๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ น

ตำหนักปลายเนิน คลองเตย

วันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๔๘๕

พระยาอนุมานราชธน

เพิ่งจะคิดเหนหลักในการเขียน ซึ่งมีตัว ห การันต์อยู่ข้างท้ายในภาษาไทย กับที่อังกฤษเขียนภาษาชาวชมพูทวีป ซึ่งมีตัว h อยู่ข้างท้ายขึ้น จะเว้นบอกแก่ท่านเสียไม่ได้ จึงมีจดหมายนี้มา

ทางไทยซึ่งมีตัว ห การันต์นั้นหมายแทนประหลัง เพราะหนังสือเราเอาอย่างเขมร เขมรเอาอย่างมาจากสังสกฤตอีกต่อหนึ่ง ทางสังสกฤตนั้นเขาถือว่า อ อิ อุ เปนลหุ แม้ใส่ประหลังเข้าจึ่งเปนครุ หรือจะใช้ตัว ห แทนก็ได้ เพราะฉะนั้นคำ ดำริห์ จึ่งมีตัว ห ข้างท้าย เพิ่งจะมาตัดกันออกเสียเมื่อเร็วๆ นี้ ถึงแม้จะตัดก็ไม่หมด จะอย่างไรก็ช่างเถิด แต่พึงสังเกตได้ว่า ถ้าเปนทางชมพูทวีปแล้ว มีตัว ห ก็ต้องเปนเสียงสั้น ส่วนทางฝรั่งนั้นเขาเหนการผันอักษรเปนของประหลาด ด้วยทางภาษาเขาถึงมีก็ไม่ถือกัน เพราะฉะนั้นก็พึงถือเอาได้ว่า ถ้าฝรั่งเขียนคำทางชมพูทวีปมีตัว h ข้างท้ายแล้ว ก็ต้องเปนผันอักษร ไม่ใช่หมายเปนประหลัง

นึกถึงหนังสือของเราก็เหนมีผิดอยู่บ้าง เช่น เกาะ ควรจะเขียน ก๊อ หรือ กอะ คำนี้ได้พูดแล้ว อีกทั้งคำว่า ตัว ก็เขียนผิดอ่านผิด ที่จริงเปน เตา ที่เขียน หวว นั้นค่อยใกล้หน่อย แต่ก็ไม่ถูกแท้ ที่จริงสระ อูา เราไม่มีตัวที่จะต้องเขียน ตูา หรือ หวว ก็จะต้องเขียน หูา ดูจะเข้ากันดีกับคำ หัวหู เปน หูาหู นี่ยังไม่ได้พูด

นึกขึ้นมาได้ว่าคำ สระสรง ของเขมรนั้นเปนสองพยางค์ผสมกัน หมายความว่าอาบน้ำในบ่อโต ๆ แต่เรามาพูดว่า สะสง หมายความแต่เพียงว่าอาบน้ำเท่านั้น จะอาบในสระหรือในขันก็เหมือนกัน นี่ทักถึงเขียนเคลื่อนและความหมายเคลื่อน

นึกถึงคำในเรื่อง ร สับกับ ล เช่น นาปรัง กับ นาปลัง ขึ้นได้อีก คือ พระแกร พระแกล พระกรด พระกลด อย่างไรถูกก็ไม่ทราบ ต้องขอคำตัดสินของท่าน

มีคนเขาติฉัน ว่าเขียนตามแบบปทานุกรมกระทรวงธรรมการทำไม เพราะไม่ใช่หนังสือราชการ ฉันตอบว่าต้องหัดตัวไว้เพราะไม่มีเสมียนจะช่วย สังเกตว่าคนที่ทักนั้นเขียนตามที่ตัวเรียนมา แต่ก็ไม่จริง เพราะเหนเขียนตามสมัยใหม่ก็มี

สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ