๒๕
เมืองบุยเตนซอก
วันที่ ๒ มิถุนายน
ตื่น ๓ โมงเช้า กรมสมมตที่ตามให้ขึ้นมาวานนี้ มาถึงก็นอนหลับ ที่นี่สบายกว่าบัตเตเวียมาก อากาศโปร่งกว่าแลเย็นกว่า แต่จะว่าหนาวก็ไม่ได้ กลางคืนนอนปิดน่าต่างร้อน ได้ยินเสียงน้ำพุเสมอนอนหลับเร็ว ตั้งท่าจะลมขึ้นเปิดน่าต่างเสียก็หาย น้ำที่กินก็เปนน้ำเขา น้ำหนักไม่มากเหมือนน้ำใต้ดิน ไล่กรมสมมตไปสวน เล่าว่าที่บัตเตเวียเงียบเต็มที ไปเที่ยวตามทางก็มีแต่คนชี้ ๆ เล็กน้อย กินเข้าในห้องนอน ๔ โมงเช้าไปที่ตำบลโยมาศ เปนเอศเตดของพี่น้องสองคน ชื่อใดจดมาแล้วหายไปเสีย วันนี้มิศเตอร์ควาล๓๘ ไปคอยที่ไหนไม่รู้ ว่าจะไปหาคอเวอนเนอเยเนราลด้วย ที่จริงทีจะรู้ตัวว่าเราขวาง รถที่ไปต้องเทียม ๔ ม้า เพราะขึ้นเขาลงเขาตลอดทาง ที่เอศเตดนี้กว้างใหญ่มากไปจนถึงเขาสลักเปนเกาเวอนเมนต์ ขายเปนเงินครึ่งล้านกิลเดอ ขายประมาณ ๓๐ ปีมาแล้ว พ่อเปนคนซื้อไว้ เดี๋ยวนี้ตกเปนของลูก ๒ คน ๆ ทั้งสองนี้หน้าตาเหมือนกัน ไว้หนวดอย่างเดียวกัน พูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่าเรสิเดนต์ ๆ ยังดีกว่ามิศเตอร์ควาล วิธีที่ขายที่ดินเช่นนี้ เปนแบบของอินเดียอังกฤษ มีมาแต่ครั้งเซอร์สะแตมฟอดแรฟฟัล ผู้เปนเจ้าของที่ต้องเสียค่าที่ต่อไปไม่มีที่สุด ปีละ ๖๐๐๐ กิลเดอ ครึ่งปีใช้ครั้งหนึ่ง ถ้าคนเข้าไปทำมาหากินในนั้น ทำนาเก็บเปนเข้า ๕ ชัก ๑ เปนต้นไม้อื่น ๆ เช่นต้นไม้มีผล เสียต้นละ ๑๐ เซน บรรดากาแฟจันเทศอ้อยเปนของเขาทำเอง เรียกลูกจ้างทำคนในชวา ต้องเกณฑ์ทำการแผ่นดิน ๗ วันทำวันหนึ่ง ถ้าจะเสียเงินแทนปีละ ๖ กิลเดอ ก็แปลว่าเก็บเงินนั้นเอง แต่เงินเก็บในที่นี้ยอมให้เจ้าของเก็บ แต่ต้องเสียค่าโปลิศแลทำถนนเอง มีถ้อยความคนในตำบลนั้นเจ้าของที่มีอำนาจว่าได้ เว้นแต่จะปรับไหมลงโทษไม่ได้ แรกฟังก็ดูเหมือนหนึ่งคนจะได้ความเดือดร้อนมาก แต่ที่จริงก็เปล่าไม่สู้กระไรนัก เพราะขนในชวาต้องเกณฑ์ทำการคอเวอนเมนต์อยู่ทั่วหน้ากันแล้ว คอเวอนเมนต์เองก็ปลูกกาแฟ ใบชา ซิงโกนา เกณฑ์ให้ทำ เปนการหนักยิ่งกว่านี้เสียอิก คือมีเจ้าพนักงารออกตรวจ ว่าที่แห่งใดควรจะปลูกอันใด ถึงว่าที่นั้นจะทำนาอยู่ ก็ต้องห้ามไม่ให้ทำนา ออกแต่พรรณไม้ที่จะปลูกให้แล้วเจ้าของที่ต้องปลูกเองรักษาเอง มีนายบ้านผู้น้อยเรียกเทศา เปนผู้ดูแลให้ทำ เทศาหลาย ๆ ตำบลรวมขึ้นผู้ช่วยเวทนา ผู้ช่วยเวทนาหลาย ๆ คนรวมขึ้นเวทนา ๆ ขึ้นริเยนต์ ริเยนต์นั้นมีตำบลหรือเมืองละคน เลือกเอาพวกเชื้อวงศ์เจ้านายหรือที่มีตระกูลเปนที่นับถือให้บังคับบัญชา คนในพื้นเมืองริเยนต์มีเปนสามชั้น ชั้นแรกนั้นระเด่นตำมะหงง ทำนองที่พระยาเจ้าเมือง ถ้ารับราชการดีมีความชอบ เลื่อนขึ้นเปนระเด่นอธิปติ ทำนองเจ้าพระยา ถ้าดีขึ้นไปอิกเลื่อนเปนปเงรัน เปนยศเจ้าอย่างเจ้าประเทศราช แต่น้อยคนที่จะได้เปน คนวิลันดาไม่ได้บังคับชาวเมือง พวกริเยนต์ทั้งปวงเปนผู้บังคับ แต่อยู่ในบังคับเรสิเดนต์หรือแอสสิสแตนต์เรสิเดนต์ คือเขาแบ่งเปนมณฑล มณฑลหนึ่งมีเรสิเดนต์คนหนึ่ง มีแอสสิสแตนต์เรสิเดนต์ ทุก ๆ หัวเมืองที่อยู่ในมณฑลนั้นอยู่ใต้บังคับเรสิเดนต์ เหมือนอย่างที่บุยเตนซอกนี้ อยู่ในมณฑลบัตเตเวียหรือเรียกตามแขกว่าบัตตาวี คือปฐวี เรสิเดนต์อยู่บัตเตเวีย มีแอสสิสแตนต์อยู่บุยเตนซอก สำหรับบ้งคับริเยนต์ แต่ในมณฑลบัตเตเวียไม่มีเรสิเดนต์อยู่ในมณฑลเดียว เพราะเปนเมืองตั้งใหม่ในสามร้อยปีมานี้ ในหัวเมืองหนึ่งมีคอนโทรเลอผู้ช่วยคอนโทรเลอสำหรับตรวจตราการต่าง ๆ ซึ่งสั่งริเยนต์ไปว่าจะทำตามคำสั่งหรือไม่ แลเปนผู้ตรวจไร่ที่เปนของคอเวอนเมนต์เกณฑ์ให้ทำต่าง ๆ แต่การใช้เงินไม่ไว้ใจกันกับพวกแขก เรสิเดนต์หรือแอสสิสแตนต์เรสิเดนต์เปนผู้จ่ายวิกละครั้งตามสิ่งของที่ได้รับ เรสิเดนต์กับริเยนต์นั้นไม่กล่าวว่าอยู่ในใต้บังคับกัน แต่นับว่าเรสิเดนต์เปนพี่ชายใหญ่ริเยนต์เปนน้อง เมื่อจะกลับพูดถึงเรื่องเอศเตดตำบลนี้ คือโยมาศ ผู้ซึ่งซื้อที่เปนอย่างคอเวอนเมนต์ทุกอย่างแต่ย่อมจะเบากว่า เพราะต้องเอาใจให้คนเข้ามากจะได้เก็บเงินได้มาก ตามทางไปที่เรือนมีโรงรายตลอด ทำนาบ้างปลูกถั่วปลูกเข้าโภชน์ฟักแตงเปนพื้น พวกใบชากาแฟไปทำอยู่ที่สูง ๆ มีแถบเขาสลกโดยมาก ถนนทำดีแขงกร่างแต่มักมีที่ขึ้นชัน ถ้าพอดีพอร้ายรถไปไม่ได้ รถสี่ม้าที่ไปต้องเฆี่ยนกันผลุง ๆ ไม่ได้หยุดเลย แต่เขาใช้รถสองล้อเทียมม้า ๓ ตัวเปนพื้น ดูคล่องแคล่วดีกว่ารถใหญ่ เมื่อจวนจะถึงมีชักธงรายทางและซุ้มใบไม้ มีราษฎรมานั่งคอยดูอยู่มากไม่มียืนเลย นั่งยกมือไหว้กันปะหลก ๆ ไปทั้งนั้น ตั้งแต่ออกจากโฮเต็ลไปถึงน่าบ้านไหนมีประโคมตามมีตามได้ เปนเครื่องดนตรีที่เรียกว่ากำมลัน มากบ้างน้อยบ้างทุก ๆ เรือนตลอดทางไม่ขาดเสียง ที่จอดรถปลูกโรงแขวนธงผูกใบไม้ มีกำมลันวงใหญ่สักสี่ห้าวง คือมีฆ้องใบโต ๆ ผูกเข้ากับรางมิใช่ฆ้องวง ไม่ได้ตีเปนเพลง คอยแต่ตอดเปนจังหวะ มีรนาททองอันโต ๆ สัก ๔-๕ ราง มีรนาทไม้รางเดียวปี่หลายคันใช้ปี่ชวาเปนพื้น มีฆ้องไชย ๓ ใบ มีซอคันหนึ่ง ดูเพลงนั้นไม่ได้ออกจากอื่น นอกจากรนาทเอกกับซอ นอกนั้นเปนแต่คอยตอด ให้ทำทีละสิ่งทำไม่ได้ เพลงนั้นหยาบ ๆ เกือบจะสังเกตไม่ได้ว่าเปนเพลง ทำเพลงสรรเสริญบารมีวิลันดา เปนอย่างที่มีรัวถี่ ๆ ไม่เคาะป๋องแป๋งเหมือนอย่างเพลงของบ้านเมืองเขา แต่น่าเสียใจมากที่จะรู้ไม่ได้เลยว่าเพลงอันใด ถึงบอกแล้วว่าเพลงนั้น ๆ ก็ไม่รู้สึก มีคนร้องรำคนหนึ่ง เสียงแหบเครือเหลือกำลัง นุ่งโสร่งสวมเสื้อเปิดอกเปิดแขน คาดเจียรบาด มีเครื่องแต่งตัวรุ่งริ่ง เทือกตาบน่าตาบหลังสังวาลย์สร้อยคล้องคอมากหลายสาย แต่รำนั้นไม่ผิดกับมอญรำ เข้าไปจากนั้นหน่อยหนึ่งถึงศาลาพักซึ่งเขาจัดไว้รับ ที่มานี้แปลว่ากระไร แปลว่าจะมาดูการเพาะปลูกอย่างหนึ่งจะมาที่บ่อสำหรับอาบ ซึ่งเปนศักดิสิทธิสำหรับแก้โรคแก้ไภย แต่ดูบ่อนั้นก็จืด ๆ น้ำเย็น ๆ เราดี ๆ แต่มีทั้งจีนทั้งแขกไปเส้นวักตั๊กแตน มีห้องที่สำหรับอาบ ๒ ห้อง น้ำใสดีแต่ไม่ได้อาบ ชั่วแต่กินน้ำแชมเปนส์กับสูบบุหรี่ ถามไต่เรื่องราวแล้วก็กลับ ทางที่กลับมาอิกทาง ๑ ผ่านโรงสีที่ใช้ด้วยกำลังน้ำ แต่ไม่ได้แวะดู มีไร่ที่คนทำตามเหล่านั้น เหมือนอย่างทางไป มาหน่อยหนึ่งก็ถึงบ้านเจ้าของที่ ดูใหญ่โตมากเห็นจะเปนเศรษฐีพอใช้รถที่ขี่เทียม ๔ ม้า รถก็ดีม้าก็งาม ขับเองคล่องแคล่ว ไม่ช้านักก็เข้าถนนบุยเตนชอก ถนนนี้ว่าเปนอย่างชั้นที่สอง แต่ที่ ๒ โดยทางกว้างแคบ ในการรักษาแล้วเห็นว่าที่ไหนไม่สู้ของเขาได้อาจจะนับเปนที่หนึ่ง ผ่านคุกหรือโรงพยาบาลคนโทษมา ทำใหญ่โตมาก บรรดาคนโทษที่เจ็บเปนโรคเบรีเบรีขนมารักษาที่นี่หมด การที่จะรู้ตำบลสนทนาอันใดเปนการยากอย่างยิ่ง ด้วยท่านผู้กำกับทั้งหลายของเรา รู้ภาษาอังกฤษจำกัดคำทั้งนั้น จะถามอไรกันแต่ละเรื่อง พูดกันเสียจนเกือบน้ำลายแห้งคอ แต่ที่จริงรู้ภาษาอังกฤษเกือบทุกคน พบคนที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้แต่ผู้หญิงโดยมาก ถึงดังนั้นก็ยังน้อยกว่าคนพูดได้ เดี๋ยวนี้ไปเสียที่เรื่องลืม เพราะไม่ได้ใช้เลย อยู่ด้วยกันนาน ๆ เข้าดูค่อยเฟื่องขึ้นทุกคน เมื่อแรก ๆ ออกโกรธว่าเลือกเอาคนที่พูดไม่ได้มาให้ ครั้นภายหลังรู้เค้าเข้าถึงไหนต้องตั้งพิธีบดฝนกันไป ดูก็พอใช้ค่อยหายเดือดร้อนลงไปทุกที
เวลาเย็นไปสวนอิก จะเล่าก็ฟั่นเฝือเพราะไปเสียทุกวัน ๆ แต่กรมสมมตซึ่งเปนผู้รั้งเมืองบัตเตเวียได้ให้ไปตามขึ้นมาวันนี้ เพื่อจะให้ได้เห็น แกกระหายในการที่จะดู ไปเที่ยวเสียปรุยิ่งกว่าเรา มาขยายว่าไปเห็นเนื้อฝูงใหญ่สัก ๑๐๐ เศษ หารกันเสียยับแต่ที่จริงตกลงเปนเชื่อแก ได้ว่ายืมม้าเรสิเดนต์ไว้สำหรับจะไปเที่ยวในสวน เมื่อเที่ยวในสวนแล้วเลยขอเข้าไปดูบ้านคอเวอนเนอเยเนราลซึ่งหลังเรือนอยู่ในสวนน่าเรือนออกป้ากใหญ่ เรือนนี้ดูที่ตั้งงามดีเสียแต่เปนชั้นเดียวดูซอมซ่อไป เขาว่าเมื่อแรกก็ทำสองชั้น ถูกแผ่นดินไหวพังคราวหนึ่งจึงได้ทำแต่ชั้นเดียว ออกประตูข้างเรือนไปข้างน่าเปนป๊ากใหญ่ถนนตรงลิ่วเข้ามาเรือน พบฝูงเนื้อเปนอันมากแลเชื่องดีด้วย ขับม้าเข้าไปใกล้เพียง ๙ วา ๑๐ วาก็ไม่วิ่งหนี ถามเรสิเดนต์ก็บอกว่ามีถึง ๓๐๐ ครั้นเมื่อพบคอเวอนเนอเยเนราลเองแกหารเสียว่าไม่ถึง เพราะเรื่องขม้าวันนี้อยู่ข้างจะพลัดแพลงกันมาก เดิมว่าจะหาม้าได้หลายตัว แต่ภายหลังได้ตัวเดียว ที่จะไปหาม้าดีไม่ได้ กลัวแขกบ้านค้านเมืองเขาจะตก กลับมาถึงเรือนค่ำแล้ว กินเข้าแล้วแต่งตัวไปที่คลับในการเต้นรำ วันนี้มีอิลูมเนชั่นที่โรงแตรน่าคลับ จุดไฟมากพอใช้อยู่ ในคลับแต่งต้นไม้ใบไม้อยู่ข้างน่าดูมาก ลากเอาต้นสนต้นหมากใหญ่ ๆ เข้าไปตั้งจนจดเพดาน โคมรย้าก็ผูกใบปามทั้งกิ่งตั้งแต่เพดานลงมาจดคั่วโคม เสียแต่การต้อนรับอยู่ข้างจะฝืดด้วยเรื่องภาษา มันงง ๆ งัง ๆ กันไปต่าง ๆ คนก็มาน้อย ทีจะขัดด้วยเรื่องเครื่องแต่งตัวพากันอายไปเสียว่าจะไม่เหมือนที่บัตเตเวีย แรกไปถึงเอะอะโวยวายกันอยู่สักครู่หนึ่ง มีเข้าเต้นรำสองคู่เท่านั้น ตกลงเปนพากันเดิรออกไปนั่งที่ชานน่าคลับ พอออกไปสักประเดี๋ยวข้างในคลับเต้นกันออกเต็มไป แต่ไปไม่ถึงไหนพอหยุดก็ต้องผลุดออกไปนอกด้วยเรื่องร้อน วันนี้ได้พบเอดิกงคอเวอนเนอเยเนราลซึ่งให้มาตรวจการรับรองแลเลยดูการทำบ้านด้วย ได้สนทนากันถึงเรื่องยศเดิรน่าเดิรหลังของเจ้าเมืองกรมการแลเจ้าแขก ได้ความรู้มาก กลับมาบ้านเวลา ๒ ยาม
-
๓๘. บารอนควาล เดอควาเลส ซึ่งเปนผู้มาอยู่กับกระบวรเสด็จ ฯ เปนคนขี้ประหม่า ไม่ใคร่ได้ดังพระราชหฤทัย ↩