๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๕ น

ตำหนักปลายเนิน คลองเตย

วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๔๘๕

นายยง อนุมานราชธน เสฐียรโกเศศ

หนังสือลงวันที่ ๑๔ ได้รับแล้ว

ที่ชวนพระเทวาภินิมมิตให้มาเขียนแบบนั้นดีแล้ว จะว่าแบบสถาปัตยกรรมของเราแต่ก่อนมีอึตกรึ แล้ว (โทษเอา) ว่าพม่าเผาเสียหมดก็ได้ อันตำรานั้นต้องมีคนอยากรู้จึ่งจะมีคนทำ ถ้าไม่มีคนอยากรู้ก็ไม่มีคนทำ ที่ว่าหวงวิชานั้นก็ถูกครึ่งผิดครึ่ง ออกจะเปนธรรมดาที่จะต้องดูหน้าคนมาถาม ถ้าเหนว่าจะรู้เอาไปย่ำยีก็ต้องปิด ถ้าอยากรู้เพื่อเรียนจริงก็ไม่ปิด ที่บอกไม่ตลอดก็เพราะนึกไม่ออก ที่หวังจะให้นักเรียนแก้แบบไทยไปให้สมสมัยนั้น จะเปนไปได้ก็แต่ผู้มีปัญญาคิด ซึ่งจะมีน้อยตัว ถ้าไม่รู้คิดก็ตกเปนพวกหลู่ครู ซึ่งจะมีมาก

ตามที่ท่านว่า แม้กำลังพระเทวาเขียนตำราอยู่ก็ทำให้ท่านรู้ขึ้นอีกมากนั้น นั่นเพราะท่านอยากจะเรียน คำว่า เจติย ก็หมายความว่านำใจไป คำว่า ธาตุ ก็หมายความว่าประจุธาตุ อาจจะเปนสิ่งเดียวกันก็ได้หรือไม่ใช่ก็ได้ อะไรหมดก็จะต้องคิดต้องเดา ความเดาก็อาจผิดได้ถูกได้ ท่านพูดถึงซี่คล้ายลูกกรง แล้วพระเทวาว่าทราบจากฉันว่าระย้าฉัตรนั้น ฉันลืมแล้วว่าซี่อะไร จะอย่างไรก็เปนเรื่องคิดเดา ซึ่งกล่าวมาแล้วว่าอาจผิดได้ถูกได้ พระเทวานั้นถ้าทำอะไรสงสัยก็ปรึกษาฉันเนือง ๆ มีนิทานเรื่องหนึ่งจะเล่าให้ท่านฟัง แกเขียนรูปคุณหญิงโม้ จะทำอนุสาวรีย์ที่โคราช แต่พอแกแก้ม้วนแบบออกให้ดู ฉันก็ถามคำเดียวว่า คุณหญิงโม้น่ะ น่าตายังงี้หรือ แกก็หัวเราะแล้วยกมือไหว้ ม้วนแบบกลับ ไม่ตอบว่ากะไร

บัวถลานั้นเดี๋ยวนี้ไม่มีใครเรียกกันแล้ว เรียกบัวคว่ำแทน คำ ถลา ฉันก็ได้ทราบจากกรมหลวงสรรพสิทธิ์ ว่าทางอุบลเขาเรียกทางลาดกันว่า ถลา แล้วหลานหญิงเขาอ่านการสร้างพระประถมเจดีย์เขาก็ถามด้วย จึ่งได้ทราบว่า เขาเรียกกันและแปลออก บัวแวง นั้น แวง แปลว่าดาบหรือกระบี่ คือบัวด้ามกระบี่ ตกว่าเปนบัวยาว ๆ อะไรที่เปนบัวยาว ๆ ก็เรียกบัวแวงทั้งนั้น เหม แปลว่า ทอง แท้จริงก็มาแต่ หิม เมื่อจับแสงพระอาทิตย์เข้าก็เห็นเปนทอง ข้อนี้ยังคิดไม่เห็นว่าทำไมจึงมาอยู่ตรงที่ช่างเขาเรียกกัน ปล้องไฉน นั่นคือทำเรียว เดิมเปนร่ม (ซ้อนชั้น) แล้วก็มักง่ายทำร่มแต่พอเปนที เปนปล้อง ๆ คล้ายปี่ไฉน (เดี๋ยวนี้จะเปนปล้องหรือไม่ก็ไม่ทราบ ไม่ได้ดูใกล้)

ปราสาท มาแต่เรือนชั้น ไม่จำต้องเปนยอดแหลม จะเปนหลังคาตัดก็ได้ ยอดแหลมนั้นมีคำต่างหากว่า กูฎาคาร ปรางค์ ก็เปนปราสาทเหมือนกัน กลีบขนุนนั้นคือ นาคปักบรรพแถลง แต่ทำทรงให้ก่งออก เพราะทรงปรางค์เองกง ที่ทำทรงก่งก็เพราะจะให้ก่อได้ไม่พัง เขมรเขาคิดก่อน เอาอย่างเทวสถานอินเดีย แล้วเราจำเอามาอีกต่อหนึ่ง นี่ก็เปนเดา แต่เดามีทางไป ส่วนกลีบขนุนนั้นเปนนาคปักบรรพแถลงแน่ เห็นได้จากปรางค์เก่า

คำ อนุสาวรีย์ นั้นเดาผิดเปนแน่

พระลัดเวียนซึ่งว่าอยู่ที่บ้านหลังโฮเตลโทรกเดโรนั้น ก็ถูกต้องตามพระวินัยที่ว่า หัมมิยํ ซึ่งแปลว่า เรือน

สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ