๖๙

โตสารี

วันที่ ๑๖ กรกฎาคม

เวลาเช้าออกจากโตสารี ๓ โมงเศษ ไปตามทางเขาอยู่ข้างจะแคบแลชัน ต้องขึ้นยอดที่สูงแลกลับลงที่ต่ำหลายทอด แม่เล็กไปเก้าอี้คนหามมันก็แขงพอใช้ เดิรไม่สู้ขาดกันไกลนัก ถ้าเวลาที่ขึ้นยอดไปลงธารแล้ว เปนทางทบไปทบมา ถึงข้ามที่ลำธาร แล้วกลับขึ้นตามทางทบเช่นนั้นเหมือนกัน ถ้าทางเช่นนี้แล้วอยู่ข้างชันมาก เดิรทางไปเลียบยอดเขาซึ่งเปนที่ไกอุมาอยู่ ไปตามเขางาติโวโนลงถึงหมู่บ้านเรือนหลังโต ๆ ทำอยู่บนเตอเร็ศ คือเขาตัดเปนคั่น ๆ เรือนทำได้แถวกันเปนแถว ๆ ตามลานบ้านสอาดไม่มีรกเรี้ยวอันใด ล้วนมีพร้าขอตะกร้อน้ำครบบริบูรณ์ทุกแห่ง ตามเรือนเหล่านั้นดูเงียบเหมือนไม่มีคน การทำงารลงมือต่อ ๔ โมงเช้า พอบ่าย ๔ โมงก็เลิกเข้าเรือนปิดประตู ตามภูเขาเหล่านั้นมีสวนก้าหล่ำงามนัก เดิรไปริมเรือนในหมู่บ้าน ถึงที่แผ่นดินในหว่างเขา เปนที่มิศเตอร์เลฟฟาลิสไปตั้งทำการปลูกผักต่าง ๆ แลปลูกไม้ดอก ชำต้นสน เลี้ยงโคนมเปนโคฝรั่งอย่างขนยาว แล้วเดี๋ยวนี้ตั้งโฮเต็ลเปนที่สำหรับคนไปพักรักษาตัว มีคนไปอยู่หลายคน เรือนที่อยู่นั้นทำด้วยไม้สนเกลี้ยง ๆ ไม่ได้ทาสี เปนอย่างเมืองยุโรปบานกระจกขาดแต่เตาไฟ เฟอนิเชอร์ที่ใช้ก็เปนแต่ไม้เกลี้ยง ๆ ทำเอง ไม่มีเครื่องตกแต่งอันใด นอกจากที่จำเปน ตัวเองว่าเปนที่เข้าใจในการทำสวนมาตั้งแต่พ่อ ลักษณอาการเปนคนชาวสวนแต่เรียบร้อยดี เมียเปนคนกิริยาดีแลมีน้ำใจดีด้วย ผิวหน้าแดงด้วยถูกลมหนาวแต่ยังไม่ถึงลูกสาวอายุ ๗ ขวบ รูปร่างโตราวกับอายุ ๑๑ - ๑๒ ปีเนื้อแน่นแขงทั้งตัว ผิวหน้าแลมือหนาแดงเกรียมลอก ดูช่างแขงแรงเสียจริง ๆ ถ้าโตขึ้นจะเปนผู้หญิงวิลันดาอย่างดีได้ขนาด ลูกชายที่เปนหนุ่มคนหนึ่งรูปร่างอ้วนล่ำแขงแรง ช่วยกันต้อนรับทั้งครัวเรือนอย่างน้ำใจดี แล้วพาขึ้นไปดูที่สวน พื้นที่เปนที่ลาดเทลงมาในหว่างเขาทั้งสองข้าง ต้องเลือกที่เช่นนั้น เพราะฝนตกลงมาจากเขาทั้ง ๒ ข้าง จะได้ชุ่มอยู่ในพื้นแผ่นดิน แต่เพราะเหตุว่าเปนที่ลาดน้ำไม่พอที่จะขังอยู่จนถึงรากต้นไม้เน่าได้ ที่เช่นนื้เปนภูมิประเทศบนเขาสำหรับปลูกต้นไม้ให้งาม ตัดที่ดินเปนคั่น ๆ ปลูกต้นไม้เปนสองแถวทุก ๆ ชั้น ตอนล่างปลูกผักฝรั่งต่าง ๆ ขึ้นไปถึงตอนกลางจึงได้เปนกุหลาบแลต้นไม้ดอกฝรั่งต่าง ๆ ทางที่ไปจากหมู่บ้านคนเลียบไปตามข้างสวน เห็นสีดอกไม้แลใบไม้เหมือนเอาแพรดวงลงลาดไว้ ดอกกุหลาบต่าง ๆ พรรณโตจนบอกไม่น่าเชื่อ เหมือนกับดอกไม้ในลายเขียนกระดาดซึ่งเราไม่เชื่อ สงสัยว่าแกล้งเขียนส่วนขยายให้กว้างออกไป แต่ที่จริงเปนความจริงแท้ ต้นที่ขึ้นสูง ๆ ถึง ๕ - ๖ ศอกติดกันเปนรั้วอยู่ในสัก ๗ - ๘ ต้นก็อาจจะทำรั้วได้ยาว ดาดไปด้วยดอกตั้ง ๓๐๐ - ๔๐๐ ดอก ที่อย่างโตเวลาตูมเหมือนดอกบัวตูมมากกว่าอย่างอื่น เวลาบานดอกโตอยู่ในขนาดดอกชบาหรือดอกชบาซ้อน อย่างเล็กมีที่สุดจนเหมือนดอกยี่สุ่นหนูแต่สีแลสีอื่น ๆ บ้าง แต่ที่มีนั้นดอกโตเปนพื้น สีตั้งแต่สีชมภูขึ้นไปจนสีทับทิมสีครั่ง สีเหลืองตั้งแต่ขาวแลเหลืองอ่อนขึ้นไปจนสีเหลืองแก่ ถ้าจะเก็บบรรจุตะแกรงขนาดใหญ่แต่ชั่วดอกบานคงจะได้ไม่ต่ำกว่า ๕ ตะแกรงทุกวัน เก็บกันเพลินเต็มทีรอดตัวที่ไม่ร้อนถึงอยู่กลางแดดจะหาเหงื่อสักนิดก็ไม่มี แม่เล็กแขงแรงขึ้นกว่าไปที่อื่นเปนอันมาก ทางที่ขึ้นไปก็ไม่สู้เรียบร้อย แลต้องขึ้นเหมือนคั่นบันได แลมิใช่ทางใกล้ด้วย ดูไม่เหน็ดเหนื่อยหนามไหน่เกี่ยวก็ไม่เดือดร้อน กลับลงมาพักที่เรือนเอานมวัวแลเนยสดมาเลี้ยงกินอร่อยนัก ถึงคนที่กินเนยกินนมไม่ได้ก็กินได้ ขากลับมาทางอ้อมขาไปทางเพียงปาลครึ่ง ขากลับ ๓ ปาลครึ่ง มีแห่งที่ไม่ชันมากกว่าที่ชัน แต่คำที่เรียกว่าไม่ชันนั้น ที่จะเปนทางราบเฉย ๆ มีบ้างจริงแลแต่น้อย เปนทางชันเพียงเท่าทางขึ้นเขาเรียกว่าไม่ชัน ทางที่เรียกว่าชันนั้น คือตั้งแต่เท่าขึ้นหลังคาตึกใหม่ ๆ ไปจนกระทั่งถึงขึ้นหลังคาวัดพระแก้ว ถ้าไปม้าขาขึ้นง่ายกว่าขาลง เพราะเชื่อได้ว่าม้ามันชำนาญเดิรไม่มีพลาด แต่ขาลงต้องนั่งตั้งตัวขายันโกลนอยู่ข้างจะเมื่อยหัวเข่า กลับมาถึงเวลาบ่ายโมงหนึ่ง

เวลาเย็นลงไปเดิรที่ในสวน แล้วลงบันไดที่สับดินเปนคั่น ๆ ลงไปถึงชานที่ราบอีกชั้นหนึ่ง เปนที่บ้านหมอ เปนหมอยาแลตรวจสัตว์ต่าง ๆ มีปรอทดูทั้งในดินแลอากาศแต่ไม่ได้แวะ เดิรผ่านลงไปข้างล่างในหว่างสวนผักสลัด มันชั่งน่ากินเสียจริง ๆ แต่นึกว่าจะกินกับอะไรก็ดูไม่เข้าที ด้วยสลัดเขาก็มีแล้ว ให้นึกถึงเมี่ยงหมูหรือหมูแนม ก็เปนพ้นวิไสยที่จะหากินได้ในที่นั้น ตกลงเลยเดิรผ่านไปจนพ้นเนินลูกที่อยู่ ในกลางทางพบที่ฝังศพ ๒ แห่ง ศพหนึ่งเปนพี่น้องของเจ้าของโฮเต็ล ทางอยู่ข้างจะพอเรียกได้ว่าเรียบ ไปจนถึงโฮเต็ลอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ต่ำกว่าโฮเต็ลเรา แต่เปนเนินลอยอยู่แลเห็นไกล มีที่ดินกว้างพอทำสวนได้ ถ้าหากว่าไม่มีหมอกก็เห็นจะแลเห็นอะไรไกล ๆ แต่ที่บนนี้เวลาเย็นลงแล้วเหมือนนั่งอยู่บนเกาะ ลอยอยู่ในน้ำขุ่น ๆ แลลงไปข้างล่างไม่เห็นอะไรตามเขาโดยรอบ บางเวลาก็เห็นว่าง ๆ บางเวลาก็ไม่เห็นเสียเลย เขาอรชุโน ซึ่งตั้งอยู่ข้างซ้ายโฮเต็ล สูงถึง ๑๑๐๐๐ ฟิต ลางเวลาก็ไม่เห็นเลย ลางเวลาก็เห็นเปนตอน ๆ เดิรกลับมาทางข้างหลังเรือนหมอเปนน่าเขาชันอยู่ข้างซ้าย ข้างขวาเปนที่ลึกต่ำลงไป มีหมู่บ้านหลังคาเกือบเท่าพื้นถนน ต้องขึ้นทางชันไปจนถึงน่าลูกมอ กลับขึ้นทางน่าโฮเต็ล บรรดาพวกที่อยู่ในโฮเต็ลนั้นออกมายืนคอยดูแลรับรอง เดิรผ่านหลายเวลาเข้าก็กลายเปนญาติกันไปหมด

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ