วันที่ ๒๒ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๑ น

130 Nijland weg Bandoeng

วันที่ ๒๒ กันยายน ๒๔๘๑

กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ทราบฝ่าพระบาท

ขอถวายรายงานการเที่ยวในชวา อนุสนธิหนังสือซึ่งถวายมาเมื่อวันที่ ๑๕ กันยายนนั้น ต่อไป

วันที่ ๑๖ กันยายน ทูลกระหม่อมเสด็จพาไปเที่ยวเมืองบุยเตนซอก โดยเจตนาจะไปชมสวนที่เพาะสลัดใด (Cactus Farm) กัน ผู้ที่ตามเสด็จ ๗ คนด้วยกันคือเกล้ากระหม่อม กรมหลวงทิพยรัตน์ หญิงสั้น หญิงอาม ชายงั่ว หญิงไอ แม่โต ได้ไปด้วยรถยนต์ ออกจากตำหนักบันดุง เวลา ๘.๑๕ น. ถึงตำบลจันชูร์ (Tjandjoer) ที่ทางร่วม แยกเดินไปทางสายเหนือ เวลา ๙.๕๕ น. ถึงตำบลปุนจัก (Poentjak) ซึ่งมีโฮเต็ลอยู่บนเขา เสด็จพาแวะเข้าโฮเต็ลดื่มอะไรกันตามปรารถนา ในโฮเต็ลนี้พอโผล่เข้าไปก็เห็นเตามีฟืนกองลำดับดุจบนเชิงตะกอนของเรา ทำให้เข้าใจว่าที่นั่นต้องหนาวมาก เขาว่าสูงกว่าระดับทะเล ๔๘๐ เมตร พาให้รู้สึกสะท้านหนาว แต่ที่จริงเวลานั้นไม่หนาวมากนัก แล้วภายหลังทราบว่าเป็นเตาเขาทำไว้หลอกเล่นงามๆ เสียทีไปมาก ที่โฮเต็ลนี้เขาแต่งอะไรไว้กระจุ๋งกระจิ๋ง ได้เห็นของจริงอะไรหลายอย่าง ซึ่งแต่ก่อนเคยเห็นแต่รูปเขียน เช่น เกือกไม้ของวิลันดา เกือกเล่นน้ำแข็ง และไนปั่นฝ้ายขนสัตว์ของฝรั่งเป็นต้น ออกเสียใจนิดๆ ที่ดูไนไม่เข้าใจว่าเขาทำอย่างไรกัน ด้วยมีแต่โครงไม้เขาไม่ได้ผูกด้ายพานและเส้นด้ายไว้ให้ดู ดื่มกันพอใจแล้วออกเดินทางต่อไป เวลา ๑๑.๐๐ น. ถึงสวนสลัดไดที่ตำบลบาตูตุลิส (Batoe toelis) จึ่งเข้าไปชม ฝรั่งเจ้าของสวนทั้งผัวเมียแกต้อนรับเป็นอันดี พาชมต้นสลัดไดซึ่งแกเพาะปลูกไว้มากอย่างต่างพันธ์นับไม่ถ้วน แต่ล้วนแปลกประหลาดงามพึงใจ ต่างก็ซื้อกันคนละหลายชนิดหมดด้วยกันรวมเป็นเงินถึง ๓๐ เหรียญ เชื่อว่าตาฝรั่งเจ้าของสวนนั้นยิ้มทีเดียว แกเลี้ยงน้ำชาให้ด้วย ออกจากที่นั้นไป เวลา ๑๓.๒๕ น. ก็ถึงเมืองบุยเตนซอก เข้าโฮเต็ล เบลเลวู ดิบเบตส์ (Hotel Bellevue-Dibbets) สมมตห้องกัน และกินข้าวกลางวัน เวลา ๑๔.๔๕ น. กรมหลวงทิพยรัตน์ กับหญิงสั้นกลับบันดุง ให้รู้สึกหนักใจว่าพระชันษามากแล้ว ทรงปฏิบัติย่างพระกายไปทอดพระเนตรสลัดได ใช้เวลาตั้งเก้าชั่วโมงสิบชั่วโมงน่ากลัวจะฟกถึงประช่ำประชวร ต่อมาวันหลังทูลถามก็ได้ความว่าทรงรู้สึกฟกบ้างแต่หาถึงประชวรไม่ก็เบาใจ ในเย็นวันนั้นทูลกระหม่อมเสด็จพาเที่ยวเดินเล่นตามถนน แวะร้านเจ๊กใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า เดือนหงาย (Moon Light) ตรัสเรียกเกี๊ยวกับบะหมี่มาเลี้ยงกัน ด้วยทรงสังเกตเห็นว่ากับข้าวโฮเต็ลทำติดจะเลว เกรงจะกินกันไม่อิ่มจึ่งแถม เวลามืดแล้วออกจากร้านเจ๊กจับรถจ้างเทียมม้า ๒ คันให้ขับไปแวะชมร้านซม (Zon) ซึ่งขายเครื่องแต่งกายผู้หญิง ออกจากร้านนั้นให้ขับพาไปเที่ยวชมเมืองตามถนน วกวนไปเข้าโฮเต็ลเวลา ๑๙.๐๐ น. พักกินนอนอยู่ที่นั่น

วันที่ ๑๗ เวลา ๘.๑๐ น. ทูลกระหม่อมเสด็จพาไปชมสวนหลวงเมืองบุยเตนซอก เห็นผักตบชวาให้นึกถึงกรุงเทพฯ ที่สวนนั้นเขารักษาผักตบนั้นไว้เป็นวงรอบขอบสระ ออกดอกไสวดูงามดี แปลว่าเขารักษา จึ่งไม่เพ่นพ่านไปได้ เที่ยวชมสวนนั้นไม่ทั่วเพราะใหญ่กว้างนัก เวลา ๙.๑๐ น. ออกจากสวนกลับบันดุงโดยทางสายใต้สิ้นเวลา ๒๕ นาที ก็ถึงตำบลจิกัมบง (Tjikambong) เขาสร้างโฮเต็ลขึ้นใหม่อยู่ที่ขอบหนองน้ำ ตั้งชื่อว่าโฮเต็ลลิโด (Hotel Lido) แวะเข้าหยุดชมสถานที่นั้นและดื่มเครื่องดื่ม และออกเดินทางต่อไป ผ่านเมืองสุขภูมิ แล้วถึงจันชูร์ ทางร่วมก็กลับเข้าทางเก่าเมื่อขาไป เวลา ๑๑.๕๕ น. ถึงที่พักบ้านกัปตันซึ่งล่ำลือว่ากาแฟที่นั่นอร่อยนัก อันอยู่ที่ตำบลราชมณฑล (Ratjamandala) แวะหยุดดื่มกาแฟที่นั่นแล้วออกเดินทางต่อไป เวลา ๑๓.๑๕ น. ถึงตำหนักบันดุง สิ้นเรื่องไปเที่ยวเมืองบุยเตนซอกเท่านี้

วันที่ ๒๐ เวลา ๑๘.๓๐ น. ทูลกระหม่อมเสด็จพาไปดูหนังฉายโรงชื่อเอลิตะ (Elita) เวลา ๒๑.๐๐ น. หนังเลิกกลับตำหนัก กินข้าวแล้วได้ลายพระหัตถ์ลงวันที่ ๑๗ กันยายน ทราบความทุกประการแล้ว สมุดประชุมรูปภาพเรื่องรามเกียรติ์ถวายมานั้น เพราะหญิงอามบอกว่า พี่หญิงพิไลบอกว่ายังไม่มี แต่คำบอกนั้นก็แต่เมื่อมาปีนังปีกลายนี้ สงสัยอยู่เหมือนกันว่าลางทีเวลานี้จะทรงมีแล้ว จึ่งได้ทูลโยกมาเป็นสองสถาน แผนที่เกาะชวานั้นจะกราบทูลให้ทรงทราบว่าเกล้ากระหม่อมมีถึง ๓ สำรับ แรกไปถึงบันดุงเมื่อคราวก่อนนี้อยากทราบตำบลหนแห่ง จึ่งทูลปรารมภ์แก่ทูลกระหม่อม ท่านก็ทรงจัดประทานสำรับ ๑ ตาอัครไม่รู้ไปพบเข้าซื้อมาให้อีกสำรับหนึ่ง ฝ่าพระบาททรงพระเมตตาโปรดประทานไปอีกสำรับหนึ่งจึ่งเป็นอันว่ามี ๓ สำรับด้วยกัน ในการไปเที่ยวชวาคราวนี้ปลอดโปร่งไม่มีเหตุอะไรเลยแม่โตก็ไม่เมาอะไร รายงานการเที่ยวซึ่งถวายมานั้นตั้งใจจะทูลย่อๆ เท่าที่เขียนถวายมาเท่านั้น ด้วยเป็นแห่งที่ฝ่าพระบาทได้เสด็จไปแล้ว แม้จะกราบทูลโดยละเอียดเกรงว่าจะเป็นการ “ชิดดิฐ” ทำให้เบื่อพระทัย เมื่อได้ทราบความว่าที่เกล้ากระหม่อมไปดูลางแห่ง ซึ่งฝ่าพระบาทไม่ได้เสด็จไปทอดพระเนตรก็มี ก็ยินดีที่จะพรรณนามาถวายให้ทรงทราบละเอียด ขอแต่ได้โปรดตรัสเจาะไปให้ทราบว่าต้องพระประสงค์จะทรงทราบในแห่งใด จะเขียนพรรณนาในแห่งนั้นมาถวาย เพื่อหลีกการชิดดิฐ พระเดชพระคุณเป็นล้นเกล้าที่ตรัสบอกที่หาไม้ท้าวแทนที่เสียแก่ลิงไปให้ทราบ จะติดตามไปหาซื้อตามที่ตรัสแนะนำไปให้ทราบนั้น ไม้ท้าวชนิดนั้นแขกมันเอาไปยื่นขายในเรือเมื่อไปถึงสิงคโปร์นั้นแล้ว แต่เกล้ากระหม่อมมีอยู่แล้ว เอาชูให้มันดู มันเข้าใจก็ละหลีกไปดีกว่าคนขอทานที่สุรไบยามาก

เกล้ากระหม่อมจะออกจากบันดุงเพื่อกลับบ้าน วันที่ ๑๖ กันยายน ด้วยเอเย่นต์ห้างอีสเอเชียติกเขาบอกว่าเรือ “ลาลันเดีย” จะมาถึงสิงคโปร์วันที่ ๓๐ กันยายนเป็นแน่นอน หาเรือกลับจากชวาได้มีวันที่ ๒๖ เพราะฉะนั้นต้องไปนอนคอยเรืออยู่ที่สิงคโปร์สองคืนแล้วลงเรือ “ลาลันเดีย” กลับเข้ากรุงเทพฯ ตามกำหนดในตารางว่าจะถึงกรุงเทพฯ วันที่ ๔ ตุลาคม แม้จะไปโอ้เอ้ในการถ่ายสินค้าอยู่ที่เกาะสีชังก็จะล่าไปเพียงวันสองวัน ฝ่าพระบาทมีลายพระหัตถ์เวรประทานไปในวันพฤหัสบดี วันที่ ๖ ตุลาคมเป็นต้นไปก็ได้พอกัน

ที่ตำหนักบันดุงกับที่วังบางขุนพรหม มีสิ่งหนึ่งซึ่งเหมือนกัน ที่วังบางขุนพรหมนั้น เวลาตรวจประมวลกฎหมายแพ่งกันอยู่ เมื่อเรือยนต์สำหรับแข่งแล่นซ้อมผ่านมาหน้าวัง ต้องหยุดการอ่านตรวจฉันใด ที่ตำหนักบันดุงเวลาพูดกันอยู่เรือบินผ่านมาก็ต้องหยุดฉันนั้น

ทูลกระหม่อมทรงแปลหนังสือของชวาประทานให้อ่าน ๒ เรื่อง คือ เรื่องจันทรหัสซัน เรื่องหนึ่ง กับเรื่อง ปันหยี สะมิหรัง อีกเรื่องหนึ่ง เรื่องจันทรหัสซันนั้นไม่มีทางที่จะพึงใฝ่ใจ แต่แสดงว่าเป็นเรื่องวงศ์ๆ จักรๆ ของชวา อันมีเหมือนกันกับของไทย ต่างทางกันไปที่เอาพระอาหล่าเข้าประกอบด้วยเท่านั้น ออกจะขันที่พราหมณ์และฤษีก็ตั้งอยู่ในศาสนาอิสลาม และมีกล่าวถึงที่รบกันว่าศพช้างม้าไพร่พลตายลอยอยู่ในทะเลเลือดดุจท่อนหยวก ทูลกระหม่อมชายทรงบันทึกไว้ว่าช้างในชวาไม่มี ลอกเรื่องของอินเดียมาแต่ง และตรัสเล่าว่าได้มีพระดำรัสแก่ศาสตราจารย์เยอรมัน ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ทางปริอิศโตริกอยู่ในชวาว่าช้างในประเทศชวาไม่มี แกทูลเถียงว่ามีเพิ่งจะสูญพันธุ์ไปเมื่อเร็วๆ นี้เอง สักสามสี่หมื่นปี ดีมากสามสี่หมื่นปีเป็นเวลาเร็ว

ส่วนเรื่อง ปันหยี สะมิหรังนั้น มีรูปร่างเป็นเรื่องอิเหนาทีเดียว ตั้งใจจะกราบทูลสำเนาเรื่องโดยย่อแต่แม้กระนั้นก็ยาวมาก จึ่งจะกราบทูลในวันหน้า

หวังว่าฝ่าพระบาทจะทรงพระเจริญสุขสำราญ

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ