๔๕

(ตอนที่ ๘ เสด็จประทับเมืองการุตครั้งที่ ๒)

การุต ปงันจองงัน

วันที่ ๒๒ มิถุนายน

บ่าย ๓ โมงเศษ ไปรถกับเรสิเดนต์สักชั่วโมงหนึ่งถึงวันรัตโชมีอาลูน ๆ ไม่สู้กว้างนัก ด้านหนึ่งเปนบ้านเวทนาด้านหนึ่งเปนมัสยิด ด้านหนึ่งเปนโรงเรียน มีนักเรียนมานั่งคอยรับอยู่ริมทาง ร้องเพลงสรรเสริญบารมีวิลันดาเปนภาษามลายูประมาณสัก ๖๐ คน ๗๐ คน หยุดรถผลัดม้าเดิรลงไปดูพวกนักเรียนแลโรงเรียน ๆ ทำหลังคามุงกระเบื้องฝาแผงมีมุข เปนโรงเรียนครึ่งวัน สอนภาษาซุนดา ชวา มลายู ใช้เขียนตัวโรมันสกดอย่างวิลันดาเต็มที่ ออกจากนั้นไปอีกหน่อยหนึ่งถึงที่หยุดรถเชิงเขามีโรงที่พักขึ้นม้าต่อไป แคร่เก้าอี้อยู่ข้างจะดีขึ้นกว่าแต่ก่อนทำแน่นหนา ทางขึ้นไปก็ไม่สู้ชันจนถึงหมู่บ้าน เรือนที่นี่เปนอย่างซุนดาแท้ จั่วสูง ๆ ไม่เลือนเหมือนเช่นที่การุต จนจวนจะถึงประสังคระหันจึงได้ชักสัก ๓ ทบ ที่นั้นดูวิวข้างล่างงามแลเห็นหนองปุนยิตถนัด ไปสักชั่วโมง ๑ ถึงปงันจองงัน ซึ่งเปนที่ตั้งประสังคระหัน เรือนหลังนี้ดูเล็กกว่าจิสรูปังแต่จัดดีกว่า มีที่กินเข้าในห้อง ที่โน่นคอนโทรเลอเปนผู้จัด ที่นี่แอสปิรันคอนโทรเลอเปนผู้จัด ความคิดต่างกันบ้าง แต่ดีทั้ง ๒ แห่ง ที่นี่ค่อนจะอยู่ข้างเปนค่ายหลวงอย่างไทย คีอตีรั้วค่ายรอบประสังคระหัน ปลูกโรงกินเข้าที่น่าเรือน ที่ตรงนั้นมีต้นกุหลาบเปนหย่อมโต กั้นรั้วอ้อมเอาต้นกุหลาบไว้น่าที่กินเข้า นอกรั้วด้านน่าปลูกโรงสำหรับเปนที่พักริเยนต์เรสิเดนต์คอนโทรเลอ กั้นคนละห้อง โรงเล่นวายังกุลิกหลังหนึ่ง โรงตันดั๊กหลังหนึ่ง แล้วกั้นรั้วอิกตอน ๑ นอกรั้วปลูกโรงสำหรับเล่นรองเกงแลเรยัก ในค่ายชั้นกลางด้านข้างปลูกเรือนเจ้านายขุนนางแถวยาว ด้านหลังเปนเรือนมหาดเล็ก ตกแต่งไฟแลใบไม้ธงค่อนจะอยู่ข้างประชันกัน ตั้งแต่มาถึงเวลาบ่าย ๕ โมงเศษ ก็เล่นกันประโคมเรื่อยไม่หยุด กินน้ำชากับเรสิเดนต์ริเยนต์พูดกันเรื่อยไป แล้วไปดูหนังแลดูนางผู้หญิงฟ้อน ๔ คนที่โรงตันดั๊ก ภายหลังได้ความว่านางสี่คนนี้เปนหม่อมของรเด่น มีสวยพอใช้อยู่คนหนึ่งทีจะโปรดมาก แล้วออกไปดูเล่นตลกที่โรงเรยัก มีผู้ชาย ๔ คนตะพายกลองเต้นร้องตามเรื่อง การที่เล่นตลกนั้นคือทำเปนจะเล่นรองเกง อ้ายคนหนึ่งหนวดยาวเปนผู้ชายคนหนึ่งเปนผู้หญิงห่มผ้า อ้ายผู้หญิงนั้นดุเหลือเกินจนภายหลังฉวยดาบขึ้นจะคอยฟันผู้ชาย ๆ เห็นผ้าห่มหลุด จึงเอาผ้าห่มนั้นมาคล้องคอนาง นางก็กลายเปนลิง อ้ายผู้ชายกลายเปนครู ถือไม้สอนให้เต้นรำ ทำท่าลิงเต้นแลกิริยาลิงต่าง ๆ จนกระทั่งถึงปอกกล้วยกินกล้วยเหมือนแท้ทีเดียว เว้นแต่ไม่ไพล่แก้ม แล้วไปดูรองเกงแยกกันถึง ๓ วง วงหนึ่งมีผู้หญิง ๓ คนบ้าง ๔ คนบ้าง วางกันเรื่อยไปจนดึก ต้องห้ามจึงได้หยุด เวลากินเข้าที่โรงน่าประสังคระหันฉเพาะถูกทางลมหนาวจนเกือบคางสั่น แล้วไปที่โรงซึ่งเขาเตรียมไว้จะเล่นตันดั๊ก รเด่นอธิปติแลคนอื่นอีกหลายคนเล่นเช่นแต่ก่อน แต่นางผู้หญิงคนที่สวยนั้น ถ้าคนอื่นออกไม่ใคร่จะยอมรำจนต้องสั่งเมื่อใดจึงจะออก แล้วดูหนังต่อไปอีกครู่หนึ่ง ต้องเลิกแต่ ๕ ทุ่มเพราะหนาวเหลือทน กลับมาถึงบนเรือนให้สรรเพ็ธเต้นตันดั๊ก เพราะซ้อมตัวเองมาแต่วันไปปับปันดายันแล้วแอสสิสตันเรสิเดนต์คอนโทรเลอแลรเด่นมาดูด้วย แกรับอาสาเข้ามาเปนครูแลยอมเปนนาง เขาซึ่งเปนที่ตั้งต้นตลกาโบดาส์นี้ชื่อกลุงคุง

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ