ตอนที่ ๑๙ พระอภัยมณีพบศรีสุวรรณกับสินสมุทร

๏ ฝ่ายสุวรรณมาลีศรีสุวรรณ อยู่พร้อมกันที่ลำกำปั่นใหญ่
ฟังสำเนียงเสียงปี่พระอภัย ก็จำได้ด้วยเคยฟังแต่หลังมา
ทั้งถ้อยคำร่ำเรียกสำเหนียกแน่ เห็นเที่ยงแท้ภูวไนยให้ไปหา
สินสมุทรสุดคิดถึงบิดา จึงทูลว่าปี่นี้ไม่มีใคร
คือทรงฤทธิ์บิตุรงค์ของลูกรัก เห็นแน่นักพระองค์อย่าสงสัย
ข้าจะขอทูลลาอาสาไป แล้วจะได้รับมาเภตราเรา ฯ
๏ สองกษัตริย์ตรัสว่าอย่าว้าวุ่น เขามีคุณพระบิดามากับเขา
ควรจะไปไต่ถามตามสำเนา จะด้นเดาดื้อไปนั้นไม่ดี
พวกฝรั่งลังกาจะว่าได้ ต้องขัดข้องหมองใจไม่พอที่
ฉวยขุกเข็ญเป็นศึกจะเสียที ด้วยพระพี่มิได้รู้อยู่ด้วยมัน
อาจะไปให้พบภูวเรศ ถ้าแจ้งเหตุทุกข์ร้อนจะผ่อนผัน
พ่ออย่าไปใจเด็กยังดุดัน อยู่กับน้องป้องกันพระชนนี
สินสมุทรห้ามว่าอย่าเสด็จ เหมือนขามเข็ดของ้อไม่พอที่
หลานจะไปไต่ถามแต่โดยดี ถ้าย้ำยีจึงจักสู้ดูฝีมือ
พระไปเรือเมื่อไรจะไปถึง จะเหมือนหนึ่งฉันลงน้ำดำไปหรือ
แม้นพบปะพระบิดาจะหารือ ไม่ดึงดื้อดอกพระองค์อย่าสงกา
แล้วจัดแจงแต่งเครื่องสำหรับยุทธ์ เหน็บอาวุธคู่กายทั้งซ้ายขวา
กระโดดโผนโจนลงในคงคา แผลงศักดาดำดึ่งตะบึงไป ฯ
๏ ฝ่ายโฉมยงองค์อรุณรัศมี คิดว่าพี่ตกน้ำร่ำร้องไห้
พระเจ้าป้ามาช่วยด้วยไวไว พระพี่ไม่ผุดรอดจะวอดวาย
ทั้งสององค์ทรงพระสรวลทั้งโศกเศร้า นางเคียงเข้าเล้าโลมนางโฉมฉาย
พระพี่ดำน้ำไปดอกไม่ตาย อย่าวุ่นวายเลยมานั่งคอยฟังความ
ศรีสุวรรณนั้นไม่ไว้ใจฝรั่ง จึงตรัสสั่งนายทหารชาญสนาม
เร่งเตรียมเรือเพื่อสำหรับรับสงคราม ไว้สักสามสิบลำประจำการ
ออกแล่นลอยคอยดูอยู่ห่างห่าง ถ้าขัดขวางก็จะได้แก้ไขหลาน
อังกุหร่าบังคมค่อยก้มคลาน มาเตรียมการพร้อมพรั่งระวังภัย ฯ
๏ ฝ่ายพระหน่อบดินทร์สินสมุทร ดำมาผุดกลางมหาชลาไหล
แลเห็นลำกำปั่นเป็นหลั่นไป ไม่มีใครดูแลแต่สักคน
แต่เสียงปี่ที่เป่ายังไม่หยุด สินสมุทรเพ่งพิศคิดฉงน
ค่อยแฝงกายว่ายมาในสาชล ปีนขึ้นบนกำปั่นไม่ครั่นคร้าม
เห็นพวกพลกรนหลับระดับดาด ดูเกลื่อนกลาดกลางเรืออยู่เหลือหลาม
ที่ตื่นอยู่รู้จักล้วนจีนจาม จึงโดดข้ามคนเหล่านั้นมาทันที
เห็นบิตุรงค์ทรงนั่งบัลลังก์อาสน์ เข้ากอดบาทบงกชบทศรี
ไม่ทันถามความโศกแสนทวี ทรงโศกีกลิ้งเกลือกลงเสือกกาย ฯ
๏ จอมกษัตริย์ทัศนาเห็นลูกแก้ว เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ให้ใจหาย
พระชลนัยน์ไหลหลั่งลงพรั่งพราย ประคองกายกอดแอบไว้แนบองค์
สงสารบุตรสุดจะขืนสะอื้นอั้น ยังมิทันไต่ถามตามประสงค์
สุดกำลังจะประทังดำรงองค์ กันแสงทรงโศกซบสลบไป ฯ
๏ แขกฝรั่งทั้งนั้นก็ขวัญหาย เห็นเจ้านายนิ่งแน่เข้าแก้ไข
ไม่ฟื้นองค์สงสารแสนอาลัย ต่างร้องไห้วุ่นวายฟายน้ำตา ฯ
๏ อุศเรนรู้สึกนึกอนาถ เห็นประหลาดลูกเล็กเด็กนักหนา
จึงถามพวกพระอภัยว่าใครมา เขาทูลว่าพระโอรสยศไกร
จึงเรียกไพร่ในเรือให้รู้สึก อึกทึกในกำปั่นอยู่หวั่นไหว
ช่วยนวดฟั้นคั้นองค์พระอภัย ก็กลับได้สติฟื้นเหมือนตื่นนอน
ลืมพระเนตรเห็นบุตรกับอุศเรน หัศเกนพวกฝรั่งนั่งสลอน
สินสมุทรอภิวาทบาทบิดร สะอื้นอ้อนทูลถามตามสงกา
เมื่อพลัดพรากยากเย็นเป็นไฉน ลูกมิได้รู้ความเที่ยวตามหา
ไฉนองค์ทรงฤทธิ์พระบิดา จึงได้มาเรือฝรั่งเป็นอย่างไร ฯ
๏ พระฟังคำน้ำพระเนตรลงพรากพราก จะออกปากปิ้มว่าเลือดตาไหล
จึงเล่าความตามจริงทุกสิ่งไป จนถึงได้โดยสารมาพานพบ
อันพ่อนี้วิตกอกจะแยก ด้วยเรือแตกตายเป็นไม่เห็นศพ
แล้วตรัสถามลูกยาด้วยปรารภ นี่พ่อพบผู้ใดจึงได้มา ฯ
๏ สินสมุทรได้ฟังรับสั่งถาม จึงตอบตามคำแขกแปลกภาษา
เมื่อเรือแตกแหลกไปในคงคา ลมก็กล้ากลางคืนเพราะคลื่นตี
แม่ผีเสื้อเหลือใจไล่สกัด ลูกจึงพลัดไปกับเหล่านางสาวศรี
ได้พบแต่แม่สุวรรณมาลี ก็แบกหนีไปในน้ำแต่ลำพัง
ถึงเจ็ดวันบรรลุถึงเกาะใหญ่ เข้าอาศัยแต่พอชื่นได้คืนหลัง
พอพบพวกโจรเรือหลงเชื่อฟัง จะเข้าฝั่งชลธารโดยสารมัน
มันคิดคดลดเลี้ยวเกี้ยวพระแม่ ลูกจึงแก้แค้นฆ่าให้อาสัญ
ที่เหลือตายนายไพร่พร้อมใจกัน ยกกำปั่นใหญ่ให้ได้ไคลคลา
เที่ยวไต่ถามตามองค์พระทรงเดช ทุกประเทศทางทะเลเที่ยวเร่หา
จนไปถึงรมจักรนัครา พบพระอาถามทักรู้จักกัน
จึงเกณฑ์คนพลรบสมทบทัพ เดี๋ยวนี้อามากับกระหม่อมฉัน
พอเสียงปี่ที่เป่าเป็นสำคัญ ก็หมายมั่นว่าพระองค์ไม่สงกา
ลูกรำลึกตรึกถึงพระผ่านเกล้า จึงดื้อเดาโดดน้ำดำมาหา
เชิญเสด็จภูวไนยไปเภตรา พระเจ้าอาก็ละห้อยคอยพระองค์ ฯ
๏ พระรู้ว่าอนุชามาด้วยบุตร ยิ่งแสนสุดชื่นชมสมประสงค์
จึงตรัสบอกอุศเรนเจนณรงค์ นี่แหละองค์สินสมุทรบุตรข้าน้อย
เมื่อเรือแตกแบกนางมากลางน้ำ จึงได้กำปั่นใหญ่ไว้ใช้สอย
กับเรือน้องของข้ามาห้าร้อย เที่ยวแล่นลอยล่องหาในสาคร
เดชะบุญคุณพระมาปะพบ ไม่ต้องรบชิงช่วงดวงสมร
คงได้คู่สู่สมสยมพร อย่าทุกข์ร้อนเลยพระองค์จงสำราญ
เชิญไปลำกำปั่นของลูกรัก ให้พบพักตร์วรนุชสุดสงสาร
ประภาษพลางทางสุนทรสอนกุมาร ให้กราบกรานอุศเรนเจนณรงค์ ฯ
๏ ฝ่ายลูกท้าวเจ้าลังกาหน้าเป็นเหม แสนเกษมสมจิตคิดประสงค์
เรียกกุมารหลานเลี้ยงมาเคียงองค์ พ่อแสนทรงฤทธิ์เลิศประเสริฐชาย
ช่วยชีวิตขนิษฐาของอาไว้ ให้คืนได้ดวงสวาทเหมือนมาดหมาย
ไม่ลืมคุณหลานขวัญจนวันตาย พลางแนบกายกอดจูบลูบกุมาร
เอาเครื่องทรงสำอางอย่างกษัตริย์ เพชรรัตน์รจนามุกดาหาร
ทั้งเพชรนิลจินดามาประทาน พระกุมารเมินหน้าแล้วว่าพลัน
อย่าว่าแต่แก้วแหวนแสนสมบัติ ถึงจะจัดเอาอะไรมาให้ฉัน
ไม่มุ่งมาดปรารถนาสารพัน ข้ารักแต่แม่สุวรรณมาลี ฯ
๏ พระอภัยสุริย์วงศ์ทรงพระสรวล แกล้งเสชวนอุศเรนอันเรืองศรี
อย่าตอบถ้อยถือความเลยตามที เชิญภูมีมาไปหาสุดาดวง ฯ
๏ อุศเรนฟังว่าค่อยผาสุก เหมือนทิ้งทุกข์สักเท่าภูเขาหลวง
สั่งล้าต้าต้นหนคนทั้งปวง ตามกระทรวงซ้ายขวาสิบห้าลำ
ทั้งลำทรงธงทองเป็นสองแถว เลิศแล้วลายหลังคาเลขาขำ
หัศเกนเจนปืนยืนประจำ เข้าเคียงลำกำปั่นใหญ่ดังใจจง
อุศเรนรื่นเริงบันเทิงจิต เข้าสถิตเตียงทองที่ห้องสรง
ไขสุหร่ายปรายละอองมาต้ององค์ แล้วสอดทรงสนับเพลาเนาวรัตน์
ฉลององค์ทรงสวมกรวมสลับ ดุมประดับแต่ล้วนเพชรเจ็ดกะรัต
ปั้นเหน่งเนื่องเฟื่องกระหนกกระหนาบรัด แล้วทรงทัดพระมหามาลาระบาย
แซมดอกไม้ไหวสว่างหางการเวก เป็นอย่างเอกอวดผู้หญิงหยิ่งใจหาย
ธำมรงค์ทรงหัตถ์จำรัสพราย พระกรซ้ายเกี้ยวผ้าเช็ดหน้ากรอง
สอดเสน่าเหน็บตรีกระบี่ถือ สนับมือสอดใส่ไว้ทั้งสอง
ส่านจุหรี่สีกุหร่าคั่นหน้าทอง สอดฉลองพระบาทเพชรเสด็จมา
ทหารปืนถือปืนยืนสองข้าง ตามเยี่ยงอย่างยศศักดิ์คอยรักษา
แล้วเชิญพระอภัยให้ไคลคลา มาเภตราลำใหญ่ดังใจปอง ฯ
๏ ศรีสุวรรณนั้นมารับคำนับพี่ แต่สุวรรณมาลีหนีเข้าห้อง
พระอภัยพี่ยาน้ำตานอง ขึ้นแท่นทองที่นั่งทั้งอุศเรน
เหล่าโยธีศรีสุวรรณกับสินสมุทร ถืออาวุธพร้อมพรั่งทั้งดั้งเขน
พลฝรั่งลังกาพวกหัศเกน ล้วนจัดเจนประจุปืนยืนระวัง ฯ
๏ ศรีสุวรรณอัญชลีพระพี่เจ้า กำสรดเศร้าโศกคิดถึงความหลัง
จะกลั้นกลืนขืนใจก็ไม่ฟัง พระชลนัยน์ไหลหลั่งลงพรั่งพราย
พลางประณตบทเรศพระเชษฐา น้องนึกว่าสิ้นบุญจะสูญหาย
เที่ยวติดตามถามข่าวก็เปล่าดาย หากหลานชายชี้แจงจึงแจ้งใจ
แล้วทูลถึงสามพราหมณ์ตามมาด้วย เป็นเพื่อนม้วยมรณาจะหาไหน
พลางตรัสเรียกลูกน้อยกลอยฤทัย ไปกราบไหว้ให้ชิดพระบิตุลา ฯ
๏ สงสารองค์พระอภัยวิไลโฉม ลูบประโลมหลานน้อยละห้อยหา
อุ้มขึ้นวางกลางตักพิศพักตรา พระชลนานองเนตรสังเวชใจ
จะเล่าความตามยากเมื่อจากน้อง ก็ขัดข้องเขาจะแจ้งแถลงไข
จึงว่าพี่นี้ก็แสนสลดใจ หมายว่าไม่พบญาติแล้วชาตินี้
หากกุศลหนหลังเราทั้งสอง ได้พบน้องนัดดามารศรี
ยังทุกข์หนึ่งถึงชนกชนนี จะร้ายดีมิได้รู้ถึงหูเลย
พระร่ำพลางต่างองค์ทรงกันแสง โอ้เสียแรงเกิดมานิจจาเอ๋ย
ไม่เคยยากกรากกรำต้องจำเคย เมื่อไรเลยจะพร้อมวงศ์พงศ์ประยูร
พระพี่น้องสององค์สะอื้นไห้ ด้วยอาลัยไกลญาติเพียงขาดสูญ
ทั้งลูกน้อยนัดดาก็อาดูร ต่างเพิ่มพูนโศกเศร้าไม่เบาบาง ฯ
๏ อุศเรนร่ำปลอบให้ชอบจิต เห็นวายคิดขุ่นข้องที่หมองหมาง
จึงปราศรัยไต่ถามเนื้อความพลาง เดี๋ยวนี้นางนุชน้องอยู่ห้องใด
พระโปรดด้วยช่วยบอกโฉมเฉลา ให้นงเยาว์รู้แจ้งแถลงไข
ว่าพระชนนีนาถจะขาดใจ กันแสงไห้โหยหาไม่ราวัน
จึงใช้ข้าพยายามตามแสวง พระก็แจ้งความจริงทุกสิ่งสรรพ์
ช่วยเล้าโลมโฉมสุดาวิลาวัณย์ อย่าให้ขวัญเนตรหมางระคางใจ ฯ
๏ สินสมุทรสุดเคืองชำเลืองค้อน แกล้งตัดรอนขวางความตามวิสัย
รำคาญหูจู้จี้นี่กระไร เขาร้องไห้ไม่ทันหายวายน้ำตา
ขืนจะเฝ้าเร้ารบพบผู้หญิง ขันจริงจริงใจฝรั่งชังหนักหนา
มิใช่การภารธุระพระบิดา แม่ของข้าข้าไม่ให้ใครไปเลย ฯ
๏ พระอภัยได้ฟังสินสมุทร จึงว่าสุดเสนหาบิดาเอ๋ย
อย่าว้าวุ่นหุนหันเช่นนั้นเลย เหมือนทรามเชยช่วยธุระพระบิดา
อันองค์อุศเรนนี้อารีนัก เธอผูกรักซื่อตรงเหมือนวงศา
พ่อโดยสารท่านก็รับลงเรือมา จึงเห็นหน้าลูกน้อยกลอยฤทัย
ช่วยบอกความตามแต่แม่ของเจ้า น้ำใจเขาจะคิดเห็นเป็นไฉน
เธอเป็นคู่สู่ขออรไท มิใช่ใครนอกนั้นจะกั้นกาง ฯ
๏ สินสมุทรสุดแค้นให้แน่นจิต ทั้งสุดคิดสารพัดจะขัดขวาง
ลงจากแท่นแค้นใจร้องไห้พลาง มาหานางนั่งสะอื้นกลืนน้ำตา ฯ
๏ นางสวมสอดกอดองค์โอรสไว้ แล้วถามไต่ลูกน้อยละห้อยหา
เมื่อตะกี้ที่เขาตามบิดามา เขาพูดจาว่ากระไรไปหรือยัง ฯ
๏ สินสมุทรพูดจาประสาซื่อ นั่นแลคือตัวความมาตามหลัง
พระรักเขาชาวลังกาหรือว่าชัง อย่าปิดบังบอกความลูกตามจริง
เดี๋ยวนี้เล่าเขาจะรับไปอภิเษก เป็นองค์เอกอิศราพระยาหญิง
เห็นรูปร่างข้างเขาก็เพราพริ้ง จะต้องทิ้งลูกเสียแท้แล้วแม่คุณ ฯ
๏ นางแกล้งว่าน่าเบื่อเหลือแล้วเจ้า อะไรเฝ้าโกรธเกรี้ยวทำเฉียวฉุน
ถึงสู่ขอก็มิใช่ได้เคยคุ้น จะมาวุ่นว่าขานรำคาญใจ
เดี๋ยวนี้เล่าเจ้าจะให้แม่ไปหรือ กลัวฝีมือเขากระมังนั่งร้องไห้
พระบิดาว่าขานประการใด อย่าร่ำไรเลยช่วยแปลให้แม่ฟัง ฯ
๏ กุมารว่าพระแม่ไม่เห็นจิต ปัจจามิตรมากน้อยไม่ถอยหลัง
แต่แค้นจิตพระบิดานี้น่าชัง รักฝรั่งนี่กระไรจะให้คืน
ให้ลูกยามาถามความพระแม่ ว่าตามแต่ประดิพัทธไม่ขัดขืน
พระมารดาอย่าฟังจงยั่งยืน ว่าไม่คืนไปลังกาจะว่าไร
ถึงฝรั่งคั่งแค้นแม้นจะรบ ไม่หลีกหลบเลยพระองค์อย่างสงสัย
จะสังหารผลาญชีวันให้บรรลัย ว่าแต่ใจของพระแม่จะแชเชือน ฯ
๏ นางฟังความยามวิโยคยิ่งโศกซ้ำ ให้แค้นคำพระอภัยใครจะเหมือน
เสียแรงหวังตั้งจิตไม่บิดเบือน มาแชเชือนเสียไม่รับให้อับอาย
แต่แรกเล่าเขาว่าผัวเป็นชั่วช้า จะเอาหน้าไว้ที่ไหนน่าใจหาย
มิขออยู่สู้สิ้นชีวาวาย พลางฟูมฟายชลนาแล้วพาที
กรรมของแม่แน่แล้วลูกแก้วเอ๋ย ไม่ควรเลยสารพัดจะบัดสี
เขาเลื่องลืออื้ออึงถึงเพียงนี้ ตายเสียดีกว่าอยู่รับอัประมาน
ช่างกระไรใจคอพระพ่อเจ้า พูดกับเราไว้แต่ก่อนล้วนอ่อนหวาน
เป็นน่าแค้นแสนเสียดายสายสังวาล จะให้ทานเสียก็ดีไม่มีภัย
แล้วนางถอดธำมรงค์ของทรงยศ ให้โอรสร่ำว่าน้ำตาไหล
แหวนนี้เจ้าเอามาแต่ผู้ใด เอาไว้ให้ท่านเถิดพ่อจะขอลา
อัปยศอดสูอยู่ไม่รอด จะม้วยมอดเสียมิให้ใครเห็นหน้า
แล้วชักกริชคิดจะตายวายชีวา พระลูกยาแย่งยุดนางฉุดชิง ฯ
๏ กุมาราว่าดูเอาเจ้าแม่เอ๋ย กระไรเลยใจจิตผิดผู้หญิง
ฉวยกระชากจากนางแล้วขว้างทิ้ง แค้นจริงจริงใจคอใช่พอดี
พระบิดาให้ถามดูตามซื่อ ควรแล้วหรือแม่จะตายให้อายผี
ถึงมาดแม้นแค้นบิดาไม่ปรานี ลูกยังมีแม่ก็ไม่อาลัยเลย ฯ
๏ นางกอดบุตรสุดขืนสะอื้นไห้ เหลืออาลัยแล้วพ่อคุณของแม่เอ๋ย
เหมือนหญิงร้ายชายชังไม่หวังเชย จะแหงนเงยดูมนุษย์ก็สุดอาย
ถึงม้วยแล้วแก้วตาอย่าปรารภ จะขอพบสุดสวาทเหมือนมาดหมาย
ขอให้พ่อก่อเกิดกับร่างกาย ได้กินสายกษิรามารดาเดียว
เจ้ารักแม่แม่ก็รู้อยู่ว่ารัก มิใช่จักลืมคุณทำฉุนเฉียว
แต่เหลืออายหลายสิ่งจริงจริงเจียว เป็นหญิงเดียวชายสองต้องหมองมัว
เมื่อแรกเราเล่าบอกเขาออกอื้อ อ้างเอาชื่อพระบิดาว่าเป็นผัว
ครั้นคู่เก่าเขามารับก็กลับกลัว แกล้งออกตัวให้มาถามว่าตามใจ
จึงเจ็บจิตคิดแค้นแม้นจะอยู่ ก็อดสูเสียสัตย์ต้องตัดษัย
กันแสงพลางทางสะอื้นขืนอาลัย พระชลนัยน์ไหลซาบอาบพักตรา ฯ
๏ สินสมุทรสุดแสนสงสารแม่ อุตส่าห์แก้แทนบิดรชะอ้อนว่า
ที่จริงจิตบิตุเรศของลูกยา ไม่รู้ว่าเราจะอ้างเอาอย่างนั้น
จึงให้ถามตามซื่ออย่างถือโทษ ถึงจะโกรธก็แต่ว่าอุตส่าห์กลั้น
เขาไปแล้วลูกจะว่าสารพัน แม่เชื่อฉันเถิดนะจ๋าอย่าเพ่อตาย
แหวนวงนี้ที่ท่านวานฉันมาให้ จงเก็บไว้ต่อว่าอย่าให้หาย
ถ้าทีนี้มิรับยังกลับกลาย จะทวงสายสังวาลเก่าของเรามา
ถึงงอนง้อก็ฉันไม่พันผูก อยู่แม่ลูกตามที่ประสีประสา
สอพลอพลางทางประนมบังคมลา ลุกออกมากวักพระหัตถ์ตรัสเรียกน้อง
แม่อรุณรัศมีมานี่หน่อย แล้วจึงค่อยกระซิบสั่งกันทั้งสอง
ไปอยู่เป็นเพื่อนป้าหนาแม่น้อง จะขัดข้องฆ่าชีวันให้บรรลัย ฯ
๏ นางอรุณรัศมีฟังพี่เล่า ว่าแม่เจ้าเอ๋ยกรรมจะทำไฉน
ลูกตายจริงวิ่งมาหาป้าสะใภ้ บังคมไหว้วอนถามตามสงกา ฯ
๏ สินสมุทรออกมานั่งบัลลังก์นอก แล้วแกล้งบอกตามจิตประดิษฐ์ว่า
แม่สุวรรณมาลีมิอยากมา แล้วก็ว่าไม่รู้จักมิพักไป ฯ
๏ อุศเรนเห็นทำนองจะข้องขัด ยิ่งกลุ้มกลัดกล่าวแกล้งแถลงไข
อาบน้ำร้อนก่อนเจ้าข้าเข้าใจ เมื่อไม่ให้แล้วก็ว่าสารพัน
บิดาเจ้าเล่าก็รู้อยู่เต็มจิต มิใช่คิดโหยกเหยกมาเสกสรร
ได้ขอสู่ผู้ใหญ่ท่านให้ปัน นางสุวรรณมาลีนี้ของเรา
จึงต้องตามทรามสงวนนวลหง ได้รับองค์พระอภัยมาให้เจ้า
เจ้าชอบแต่คืนองค์นางนงเยาว์ มาให้เราจึงจะต้องทำนองใน ฯ
๏ สินสมุทรพูดจาประสาเด็ก ถึงเราเล็กก็ไม่ส่งอย่าสงสัย
รับบิดามาก็ช่างใครเป็นไร หรือข้าใช้สอยเจ้าให้เอามา
เราตามติดบิตุรงค์ก็คงพบ ไม่รักคบคนนอกพระศาสนา
เจ้าเลิกทัพกลับหลังไปลังกา จะได้หาเมียงามเอาตามใจ
ที่ตรงนี้มิได้คืนอย่าขืนแค่น ถึงจะแสนโศกาเลือดตาไหล
ก็ตายเปล่าเราไม่ยักให้ใครไป อย่ากวนใจจู้จี้ข้าขี้คร้าน ฯ
๏ อุศเรนคั่งแค้นแสนพิโรธ แกล้งกลั้นโกรธตรัสประภาษด้วยอาจหาญ
ตัวของเจ้าเยาว์ยังกำลังพาล เหมือนหนึ่งหลานลามลวนไม่ควรเลย
อันเรากับพระอภัยได้ให้สัตย์ ไม่ข้องขัดกันทุกสิ่งจริงเจ้าเอ๋ย
จึงงอนง้อขอกันฉันคุ้นเคย อย่าเยาะเย้ยเลยเจ้าไม่เข้ายา
แล้วว่ากับพระอภัยวิไลลักษณ์ น้องก็รักภูวเรศเหมือนเชษฐา
พระก็รู้อยู่กับใจแต่ไรมา จะเมตตาหรืออย่างไรอย่าได้พราง ฯ
๏ พระฟังคำอ้ำอึ้งตะลึงคิด จะเบือนบิดป้องปัดก็ขัดขวาง
สงสารลูกเจ้าลังกาจึงว่าพลาง เราเหมือนช้างงางอกไม่หลอกลวง
ถึงเลือดเนื้อเมื่อน้องต้องประสงค์ พี่ก็คงยอมให้มิได้หวง
แต่ลูกเต้าเขาไม่เหมือนคนทั้งปวง จะได้ช่วงชิงให้ไปกระนั้น
พี่ว่าเขาเขาก็ว่ามากระนี้ มิใช่พี่นี้จะแกล้งแสร้งเสกสรร
เพราะเหตุเขารักใคร่อาลัยกัน ค่อยผ่อนผันพูดจาอย่าราคี
แล้วตรัสบอกลูกน้อยกลอยสวาท เจ้าหน่อเนื้อเชื้อชาติดังราชสีห์
อันรักษาศีลสัตย์กัตเวที ย่อมเป็นที่สรรเสริญเจริญคน
ทรลักษณ์อกตัญญุตาเขา เทพเจ้าก็จะแช่งทุกแห่งหน
ให้ทุกข์ร้อนงอนหง่อทรพล พระเวทมนตร์เสื่อมคลายทำลายยศ
เพราะบิดามาด้วยอุศเรนนี้ คุณเขามีมากล้นพ้นกำหนด
เจ้าทำผิดก็เหมือนพ่อทรยศ จงออมอดเอ็นดูพ่อแต่พองาม ฯ
๏ สินสมุทรสุดจะคิดถึงบิตุเรศ ไม่สังเกตกลศึกให้นึกขาม
ศรีสุวรรณครั้นเห็นหลานจะเบาความ จึงตอบตามถ้อยคำพอนำทาง
จะถือโทษโกรธไปก็ไม่ชอบ ถึงจะมอบให้ก็คงจะขัดขวาง
ด้วยหญิงชายอายจิตคิดระคาง ที่ไหนนางจะยอมไปเหมือนใจจง
ถ้าแม้นพี่น้องนางมาด้วย จะได้ช่วยฝากฝังดังประสงค์
นี่ใจนางก็ไม่วางในพระองค์ จะมาลงเอาหลานฉันอย่างไร
แม้นโฉมยงปลงใจจะไปด้วย ที่ตรงหลานฉันจะช่วยพูดแก้ไข
แต่ใจนางนฤมลนั้นจนใจ จะว่าใครขัดข้องก็ตรองดู ฯ
๏ อุศเรนเจนจัดจึงตรัสตอบ พระว่าชอบหญิงกับชายอายอดสู
แต่เข้าหอพ่อแม่ให้เลี้ยงดู คงเป็นคู่แล้วยังไม่ใคร่จะยอม
อันนางนี้ที่จะให้ว่าไปด้วย ก็เขินขวยเพราะไม่เคยเชยถนอม
ถ้าแม้นให้ไปประโลมค่อยโน้มน้อม ก็คงยอมพระก็รู้อยู่แก่ใจ ฯ
๏ ศรีสุวรรณชั้นเชิงฉลาดแหลม จึงเยื้อนแย้มยิ้มย่องสนองไข
จะโลมเล้าเยาวมาลย์ประการใด ตามแต่ใจจะถนัดไม่ขัดกัน
แม้นโฉมยงปลงใจจะไปด้วย จะได้ช่วยกันไปส่งลงกำปั่น
นี่แหละงามตามตรงเหมือนพงศ์พันธุ์ จะให้ฉันช่วยฉุดนั้นสุดใจ ฯ
๏ อุศเรนฟังคำทำหัวเราะ พระพูดเพราะพร่ำว่าอัชฌาสัย
แต่เช่นนั้นนั่นก็เหมือนไม่ให้ไป พูดทำไมว่าจะช่วยให้ป่วยการ
อันนารีนี้เป็นของต้องประสงค์ หรือพระองค์เจตนาเร่งว่าขาน
จงโปรดว่ามาให้เสร็จสำเร็จการ อย่าหน่วงนานน้องจะได้ครรไลลา ฯ
๏ ศรีสุวรรณกับพระพี่มีคำตอบ จึงว่าคิดผิดระบอบเป็นนักหนา
ถึงจะบอกออกเหมือนท่านจำนรรจา ใครจะมาว่ากับใครอย่างไรมี
นี่รักกันฉันจึงว่าประสาซื่อ ควรแล้วหรือพูดรังเกียจมาเสียดสี
เมื่อนึกแหนงแคลงความก็ตามที ฉันกับพี่ก็มิใช่ว่าได้นาง
สินสมุทรนั้นแหละเขาเป็นเจ้าของ ตามทำนองแต่ถนัดไม่ขัดขวาง
แล้วแสแสร้งแกล้งพูดกับพี่พลาง เมื่อความอย่างนี้จะโกรธโทษเอาใคร
ซึ่งคุณเขาเอามาด้วยก็ช่วยว่า จนลูกยาอนุญาตประสาทให้
เมื่อใจเขาเจ้าตัวไม่ยอมไป ก็จนใจอยู่ด้วยกันเท่านั้นเอง ฯ
๏ อุศเรนเหลือแค้นแน่นอุระ ว่าชิชะพูดเพราะช่างเหมาะเหมง
โดยจะว่าถ้าไม่ใช่คนกันเอง ก็จะเกรงกันทำไมมิใช่นาย
ซึ่งวอนว่าพระอภัยให้ช่วยขอ คิดว่าพ่อลูกกันเหมือนมั่นหมาย
เมื่อรักหญิงทิ้งสัตย์ตัดผู้ชาย ไม่เสียดายคำแล้วก็แล้วไป
แต่หากว่าถ้าฉันกับสินสมุทร สัประยุทธ์กันก็จิตจะคิดไฉน
จะช่วยฉันหรือว่าพระจะช่วยใคร ขอรู้ใจจงแถลงให้แจ้งการณ์ ฯ
๏ พระอภัยใจอ่อนถอนสะอื้น อุตส่าห์กลืนชลนาน่าสงสาร
แล้วห้ามปรามตามใจอาลัยลาน คุณของท่านเลิศลบภพไตร
แต่สุดที่พี่จะคิดให้มิดมืด เหมือนใจจืดเจ้าก็คงจะสงสัย
เพราะลูกเต้าเขาไม่ชั่วไม่กลัวใคร จึงจนใจจำนิ่งทุกสิ่งอัน
แม้นรบสู้ผู้ใดก็ไม่ช่วย จะอยู่ด้วยอนุชาประสาฉัน
ถ้าลูกยาฆ่าน้องจะป้องกัน แม้นท่านฟันลูกยาไม่ว่าไร
เป็นความจริงสิ่งสัตย์บรรทัดเที่ยง ไม่หลีกเลี่ยงเลยพระองค์อย่างสงสัย
แต่จะห้ามตามประสายังอาลัย จะชิงชัยสินสมุทรจงหยุดยั้ง
เขาเรี่ยวแรงแข็งขันทั้งสันทัด สารพัดจะศึกษาวิชาขลัง
ทั้งดุร้ายใจเหมือนเสือเหลือกำลัง ห้ามไม่ฟังเหมือนทุกคนเป็นจนใจ ฯ
๏ อุศเรนเจนศึกไม่นึกพรั่น แกล้งสรวลสันต์เสียดแทงแถลงไข
พระเชษฐาว่าจริงทุกสิ่งไป คงจะได้เชยชมสมคะเน
ฉวยรบพุ่งยุ่งยิ่งชิงไปได้ ก็อาลัยอยู่ด้วยนางจะห่างเห
สนิทแนบแยบคายช่างถ่ายเท เขียนจระเข้ขึ้นไว้หลอกตะคอกคน
เราก็ชายหมายมาดว่าชาติเชื้อ ถึงปะเสือก็จะสู้ดูสักหน
ไม่รักวอนงอนง้อทรชน แล้วพาพลกลับมาเภตราพลัน
ถึงกองทัพยับยั้งนั่งเก้าอี้ สั่งให้ตีกลองสัญญาโกลาลั่น
ร้องเรียกเรือรบฝรั่งมาทั้งนั้น แล้วแบ่งปันเป็นแผนกแยกนาวา
กองละร้อยคอยรบสมทบทัพ เกณฑ์กำกับเกียกกายทั้งซ้ายขวา
ให้คอยล้อมพร้อมพรั่งดังสัญญา เห็นลมกล้าได้ทีตีประดัง
ให้พวกเรือเหนือลมนั้นสมทบ เข้ารุมรบลำใหญ่เหมือนใจหวัง
แม้นขึ้นได้ไฟจุดอย่าหยุดยั้ง แล้วกองหลังหนุนด้วยช่วยให้ทัน
แม้นพบชายนายทัพจงจับมัด มันขืนขัดจึงค่อยฆ่าให้อาสัญ
ถ้าลำไหนได้นางจะรางวัล ครองประจันตประเทศเขตนคร ฯ
๏ ฝ่ายฝรั่งพรั่งพร้อมต่างน้อมนบ ลงเรือรบเรียบร้อยลอยสลอน
ทั้งโยธากล้าหาญคอยราญรอน ใส่เสื้อซ้อนเกราะกระสันกันศัสตรา
ทหารปืนยืนมองตามช่องกราบ ศรกำซาบแทรกรายทั้งซ้ายขวา
พร้อมทหารขานโห่เป็นโกลา ธงสัญญาโบกบอกให้ออกเรือ
กองละร้อยคอยรบไม่หลบหลีก ซักเป็นปีกกาไปทั้งใต้เหนือ
บ้างถือชุดจุดไฟไว้เป็นเชื้อ เข้าล้อมเรือลำใหญ่ระไวระวัง ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ