๔๘

เมาส์

วันที่ ๒๕ มิถุนายน

ตื่น ๔ โมงแล้ว วันนี้หาตลกมาเล่นลิงให้ลูกเอียดดู ๕ โมงไปที่สเตชันรถไฟ เรสิเดนต์กับเมีย รเด่นกับเมีย คอนโทรเลอแอสปิรันกับคนอื่น ๆ มาส่งมาก ออกจากการุต ๕ โมงกับ ๔ นาที ทางที่มามีประเภทเหมือนที่ในปริยังคาทั้งปวง พักจิปาตุแลที่อื่นบ้าง ถึงมนุนยาหยาเวลาบ่ายเกือบ ๒ โมง เมืองนี้เปนเมืองใหญ่ของเขตรแขวงสุขบุระ เรสิเดนต์ปริยังคามาแต่บันดอง สวมตราคอมมันเดอช้างเผือก แอสสิสตันเรสิเดนต์สุขบุระกับเมียแลลูกสาว ๒ คน ลูกเด็ก ๆ ถือ ธงช้าง ๔ คน คอนโทรเลอสิเกรตารีแอสปิรันกับคนอื่นอิก ๓ คน ผู้หญิงเมียแลลูกพวกเหล่านั้นมากด้วยกัน อธิปติสุขบุระกับเมียแลลูกมาคอยรับ ขึ้นรถกับแอสสิสตันเรสิเดนต์ไปทางอ้อม คนอื่นไปทีหลังแต่เขาไปถึงก่อน บ้านเมืองลักษณเดียวกับที่จันยอ แต่ลานน่าบ้านเห็นจะเล็กกว่าหน่อยไม่มีเฟิน นั่งโยกวิลันดาตามเคย คอเวอนเนอเยเนราล มีหนังสือมาให้บอกว่ามีความเสียใจที่จะไปหาที่การุตไม่ได้ เพราะติดการเรื่องเมืองอาจิน แต่รเด่นอายูเชิญเข้าไปดูเรือน เมื่อแรกไปถึงเห็นผู้หญิงพล่านไปทั้งนั้น จนเวลาเข้าไปยังพบยายแก่ยายเถ้าเดิรงุ่มง่ามอยู่หลายคน ห้องหับแลการตกแต่งคงจะเหมือนกับจันยอทั้งสิ้น มีรูปแคมิเนตติดฝามาก ใช้นั่งม้าเหมือนเตอรกี ข้างหลังเรือนมีสระใหญ่รูปกลมมีที่นั่งเล่นดูงามดี แต่ก็ไม่เปนนักเลงต้นไม้ ได้พูดจากันประเดี๋ยวเดียวต้องกลับ มีคนให้ดอกไม้มากจนเกือบเต็มโต๊ะในรถไฟ ออกจากมนุนยาหยามีบ้านเรือนเรือกสวน มาหน่อยหนึ่งพอเข้าแขวงบันยูมาส์ บ้านคนค่อยห่างลง ๆ พอผ่านเข้าจักรภูวโนมาแล้วก็เปนป่า เปนคราวแรกที่ได้เห็นป่าแท้ในชวา เพราะบันยูมาส์นี้ เห็นจะเปนเมืองหลังที่สุดที่ตกเปนของวิลันดา ในระยะนี้ทางรถไฟฝุ่นจัด เมื่อจวนจะถึงเมาส์มีบ้านเรือนราย ๆ แต่แปลกกันเปนคนละอย่าง ดูเปนโรงหลังคาสูง ๆ อกไก่มีประทุนครอบคล้ายเรือนยี่ปุ่นก็คล้าย ถึงที่เมาส์เปนตำบลกลางย่าน รถไฟเขาเดิรแต่บัตเตเวีย ออกเช้ามานอนที่เมาส์ ออกจากเมาส์ไปถึงสุรบายา มีทางแยกจากเมาส์ลงไปติลยับ สเตชันที่เมาส์ไม่สู้โตแต่มีโฮเต็ลทำใหม่ถึง ๓ โฮเต็ล เปนของสำหรับพวกแขกแลจีน ๒ โฮเต็ล สำหรับฝรั่งโฮเต็ลหนึ่ง ๓ หลังใหญ่ ๆ เดิรถึงกัน คอเวอนเมนต์สับสิดีให้ทำขึ้น ต้นไม้ยังพึ่งจะลงมือปลูก เพราะรถไฟทางนี้พึ่งแล้วได้สัก ๓ ปี ๔ ปี ดูอะไร ๆ ใหม่ทั้งสิ้น เรสิเดนต์บันยูมาส์กับกรมการหลายคนกับริเยนต์ตำมหงงติลยับขึ้นมาคอยรับ ทางจะไปบันยูมาส์ยังไม่มีรถไฟ เดี๋ยวนี้กำลังจะทำแตรมเวย์ทางไปมาด้วยรถม้า ๓ ชั่วโมงเศษ โฮเต็ลอยู่ใกล้กับสเตชัน เพราะทำสำหรับตั้งโฮเต็ลเท่านั้น กินน้ำชากับเรสิเดนต์แล้วเปลื้องเครื่องแต่งตัวใหม่ ออกมาเดิรเล่นไม่มีอันใดจะดูนอกจากบริเวณโฮเต็ลมีขันอย่างหนึ่งแต่เจ้านายโปลิศ หน้าตาเหมือนพระยาเจริญ มานั่งประจำอยู่ที่เฉลียงโฮเต็ล พอออกไปเข้ามาบอกหาความชอบ พูดอังกฤษอย่างร่องแร่ง แต่ใช้คำหนึ่งว่า “สเล็ง” แปลกันไม่ออก ถามใครก็ไม่ได้ความ เดิรไปไหนก็ตาม เล่าถึงเรื่องนั้นจนรำคาญเต็มที ต้องไปสืบถึงเรสิเดนต์จึงได้ได้ความว่า งูเลื้อยขึ้นไปที่เฉลียงเขาเปนผู้จับกินเข้าเรียกเรสิเดนต์มากินด้วย หน้าตาแกช่างเหมือนคอเวอนเนอเยเนราลเสียจริง ๆ จนนึกว่าพี่น้องกัน แต่กลายเปนไม่ใช่ เดิมเปนแอสสิสตันเรสิเดนต์อยู่ที่เมืองโซโล รู้เรื่องเมืองโซโลมาก

กินเข้าแล้วนั่งเล่ากันถึงเรื่องเมืองโซโลว่าด้วยสุสุนันคนเก่า เปนคนที่เย่อหยิ่งแลเถื่อนต่าง ๆ เปนต้นว่ามีสมุดรูปเจ้าแผ่นดินต่างประเทศอยู่เล่มหนึ่ง แกเอารูปแกปิดข้างต้นเข้าอยู่ในหมู่เจ้าแผ่นดินทั้งปวง แต่เปนใหญ่กว่าให้นึกอยากเถียงแกว่าบางทีแกจะปิดไว้เช่นนั้น แปลว่าเปนเจ้าของสมุด แต่แกเลยซ้ำต่อไปว่าเขาหมายตัวว่าเปนใหญ่ทั่วทั้งเกาะชวา แลเปนคนที่ขี้หมิ่นประมาทฤๅใช้กิริยาหยาบ เช่นครั้งหนึ่งไปในที่ประชุมบ้านเรสิเดนต์เรียกผู้หญิงให้เกาหลัง อิกครั้งหนึ่งเอามือลูบตามน่าอก ว่าไม่ใช่ไม่รู้ผิดชอบ แต่ผู้หญิงสองคนนั้นสวยก็อยากหยอกเล่นเช่นนั้นเอง เล่าถึงการประชุมที่ในวัง ว่าสุสุนันคนใหม่นี้ดีกว่าพ่อ ค่อยเปนคนอ่อนโยนลงแลชอบเต้นรำอย่างฝรั่งยิ่งนัก ถ้ามีการประชุมแห่งใดก็เล่นไพ่กันเปนพื้น ทั้งที่ในกราตนแลที่บ้านเรสิเดนต์สุสุนันนั้นเล่นกับเรสิเดนต์ เลยเปนน่าที่ของเรสิเดนต์อย่างหนึ่งซึ่งจะต้องเปนผู้เล่นไพ่ด้วย บรรดาลูกเมียพี่น้องชอบเล่นไพ่ทั้งสิ้น พวกผู้หญิงตั้งโต๊ะต่ำ ๆ เล่นบ้าง นั่งเล่นกับพื้นบ้างอยู่ตามข้างใน อยู่ข้างนอกก็แลเห็นได้ เว้นแต่ไฟไม่ใคร่จะสว่าง เราออกอยากไปดูเล่นไพ่จะได้เห็นคนมาก ๆ แต่เขาบอกว่าเมื่อแรกก็เตรียมจะมีปาตีเล่นไพ่ แต่ครั้นให้ไปสืบได้ความว่าเราไม่ชอบเล่นไพ่ก็เลยเลิก กลายเปนจะมีบอลเพราะสุสุนันชอบเต้นรำนัก ถ้ามีงารเล่นไพ่ได้ยินเสียงแตรเต้นรำ เปนต้องลุกออกมาเต้นรำ ว่าแม่เลี้ยงที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันยังออกรับแขกเดิรหลังระตูใหม่ ห้ามปรามก็ไม่ฟัง ด้วยเขาเห็นว่าเปนการเสียเกียรติยศ เล่าเรื่องอื่น ๆ ต่อไปอิกมาก ทำนองก็ทีจะซ้ำกันกับที่ได้ไปเห็นจึงไม่จดลงในที่นี้ ในแขวงบันยูมาส์นี้มีคนล้านสองแสนคน มีแอสสิสตันเรสิเดนต์ ๔ คน บรรดามณฑลที่แบ่งปริยังคาเปนใหญ่กว่าทุกมณฑล ภูปติคนหนึ่ง ๆ บังคับคนแลเขตรแดนเกือบกว่ากับสุสุนันฤๅสุลต่าน เวลากลางคืนวันนี้ได้ยินเสียงคลื่นดังลั่นทีเดียว เพราะถ้าจะเดิรตัดตรงลงไปก็ไม่ไกลจากติลยับ เปนแต่รถไฟเดิรอ้อมตามฝั่งทเลนอกจากที่อ่าวศิลาเปนคันสูงน้ำทเลกระทบพุ่งขึ้นสูง ๆ สมกับที่ดอกเตออาเบนดานันเล่าว่าได้ขี่ม้าลงไปดู เมื่อยังไม่มีทางรถไฟ เปนลักษณเขาขาดที่เกาะสีชัง รู้สึกหนาวมาตั้งแต่เย็น ค่ำลงยิ่งหนาวมากขึ้น โฮเต็ลนี้ก็ดูสบายดี เรสิเดนต์อยู่ด้วยในโฮเต็ลเดียวกัน

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ