ไทยไว้ผมเปีย

เรื่องไทยไว้ผมเปียนี้ ไม่เกี่ยวกับเป็นคนไทยเผ่าใดเผ่าหนึ่งที่ค้นพบดอก หรือไทยที่ไปอยู่เมืองจีนนาน ๆ จนอุตริไว้ผมเปียบ้าง หากเป็นเรื่องของคนไทยธรรมดา ๆ เรานั่นเอง เรื่องก็เกิดจากว่า

เมื่อปี ๒๔๐๑ ในรัชกาลที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทางราชการได้ออกประกาศให้ราษฎรทั้งจีนและไทยทั้งปวงทราบทั่วกันว่า ปีนี้เป็นปีกำหนดที่จะให้ผูกปี้จีนเกณฑ์ ช่วยกันพัฒนาบ้านเมืองอย่างแต่ก่อนมา บรรดาคนจีนที่ไม่ได้สัก ไม่มีจำนวนในทะเบียนหางว่าว กรมพระสัสดีนั้นเกณฑ์ให้ทำการพระนครกันคนละเดือน ถ้าจะไม่ทำก็ย่อมได้แต่ต้องเสียเงินคนละตำลึง กับค่าฎีกาสลึงหนึ่งทุกคน ถ้าจีนคนใดจะไม่ให้ผูกปี้ที่ข้อมือ จะขอแต่ฎีกาเปล่าให้เสียเงินค่าจ่ายราชการตำลึงกึ่ง ค่าฎีกาสองสลึง ถ้าจีนผู้ใดผูกปี้ปลอมรับปี้คนผู้ฉ้อผู้ลัก จับได้ให้ปรับ ๑๐ ต่อ เป็นเงินสิบตำลึง ผู้ทำตราไปหลอกคนอันทำปี้ให้ หรือผู้แกะตราปลอม ชำระได้ความเป็นสัตย์ จะต้องรับพระราชอาญา ๕๐ ที แล้วส่งตัวไปเป็นตะพุ่นหญ้าช้าง

และเรื่องของการหลบเลี่ยง แปลงร่างแปลงศีรษะให้คล้ายจีนนั้นเอง ทางราชการมีความรู้เท่าทัน ก็ให้ประกาศไว้ตอนหนึ่งว่า

...ไทยมิใช่จีนสูบยาฝิ่น ไว้ผมเป็นจีนเพื่อจะให้พ้นจับนั้น แต่ก่อนได้ประกาศไว้ว่า ถ้ายังไม่ได้สัก ให้เสียเงินผูกปี้ปีละ ๕ ตำลึง สามปีเป็นเงิน ๑๕ ตำลึง ค่าฎีกาสามตำลึง แต่ที่สักแล้วนั้น ให้เสียแต่คนละตำลึงกึ่ง ค่าฎีกาสลึงเฟื้อง แลในปีเถาะ สัปตศกนั้น พวกไทยสูบยาฝิ่นไว้เปียเป็นจีนนั้นติดเกะกะเกียดโกงไปเป็นอันมาก ผู้ที่ยอมเสียเงินให้สิบห้าตำลึง แลตำลึงกึ่งตามประกาศนั้นน้อยตัว เพราะฉะนั้น ในคราวผูกปี้ครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสั่งว่า คนไทยสูบยาฝิ่นพวกนั้น ซื่อตรงต่อพระราชบัญญัติ แลความที่เสนาบดีพร้อมใจกันบังคับคนไปนั้น แล้วทำตามโดยง่ายไม่คิดออด ๆ แอด ๆ คิดล่วงหน้าถือตัวว่ารู้เท่ารู้ทัน แลไม่ถือตัวว่าตัวเป็นพวกชาวสวรรค์กินทิพย์ หาความสุขหารัดหาเปรียบดังคนสูบฝิ่นอื่น ๆ เป็นอันมากนั้น ทรงยินดีแก่พวกนั้นที่ได้สารภาพตัวยอมไว้เปียเป็นจีน แล้วเสียเงินคราวผูกปี้ตามบังคับไป เต็มตามคำประกาศ ในคราวผูกปี้จีนปีเถาะ สัปตศกนั้น แลครั้งนี้โปรดเกล้า ฯ สั่งว่า พวกคนไทยที่ไว้เปียเป็นจีนเพราะสูบฝิ่น ที่ได้เสียเงินเต็มสิบห้าตำลึงโดยที่ในครั้งก่อนแล้วนั้น ให้เสียแต่ห้าตำลึงเท่านั้น อีกสิบตำลึงยกพระราชทานให้เป็นรางวัล เพราะความซื่อตรงในครั้งก่อน แลคนสูบฝิ่นไว้เปียเป็นจีนที่ได้สักแล้วครั้งก่อน ได้เสียเงินตำลึงกึ่งตามบังคับไปโดยง่ายในครั้งก่อนนั้น ครั้งนี้ให้เสียแต่กึ่งตำลึงเท่านั้น ตำลึงหนึ่งยกพระราชทานให้เป็นรางวัลดังว่าแล้ว ถ้าคนที่โปรดในครั้งนี้ให้เสียแต่ห้าตำลึงนั้น ถ้าไม่ยอมเสียเงินก็ให้ทำเองหรือจ้างคนแทนตัว จ่ายใช้ราชการ ๑๐๐ วัน คนที่สักแล้วจะต้องเสียกึ่งตำลึงให้ครั้งนี้นั้น ถ้าไม่ยอมเสียเงินก็ให้รับจ่ายใช้ราชการแต่สิบวัน แลคนไทยสูบยาฝิ่นไว้เปียเป็นจีน ครั้งก่อนยังไม่ได้สัก จะต้องเสียแต่สิบห้าตำลึงไปแล้วนั้น ถ้าในครั้งนี้เป็นคนสักแล้ว ก็ให้เสียแต่กึ่งตำลึง หรือทำการแต่ ๑๐ วัน ดังที่คนสักแล้วได้เสียแต่ตำลึงกึ่งในก่อนนั้น แลซึ่งโปรดเกล้า ฯ ให้ลดสองส่วนเรียกแต่ส่วนหนึ่งนั้น ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทาน เฉพาะแต่พวกคนไทยสูบยาฝิ่นไว้เปียเป็นจีนซึ่งได้ยอมเสียเงินถ้วนตามพระราชกฤษฎีกาในครั้งปีเถาะ สัปตศกจำพวกเดียว คนอื่นที่หลบหลีกลี้หนีแลผัดเพี้ยนออดแอดไปตามความตรึกตรองของคนที่ถือตัวว่าไม่เสียชาติที่เกิดมาเป็นเทวดากินอาหารทิพย์ มีสติปัญญามากคิดเกียดโกงไปต่าง ๆ นั้น ไม่โปรดให้ลดแก่ผู้ใดเลย อย่ามาพาโลทุ่มเถียงเอาเลยไม่โปรดให้ ให้เรียกพวกนั้นตามพระราชกฤษฎีกาเดิมจงทุกคน แต่ค่าฎีกาก็ให้เสียเหมือนจีนทั้งปวงเสียเถิด คือผูกปี้ให้เสียคนละสลึง ขอแต่ฎีกาให้เสียคนละสองสลึง ถ้าต้องจำจองเร่งรัด ก็ให้เสียค่าทิมค่าผู้คุมตามธรรมเนียมเติม ให้ผู้คุมเรียกตามเคยมาแต่ก่อน ครั้งนี้การผูกปี้จีนจะได้ลงมือผูกที่พระคลังสินค้าหน้าพระบรมมหาราชวังด้านตะวันออกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่วันศุกร์ เดือนห้า ขึ้นห้าค่ำ ปีมะเมียยังเป็นนพศก จีนที่เป็นลูกจ้างคนมาค้าขายแต่ต่างประเทศก็คงต้องผูกปี้ จะเอาเหตุนั้นมาเถียงไม่ได้ ด้วยผู้ครองข้างไทยได้ว่ากันกับทูตนอกประเทศซึ่งมาทำสัญญาแต่แรกแล้ว เพราะฉะนั้นห้ามอย่าให้จีนที่ไม่รู้จักสัญญา สำคัญผิดเอาเหตุที่ตัวเป็นลูกจ้างคนนอกประเทศ ซึ่งมาอยู่ ณ กรุงเทพมหานครนั้น มาทุ่มเถียงให้ต้องต่อว่าต่อขาน จีนทั้งปวงจงมารับผูกปี้โดยดีตามปรกติ อย่าหลบลี้หนีเข้าไปในบ้านเรือนคนนอกประเทศ ให้ต้องติดตามตัวว่ากล่าวกันวุ่นวายไป ถ้าจีนผู้ใดก่อเหตุให้มีความ ก็จะต้องรับอาญาเจ้าพนักงานตามโทษานุโทษ

----------------------------

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ