๒๑
เมืองบัตเตเวีย
วันที่ ๒๙ พฤษภาคม
เข้าไปดูคุก เข้าทางคุกใหม่ซึ่งทำติดต่อไปกับคุกเก่าเปนที่อยู่แลที่ทำงาร ว่าเดี๋ยวนี้กำลังจะคิดจัดการให้คนโทษทำงารในคุกเหมือนที่สิงคโปร์ แต่ยังจะต้องรอกฎหมายกว่าจะตกลงจะสัก ๒ ปี ๓ ปีอย่างไรก็ไม่ทราบ ตรงกันกับที่ว่า “ติดอยู่ที่รัฐมนตรี” คุกดูไม่โตใหญ่อันใดเพราะมีคน ๒๐๐ เศษเท่านั้น ด้วยมีคุกทุกมณฑลและทุกหัวเมืองใหญ่ แบ่ง ๑๒ มณฑลมีคุกถึง ๑๐๐ เศษ นักโทษฝรั่งก็เอาไปไว้สมารัง เหลืออยู่ที่คุกอิกแห่งหนึ่งแต่ฝรั่งผู้หญิงกับลหุโทษ คุกเก่าที่ติดต่อกันไปนั้นเปนหลังยาว ๆ เรียงกันเข้าไป กั้นฝาตั้งฝาผนังตามแม่อกไก่โดยรี มีที่แจ้งกำแพงกั้นกลางเปนส่วน ๆ มีเว็จแลที่อาบน้ำ คนโทษมีไม่เต็มทุกหลัง นั่งขัดสมาธิเรียงเปนแถว พอเข้าไปยกมือไหว้อย่างไทย ๆ ตลอดทุกคน แต่งตัวเสื้อกางเกงสีย้อมฝาด มีผ้าโสร่งตารางน้ำเงินคนละผืน เสื่อนอนผืน ๑ หมอนใบ ๑ ใช้ยกรานนอนเหมือนตรางกองลหุโทษ น่าต่างใหญ่มีเหล็กฟากเหลี่ยมเปิดโปร่งตลอดจนช่องลมข้างล่าง เวลากลางคืนจึงได้ปิด อาหารใช้เข้าขาวมีปลาชิ้น ๑ ขนาดชิ้นปลากุเรา พริก ๓ -๔ เม็ดกับเกลือก้อนหนึ่ง ผักดองแต่เห็นจะไม่ใช่เปรี้ยวหรือเค็ม ว่าเปลี่ยนเปนเนื้อบ้างเปนอื่นบ้างอยู่เพียง ๓ อย่าง ใช้ให้คนผูกไปทำเหมือนอย่างคุกเรา ที่ขังคนมหันต์โทษทำแน่นหนาขึ้นกว่าโทษปรกติหน่อยหนึ่ง มีเจ๊กคนหนึ่งเปนขโมยแลฆ่าเจ้าทรัพย์ตาย ๒ คน อิกคนหนึ่งฆ่าฝรั่งเปนโทษหนักที่จะต้องแขวนคอ การจองจำบางคนมีเหล็กวงแหวนสวมคอบางคนไม่มี ข้อมือกับตรวนใช้เปนเหล็กคับเหมือนกัน ลั่นด้วยกุญแจหอยโข่ง ดูอย่างข้างจะหนักแลท่าจะหนีง่าย เพราะกุญแจนั้นต่อยโผงเดียวก็หัก ผู้คุมถือหอก แต่ที่ขังโทษเปนหนี้ไม่ได้เปลี่ยนเครื่องแต่งตัว ยอมให้มีที่นอนหมอนมุ้งแลของกินของใช้เข้าไปไว้ด้วย ดูไม่ขัดสนอันใด ต่อนั้นไปถึงโรงพยาบาลคนโทษ เจ็บเบรีเบรีเปนพื้น ที่อยู่แลการรักษาเหมือนกับคนปรกติ ต่อออกไปเปนเรือนพยาบาลพลเมืองซึ่งทำขึ้นใหม่อยู่ข้างทางรถไฟ ใช้เสาเหล็กเล็ก ๆ หลังคามุงกระเบื้องแต่ใช้ฝากระแชงอ่อน ถ้าเก่าหรือมีโรคประจุบันก็รื้อฝานั้นออกเผาเสียทีเดียว บรรดาโรงพยาบาลที่ทำใหม่ ทำท่อกว้างขวางเท่าแผ่นกระเบื้องน่าวัวพนเพล่ลงไปหาปากท่อเพื่อจะได้ล้างได้เสมอ โรงคนเจ็บโรคที่ติดกันกันไว้ต่างหากเปนหลังเล็ก ๆ มีรั้วกั้นไม่ให้คนไข้แห่งอื่นเดิรมาถึง โรงพยาบาลเก่ามีคนเจ็บอยู่กว่า ๒๐๐ คน มีผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เพราะเดี๋ยวนี้เขาใช้ตำราตรวจ มีคนที่เจ็บโรคสำหรับบุรุษเปนพื้น ยี่ปุ่นก็อยู่ในนั้น ๒ คน เพราะเท่านี้จึงไม่ยอมให้แม่เล็กไป ออกจากเรือนพยาบาลไปนั่งที่น่าเรือนผู้คุม เรสิเดนต์แลผู้คนมดหมอที่มาคอยรับไปนั่งพร้อมกันที่เรือนปลูกต้นไม้ นั่งโล้เก้าอี้กินน้ำชาอย่างวิลันดา ในคุกแลโรงพยาบาลร้อนเปนกำลัง ถึงข้างนอกก็เต็มที เพราะเมื่อวานนี้ฟ้าแลบเหมือนฝนจะตกแต่ข้ามไปลงทเล เขาว่าถ้ายังเห็นดาวอยู่ตราบใดฝนไม่ตก แต่เปนปรกติ รุ่งขึ้นเช้าคงจะร้อนมาก เดิรวันนี้อ่อนใจเต็มทีก้าวไม่ออกถึงกลัดกลุ้ม เวลาบ่ายไปดูร้านขายศิลา แต่ไม่ได้ซื้อเวลานั้น มอบให้ไชยันต์เปนธุระ ร้อนนักรีบกลับมา เมเยอร์จีนมาหาต้องให้เจ้าพนักงารวิลันดานำ เมเยอร์จีนคนนี้ว่าเปนคนมั่งมียิ่งนัก ได้ตราอะไรเปนอามวิลันดา แต่กระนั้นก็ไม่เข้าในที่ประชุมคนได้เหมือนฝรั่ง เสื้อที่ใส่ปักทองอย่างฝรั่ง ชั้นในแลที่น่าอกเปนมังกร แก้วที่มังกรอมประดับด้วยเพ็ชร์ มาถึงก็แอดเดรสแทนพวกจีนในเมืองนี้ เราตอบแล้วปราไสยตามสมควร
เวลายามครึ่งไปบอลที่คลับฮาโมนี คลับนี้สร้างขึ้นแต่ครั้งเซอร์แสตมฟอตแรฟเฟิลเปนเลบเตอแนนเกาเวอนเนอ เมื่อเมืองชะวายังเปนของอังกฤษแต่ไม่แล้ว พวกดัชมาทำต่อจึงให้ชื่อตามวิธีของพวกดัช ตั้งเปนคลับฝ่ายพลเรือน แต่ถึงคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องราชการก็เปนเมมเบอได้มีเมมเบอ ๔๐๐ คน แต่คเนกันว่าในคืนวันนี้คงจะได้มาสักครึ่งหนึ่งเพราะพวกที่ไม่อยู่มีมาก รวมทั้งผู้หญิงคงจะเปนสัก ๔๐๐ คนเศษ เมมเบอเปนคนที่ชั้นสูงต้องเลือกฟั้น เรื่องคลับของพวกวิลันดาอยู่ข้างต้องการมาก ดูไม่มีเวลาขาดคนหรือนั่งเต็มเต็มไปเสมอ เราเปิดบอลตามอย่างวิลันดา คือเดิรจูงรอบเท่านั้นเปนจบ ที่ผนังหุ้มกลองด้านในมีโธรน ต้องขึ้นนั่งโธรนแลเขาจัดห้องไว้ให้นั่งพักต่างหาก อยู่ข้างหลังโธรนไม่ปะปนกับพวกอื่น มีเวลาออกไปนั่งกลางแจ้งในสวน ค่อยยังชั่วร้อนแต่คนมากเต็มที บรรดาคนที่มาแต่งตัวทำใหม่โดยมาก เครื่องแต่งตัวที่นี่ทำดี ผู้หญิงสาว ๆ ที่สวยเกลื่อนกลาดไป ผู้หญิงดูจะมากเท่ากับผู้ชายหรือจะมากกว่าเสียอิก เพราะผู้หญิงวิลันดาทนร้อนได้ไม่เหมือนคนอังกฤษ ในชั้นสูง ๆ ที่เกิดที่นี่ก็โดยมาก ที่มาแต่นอกก็อยู่ได้ตั้ง ๒๐-๓๐ ปี เขาคุยว่าเพราะแต่งตัวตามเพศบ้านเพศเมือง คือตั้งแต่เวลาเช้าจนบ่าย ๔ โมงเปนกำหนด แต่งตัวนุ่งโสร่งใส่เสื้อขาวสั้น ๆ จะไปไหนทำอะไรได้หมด ต่อ ๔ โมงแล้วจึงจะแต่งตัวเปนฝรั่ง แต่โดยมากนั้นที่ไม่มีธุระไปไหนอยู่กับบ้านตั้งแต่ตื่นนอนจนนอนก็แต่งอยู่เช่นนั้น ฝ่ายผู้ชายใส่กางเกงโสร่งเย็บอย่างปยามาใส่เสื้อผ้าขาวบางวันยังค่ำ อาหารที่กินเวลาเช้ามีเนื้อสองสามสิ่ง เนยเหลวไข่แลขนมสิ่ง ๑ เวลากลางวันกินเข้ามีปลาย่าง ๒ อย่าง เนื้อทอด ๒ อย่าง เนื้อเค็มผัด เนื้อทำอย่างซาเต๊ะ ไข่เจียว เครื่องผัดเครื่องจิ้ม ๖ สิ่ง ผักใช้แตงกวาฝนพื้น แกง ๒ แกง กินดูก็อร่อยดี กินเข้าแล้วมีเนื้อวัวอย่างฝรั่งกินตามหลัง แล้วมีขนม ๒ สิ่ง ลูกไม้ ๒ สิ่ง แต่ลูกไม้นั้นเซอะเท่ากันกับฝรั่งในบางกอก คือลูกไม้ดี ๆ ไม่ได้กิน มีแต่ลมุดส้มโอกล้วยทุกวัน แต่คนอื่นไม่ว่าไทยหรือเจ๊กเขาหาลูกไม้ดี ๆ กินได้เหมือนบ้านเรา น่านี้ลูกเงาะวายแต่ยังมีพอกิน มังคุด ลูกชมพู่สาแหรก ชมพู่กหลาป๋า ขายตามตลาดเกลื่อน เวลาค่ำกินอย่างฝรั่งเต็มที่ไม่มีเข้า บอลวันนี้สนุกสนานรื่นเริงดีทั้งฝ่ายเราฝ่ายเขา ดูคนรู้จักนั้นมากขึ้นทุกวัน ตั้งแต่ไปออปรามาแล้ว ไปตามถนนมีคนเปิดหมวกตลอดทางไม่ใคร่จะเว้น กลับ ๗ ทุ่ม วันนี้ลูกเอียดไม่สบายลงท้องครั้งหนึ่งแล้วให้แน่นจุกอยู่ที่น่าอกนอนไม่หลับ เห็นจะเปนด้วยผิดน้ำเพราะเปนด้วยกันมาก คนที่ไม่ได้กินอาหารอย่างเมืองนี้เปนได้เหมือนกัน น้ำนั้นสังเกตดูว่ามีน้ำหนักมาก ลองชงใบชาอ่อน ๆ ก็เปนสีแดงแก่เหมือนสีสนิมเหล็ก ได้ทดลองกันมามาก ครั้นเอาน้ำฝนมาลองต้มดูสีแลรสก็เปนปรกติ ต้มด้วยน้ำเมืองนี้ชาไม่มีกลิ่นมีรสเลย ได้ให้หมอตรวจแลไต่ถามหมอเมืองนี้ก็ว่าเห็นจะเปนด้วยมีเหล็กมาก เพราะเปนน้ำที่เจาะขึ้นมาจากพื้นแผ่นดิน เขาเจาะได้ ๖๐-๗๐ ปีเศษมาแล้ว ใช้ทั่วทั้งเมืองเปนไม่รู้จักเสียดายน้ำกัน แต่พวกวิลันดาเกือบจะกินน้ำไม่เปน ใช้แอบปอลินริส์ทั้งนั้น เราไม่ชอบกินเพราะมีเค็มมากแลเบื่อ ๆ ในนั้นกินไม่อิ่ม สู้โซดาไม่ได้ พวกวิลันดาว่าโซดามีแก๊ตมากเกินไป พวกเรากันดารแต่เรื่องน้ำ กินไม่อิ่มทั้งแอบปอลินรีส์โซดา ต้องหันลงไปกินน้ำจึงได้ท้องไม่สบายร่ำไป วันนี้เขาบอกว่าเกาเวอนเนอเยเนราลได้รับคำสั่งจากเสนาบดีว่าการหัวเมือง ว่าให้จัดการรับรองให้ดี แลให้มีใบบอกทางโทรเลขว่าไปไหนบ้าง ทำอะไรบ้าง ผู้กำกับต่าง ๆ กำลังทำรายงาร รถไฟมาบอกว่าเกาเวอนเนอเยเนราล ให้รถของเขาเองที่สำหรับจะไปบุยเตนซอก แม่เล็กได้รับดอกไม้จากเมียกรมการทั้งปวงวันละ ๒-๓ แห่งทุกวัน ใช้จัดลงกระเช้าหญ้าหรือกระเช้าหวายรูปต่าง ๆ แลเปนช่อบุกเคบ้าง การจัดดอกไม้ที่นี่ฝีมือดีมาก ดูเขาเล่นกันจริงๆ