ตอนที่ ๑๑๘ เจ้าเมืองปตาหวีพานางดวงประไพกลับเมือง

๏ อันบทเบื้องเรื่องนี้ขอยกไว้ จะกล่าวไปถึงพระยาปตาหวี
อยู่ด้วยนางดวงประไพได้กว่าปี มิได้มีความทุกข์สนุกใจ
เวลาดึกนึกถึงถิ่นถวิลหวัง จะมานั่งเชยชิดพิสมัย
จำทูลลาพ่อตาพาเมียไป ยังกรุงไกรนคราไม่ช้าวัน
จึงว่ากับพุ่มพวงดวงยิหวา พี่จะพาน้องไปไอศวรรย์
แต่มาอยู่ในสถานก็นานครัน จะอภิวันท์ท้าวไทไปบุรินทร์
นางนบนอบตอบสนองไม่ข้องขัด ตามแต่อัธยาศัยพระทัยถวิล
ไปก็ไปจะได้รู้จักบุรินทร์ ประเทศถิ่นปตาหวีน้องดีใจ ฯ
๏ ท้าวกุลามาลีศรีสวัสดิ์ ได้ฟังอรรถยิ้มย่องสนองไข
พรุ่งนี้เช้าจะไปเฝ้าพระทรงชัย ทูลลาไปนคเรศนิเวศน์วัง
พอรุ่งแจ้งแสงทองส่องอากาศ ภาณุมาศสางสมอารมณ์หวัง
พระพลิกฟื้นตื่นจากแท่นบัลลังก์ เสด็จยังไทท้าวเจ้าพ่อตา
บังคมทูลข้อความตามประสงค์ โดยจำนงที่ในมิตรขนิษฐา
ขออภิวาทบาทมูลจะทูลลา ไปพาราโดยประสงค์จำนงปอง ฯ
๏ ท้าวสินชัยได้สดับจึงรับสั่ง เสนาทั้งซ้ายขวาเร่งหาของ
จะประทานเขยไปดั่งใจปอง เครื่องเงินทองต่างต่างที่อย่างดี
ขนไปส่งลงในเรือกำปั่น กับแพรพรรณให้ทุกอย่างต่างต่างสี
จัดกำปั่นในพาราบรรดามี ขุนเสนีตำมะหงงเร่งลงเรือ
ไปส่งท้าวเจ้าพาราปตาหวี ให้สมที่ยศกษัตริย์อย่าขาดเหลือ
จัดเสบียงเมืองเราทั้งข้าวเกลือ ให้เหลือเฟือขนไปใส่เภตรา
ตำมะหงงรับสั่งกรุงกษัตริย์ แล้วรีบรัดจัดแจงตกแต่งหา
ฝ่ายท่านท้าวเจ้านิเวศน์เกศประชา เสด็จมาปรางค์มาศปราสาทชัย
ท้าวกุลาพาอนงค์ตรงไปหา คำนับอาจารย์แจ้งแถลงไข
ที่สำนักพระอาจารย์อันชาญชัย แล้วพิไรอำลาด้วยอาวรณ์
เชิญใต้เท้าไปพาราปตาหวี ให้เปรมปรีดิ์ภิญโญสโมสร
บาทหลวงว่ารับแก่เขาเจ้านคร ต้องอยู่สอนวิทยาแลอาคม
ให้เขารู้แล้วกูจึงจะกลับ เสียงแรงรับคำเขาไว้ให้ได้สม
เองไปก่อนกูเถิดหวาอย่าปรารมภ์ ไปสะสมพวกทหารการโยธา ฯ
๏ ท้าวกุลามาลีศรีสวัสดิ์ ประสานหัตถ์แล้วประนมก้มเกศา
บาทหลวงเฒ่าเข้าใจในตำรา แกสั่งว่ารีบร้อนอย่านอนใจ
ถิ่นประเทศเขตนี้พวกปีศาจ มันร้ายกาจหลายอย่างต่างนิสัย
แม้นฝนตกลงมาแล้วอย่าไป หาฟืนไฟจุดให้รอบตามขอบเรือ
มันไม่ชอบสตรีพวกผีดิบ เห็นเกาะลิบแล่นไปเสียฝ่ายเหนือ
เผาขนไก่ให้สว่างในกลางเรือ ข้าวสารเกลือเทใส่ลงในเตา
อย่าไว้ใจในตำราเขาว่ากล่าว เป็นเรื่องราวว่ามันตายเพราะไฟเผา
ถ้าแม้นเห็นแสงอัคคีที่สำเภา ไม่อาจเข้ากลัวเพลิงอันเริงแรง
แล้วแกส่งแผนที่คลี่ให้อ่าน ของบุราณมีไว้สิ้นอย่ากินแหนง
ถ้าแม้นใครไม่สันทัดฉวยพลัดแพลง ตายที่แก่งเกาะขวางกลางทะเล
เสียนับร้อยมิใช่น้อยเมื่อไรหวา ทั้งปืนผาประจุไว้อย่าไผลเผล
เองจงจำคำครูดูคะเน คิดถ่ายเทหลีกให้พ้นภัยพาล ฯ
๏ ฝ่ายไทท้าวเจ้าพาราปตาหวี แจ้งคดีลาไปในสถาน
ทูลลาท้าวเจ้าพาราไม่ช้านาน พานงคราญพุ่มพวงดวงประไพ
มาขึ้นรถบทจรจากนิเวศน์ ทั้งบิตุเรศนางพระยาอัชฌาสัย
เสด็จส่งเขยขวัญด้วยทันใด ตามลงไปถึงท่าหน้าสันดอน
กับบาทหลวงอาจารย์ชำนาญเวท เอาของวิเศษส่งให้สายสมร
ได้คุ้มกันอันตรายในสาคร แม้นทินกรแจ่มสีรวีวรรณ
จงเก็บไว้ในที่อย่าคลี่ออก ถ้าระลอกลมป่วนพัดหวนหัน
จึ่งเอาออกกวัดแกว่งเป็นแสงจันทร์ ได้ป้องกันผีสางกลางชลา
นางคำนับรับของพระสังฆราช บังคมบาทบิตุรงค์เผ่าพงศา
ท้าวสินชัยให้พรกัลยา จงวัฒนาศรีสวัสดิ์กำจัดภัย
พอฤกษ์ดีตีฆ้องกลองสนั่น ออกกำปั่นแล่นหลามตามไสว
ต้องลมดีคลี่สายระบายใบ แล่นออกไปทะเลลมยมนา
ฝ่ายท่านท้าวสินชัยกับยายเฒ่า ส่งลูกเต้าไปพลันต่างหรรษา
กลับเข้าวังตั้งใจเจตนา ในวิชาโดยทำนองของอาจารย์ ฯ
๏ จะกล่าวเรือที่ไปมิได้หยุด ออกแล่นรุดเรือกระบวนล้วนทหาร
ลมก็เรื่อยเฉื่อยฉ่ำไปสำราญ ได้ประมาณครึ่งเดือนไม่เคลื่อนคลาย
เห็นเกาะขวางกลางมหาชลาสินธุ์ เป็นแถวถิ่นพวกปีศาจมันมาดหมาย
พอแลเห็นเรือเคียงแล่นเรียงราย ทั้งพวกพรายภูตผีมันดีใจ
ออกวิ่งโลดโดดโผนตะโกนก้อง บ้างเรียกร้องกู่กันเสียงหวั่นไหว
สำแดงกายหลายอย่างต่างต่างไป โดดลงในทะเลลมยมนา
แล้วทำให้มืดมัวทั่ววิถี ปีศาจผีภูตพรายร้ายนักหนา
เป็นคลื่นคลั่งทั้งพายุระบุมา ทั้งมหาชลธีก็ตีฟอง
แล้วทำให้เป็นมหาวลาหก เหมือนฝนตกทั่วหมดสยดสยอง
ท้าวกุลาแลดูรู้ทำนอง เห็นถูกต้องคำอาจารย์ท่านภิปราย
จึงสั่งเหล่าพวกพหลคนทั้งนั้น บากกำปั่นไปวนชลสาย
เอาไฟชุดจุดเคียงวางเรียงราย ทั้งหน้าท้ายติดเตาเร่งเผาเกลือ
เอาขนไก่ใส่เผาในเตาด้วย แล้วให้ช่วยกลับใบไปฝ่ายเหนือ
ประจุปืนไว้ทุกลำประจำเรือ ทั้งเผาเกลือเสียงก้องท้องทะเล
พวกปีศาจว่ายหลามมาตามคลื่น ทะลึ่งยืนแลเห็นไฟบ้างไพล่เผล
ดำทะมื่นยืนขวางกลางทะเล เสียงฮาเฮร้องดังก้องกังวาน
ว่าฮ้าเฮ้ยเรือลำนี้มีผู้หญิง เอาโยนทิ้งลงมาเหมือนว่าขาน
จึงจะพ้นความตายไม่วายปราณ เอาไว้นานกูจะล่มให้จมตาย ฯ
๏ ฝ่ายอนงค์องค์ประไพวิไลสมร นางบังอรองค์สั่นพระขวัญหาย
เห็นรูปผีที่มันมาล้วนหน้าลาย ดูคล้ายคล้ายกันกับเสือนางเหลือกลัว
แล้วจึงว่าข้าแต่ท้าวเจ้านิเวศน์ อันฤทธิ์เดชเสียงมันร้องสยองหัว
เสียงเยือกเยืนจับจิตให้คิดกลัว สั่นระรัวไปทั้งกายเห็นตายจริง
ผียิงร้องก้องกู่ดูเถิดหวา โยนลงมาเสียเดี๋ยวนี้อีผู้หญิง
จะให้ล่มจมกำปั่นขันจริงจริง ยังจะนิ่งอยู่ช้าว่ากระไร
นางโฉมยงองค์สั่นให้หวั่นหวาด กัมปนาทนึกพรั่นประหวั่นไหว
เข้ากอดพระสามีพิรี้พิไร พอนึกได้ถึงพระครูผู้อาจารย์
ท่านให้ของมากับฉันกันปีศาจ เป็นกระดาษสั่งไว้หลายสถาน
น้องนึกได้ถึงท่านครูผู้อาจารย์ นางว่าขานแล้วก็รีบไปหยิบพลัน
เอามาคลี่สีสว่างเป็นไฟฟ้า ปีศาจมากลัวสิ้นต่างผินผัน
ท้าวให้ยิงปืนประจำเป็นสำคัญ โห่สนั่นเสียงก้องท้องทะเล
ปีศาจหายไปสิ้นแสงสว่าง เห็นหนทางบากกำปั่นให้หันเห
ได้ลมคล่องล่องไปในทะเล ต่างสรวลเสชื่นบานสำราญใจ
พอเดือนครึ่งถึงพาราปตาหวี ให้ทอดที่อ่าวมหาชลาไหล
พวกขุนด่านบอกสารไปเวียงชัย เสนาในจัดบัลลังก์ที่นั่งทรง
ออกไปรับสองกษัตริย์ทั้งรถา มาเตรียมท่าจอมกษัตริย์ราชหงส์
กระบวนแห่แออัดจัตุรงค์ คอยรับองค์ไทท้าวเจ้าบุรินทร์ ฯ
๏ ฝ่ายกษัตริย์อิศราปตาหวี จรลีลงที่นั่งดั่งถวิล
กับเอกองค์ขนิษฐายุพาพิน พร้อมกันสิ้นเสร็จมาพักตำหนักแพ
แล้วชวนองค์นงนาฏขึ้นราชรถ มีกลิ้งกลดเคียงข้างไม่ห่างแห
เดินกระบวนพร้อมพรั่งกระทั่งแตร เสียงเซ็งแซ่เข้านิเวศน์เขตนคร
พวกเถ้าแก่คั่งคับรับเสด็จ พร้อมกันเสร็จภิญโญสโมสร
รับอนงค์องค์ท้าวเจ้านคร ขึ้นบรรจถรณ์นคเรศนิเวศน์วัง ฯ
๏ ฝ่ายไทท้าวเจ้าพิภพจบจังหวัด โองการตรัสโดยในพระทัยหวัง
ให้ตั้งการพิธีที่ในวัง จะแต่งตั้งอภิเษกเอกอนงค์
ขุนนางน้อมพร้อมพรั่งมาสั่งหมาย โดยภิปรายข้อรับสั่งดั่งประสงค์
ทั้งเสนาข้าบาทพระญาติวงศ์ โดยจำนงช่วยในงานการวิวาห์
มีครบถ้วนที่ในงานการภิเษก อดิเรกปรากฏด้วยยศถา
ทั้งเครื่องเล่นต่างต่างข้างชวา ตามบรรดาศักดิ์ท้าวเจ้านคร
ถึงวันดีอภิเษกเอกฉัตร สืบกษัตริย์กับอนงค์องค์สมร
ตามประเพณีท้าวเจ้านคร แต่ปางก่อนโดยเรื่องเบื้องบุราณ ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ