ตอนที่ ๑๑๖ ท้าวกุลามาลีได้นางดวงประไพลูกสาวท้าวสินชัยเจ้าเมืองกาศึก

๏ อันบทเบื้องเรื่องนี้ยกไว้ก่อน จะขอย้อนกล่าวข้างแขกแปลกภาษา
ท้าวกุลามาลีศรีโสภา รักธิดาจอมนรินทร์เมืองสินชัย
จึ่งเล้าโลมเอาใจพระสังฆราช อภิวาทพูดจาอัชฌาสัย
ตั้งแต่มาอยู่ก็นานรำคาญใจ อยากได้โฉมยงอนงค์นาง
เจ้าคุณจงกรุณาว่ากับเขา ช่วยโลมเล้าเป่าปัดที่ขัดขวาง
แม้นนานไปยาวยืดจะจืดจาง ฉวยว่าค้างอายเขาชาวบุรินทร์ ฯ
๏ บาทหลวงว่าฮ้าเฮ้ยการสู่ขอ จะต้องล่อเอาด้วยลมสมถวิล
ถ้าแม้นฉวยพลาดท่าเป็นราคิน พากันดิ้นเจียวหนาหวาอ้ายบ้ากาม
จำจะต้องคิดเป็นกลข้างมนต์เวท ใช้ของวิเศษเสียแต่แรกเหมือนแบกหาม
แล้วจึ่งค่อยตรองหาพยายาม คงสมความคิดดอกหวาไม่ช้านาน
เวลาค่ำแกก็ทำทางเสน่ห์ อุปเท่ห์ที่จะใช้หลายสถาน
แล้วเอาดอกรักมาไม่ช้านาน น้ำมันว่านทาเข้าแล้วเป่ามนต์
ดอกไม้หายกลายเป็นแมลงทับ เขียวระยับทองพรายในลายขน
แล้วปล่อยไปที่ในวังกำลังมนต์ ไปบินวนอยู่ริมนางในปรางค์ชัย ฯ
๏ ฝ่ายโฉมยงองค์ธิดาพระยาหญิง สมรมิ่งยินดีจะมีไหน
จึ่งตรัสเรียกสาวสรรค์กำนัลใน มาไวไวช่วยจับแมงทับทอง
ฝ่ายนารีพี่เลี้ยงอยู่เคียงอาสน์ เอาผ้าฟาดจับได้มิให้หมอง
ถวายองค์อรไทดั่งใจปอง นางประคองจับใส่ไว้ในกรง
พอถูกตัวพิษยาอีตาเฒ่า เข้าจับเอาดวงจิตพิศวง
ทั้งพี่เลี้ยงสี่นางสำอางองค์ พิศวงแมลงทับจับหัวใจ
ฝ่ายอนงค์องค์ธิดาพระยาหญิง สมรมิ่งดวงจิตหวิดหวิดไหว
ให้บังเกิดราคร้อนอ่อนฤทัย คิดจะใคร่หาคู่มาสู่ปรางค์
ไม่เป็นอันสรงเสวยเลยไม่ตรัส จิตประหวัดตรึกตรองให้หมองหมาง
เลยบรรทมหลับไปที่ในปรางค์ พระนุชนางฝันเห็นว่าเป็นงู
มารัดรึงถึงอุราแล้วอ้าปาก สำรอกรากพิษใส่ไว้ในหู
พระกายนางสั่นรัวกลัวแต่งู ต่อเป็นครู่แล้วก็ฟื้นตื่นบรรทม
พอรุ่งรางสร่างแสงแจ้งกระจ่าง พระนุชนางพลิกหาคว้าสนม
นางพี่เลี้ยงเคียงที่แท่นบรรทม ต่างปรารมภ์ทูลถามดูตามแคลง ฯ
๏ ฝ่ายพุ่มพวงดวงประไพสายสมร มีสุนทรบอกกล่าวเล่าแถลง
น้องฝันว่างูพิษฤทธิแรง มันมาแกล้งรวบรัดอัดอุรา
แล้วพ่นพิษกรอกใส่ลงในหู อันพิษงูแล่นกระทั่งทั่วมังสา
น้องฟื้นตื่นจากในที่ไสยา ในอุรานึกว่าตายประลัยลม
นางพี่เลี้ยงแจ้งความตามนิมิต อสรพิษจะได้คู่มาสู่สม
จึ่งแจ้งว่าฝันอย่างนี้ดีอุดม จะได้ชมสิ่งของที่ต้องการ
พระเทพินยินคำพี่เลี้ยงฉลอง โดยทำนองปรีดิ์เปรมเกษมศานต์
นางจึ่งมีมธุรสพจมาน ก่อรำคาญใจน้องให้หมองมน ฯ
๏ จะกล่าวข้างสังฆราชพระบาทหลวง เวลาล่วงเย็นพลับลับเวหน
เข้าในห้องตรองตำราหาข้างมนต์ จะทำกลการเสน่ห์เพทุบาย
จึ่งเรียกท้าวเจ้าพาราปตาหวี เข้ามาชี้ทางมนต์ให้ขวนขวาย
ทั้งยาแฝดแปดอย่างข้างอุบาย เอาให้ตายราบกูผู้อาจารย์
แล้วให้เรียนอาคมประสมจิต ผู้หญิงติดใจรักสมัครสมาน
เองอุตส่าห์เล่าไว้ให้ชำนาญ คงได้การมั่นคงอย่าสงกา
ฝ่ายไทท้าวเจ้าพาราปตาหวี ก็ยินดีเรียนมนต์ดลคาถา
ไม่ใคร่จะจำได้ในตำรา บาทหลวงด่างึมงำร่ำพิไร
ว่ามึงนี้ชาติโง่อ้ายโคถึก ไม่ตรองตรึกพูดมากถลากไถล
เองมันโง่เต็มประดาว่าอย่างไร จึ่งจะได้เขามาอยู่เป็นคู่ครอง ฯ
๏ ท้าวกุลามาลีศรีสวัสดิ์ ให้แค้นขัดใจตัวให้มัวหมอง
จะเล่าเรียนไม่ใคร่ได้ดั่งใจปอง มันให้ข้องเคืองขัดอัดอารมณ์
บาทหลวงว่าหน้าตาก็แช่มช้อย แต่โง่น้อยไปหรือหวาด่าขรม
คนเช่นเองมันไม่น่าสมาคม โง่ไม่สมกันกับตัวชั่วจริงจริง
แต่จนใจว่ามึงได้มาป็นศิษย์ จึ่งต้องติดแก้ไขให้ได้หญิง
ชาติอ้ายคนทีหลังอยากเหมือนทากปลิง จะสอนสิ่งอันใดมันไม่เอา
แกด่าพลางทางลุกเข้าในห้อง หยิบเอาทองออกมาปรุฉลุเฉลา
เป็นดอกไม้ติดกิ่งให้พริ้งเพรา แล้วเสกเป่าหลายอย่างทางเมตตา ฯ
๏ ฝ่ายระเด่นดวงประไพวิไลสมร ให้รุมร้อนในเล่ห์เสน่หา
เรียกพี่เลี้ยงสาวสรรค์กัลยา ให้เข้ามาขับกล่อมถนอมนวล ฯ
๏ ฝ่ายท่านท้าวเจ้าพาราเมืองกาศึก หวนรำลึกถึงท่านครูอยู่ที่สวน
หลายเวลามิได้ไปให้รัญจวน ท้าวเธอชวนพวกสุรางค์นางกำนัล
แล้วให้จัดผลผลาสุธาโภชน์ ที่เอมโอชสารพัดเร่งจัดสรร
ใส่ถาดทองรองเรืองเครื่องสุวรรณ สำเร็จพลันไปหาท่านอาจารย์
บาทหลวงเฒ่าลุกไปปราศรัยสนอง สมที่ตรองตรึกไว้หลายสถาน
ท้าวสินชัยวันทาพระอาจารย์ แสดงการที่ได้เพียรเรียนวิชา
ฝ่ายไทท้าวเจ้าพาราปตาหวี มาถึงที่แล้วประนมก้มเกศา
สนองอรรถมธุรสพจนา เจ้าพารารักใคร่เป็นไมตรี
มาอยู่ในนคเรศเขตสถาน ค่อยสำราญปรีดิ์เปรมเกษมศรี
หรือโรคภัยสิ่งใดมายายี ต่อเดือนสีจึ่งค่อยจรอย่าร้อนรน
ท้าวกุลามาลีศรีสวัสดิ์ ประสานหัตถ์ทูลแจ้งแห่งนุสนธิ์
มีความสุขแสนสบายทั้งไพร่พล ไม่ขัดสนได้พึ่งพาบารมี ฯ
๏ บาทหลวงลุกเข้าไปที่ในห้อง หยิบเอาของกับตำราห่อผ้าสี
ทั้งดอกไม้ทำด้วยทองเป็นของดี เอามาที่ท้าวไทแล้วให้ปัน
แล้วจึ่งว่าข้าแต่ท้าวเจ้าพิภพ อย่าปรารภเป็นความจริงทุกสิ่งสรรพ์
จะต้องประสงค์วิชาสารพัน ไม่หวงกันจะให้สมอารมณ์ปอง
ท้าวสินชัยรับดอกไม้ของสังฆราช งามประหลาดเหลือดีไม่มีสอง
ได้รสยาทาไว้ในที่ทอง กลิ่นละอองหอมรับจับหัวใจ
ยาอ้นนี้มีมาแต่ครั้งก่อน แกคิดต้อนพวกกษัตริย์แทบตักษัย
แต่บรรดาเชื้อวงศ์องค์อภัย หลงเข้าไปติดขังอยู่ลังกา
ฝ่ายท้าวไทให้รักบาทหลวงเฒ่า กับไทท้าวปตาหวีนี้หนักหนา
ยิงกว่าญาติผูกพันแต่นั้นมา เธอจึ่งว่าขอบใจในเจ้าคุณ
จะประสงค์สิ่งไรฉันไม่ขัด สารพัดขาดเหลือจะเกื้อหนุน
ฉันขอบใจใต้เท้าเจ้าประคุณ ได้พึ่งบุญพากเพียรเรียนวิชา
พูดกันเสร็จแล้วคำนับกลับปราสาท กำนัลนาฏตามไปทั้งซ้ายขวา
ขึ้นนั่งแท่นแสนสบายได้ตำรา ท้าวเธอปราโมทย์กระหยิมอิ่มพระทัย
แล้วตรัสเรียกมเหสีมานี่เจ้า อาจารย์เราใจดีจะมีไหน
ให้ของดีเป่าปัดกำจัดภัย คือดอกไม้ทำด้วยทองเป็นของดี
แล้วหยิบส่งให้นางพลางประภาษ แก่นุชนาฏองค์มิ่งมเหสี
นางคำนับรับมาไม่ช้าที กลิ่นมาลีหอมหวนรัญจวนใจ
ให้ฉุนรักสังฆราชพระบาทหลวง เพราะดอกดวงไม้ทองอันผ่องใส
กลิ่นเข้าวับจับจ้วงเอาดวงใจ ให้หอมในนาสาดั่งทาจันทน์
ระเหยหวนชวนชื่นระรื่นรส ก็ปรากฏจับใจให้กระสัน
แต่ดมกลิ่นอื่นอื่นสักหมื่นพัน ไม่เทียมทันกลิ่นอายดอกไม้ทอง
จะว่าข้างสังฆราชแกมาดหมาย อ้ายนี่ตายราบกูผู้เจ้าของ
จึ่งว่ากับท้าวไทสมใจปอง คงได้ของดีแล้วไม่แคล้วเลย ฯ
๏ ท้าวกุลามาลียินดีสุด อยากได้นุชมาไว้เรียงเคียงเขนย
ฟังอาจารย์ท่านขยายภิปรายเปรย ค่อยเสบยบางเบาบรรเทาทรวง
แล้วจึ่งว่าข้าแต่อาจารย์เจ้า จงโปรดเกล้าเชิญเข้าไปในวังหลวง
แม้นได้ช่องจะได้ลองขอพุ่มพวง ตามกระทรวงวงศ์กษัตริย์ขัตติยา ฯ
๏ บาทหลวงแกจึ่งด่าอ้ายตาเหลือง พอไฟเรืองก็จะไปใครเขาหา
ให้เองตั้งหม้อข้าวเองเผาปลา มันพูดจาเอาแต่ได้ข้างใช้ครู
สอนอะไรก็ไม่จำอ้ายซำเสือก ดีแต่เกลือกกลิ้งนอนจนอ่อนหู
จะต้องการสิ่งไรมาใช้กู การเมียชู้ลูกเต้าไม่เข้าใจ
แต่ขอสู่กูพอจะรู้บ้าง พูดเป็นทางตามประสาอัชฌาสัย
การเช่นนี้ไม่กังวลไม่สนใจ เองให้ไปก็ต้องลองดูที
พลางจัดแจงแต่งตัวเหมือนขรัวแก่ ใส่เสื้อแพรดอกทองละอองศรี
หมวกประดับจินดาราคามี ล้วนของดีอย่างฝรั่งข้างลังกา
แล้วเรียกคนปรนนิบัติพลางจัดของ เครื่องเงินทองสารพัดแกจัดหา
ทั้งกระบี่ฝักทองของลงยา แกได้มาแต่สิงหลเพราะสนใจ
แล้วเยื้องย่างไปทางถนนหลวง ศิษย์ทั้งปวงกับพวกล่ามตามไสว
ถือข้าวของไปพลันด้วยทันใจ ตรงเข้าไปในนิเวศน์เขตบุรินทร์
พอไทท้าวเจ้าพิภพจบจังหวัด ออกแท่นรัตน์สมจิตคิดถวิล
ตรงเข้าไปถึงท้าวเจ้าแผ่นดิน ท่านท้าวสินชัยมารับประคับประคอง
เชิญให้นั่งบนเก้าอี้ยินดีเหลือ ราวกะเชื้อวงศ์อันดีไม่มีสอง
คำนับน้อมยอมเป็นศิษย์ดั่งจิตปอง ไม่ขัดข้องปรีดาในอาจารย์
บาทหลวงเฒ่าเอากระบี่ที่แกถือ วางในมือเจ้าประเทศเขตไพศาล
ประสิทธิ์เวทกล่าวรสพจมาน ว่าอาจารย์ขอให้ท้าวเจ้าบุรินทร์
สำหรับถือออกศึกอย่านึกพรั่น คนหมื่นพันสู้ได้ดั่งใจถวิล
เก็บเอาไว้ใช้เถิดท้าวเจ้าบุรินทร์ จะเพิ่มภิญโญยศปรากฏนาม ฯ
๏ ท้าวสินชัยได้กระบี่ยินดีนัก เป็นที่รักยำเยงทั้งเกรงขาม
ทั้งขึ้นชื่อลือยศปรากฏนาม ไม่มีความกินแหนงแคลงพระทัย
แล้วเชิญองค์ท่านครูผู้วิเศษ เข้านิเวศน์เรือนทองอันผ่องใส
เชิญให้กินเครื่องหวานสำราญใจ ทั้งลูกไม้เอมโอชโภชนา
ท้าวเสวยเนยนมขนมหวาน กับอาจารย์พูดกันต่างหรรษา
ฝ่ายตาเฒ่ากล่าวรสพจนา ว่าดูราไทท้าวเจ้านคร
ท่านชุบเลี้ยงตัวข้าเป็นผาสุก ไม่มีทุกข์ภิญโญสโมสร
ได้เลื่องชื่อลือไปกระจายจร ทั้งนครแดนด้าวเพราะท้าวไท
ประเดี๋ยวนี้เจ้าพาราปตาหวี อยากเป็นที่พึ่งพักจนตักษัย
จะขอเป็นเกือกทองฉลองไป ท่านจงได้โปรดเกล้าแก่ท้าวเธอ
จะขออนงค์นงลักษณ์อัคเรศ แม้นโปรดเกศอนุกูลอย่างทูลเสนอ
ถ้าโปรดปรานในประยูรสกูลเธอ จะเปรมเปรอประดิพัทธ์สวัสดี ฯ
๏ ฝ่ายไทท้าวเจ้าบุรินทร์ปิ่นพิภพ เธอปรารภเราก็รักเป็นศักดิ์ศรี
ถ้าแม้นฉวยได้เสียเมียเขามี จะเป็นที่อัปยศไม่งดงาม
แล้วจึงว่าข้าแต่อาจารย์เจ้า อันเมียเขามีหรือไม่ขอไต่ถาม
ฉวยไปเป็นน้อยเขาเล่าสิงาม จะเกิดความขุ่นข้องให้หมองมัว ฯ
๏ บาทหลวงว่าข้าแต่ท้าวเจ้าพิภพ อย่าปรารภมิให้เสียการเมียผัว
ที่จะเป็นเหมือนเช่นว่าท่านอย่ากลัว เขาก็ตัวเปล่าดอกไม่หลอกลวง
แต่ไปอยู่กับอาจารย์นานหนักหนา ไม่เห็นว่าเมียมีเป็นที่หวง
จึงพาพวกเหล่าพหลคนทั้งปวง เที่ยวแล่นล่วงเรือมาในสาคร
เขาก็เป็นคนดีอารีรัก เห็นสมศักดิ์สมศรีบุตรีสมร
ข้าจึงได้มาขอมาง้องอน ตามภูธรจะเมตตาโปรดปราน ฯ
๏ ฝ่ายไทท้าวเจ้าพาราเมืองกาศึก ขอตรองตรึกจะปรึกษามเหสี
อีกสามวันเชิญท่านมาอย่าช้าที การอันนี้สุดแท้แต่แม่เรือน ฯ
๏ บาทหลวงเฒ่าเสาวนาแล้วลากลับ ท่านคำนับรักใคร่ใครจะเหมือน
เธอหยั่งจิตลงเป็นแท้ไม่แชเชือน ไม่บิดเบือนสิ่งไรคงให้ปัน
แต่ธรรมดาว่าขานการอย่างนี้ ต้องเอาที่กตัญญูเพราะคู่ขัน
เปรียบเหมือนคนชัดว่าวคราวพนัน ต้องดูชั้นเชิงจะคว้าคอยท่าลม ฯ
๏ บาทหลวงเฒ่ากลับมาหน้าเป็นเหม แสนเกษมอยู่ในใจคงได้สม
เดชะเวทวิทยาทั้งอาคม คงจะสมที่คะเนเหมือนเทครัว
แกจึ่งเล่าแก่พระยาปตาหวี เคราะห์เองดีค้าตะเภาเป็นเจ้าสัว
คงจะสมปรารถนาเองอย่ากลัว คงได้ตัวอีลูกสาวของท้าวไท
เขาพูดจาปรานีเหมือนทีญาติ ว่าสมชาติสมเชื้อในเนื้อไข
กูบอกว่าเมียไม่มีก็ดีใจ เขาคงให้มึงเป็นแท้ไม่แง่งอน
ท้าวกุลามาลียินดีสุด ดั่งได้นุชดวงประไพวิไลสมร
มาร่วมแท่นแสนสบายวายอาวรณ์ จึงยอกรกราบก้มบังคมคัล
ว่าเจ้าคุณกรุณาในครานี้ เหมือนช่วยชี้ช่องให้ไปสวรรค์
พระคุณล้ำโลกาในสามัญ โปรดให้ฉันพบเป็ดสักเจ็ดตัว ฯ
๏ บาทหลวงว่าอ้ายกากจีบปากพูด นั่งแต่ดูดขี้ฟันกูคันหัว
จะเล่าเรียนทางไหนไม่ได้ตัว มุดแต่หัวกินปลาอ้ายบ้ากาม
จะเล่าเรียนความเพียรก็น้อยนัก ไม่รู้จักสิ่งอันใดอ้ายซำสาม
นี่หากกูดอกหนาหวาพยายาม จึงสมความที่ประสงค์เจ้าหงส์ทอง
ท้าวกุลามาลีศรีสวัสดิ์ ประสานหัตถ์คิดถึงคุณการุญสนอง
อันครั้งนี้เห็นจะสมอารมณ์ปอง คงได้ครองขนิษฐากุมารี ฯ
๏ จะกล่าวข้างไทท้าวเจ้านิเวศน์ ครั้นแจ้งเหตุตรัสเรียกมเหสี
แถลงความตามข้อคดีมี ว่าบัดนี้อาจารย์เจ้าแกเข้ามา
ขอนงนุชบุตรีศรีสวัสดิ์ ให้กษัตริย์ปตาหวีมียศถา
เจ้าจะเห็นเป็นอย่างไรใจสุดา ไปปรึกษาลูกเต้าเขาเสียดี
แม้นมิยอมพร้อมใจไม่สมัคร เราจะหักหาญให้จะหน่ายหนี
เจ้าจงไปไต่ถามให้งามดี แม้นบุตรีชอบใจจะให้ปัน ฯ
๏ ฝ่ายอนงค์องค์นางมเหสี อัญชลีนาดกรายเสร็จผายผัน
เข้าในห้องทองไสยาสน์อาสน์สุวรรณ พร้อมกำนัลพี่เลี้ยงหมอบเรียงราย ฯ
๏ ฝ่ายพระนุชบุตรีมาลีสมร เห็นมารดรจรจรัลเสร็จผันผาย
นางคำรพนบนอบพลางยอบกาย น้อมถวายอภิวาทน์บาทบงสุ์
พระชนนีปรีดาแล้วปราศรัย ว่าท้าวไทใช้มาถามตามประสงค์
พระอาจารย์ทรงฤทธิ์บิตุรงค์ มาขอองค์เจ้าให้ท้าวเจ้าบุรินทร์
เมืองพาราปตาหวีที่มาอยู่ ให้ครองคู่โดยประสงค์จำนงถวิล
รับสั่งใช้ให้แม่มาหายุพิน เจ้าจะจินตนาการสถานใด ฯ
๏ ฝ่ายโฉมยงองค์พะงาสุดาสมร นางบังอรทูลมารดาอัชฌาสัย
สุดแท้แต่บิตุรงค์พระทรงชัย ลูกมิให้เคืองขัดอัธยา ฯ
๏ ฝ่ายนางนาฏมาตุรงค์ทรงสดับ แล้วลากลับไปประนมก้มเกศา
ทูลแถลงแจ้งกิจแห่งธิดา ให้พระสามีฟังเรื่องบังอร
ฝ่ายท่านท้าวเจ้าบุรินทร์ปิ่นพิภพ ได้ฟังจบแสนสุโขสโมสร
จึงว่ากับนงคราญผู้มารดร ควรผันผ่อนบุตรีให้มีเรือน ฯ
๏ จะกล่าวข้างสังฆราชพระบาทหลวง แกอิ่มทรวงอิ่มใจใครจะเหมือน
ถึงวันนัดท้าวไทจะไปเตือน จะบิดเบือนเป็นไฉนจะไปฟัง
พลางแต่งตัวเรียกพระยาปตาหวี เจ้าผู้ดีเก่ามาไปดั่งใจหวัง
พลางเรียกหาคนใช้จะไปวัง มาพร้อมพรั่งจากที่แล้วลีลา
กับไทท้าวเจ้าพาราปตาหวี จรลีตามกันด้วยหรรษา
เข้าในวังดั่งถวิลจินตนา พอเวลาท้าวออกนั่งบัลลังก์ทอง
บาทหลวงเฒ่าเข้าในพระโรงรัตน์ ท้าวเธอตรัสเชิญเข้าไปปราศรัยสนอง
ให้นั่งบนแท่นที่เก้าอี้ทอง โดยทำนองรักใคร่เป็นไมตรี
แล้วโอภาปราศรัยกับไทท้าว เจ้าแดนด้าวพาราปตาหวี
กับอาจารย์ตามถวิลด้วยยินดี ท้าวมาลีคำนับอภิวันท์
แล้วเชิญชวนเข้าไปในปราสาท สถิตอาสน์แล้วคำรพเชิญขบฉัน
เครื่องลูกไม้หลายอย่างต่างต่างกัน ของหวานมันเอมโอชโภชนา
ทั้งสามองค์ทรงนั่งบนเก้าอี้ ต่างยินดีเสวยพลันด้วยหรรษา
บาทหลวงเฒ่าฉันพลางทางพูดจา ภิปรายปราศรัยท้าวเจ้านคร
อันเรื่องราวที่มากล่าวสถาผล การมงคลในบุตรีศรีสมร
ขอทราบความตามประสงค์องค์บังอร จะผันผ่อนโปรดปรานสถานใด ฯ
๏ ฝ่ายท่านท้าวเจ้าพาราเมืองกาศึก ว่าตรองตรึกโดยปัญญาอัชฌาสัย
ก็เห็นควรตามทำนองปรองดองใจ คงจะให้มีคู่อยู่ด้วยกัน
ข้างมารดาของเขาเล่าก็ว่า องค์พระอาจารย์มาวอนต้องผ่อนผัน
จะตัดห่วงบ่วงใยจะให้ปัน เสียให้ทันตาเห็นดั่งเจรจา
ตามกุศลผลบุญเขาทั้งสอง เป็นคู่ครองปรากฏด้วยยศถา
อันที่เรื่องจะทำงานการวิวาห์ สุดแต่อาจารย์เจ้าเอาที่ดี
ได้ฤกษ์พาวันไรในตำหรับ ขอคำนับท่านช่วยคิดตามดิถี
จะได้จัดราชฐานการพิธี เครื่องพลีเทวาให้ถาวร
บาทหลวงเฒ่าเจ้าตำราจึ่งว่าขาน มงคลการก็ได้รู้ตามครูสอน
ในเดือนยี่ปีระกาจะถาวร ด้วยทินกรจรดลฝนไม่มี
ขึ้นสี่ค่ำวันจันทร์นั้นเป็นฤกษ์ จะเอิกเกริกเฟื่องฟุ้งทั้งกรุงศรี
ข้างฝรั่งแต่งตั้งการพิธี เป็นวันดีคิดอ่านการมงคล
ท้าวจะชอบหรือไม่ชอบจงสอบสวน แม้นเห็นควรแล้วจึงแจ้งแห่งนุสนธิ์
ท้าวสินชัยตอบความตามยุบล ฉันเป็นคนสัตย์ซื่อถืออาจารย์
เจ้าคุณเห็นว่าดีเป็นที่พึ่ง ก็สมซึ่งความรักสมัครสมาน
ในเมืองนี้ใครจะดีกว่าอาจารย์ อันการงานแล้วแต่ท้าวเจ้าประคุณ
พูดกันพลางต่างเลี้ยงกันอิ่มหนำ ท้าวรับคำขาดเหลือจะเกื้อหนุน
ข้างเพศแขกนั้นไม่ต้องถึงกองทุน เรียกกินบุญเลี้ยงกันเท่านั้นเอง ฯ
๏ บาทหลวงเฒ่ากับพระยาปตาหวี กลับมาที่อยู่ก่อนลงนอนเขลง
แล้วปรึกษาพยายามกันตามเพลง ของที่เองจัดมาบรรดามี
คือเงินเหรียญหลายถังก็ยังอยู่ ขนมาดูให้เข้าไปในกรุงศรี
ช่วยเขาทำในงานการพิธี อย่าให้มีรังเกียจว่าเบียดเบียน
แล้วจึงเรียกคนใช้ไปกำปั่น จงช่วยกันทุกคนขนเงินเหรียญ
เร่งจัดแจงเอาใส่ลงในเกวียน จงผลัดเปลี่ยนกันรักษาเอามาวัง
พระสังฆราชแกให้หานางข้าหลวง ตามกระทรวงมาไวไวดั่งใจหวัง
แล้วมอบเงินให้เขาไปที่ในวัง ทั้งสองถังรีบเอาไปในบุรินทร์
ถวายแก่นางพระยามารดาด้วย ของนี้ช่วยตามในใจถวิล
ได้จับจ่ายซื้อหาในธานินทร์ กว่าจะสิ้นการวิวาห์สถาพร
พวกสาวใช้รับไปถึงปราสาท แล้วทูลนาฏนางพระยาสุดาสมร
ฝ่ายท่านท้าวเจ้าบุรินทร์ปิ่นนคร เสด็จจรออกที่นั่งอลังการ
ขุนนางพร้อมน้อมประณตบทเรศ พระทรงเดชปราศรัยแล้วไขขาน
ว่าเดือนยี่สี่ค่ำจะทำงาน มงคลการอภิเษกเอกอนงค์
กับพระยาปตาหวีผู้มียศ ให้ปรากฏสืบประยูรสกูลหงส์
เร่งจัดแจงแต่งที่นั่งบัลลังก์ทรง ให้สององค์ร่วมสถานการวิวาห์
โต๊ะหะยีมีอยู่สักกี่หมวด หามาสวดเลี้ยงกันให้หรรษา
มีการเล่นเต้นรำตามตำรา เครื่องวิวาห์จัดแจงแต่งให้ควร
เสนารับจับจ่ายรีบหมายบาด ตามข้อราชกิจไปแล้วใส่สวน
เร่งกันทำโรงร้านเป็นการจวน ให้สมควรยศท้าวเจ้าชวา
ครั้นแล้วเสร็จถึงกำหนดแจกกฎหมาย เสนานายมาประนมก้มเกศา
ทูลไทท้าวเจ้านิเวศน์เกศประชา เครื่องวิวาห์แล้วเสร็จสำเร็จการ
ท้าวสินชัยได้สดับจึ่งรับสั่ง ให้แต่งตั้งการข้างในอันไพศาล
วันพรุ่งนี้สี่ค่ำจะทำการ เชิญอาจารย์ให้เข้ามาในธานี
ตำมะหงงถือรับสั่งไปยังสถาน แล้วแจ้งการว่าท้าวไทในกรุงศรี
ให้นิมนต์เข้าไปในบุรี วันพรุ่งนี้จะสนานการมงคล ฯ
๏ บาทหลวงเฒ่าเข้าใจที่ในกิจ บอกกับศิษย์ให้รู้แจ้งแห่งนุสนธิ์
ให้จัดแจงแต่งกายาทาสุคนธ์ เจือเวทมนตร์ทางเสน่ห์เทน้ำมัน
ออกจากขวดกวดเกล้าทาเผ้าผม ใครเห็นชมรักใคร่ใจกระสัน
พอรุ่งเช้าพากันไปข้างในพลัน ท่านท้าวนั้นเห็นว่าพระอาจารย์
กับพระยาปตาหวีให้มีจิต รักสนิทเชิญเข้าไปในสถาน
ให้นั่งเหนือแท่นรัตน์ชัชวาล กับอาจารย์ไต่ถามกันตามเคย
ธรรมดาข้างแขกแปลกภาษา ต้องเอาผ้าขาวไปส่งให้เขย
กับน้ำหอมที่ระคนปนกับเนย ส่งให้เขยหยดทาในฝ่ามือ
เปรียบเหมือนให้อยู่เย็นให้เป็นสุข นิราศทุกข์ยังตำหรับเคยนับถือ
ข้างฝ่ายเขยก็ต้องก้มประนมมือ ข้างแขกถือว่ามีชัยในพ่อตา
ครั้นแล้วเสร็จพาเข้าไปข้างในม่าน ฝ่ายเยาวมาลย์แต่งองค์ทรงภูษา
นุ่งผ้ายกหกศอกเดินออกมา พระมารดาจูงมือให้ถือพาน
พวงอุบะตันหยงมาส่งให้ แล้วก็ไปนั่งเรียงเคียงขนาน
พวกโต๊ะสวดต่างต่างอย่างบุราณ ว่าเป็นการบุญแท้ไม่แปรปรวน
ทั้งสองข้างต่างดูรู้ประจักษ์ กำเริบรักกรุ้มกริ่มพลางยิ้มสรวล
รู้ถนัดอัชฌาสัยในกระบวน เวลาควรสวดจบครบตำรา
ฝ่ายไทท้าวเจ้าบุรินทร์ปิ่นนิเวศน์ ทอดพระเนตรเขยขวัญนึกหรรษา
ข้างฝ่ายองค์นงคราญผู้มารดา จูงธิดากลับหลังเข้าวังใน
ข้างฝ่ายท้าวเจ้าพ่อตาพาลูกเขย ลีลาเลยออกมาแล้วปราศรัย
กับบาทหลวงพร้อมกันด้วยทันใด เสร็จนั่งในชานพักตำหนักทอง
พวกชาววังตั้งเครื่องบนโต๊ะใหญ่ ทั้งเป็ดไก่ต่างต่างข้างละสอง
ข้าวกระหรี่มัสมั่นใส่จานทอง ล้วนแต่ของเอมโอชโภชนา
เอาตั้งเทียบเรียบเรียงบนโต๊ะเสร็จ เชิญเสด็จเสวยพลันด้วยหรรษา
พวกสาวสาวนารีศรีโสภา ตีรำมะนาขับร้องฉลองงาน
ตามภาษาเพศแขกแยกกันร้อง ประสานซ้องฉิ่งกรับต่างขับขาน
เรื่องอิเหนาเข้าถ้ำแสนสำราญ ซ้องประสานเหนาะแหนะเหมือนแพะครวญ
๏ บาทหลวงฟังนั่งอยู่นานรำคาญหู กินเลี้ยงดูลามาพักตำหนักสวน
ท้าวกุลาราคร้อนลงนอนครวญ ให้อักอ่วนอยู่ในใจไม่เสบย ฯ
๏ บาทหลวงเห็นกิริยาว่าอ้ายกาก มันช่างอยากยิ่งกว่าข้าวนะเจ้าเอ๋ย
ท้าวกุลานึกอายด้วยไม่เคย ก็นิ่งเลยไม่พูดจากับอาจารย์
ฝ่ายท่านท้าวสินชัยในนิเวศน์ ภูวเรศสั่งเสนาปรีชาหาญ
ให้จัดรถพระที่นั่งอลังการ เอาผ้าม่านเทียมประจำเป็นสำคัญ
ไปรับท้าวเจ้าพาราปตาหวี มาในที่ปรางค์ชัยไอศวรรย์
กับองค์พระอาจารย์การสำคัญ จรจร้ลเข้ามาอย่าช้าที
ตำมะหงงคำนับขับรถา ไปวันทาน้อมประณตบทศรี
ว่าท้าวไทเชิญให้ไปในบุรี ประเดี๋ยวนี้โชคชัยได้เวลา
บาทหลวงเฒ่าเข้าไปที่ในห้อง จัดเอาของเครื่องต่างต่างอย่างภาษา
ข้างฝรั่งอย่างดีมีราคา เป็นต้นว่าสายสร้อยเครื่องห้อยมวย
ตุ้มหูเพชรเจ็ดกะรัตแกจัดไว้ ทั้งเครื่องใส่ต่างต่างที่อย่างสวย
อีกปิ่นเพชรลายจำหลักได้ปักมวย ของที่สวยอย่างฝรั่งข้างลังกา
ใส่หีบปัดจัดใส่มาในรถ พร้อมกันหมดขึ้นราชรถา
สารถีคำนับขับอาชา ให้เคลื่อนคลารถที่นั่งอลังกรณ์
บาทหลวงเฒ่าเจ้าพาราปตาหวี ต่างยินดีจะไปหาสุดาสมร
ถึงประทับทวาราพากันจร เข้านครขึ้นมนเทียรวิเชียรพราย ฯ
๏ ฝ่ายท่านท้าวเจ้าพาราออกมารับ แล้วคำนับพระอาจารย์เชิญผันผาย
เข้าไปที่ตำหนักจันทน์พรรณราย ท้าวภิปรายสั่งสุรางค์นางกำนัล
ให้ไปเรียกบุตรีนารีราช สนมนาฏพวกข้างในรีบผายผัน
ทูลแถลงแจ้งกิจจาสารพัน พระนุชนั้นกับมารดารีบคลาไคล
เฝ้าพระองค์ทรงฤทธิ์บิตุราช ท้าวประภาษพจนาอัชฌาสัย
จงคำนับพระอาจารย์อันชาญชัย นางก็ไปกราบก้มประนมกร
บาทหลวงเฒ่าจัดของออกกองไว้ แล้วส่งให้พระบุตรีศรีสมร
นางคำนับรับมาส่งองค์มารดร ชุลีกรวันทาพระอาจารย์
ฝ่ายท่านท้าวเจ้าพาราเมืองกาคึก เห็นสมนึกในพระทัยหลายสถาน
พระบุตรีได้ของขวัญท่านอาจารย์ เธอเบิกบานชื่นชมสมพระทัย
แล้วจึ่งว่าข้าแต่อาจารย์เจ้า พระคุณเท่าเทียมฟ้าจะหาไหน
ท่านเมตตาการุญฉันอุ่นใจ ขอยกไว้เป็นครูที่บูชา
แล้วท่านท้าวเจ้าพาราพาลูกเขย เสด็จเลยเข้าไปพลันด้วยหรรษา
อันเพศแขกแรกจะส่งองค์ธิดา ข้างพ่อตาต้องจูงไปในที่นอน
ฝ่ายแม่ยายก็ต้องไปกับลูกสาว คนละคราวแล้วไปนั่งช่วยสั่งสอน
ข้างลูกเขยก็คำนับรับศีลพร เมื่อจะจรให้เขยรับจับเอามือ
ตามกำหนดบทเบื้องในเมืองนั้น ทำเหมือนกันโดยตำหรับเคยนับถือ
ไพร่ผู้ดีต้องบังคับให้จับมือ เป็นที่ถือตามอย่างทางบุราณ
แล้วมารดาลากลับเป็นสรรพเสร็จ นางเสด็จมาปราสาทราชฐาน
ทั้งสองข้างต่างสำรวลชวนสำราญ เยาวมาลย์บิดเบือนทำเชือนแช
เพราะมารยาโฉมฉายทั้งอายเหนียม ลงฟุบเฟี้ยมอึดอัดขัดกระแส
ท้าวสวมสอดกอดกระสันนางผันแปร ชำเลืองแลค้อนควักพะวักพะวน
ว่าน้องนี้ใช่จะหนีไปไหนเล่า จงโปรดเกล้าผ่อนพักไว้สักหน
อย่าหักหาญการประกอบไม่ชอบกล พอให้พ้นความอายหลายหลายวัน
ท้าวตอบนางพลางว่านิจจาน้อง ไม่ปรองดองประดิพัทธ์ใครจัดสรร
ให้มานั่งอยู่ดั่งนี้สักกี่วัน กว่าน้องนั้นแม่จะเบาบรรเทาอาย
พลางประคองต้องเต้าเยาวลักษณ์ นางพลิกผลักแค้นใจมิใคร่หาย
ประเวณีหญิงคารมต้องคมคาย มักวุ่นวายทุกภาษาไม่ว่าใคร
ถึงจะรักเท่ารักก็มักขัด สะบิ้งสะบัดตามประสาอัชฌาสัย
สำนวนเขาเล่าก็มากปากตะไกร พูดพิไรตั้งกระทู้ไม่รู้จน
ทางอิงแอบแนบชิดจุมพิตพักตร์ กำเริบรักร้อนรุมทุกขุมขน
แต่บิดเบือนเชือนไชในไกกล ตอบยุบลว่ากล่าวให้ยาวความ
นี่แนะจอมอิศราปตาหวี อันน้องนี่ไม่เห็นใจขอไต่ถาม
แม้นรักจริงสิ่งใดน้องได้ปราม อย่าลวนลามหนักไปน้องไม่เคย
จะขืนเฝ้าจุกจิกจะหยิกหัตถ์ ฉันขอผัดอย่าเพิ่งวุ่นพ่อคุณเอ๋ย
เวลานี่น้องก็ไม่สบายเลย แล้วจึ่งเชยใช้ประชดที่อดออม
ธรรมดาฟ้าดินไม่สิ้นสุด จงยั้งหยุดไว้คงได้ไถถนอม
ท้าวจะหักเอาแต่ได้ฉันไม่ยอม พูดอ้อมค้อมไปแต่ปากอยากแทบตาย
อันจิตหญิงนี่มันยิ่งกว่าบุรุษ แต่อายสุดอยู่ในใจมิใคร่ขยาย
ตีประเมินด้วยวาจาแต่ตาลาย ทำอุบายแข็งแรงแต่งสำนวน ฯ
๏ ท้าวกุลาว่าแม่นุชสุดฉลาด ใครจะอาจมาประคองครองสงวน
ถูกแต่ชั้นเชิงอุบายหลายกระบวน ตีสำนวนต่างต่างไม่บางเบา
พี่ขอไปปะตาปาลาพระนุช ไปสร้างกุฏิ์อดใจอยู่ชายเขา
กว่าจะสิ้นชีวงหนานงเยาว์ ไปอยู่เขาอยู่ไพรเพราะอายคน
ด้วยมิ่งมิตรคิดขัดตัดสวาท ต้องนิราศว้าเหว่ระเหระหน
เพราะเขาไม่กรุณาเข้าตาจน ดูเหมือนคนดื้อด้านรำคาญใจ
ท้าวว่าพลางทางลุกลงจากอาสน์ จะยุรยาตรจากมิตรพิสมัย
นางฉวยฉุดยุดภูษาแล้วว่าไป น้อยหรือใจคอท้าวเจ้าบุรินทร์
ขอผัดผ่อนงอนง้อแต่พอให้ บรรเทาใจร้อนอารมณ์ไม่สมถวิล
ก็กริ้วโกรธโกรธาเป็นราคิน หรือท้าวสิ้นขาดเด็ดไม่เมตตา
นางซบพักตร์ลงกับเพลาเฝ้ากันแสง พระจะแกล้งตัดชีวังให้สังขาร์
อันชาตินี้มีกรรมจำนิรา จะมรณาเสียให้สิ้นมลทินอาย ฯ
๏ ท้าวกุลามาลีศรีสวัสดิ์ จูงเอาหัตถ์ปลอบประโลมนางโฉมฉาย
ขึ้นสถิตบนแท่นแสนสบาย ประคองกายกอดแอบไว้แนบทรวง
หัตถ์ประทับกับพุ่มปทุมถัน นางผ่อนผันยอมตามไม่ห้ามหวง
กำเริบรักร้อนจิตหวิดหวิดทรวง ลงเหงาง่วงเล่ห์ลิ้นสิ้นกระบวน
ที่งอนหรับกลับหายกลายเป็นนิ่ง พลางแอบอิงโดยทำนองประคองสงวน
ถนอมแนบแอบชิดสนิทนวล ฤดีป่วนปั่นคะนองทั้งสองรา
พายุพยับอับพื้นนภากาศ พิรุณสาดสายชลบนเวหา
สุนีเปรี้ยงเสียงสนั่นลั่นสุธา เมขลาล่อแก้วอยู่แววไว
รามสูรขว้างขวานประหารก้อง สะเทื้อนท้องโลกาสุธาไหว
พื้นอากาศดาดแดงดังแสงไฟ ชลาไหลคลื่นคลั่งในวังวน
มัจฉาชาติดาษดื่นบ้างตื่นเต้น มังกรเล่นธาราดั่งห่าฝน
จระเข้เหราในสาชล ขึ้นลอยวนฟาดหางกลางสินธู
ฉนากฉลามว่ายตามกระแสสินธุ์ กระเบนบินโลมาแลราหู
นาคราชผาดผยองขึ้นฟองฟู พระราหูจับจันทร์ไม่ทันกิน
สองภิรมย์สมสวาทบนอาสน์รัตน์ นางกษัตริย์ชื่นชมสมถวิล
ที่งอนแง่แก้ปลดหมดมลทิน เป็นสุดสิ้นเรื่องคารมที่ข่มชาย
อัศจรรย์มันบ่อยไม่ถอยรส ดั่งแป้งสดชื่นอารมณ์เพราะสมหมาย
แต่คลึงเคล้าเช้าเย็นไม่เว้นวาย แสนสบายดั่งได้ผ่านวิมานพรหม
ท้าวกุลาลืมวังแลสังฆราช พระนุชนาฏลืมสุรางค์นางสนม
สองพึ่งเคยเชยถนอมกล่อมอารมณ์ เปรียบเหมือนลมแรงจัดสะบัดใบ ฯ
๏ จะกล่าวถึงสังฆราชพระบาทหลวง เวลาล่วงหลายวันจึ่งขานไข
ว่าแก่ท้าวเจ้าบุรินทร์ปิ่นเวียงชัย เป็นกระไรเขยท้าวเจ้านคร
ไม่ออกมาหาสู่อยู่ที่ไหน ท้าวจงให้มาบ้างช่วยสั่งสอน
ทิ้งสถานบ้านวังทั้งนคร จะเย็นร้อนมีการสถานใด
ฉวยเกิดศึกฮึกฮักมาหักหาญ จะรำคาญขุ่นข้องไม่ผ่องใส
จำจะต้องผ่อนปรนให้คนไป ถึงยังไม่บทจรก่อนก็ตาม ฯ
๏ ท้าวสินชัยได้ฟังสังฆราช ท่านผู้ปราชญ์ว่าอย่างไรต้องไปถาม
แกพูดจาถูกบทเห็นงดงาม ก็ต้องตามคำครูผู้อาจารย์
จึงให้คนเข้าไปหาพระยาเขย เร็วเร็วเหวยเองไปหาแล้วว่าขาน
ให้ออกมาหาท่านครูผู้อาจารย์ จะคิดการไปนิเวศน์เขตบุรี
ผู้รับสั่งรีบไปในนิเวศน์ แล้วทูลเหตุองค์พระมเหสี
นางพระยาจรจรัลไปทันที ถึงปรางค์ศรีเขยขวัญกัลยา
บอกว่าองค์พระบิดาให้หาเจ้า ออกไปเฝ้าที่ชานพักตำหนักขวา
ท้าวกุลามาลีศรีโสภา แจ้งกิจจาสั่งอนงค์องค์ยุพิน
พระบิตุเรศเกศเกล้าท้าวให้หา จะนิ่งช้าอยู่ไม่ได้เหมือนใจถวิล
แต่พอได้แจ้งความตามระบิล รับสั่งสิ้นเสร็จสรรพจะกลับมา ฯ
๏ ฝ่ายโฉมยงค์องค์ประไพวิไลลักษณ์ นางนงลักษณ์แต่งองค์ทรงภูษา
ตามเสด็จจอมกษัตริย์ภัสดา พากันมาที่เฝ้าท้าวสินชัย
อันธรรมเนียมข้างแขกเมื่อแรกอยู่ ผัวไปสู่แห่งหนตำบลไหน
ต้องติดตามสามีทุกทีไป กว่าจะได้โดยตำราถึงห้าเดือน
พ้นกว่านั้นถึงไม่ไปก็ไม่ห้าม ต้องทำตามเพศพันธุ์นั้นให้เหมือน
ไพร่ผู้ดีคนจนพลเรือน ต้องทำเหมือนกันสิ้นไม่นินทา ฯ
๏ ฝ่ายท่านท้าวบิตุรงค์พงศ์กษัตริย์ โองการตรัสว่าอาจารย์ท่านให้หา
บาทหลวงเฒ่าจึ่งแถลงแจ้งกิจจา ว่าเรามาอยู่ก็นานทิ้งบ้านเมือง
จำจะต้องให้เสนาพากันกลับ ฉวยเกิดทัพศึกมาตาจะเหลือง
ต้องให้กลับไปพารารักษาเมือง แม้นฝืดเคืองจะได้ถือหนังสือมา ฯ
๏ ฝ่ายไทท้าวเจ้าพาราปตาหวี ก็ยินดีตอบไปพลันด้วยหรรษา
แล้วแต่ท้าวเจ้าคุณกรุณา บาทหลวงว่าจะไปได้ก็ตาม
ท้าวสินชัยจึงว่าถ้าเช่นนั้น ค่อยผ่อนผันประจามิตรคงคิดขาม
ต่อเดือนสี่ท้าวไทค่อยไปตาม พ่อขอห้ามไว้สักหน่อยจึ่งค่อยจร
แต่เจ้าคุณกรุณาอย่างว่าไว้ อย่าเพ่อไปเชิญอยู่เป็นครูสอน
ให้ช้าช้าไปสักหน่อยจึงค่อยจร จะได้สอนไตรเพทข้างเวทมนต์
บาทหลวงว่าถ้ากระนั้นอันตัวข้า จะต้องลาออกไปให้พหล
จัตุรงค์เสนาพลาพล ที่คงทนจัดแจงแบ่งให้ไป
แกว่าพลางทางลามากำปั่น ลงไปพลันยังท่าชลาไหล
เอากำปั่นจัดแจงแบ่งกันไป เสนาในแต่บรรดาที่มาเรือ
ขนอาหารหวานคาวเอาลงใส่ ให้ใช้ใบไปยังข้างยังเหนือ
แต่บรรดาต้นหนคนในเรือ จัดข้าวเกลือขนใส่ลงให้พอ
แบ่งกันไปพาราสักห้าร้อย ออกแล่นลอยนอกสันดอนถอนสมอ
พอลมดีคลี่ใบมิได้รอ ออกแล่นคลอเรื่อยตามข้างคงคา
บาทหลวงจัดเสร็จสรรพกลับไปที่ วิชามีตรองคิดสอนศิษย์หา
ฝ่ายไทท้าวเจ้านิเวศน์เกศประชา กลับเข้ามาขึ้นมนเทียรวิเชียรพราย
ทั้งลูกเขยลูกสาวเข้าในห้อง เคียงประคองเมียตนวิมลฉาย
มันเค็มมันหวานเรื่อยเฉื่อยสบาย ไม่ห่างสายสวาทชื่นระรื่นทรวง ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ