๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๖ ยส

กรมสิลปากร

12 กรกดาคม 2486

ขอประทานกราบทูล ซงซาบไต้ฝ่าพระบาท

ข้าพระพุทธเจ้าค้นหาความหมายถึงคำว่า ผู้หยิงยิงเรือ ว่าจะหมายความว่าอะไร ลางทีคำว่า ผู้หยิงยิงเรือ เปน ผู้หยิงริงเรือ ก็มี ข้าพระพุทธเจ้าคิดเห็นว่า ยิง จะถูกกว่า ริง เพราะมีไช้กันมาก และมีคำแปลไนภาสาไทย ส่วน ริง ไม่มี นอกจากพบคำว่า ริง ไนภาสาอาหมแปลว่า ตี เท่านั้น จะว่า ผู้หยิงตีเรือ ผู้ชายพายเรือ ก็ไม่ได้ความว่าอะไร จะต้องค้นหาคำแปลเอาจากคำ ยิง ว่าเดิมจะหมายความว่าอะไร หรือ ยิง จะเปนอีกคำหนึ่งไนภาสาไทยเดิม หากคำนั้นสูเสียแล้ว ถ้าพิจารณาดูถึงคำว่า ยิง ไนความหมายปัจจุบัน ก็เปนกิริยาของการลั่นปืน ส่งลูกไปสู่ที่หมาย กับยังมีคำว่า ยิงฟัน ซึ่งคงหมายความว่า แยกฟัน หรือ แยกเขี้ยว โดยแปลงยิงเปนแม่ กก และแปลงสระ อิเปน แอ เพราะฉะนั้น ยิงปืน กับ ยิงฟัน จึงเปนคนละคำ แต่พ้องเสียงกัน จะแปลง ผู้หยิงยิงเรือ ว่า ผู้หยิงแยกเรือ ก็ไม่ได้ความ จึงต้องหา ยิง จากคำอื่น เห็นด้วยเกล้าฯ ว่า อาการของยิงปืนมีหยู่หลายตอน คือยกปืนขึ้นเล็งแล้วลั่นไกปล่อยไห้ลูกเลื่อนแล่นไปสู่ที่มุ่งหมาย กิริยารวมทั้งหมดนี่เปน ยิง ครั้นสอบค้นดูคำไนภาสาไทยต่างๆ พบคำ ยิง ไนไทยไหย่ ไช้ว่า เยอ ซึ่งไม่มีที่ใช้หยู่ไนไทยกลาง สอบคำไทยถิ่นต่างๆก็ไช้คำแปลก ๆ ไม่มีเค้าว่าไช้คำ ยิง สักแห่งเดียว คงปรากตแต่ไทยกลางเท่านั้น ที่ไช้ว่า ยิง ทางอิสานและพายัพไช้ว่า ยิง เหมือนกัน จึงน่าสันนิถานว่า ยิง ไนคำว่า ยิงปืน เปนคำเกิดใหม่ ไม่มีหยู่ไนไทยเดิม หรือคำว่า ยิง อาดเพี้ยนเสียงไป หนทางที่จะเพี้ยนเสียงไปได้ ก็คือเปน เยง แยง เยียง ข้าพระพุทธเจ้าจึงลองค้นคำเหล่านี้ดูไนไทยเดิม ไนไทยไหย่มีคำ เยง แปลว่า จ้อง เลง จ้องมอง และไห้ตัวหย่างไช้ไว้ว่า เยงจ้ำ แปลว่า จ้องดูกะจกเงา ไม่กล่าวถึงยิงปืนเลย เยง คำนี้เห็นทีจะเปนคำเดียวกับ แยง ไนคำไทยโบราณ เช่นไนเสือโคคำฉันท์มีว่า สองสัตวก็หยุดแยงยล คำนี้ยังเหลือมาเปนคำไช้ของชาวชนบท เช่น หย่ามาแอบแยงมอง คือ หย่ามาแอบมองดู สอบคำทางพายัพมีคำ แยง แปลว่าสังเกตดู ส่องดู เช่น แยงเงา แปลว่า ส่องกระจก ไทยพวนมีคำ แยง แปลว่า ส่อง เช่น แยงที่บ้าน คือดูไห้ตรงบ้าน แยงถี่โสก คือดูไห้ถูกลักสนะ ไนภาสาผู้ไทยขาว มีคำว่า เยียง แปลว่ามองดูเช่นเดียวกัน ถ้า ยิง เปนคำเดียวกับ เยง แยง เยียง คำว่า ผู้หยิงยิงเรือ ก็ได้ความขึ้น อาการที่ยกปืนขึ้นเล็ง มีคำไทยไช้หยู่หลายคำ เช่น จ้องปืน ส่องปืน ไนความ เช่น พรานยกปืนขึ้นส่อง ต้องลูกกาดำ หรือไนคำว่า ส่องกะจก จะเปนคำเดียวกับ ส่ง เพราะแล่นไปสู่ที่หมาย เลงปืน เลง ก็คือแลจ้อง ถ้าเช่นนั้น ยิงปืน น่าจะหมายความว่าจ้องปืน ส่องปืน ยิงปืน โดยเหตุที่มีคำไช้พ้องหรือคล้ายกันหลายคำ คำว่า ยิงปืน จะเลื่อนความหมายเปนอาการของการที่ส่งลูกไปสู่ที่หมาย ยึดถือคำยิง แปลว่า จ้องมองดู คำว่า ผู้หยิงยิงเรือ ก็หมายความว่าผู้หยิงจ้องมองดูเรือ นั่งนิ่งๆ ไม่ต้องทำอะไร ส่วนผู้ชายนั้นต้องพายเรือ คำที่ไช้ว่า ผูหยิงยิงเรือ มักเปนไปไนทางปรามาสผู้หยิง จึงดูสมกับที่จะแปลว่า ผู้หยิงไม่ได้ทำอะไรออกแรงเปนล่ำเปนสัน ได้แค่มองดูเรือเฉย ๆ ดังนี้ก็อาดเปนได้ ถ้าจะคิดดูถึงความเปนไปไนสมัยโบราน การรบทัพจับสึก หรือป้องกันอันตรายไห้แก่ลูกเมียตกเปนหน้าที่ผู้ชาย ผู้หยิงมีหน้าที่หยู่กับเหย้าเฝ้าหยู่กับบ้าน งานที่เปนหน้าที่ต้องทำคืองานบ้าน มีหุงต้มอาหาร ทอผ้า เก็บผักหักฟืน งานหย่างหนักมีหาบน้ำเปนต้น ซึ่งผู้ชายไม่ทำ ถือว่าไม่ใช่หน้าที่ เมื่อดูเผิน ๆ ก็เปนอันว่าผู้ชายเอาเปรียบผู้หยิง ไม่ช่วยเหลือ เปนคนเกียจคร้านกินแรงผู้หยิง แท้จริงเมื่อถึงงานหนักนอกบ้าน เช่น การต่อสู้กับภัยอันตรายอันจะมีมาแก่ครอบครัว ตกเปนหน้าที่ของผู้ชาย ก็การพายเรือไปนอกบ้าน จะสงเคราะห์เข้าไนพวกหน้าที่ของผู้ชายก็หน้าจะได้ แต่ตามที่ปรากตการพายเรือเปนเรื่องที่ต้องช่วยกันพายทั้งผัวและเมีย เปนทำนองผัวหาบเมียคอน หาไช่ผู้ชายพายคนเดียวไม่ ถึงตรงนี้ ข้าพระพุทธเจ้าติด คิดไม่เห็น

ควนมิควนแล้วแต่จะโปรดเกล้า ฯ

ข้าพระพุทธเจ้า ย.ส. อนุมานราชธน

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ