๘๕

สิงคโปร์

วันที่ ๑ สิงหาคม

เมื่อคืนนี้ปรอท ๗๘ เท่านั้นดูพอสบายดี แต่เพราะสว่างตื่นแต่ ๒ โมงเช้า แต่งตัวคอยพอ ๔ โมง เซอชาลสมิชเชลมาหา กับมิศเตอร์สเวตเตนฮัมแลกัปตันฮาเบิดมาด้วย สนทนากันถึงเรื่องชวาเปนพื้น บอกแม่เล็กถึงเรื่องหมอที่โรงพยาบาล ว่าไปใส่ยาศพมีบาดยาพิศม์ซึมเข้าในเนื้อตาย ๒ วันมาแล้ว การที่จะตั้งไลบรารีจะต้องช้าไป ถ้าได้จัดการแล้วเมื่อใดจะมีหนังสือไปให้ทราบ ดูพูดกันสนิทสนมมาก ที่จริงแกดีเสียจริง ๆ คำที่นินทาว่าแกต่าง ๆ เอาเปนไม่จริงเลยได้ เจ้าเมืองกลับไปแล้ว ถือเอาเวลาว่างขึ้นไปดูบนหลังคาเรือนกว้างขวางมาก พอไว้ของเปนคลังใหญ่ ดูบนห้องกระจกเห็นไกลแต่ร้อนเต็มทน กลับลงมาจ้ำไดอรีต่อไป

จะไปบ้านเจ๊กเขานัดเที่ยง แต่เราแกล้งรอเสียจนบ่ายโมงเพราะกลัวจะต้องไปอยู่ช้านัก แต่กระนั้นไปถึงแล้วยังไม่พร้อมต้องคอยอยู่บนรถสักครู่หนึ่งจึงมารับ เรือนนั้นก็เรือนวั่งโปเราจำได้ เปนเรือนฝรั่งแต่แต่งสาหร่ายแลอะไร ๆ ข้างจีน ของแต่งก็มีของวั่งโปเก่าบ้าง แต่ของตัวเองมาก มีดีชิ้นเดียวแต่ขวดเขาไม้หูยู่อี้ เจ้าของร้องว่าใหม่อวดแต่พวกช้ำเลือดช้ำหนอง แลพวกเครื่องแดงต่าง ๆ ถึงกระนั้นก็ไม่มากเท่าของยี่ปุ่น แกก็ไม่รู้ว่าอะไรยี่ปุ่นอะไรจีน สุดแต่ซื้อมาจากเมืองจีนก็เปนจีน ขวดสังกโลกหูดำคู่หนึ่งอวดแล้วอวดเล่าว่าเปนของเก่าแต่ครั้งวั่งโป ยืนโตงเตงกันอยู่ครู่หนึ่ง มิศเตอร์ไอซิมองเยอ กับแอดทอเนเยเนราลไป มีผู้ชายอีก ๒ - ๓ คน ผู้หญิง ๓ คนได้สนทนาก้น มิศเตอร์ไอซิมองเยอจะกลับไปบ้านปีน่า เปนคนที่รู้จักเรามา ๒๖ ปีแล้ว เขาขอรูปแลเราขอด้วย กินกลางวันเลี้ยงประมาณสัก ๔๐ คนได้กระมัง มีเจ๊กมากกว่าฝรั่งแลไทย เสียงคนใช้ช่างกึกก้องกาหลจริง ๆ มีสปิชเปนครั้งแรกที่ได้เห็น แลเชื่อว่าจะไม่ได้เห็นเช่นนี้ต่อไปอีก ใครแต่งให้ก็ไม่รู้เปนภาษาอังกฤษ แต่งอย่างดีด้วย ผู้ที่พูดก็ตั้งใจจะพูดให้เหมือนฝรั่งเขาสปิช แต่ว่าทีละคำไม่ชัดอย่างยิ่ง ต้องอ่านหนงสือด้วย กลายเปนออกงิ้วไปกลั้นหัวเราะจนเต็มทน จะว่าตอบเปนไทยให้รพีแปลเขาไม่ยอมหมดถ้า ต้องว่าเปนอังกฤษ แล้วยังไม่เปนการ แล้วได้ขอให้ถ่ายรูปต่อไป พะอืดพะอมอยู่เปนนาน หมายว่าจะถ่ายแต่น้อย มันนั่งกันเสียออกแน่น พูดกันถึงหลีฮุงเจียงมา ว่ากงสุลจีน ซึ่งมานั่งโต๊ะอยู่ด้วยที่นั้น ขออนุญาตแต่งตพานยอนซันเฟียรับ ขึ้นมาก็ตรงไปคอเวอนเมนต์เฮาส์ มีเลี้ยงเวลากลางวันแล้วริเซบชั่น จีนเชียเลงเชียสรรเสริญว่าฉลาดนัก แต่เรื่องที่ยกออกมาเล่า ในถ้อยคำที่พูดไม่ใคร่จะเห็นประหลาดอันใด จะเปนด้วยแกยกตัวอย่างมาไม่ดีเองหรืออย่างไร เมื่อออกจากคอเวอนเมนต์เฮาส์ แล้วไปแวะที่บ้านเชียเลงเชีย ทักว่าบ้ายทำไมจึงไม่แขวน เขาสรรเสริญกันว่าจำแม่น เพราะเชียเลงเชียได้ไปขอเปนขุนนางจากตัวเขาเอง แต่ตามแอตทอเนเยเนราลเล่าว่าเปนคนอย่างดิโปลมาติกแท้ พูดอะไรกว้าง ๆ วิธีคำนับกันข้างจีนก็อลุ่มอล่วย คือพวกจีนที่อยู่นอกอาณาเขตรไม่ต้องเข้าคำนับ ใช้เอื้อมมือข้างขวาลงไปจับตาตุ่มโย้หัวไหล่ข้างขวาเข้าไปให้ ว่าเปนแทนคุกเข่า คำนับ ถ้าโย้ข้างซ้ายเข้าไปให้กลายเปนชวนวิวาท บ่าย ๔ โมงเศษแล้ว จึงได้เสร็จสิ้นเรื่อง ไปที่คอเวอนเมนต์เฮาส์ เลี้ยงน้ำชาเซอชาลส์รับรองอย่างเพื่อนฝูงคุ้นเคย หมายว่าจะอยู่สักครึ่งชั่วโมง พูดกันเพลินไปจนถึงชั่วโมงหนึ่ง พาแม่เล็กเที่ยวดูห้องต่าง ๆ จนถึงที่ห้องนอนตามเฉลียง แลเลดีมิชเชลขอให้เรากับแม่เล็กเซ็นชื่อในสมุดเล่ม ๑ ด้วย กลับมาที่เรือนเขียนหนังสืออยู่จนค่ำแต่งตัวลงไปเรือ มีการเลี้ยงตามที่ได้เชิญไว้แต่เมื่อจะไปจากสิงคโปร์ เจ้าเมืองกรมการแลเมียกับทั้งพวกเรารวม ๔๐ คน มีสุลต่านยโฮด้วย แรกลงไปดูของที่ได้มาแต่ชวา ดูเปนการสนุกเอะอะกันมาก เวลาที่เลี้ยงเรากล่าวให้พรกวีนวิกตอเรีย แลกล่าวถึงไมตรีที่มีราคาสูง เซอชาสส์ตอบในส่วนที่เขาเปนผู้แทนกวีนด้วย ตอบส่วนตัวเองกล่าวถึงความพอใจในตัวเราด้วยคำที่น่าฟังแลอย่างสนิทสนม แล้วสนทนากันอยู่อีกจนดึก ดูเปนการคุ้นเคยกันทั่วไปในพวกสิงคโปร์กับเรา ๆ ให้ซองขนนกยูงแล้วบอกตามคำที่เขาพูดเอง ว่าราคาไม่ผิดกันกับถุงมือคู่ ๑ เพราะเมื่อแม่เล็กว่าจะให้ของเปนที่รฦกแก่เลดีมิชเชล แกว่าขออย่าให้ให้เปนของมากถุงมือคู่ ๑ ก็พอ ให้สเวตเตนฮัมด้วยไป ๑ ต่างคนต่างชอบใจ เพราะเปนของราคาน้อย แต่ฝีมือที่ทำดี เลิก ๒ ยาม กลับขึ้นไปนอนบนบก

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ