวาย แค้นแต่นายเองดอกบอกให้รู้
ประมาทเล่นเห็นว่าเป็นทารก จึงฉีกอกออกให้หายอายอดสู
แม้นมึงยอมพร้อมใจไปกับกู จะเลี้ยงดูโดยดีไม่ตีรัน ฯ
๏ ฝ่ายผู้ร้ายนายกองรองสุหรั่ง เป็นชาติอังกุหร่าปัญญาขยัน
สารภาพกราบก้มบังคมคัล ขอชีวันไว้เป็นข้าฝ่าธุลี
เสด็จไปข้างไหนจะไปด้วย จนมอดม้วยมิได้อางขนางหนี
อันพวกไพร่ไว้ข้าจะพาที ให้ภักดีด้วยพระองค์ทรงศักดา
แล้วตีฆ้องร้องป่าวเหล่าทหาร มาหมอบกรานเรียงรายทั้งซ้ายขวา
หน่อนรินทร์สินสมุทรก็พูดจา ภิปรายปราศรัยทั่วทุกตัวคน
แล้วว่าเราเยาว์อยู่ไม่รู้ถ้อย จะได้พลอยไต่ถามตามฉงน
ใครรู้แห่งแขวงแควกระแสชล พวกต้นหนล้าต้าบรรดานาย
จะพาไปให้เฝ้าพระเจ้าแม่ ก็ตามแต่จะโปรดปรานท่านทั้งหลาย
แล้วนำหน้าพาพวกเป็นตัวนาย มายังท้ายห้องสถิตพระธิดา ฯ
๏ ฝ่ายสุวรรณมาลีไม่มีชื่น ซบสะอื้นอ่อนแรงกันแสงหา
มองเขม้นเห็นสินสมุทรมา กับอังกุหร่าแขกสลัดอัศตัน
นางดีใจวิ่งไปรับโอรสราช ขึ้นนั่งอาสน์แอบประทับแล้วรับขวัญ
ฝ่ายล้าต้าต้นหนคนทั้งนั้น บังคมคัลคอยสดับรับบัญชา ฯ
๏ สินสมุทรสุดสวาทฉลาดแถลง ลูกลองแรงรบสุหรั่งสิ้นสังขาร์
คนทั้งหลายนายกองรองลงมา ขอเป็นข้าไปไหนจะไปตาม
ลูกจึงพามาเฝ้าให้เล่าเรื่อง รู้จักเมืองเราหรือไม่จะไต่ถาม
พวกเสียเรือเผื่อรอดได้รู้ความ จะติดตามต่อไปข้างไหนดี ฯ
๏ ยุพยงทรงฟังพระหน่อนาถ แสนสวาทดังชีวามารศรี
ประโลมลูบลูกยาแล้วพาที ชนนีนึกอยู่ไม่รู้วาย
จะเที่ยวรอบขอบมหามหรณพ กว่าจะพบภูวนาถเหมือนมาดหมาย
แม้นคลาดแคล้วแล้วไม่อยู่จะสู้ตาย พลางฟูมฟายชลนาด้วยอาลัย
แล้วไต่ถามพวกพ้องของสุหรั่ง เดิมท่านทั้งปวงนี้อยู่ที่ไหน
มาลดเลี้ยวเที่ยวตระเวนระวังภัย หรืออยู่ในคงคาทั้งตาปี
เหล่าล้าต้าต้นหนคนสันทัด เคยแล่นลัดแหลมคุ้งทุกกรุงศรี
เมืองผลึกรัตนาสองธานี ในแผนที่มีบ้างหรืออย่างไร ฯ
๏ อังกุหร่าฝรั่งได้ฟังถาม จึงทูลความจริงแจ้งแถลงไข
อันสุหรั่งอังกฤษที่บรรลัย เป็นโจรใหญ่ในนทีเที่ยวตีเรือ
ข้าชาวเมืองสำปะหลังฝรั่งเศส เอาโหมดเทศขึ้นไปขายข้างฝ่ายเหนือ
เขาจับได้ไว้ชีวิตใช้ชิดเชื้อ เที่ยวตีเรือกับสุหรั่งตั้งเป็นนาย
แล้วสั่งให้ต้นหนไปค้นหา เอาผืนผ้าแผนที่มาคลี่ถวาย
ถิ่นประเทศเขตแขกฝรั่งราย มีจุดหมายปากน้ำเป็นสำคัญ
เมืองโสฬสแหลมชวาพาราสุหรัด โรมพัฒน์กว้างใหญ่ไอศวรรย์
ปังกะหล่ามลายูอยู่ด้วยกัน ถนนคั่นข้ามฝั่งไปลังกา
อันขอบคุ้งกรุงผลึกจารึกไว้ ตะวันตกวกออกไปไกลนักหนา
เอาแผนที่ชี้แจงแจ้งกิจจา พระธิดานั่งดูกับกุมาร
จนจำได้ใต้เหนือสำเหนียกแน่ ทุกแขวงแควถิ่นประเทศเขตสถาน
จึงแต่งตั้งอังกุหร่าปรีชาชาญ ให้สิทธิ์ขาดราชการงานโยธา
มีนายกองรองกันเป็นหลั่นลด ตามกำหนดหน้าท้ายทั้งซ้ายขวา
อันเงินทองของสุหรั่งเรียกเอามา แจกบรรดาบ่าวไพร่ได้ทุกคน
แล้วว่าเราเรือแตกต้องแยกย้าย ยังพลัดพรายตายเป็นไม่เห็นหน
จะแล่นเลี้ยวเที่ยวหาในสาชล เผื่อผู้คนที่ในเรือจะเหลือตาย
ให้เภตราห้าร้อยออกลอยล่อง ไปตามท้องทะเลวนชลสาย
แล้วบอกกันเสียให้ทั่วทุกตัวนาย อย่าทำร้ายเรือจรเหมือนก่อนมา ฯ
๏ อังกุหร่ารับรสพจนารถ สั่งประกาศกฎหมายทั้งซ้ายขวา
แล้วยิงปืนครืนครั่นเป็นสัญญา เรียกเภตราห้าร้อยมาลอยเรียง
ให้นายท้ายบ่ายหน้านาวาข้าม อ้อมออกตามแหลมแล่นเลี้ยวเฉลียง
กำปั่นน้อยลอยล้อมมาพร้อมเพรียง บ้างแล่นเลี่ยงลดเลี้ยวให้เกี่ยวกัน
ครั้นพลบค่ำโคมรายทุกปลายเสา ทหารเป่าแตรสัญญาดังฟ้าลั่น
ยิงปืนตึงปึงปังประดังกัน เป็นสำคัญทุ่มยามตามสัญญา ฯ
๏ ฝ่ายพระนุชบุตรีศรีสวัสดิ์ กับกษัตริย์ทรงยศโอรสา
เข้าอยู่ห้องของสุหรั่งทั้งสองรา ค่อยเป็นผาสุกสบายคลายอารมณ์
สินสมุทรบุตรเลี้ยงอยู่เคียงข้าง ไม่แหห่างต่างชิดสนิทสนม
ครั้นพลบค่ำขึ้นบนเตียงเคียงประทม นางจูบเกล้าเผ้าผมแล้วชมเชย
มิเสียทีมีฤทธิ์แต่น้อยน้อย แม่ได้พลอยพึ่งบุญพ่อคุณเอ๋ย
ทุกวันคืนชื่นใจกระไรเลย บุญแม่เคยทำไว้จึงได้พบ
พ่อม้วยมอดวอดวายจะตายด้วย แม้นแม่ม้วยหมายฝากซึ่งซากศพ
แล้วปรับทุกข์ลูกยาด้วยปรารภ ทำไฉนจะได้พบภูวไนย
อันองค์พระอัยกาบิดาเจ้า เมื่อสำเภาแตกเห็นเป็นไฉน
ยังพากเพียรเวียนว่ายหรือหายไป แม่นี้ไม่ได้อารมณ์สมประดี ฯ
๏ กุมาราว่าเมื่อเรือจะแตก เสียงร้องแรกอยู่แต่เหล่านางสาวศรี
สองกษัตริย์พลัดไปในนที เมื่อราตรีมิได้เห็นว่าเป็นตาย
พระมารดาอาลัยถึงใครมาก ลูกนึกอยากรู้ในพระทัยหมาย
แล้วแอบอ้อนวอนถามตามสบาย นางแย้มเยื้อนเอื้อนอายอดสูใจ
จึงแกล้งบอกหยอกเย้าว่าเจ้าแม่ แม่รักแต่เจ้าดอกจะบอกให้
พระโยคีที่ชื่อพระอภัย ไม่มีใครเขารักอย่าซักเลย ฯ
๏ หน่อนรินทร์สินสมุทรพูดฉอเลาะ นี่เนื้อเคราะห์พระบิดานิจจาเอ๋ย
ส่วนลูกเต้าเอาเป็นสิทธิ์เฝ้าชิดเชย แล้วเฉยเมยมิได้คิดถึงบิดา
แล้วแกล้งทำสำออยตะบอยบ่น เห็นยากจนจึงไม่มาดปรารถนา
แม้นมั่งมีเช่นเขาชาวลังกา พระมารดาก็จะไม่ได้ตัดรอน ฯ
๏ นางกอดจูบลูบหลังพระลูกน้อย ช่างตะบอยร่ำบ่นดังคนสอน
อย่าถือโทษโกรธขึ้งตะบึงตะบอน แม่ว่าหยอกดอกมานอนเถิดพ่อมา
แต่นี้ไปไม่ขัดอย่าตัดพ้อ หลวงพ่อพ่อแม่จะรักให้หนักหนา
ชวนสำรวลสรวลสันต์จำนรรจา ตามประสาไม่สบายพอคลายใจ
ครั้นลูกหลับกลับลุกทุกข์สะอื้น จนดึกดื่นเดือนลับไม่หลับใหล
เผยหน้าต่างวังเวงวิเวกใจ ละห้อยไห้หวนคิดถึงบิดา
ทูลกระหม่อมจอมโลกของลูกเอ๋ย พระองค์เคยกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงรักษา
บริบูรณ์พูนสุขทุกเวลา คราวนี้มาพลัดพรากได้ยากเย็น
ลูกแลรอบขอบสมุทรจนสุดเนตร ทั่วประเทศทางเปลี่ยวไม่เหลียวเห็น
หรือมอดม้วยด้วยคลื่นไม่คืนเป็น จึงเขม่นมิได้ขาดประหลาดลาง
โอ้สงสารผ่านเกล้าเจ้าประคุณ เมื่อมีบุญสารพัดไม่ขัดขวาง
จากสมบัติพลัดพรายมาวายวาง เสียในกลางเกลียวคลื่นไม่คืนเมือง
น่าสงสารป่านฉะนี้พระแม่เจ้า จะโศกเศร้าทุกข์ตรอมจนผอมเหลือง
ทั้งไพร่ฟ้าสารพัดจะขัดเคือง ใครจะเปลื้องปลดร้อนให้ผ่อนเย็น
ชาวประเทศเขตแคว้นแผ่นพิภพ จะเซาซบสิ้นสุขด้วยยุคเข็ญ
นางนึกน้ำตาตกซกกระเซ็น ปิ้มจะเป็นบ้าหลังนั่งรำลึก
จนเดือนชายบ่ายแสงเข้าแฝงเมฆ ให้วิเวกหวั่นวิญญาณ์เวลาดึก
เอนองค์ลงกับอาสน์อนาถนึก หวนรำลึกถึงพ่อพระหน่อน้อย
นิจจาเอ๋ยเคยคิดพิศวาส จะนิราศแรมโรยโหยละห้อย
พระพลัดพรากจากน้องเที่ยวล่องลอย จะโศกสร้อยเศร้าใจอาลัยลาน
ยิ่งคิดไปใจหายไม่วายโศก ยามวิโยคยากแค้นแสนสงสาร
สะอื้นอ้อนร้อนฤทัยดังไฟกาฬ กอดกุมารม่อยหลับระงับไป ฯ
๏ ครั้นรุ่งรางนางตื่นค่อยฝืนทุกข์ แล้วปลอบปลุกลูกยาอัชฌาสัย
ให้แต่งองค์สรงเสวยสบายใจ แล้วออกไปนั่งที่เก้าอี้ทอง
แขกฝรั่งอังกุหร่าก็มาเฝ้า ทั้งเย็นเช้าคอยฟังรับสั่งสนอง
เหล่าเภตราห้าร้อยลอยประลอง เที่ยวแล่นล่องเลียบมาในสาคร ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ