๗๖
เมืองกดิรี
วันที่ ๒๓ กรกฎาคม
วันนี้อยู่ข้างจะตื่นสายไป นัดให้อินเยอเนียทำการอิริเกชั่นซึ่งตั้งอยู่ที่มาลังเอาแผนที่มาให้ดู การที่ทำนั้นเขาปันกันเปนเขตร ๆ ไม่ได้อาศรัยมณฑลฤๅแขวง อาศรัยลำแม่น้ำที่มีกิ่งห้วยไปถึงไหน บรรดาออกแม่น้ำใหญ่ที่จะทำนั้นเปนเขตร ในส่วนน่าที่ของอินเยอเนียกองนี้ ทำการในมณฑลกดิรีแลปสรวนเต็มทั้งมณฑลแลส่วนแห่งสุรบายา คือจับเอาแม่น้ำกาลีมาสซึ่งข้างปลายเรียกกดิรีเปนหลัก ต้องตรวจตราอย่างเลอียดเหมือนอย่างเช่นคิดจะทำที่ยกยา ไม่ใคร่มีเวลาที่จะดูตลอด เพราะเร่งให้ไปกินเข้ากลางวันแต่เช้า มีตัวอย่างที่ได้ทำการรางน้ำแลอุมงค์ท่อน้ำใต้ภูเขาแลที่เปิดโคลน ที่เปนตัวอย่างอันน่าพึงใจเปนอันมาก ทั้งมีบาญชีเงินรับเงินจ่ายมาด้วย เสียดายเปนที่สุดด้วยต้องดูช้า ๆ จึงจะเข้าใจ เพราะติดด้วยเรื่องภาษา ได้แต่ยอด ตามที่สนทนาคือในมณฑลปศรวน ค่าใช้สอยในการที่ต้องซ่อมแซมแลรักษาเบ็ดเสร็จเปนเงิน ๑๓๑๖๒ เงินเดือนพนักงารที่รักษา ๔๗๐๙ คนเกณฑ์ประจำการเข้าเวร ๙๐๖๐๓ คน รวมการทั้ง ๓ มณฑลเงินที่ต้องใช้ ๑๒๑๑๙๑ คนเกณฑ์ ๑๓๐๑๓๑๙ เปนการใหญ่มิใช่เล่น๖๒ เขายอมให้รูปมาให้ดูบ้าง
(ตอนที่ ๑๕ เสด็จประทับที่เมืองกดิรีแลเมืองสมารัง)
เวลาเที่ยงนานไปที่สเตชัน กำหนดออกรถไฟใช้เวลาบัตเตเวียเที่ยง ๕๘ มินิต แต่ต้องไปก่อนเพราะเวลาปสรวนเร็วกว่า ๒๔ มินิต หยุดเปลี่ยนรถที่สิทรัชโช แล้วไปหยุดที่กาโตโสโน ๑๕ มินิต เมืองนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโบรนตัสเปนที่ทุ่งนาราบไปโดยรอบพื้นแผ่นดินต่ำ ได้ขึ้นรถม้าไปเที่ยว เห็นแต่มีเข้าที่เกี่ยวใหม่ ๆ บ้าง ที่สีแล้วบรรจุกระสอบบ้างกองทั่วไปทุกบ้านทุกเรือน เข้าในมณฑลกดิรีเกือบจะไม่ใคร่จะแลเห็นมีเขา เปนแต่ทุ่งนากว้างสุดสายตา กลิ่นอายรศชาติแลภูมิพื้นเหมือนเมืองเรา ข้างฝ่ายปราจิณเมืองนครนายก ต่อเข้าไปใกล้กดิรีอีกหน่อยหนึ่งจึงเห็นเขาวิลิศมาหรา นัยหนึ่งเรียกกลับว่า มหาวิลิศหรือวิลิศเปล่าก็มี เปนเขาเทือกยาวสูงใหญ่ แต่รูปไม่เปนพระทรายหรือรูปยาว ๆ เกลี้ยง ๆ เปนชั้นเชิงมียอดสูง ๆ ต่ำ ๆ เหมือนเขาพระบาท ยอดที่สูง ๘๐๐๐ ฟิต มีเขาย่อม ๆ บังน่าอยู่เขาหนึ่ง เมื่อเข้าไปใกล้ ๆ เห็นอยู่ข้างขวาเรียกว่า เขาโครต๊ก ข้างซ้ายแลเห็นเขาไกลมัว ๆ เรียกว่าเขากลุ๊ตเปนที่มีเขาไฟร้ายแรงที่กำเริบขึ้นจนต้องย้ายเมืองหลวงครั้งประชาชะรัน ไร่อ้อยไร่ครามมีบ้างแต่ไม่มากเหมือนสุรบายา ถึงกดิรีเวลาบ่าย ๔ โมง ๔๕ มินิต เวลาบัตเตเวีย แต่เวลากดิรี ๕ โมงนานแล้ว เรสิเดนต์สิเกรตารีคอนโทรเลอ แลแอสสิสตันเรสิเดนต์ตำบลตรังกาลิส ซึ่งเปนพี่เขยแบรอนกวาลแลริเยนต์มารับ ขึ้นรถกับเรสิเดนต์ ตามหนทางตกแต่งใบไม้แลธงตลอด ไปที่โฮเต็ลอินดีสตั้งอยู่ริมแม่น้ำกดิรี คือแม่น้ำกาลีมาสที่เมืองสุรบายานั้นเอง เรือนที่นี้ยกสูงกว่าที่อื่น ๆ เพราะมีเวลาน้ำท่วม โฮเต็ลดูข้างนอกซอมซ่อ แต่เข้าไปข้างในสบายดีอย่างยิ่ง เกือบจะเรียกว่าไม่มีที่ไหนสู้ เรสิเดนต์สมมตห้องแล้วกลับไป ขึ้นรถไปเที่ยวกับสิเกรตารีก่อนอาบน้ำ ด้วยมีเวลาเหลืออยู่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงจะค่ำ พรุ่งนี้ก็จะต้องออกแต่เช้า เพราะระยะทางไกล
ในเมืองกดิรีนี้ปันเปน ๔ ส่วน ฟากตวันออกที่โฮเต็ลตั้งอยู่ ข้างเหนือเปนเมืองฝรั่ง มีเรือนแลโฮเต็ลปลูกอยู่ริมแม่น้ำบนที่ซึ่งถมดินสูง ลงไปข้างใต้ตอนกลางเมืองพวกชวาอยู่ มีอาลูนอาลูนวัดแลบ้านริเยนต์แลกาภูปติ แต่อาลูน ๆ ข้างฝ่ายตวันออกนี้ ตั้งแต่สุรบายามาใช้ปลูกหญ้าเหมือนที่การุต บ้านเรือนคนมีรั้วแลปลูกต้นไม้ เรือนเข้าไปหายอยู่ข้างในเหมือนเช่นโซโล แต่เลวกว่าโซโลมาก ต่อลงไปปลายข้างใต้เปนหมู่เมืองจีนมีตึกรามใหญ่ ๆ แต่ไม่สู้ยาวนัก มีตพานยาวข้ามแม่น้ำไปฝั่งตวันตกถึงริมป้อม ที่ป้อมนั้นสี่เหลี่ยม มีป้อมมุมกลมแต่เล็ก ๆ ทำขึ้นเมื่อครั้งเกิดขบถที่เมืองยกยา เดี๋ยวนี้ทำหลังคาบรรจบกำแพงป้อมเจาะเปนน่าต่าง ใช้เปนออฟฟิศเรสิเดนต์ ฟากถนนข้างเหนือเปนสวนเรสิเดนต์ ปลูกต้นสนเรียงเปนแถวงามดี บ้านเรสิเดนต์ไม่โตใหญ่อันใด แต่ไม่ได้แวะ ไปตามถนนบ้านผู้เรือนคนน้อย เปนแต่ชาวชวาโดยมาก ตึกฝรั่งมีก็หลังเล็ก ๆ ทิ้งร้างเสียหลายหลัง ว่าเพราะเกิดไข้มาราเรียขึ้นเมื่อ ๒ - ๓ ปีนี้ แต่ที่แท้เมืองสองฟากแม่น้ำเปนธรรมดาที่จะสนุกข้างหนึ่งไม่สนุกข้างหนึ่ง ว่าเมื่อเดิมฝรั่งก็ตั้งอยู่ฝั่งตวันตกมาก ภายหลังก็ต้องหันข้ามมาหาฟากข้างตวันออกที่จอแจ เขาชี้ให้ดูทางที่จะไปเขาโครต๊กแลเขาวิลิศมาหรา เขาโครต๊กนั้นว่าเปนที่ประทับร้อน ระยะทางห่างจากกดิรี ๒ ปาลเท่านั้น ว่ามีถ้ำเล็ก ๆ ถ้ำหนึ่งมีศิลาจาฤก แต่เนื้อความจะว่ากระไรไมได้ความ ซัดไปบัตเตเวีย แต่ไม่เปนที่อัศจรรย์อันใดนัก เขาวิลิศมาหราทางไปแต่กดิรี ๔ ชั่วโมง มีแต่ไร่กาแฟ ถามหาหมายว่าจะมีเทวรูปยอนหูอยู่บ้าง ถ้ามีจริงถึงอย่างไร ๆ ก็เห็นจะต้องไป ก็ว่าไม่มีใครเคยพบเคยเห็นเลย กราตนของท้าวดาหานั้นยังมีอยู่ เปนที่นับถือของราษฎรเส้นวักบูชา ตั้งอยู่ที่เมืองโดโหระยะทางห่างกดิรี ๘ ปาล ไม่มีอันใดที่จะน่าดู ที่เมืองนี้ในกระบวรตึกรามข้างจีนสู้สุรบายาแลปสรวนไม่ได้ แต่ดูครึกครื้นกว่าปสรวน เย็นสบายด้วย ปรอทตั้งแต่เย็นไปอยู่ใน ๗๐ มีลมพัดไม่ขาด ทหารไม่มี ๆ แต่ประยุเหร็จ กลับมาเวลาค่ำอาบน้ำแล้ว แบรอนกวาลพาเมียมาหา เรสิเดนต์ก็มาด้วย นั่งสนทนากันเล่นที่น่าโฮเต็ลริมแม่น้ำเดือนหงายสบาย ให้คิดถึงบางกอกเปนกำลัง ชวนเรสิเดนต์แลเมียแบรอนกวาลกินเข้าด้วย เรสิเดนต์กลับแล้วลงไปเดิรเล่นริมแม่น้ำ มีคนมาคอยดูอยู่มาก ต้องเดิรกันทั้งมีคน แล้วขึ้นรถไปเที่ยวก็ยังมีคนขับรถตาม แวะดูที่ศาลเจ้าเจ๊กอยู่ริมแม่น้ำทำงดงามมาก มีพระจีนออกมารับ จนเมื่อแรกหมายว่าวัด ครั้นเข้าไปในนั้นเห็นรูปกวนอูจึงได้รู้ว่าศาลเจ้า กลับมาขับรถเที่ยวตามถนน เปนเวลาดึกไม่ใคร่มีผู้คน อ้ายคนขับรถไปเกิดเซอะขึ้นกลับโฮเต็ลไม่ถูก ต้องมีคนบอกจึงได้กลับมาได้ ถึงเวลา ๗ ทุ่ม
-
๖๒. จำนวนเงินสงสัยว่าเขียนหรือคัดผิด ↩