คนกองนอก

คนกองนอกคืออะไร ? มีความสำคัญอย่างไร ? เชื่อว่าคนในรุ่นเรานี้มีอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่ทราบ โดยเฉพาะบทบาทของคนกองนอกนี่เอง ทางราชการในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้มีประกาศเรื่อง “คนกองนอก” ขึ้นเมื่อวันศุกร์ เดือน ๗ แรมค่ำ ๑ ปีเถา สัปตศก ตรงกับ พ.ศ. ๒๓๙๘ มีเนื้อความว่า

มีพระบรมราชโองการให้ประกาศ ให้ท่านทั้งปวงผู้มีนามมีชื่อ ฐานันดรยศบรรดาศักดิ์ใหญ่น้อยสูงต่ำต่าง ๆ ให้ทราบทั่วกันว่า พวกคนกองนอกที่เรียกว่า กองช้าง กองโค กองกระบือ กองไร่ กองนา เฝ้าหนองบัว แลอื่น ๆ ต่าง ๆ ที่อ้างชื่อว่าเป็นข้าเป็นบ่าวเจ้านายขุนนาง นั้น ๆ ถ้าฮึกห้าวทำการชิงฉกฉวยลัก ช้าง ม้า โค กระบือ ของราษฎรไปไว้ใช้แลเอาค่าไถ่ของถอน หรือสมคบเกียดกันเอาลูกหนี้ทาสชายทาสหญิงของราษฎรไปไว้ แลขัดขวางค่านา ค่าน้ำ ลักต้มสุรา ค้าขาย สูบกินยาฝิ่น คิดทำกำลังทุบตีฟันแทงข่มขี่เจ้าของ โค กระบือ ช้าง ม้า แลต่อสู้เจ้าภาษีนายอากร ขัดขืนแข็งต่อเจ้าเมืองกรมการอย่างนี้ก็ดี อย่างอื่นก็ดี ถ้ามีปากโจทก์ร้องฟ้องกล่าวโทษเช่นนี้ ขึ้นชื่อหลายรายหลายเรื่องได้แล้ว กองนั้นเห็นจะไม่ดีแน่แล้ว ด้วยตัวคนเช่นนี้ไม่เป็นที่ขว้างทิ้งยิงแทงของคนเป็นอันมาก ดังเจ้าเมืองกรมการ ขุนศาล ขุนโรง แลลูกขุน ณ ศาลาที่เป็นชิงชังของคู่ความผู้แพ้ แลผู้ชนะที่ต้องเสียของกำนัล แลเสียสินบนนั้นเลย เมื่อมิให้ชื่ออึงให้ราษฎรทั้งหลายรายหลายพวกแล้วก็ไม่ดีแท้ คนเช่นนี้เห็นว่าไม่เป็นประโยชน์แก่แผ่นดิน เป็นเสี้ยนหนามต่อแผ่นดิน ทำให้ราษฎรร้อนรน เหมือนหนามไม่เป็นประโยชน์เป็นคุณแก่ต้นไม้แลคนที่จะอาศัยต้นไม้ ด้วยขึ้นเก็บใบเก็บดอกเก็บผลหรือนั่งนอนที่ริมต้นใต้ต้นนั้นเลย มีแต่รกต้นไม้แลยอกเสียดแทงคนแลสัตว์ที่ไปกระทบเข้า คนเช่นนี้ถึงเจ้านายของมันจะมีบุญโตใหญ่ไปข้างหน้าดังมันนึกมั่นหมาย เจ้านั้นจะเลี้ยงมันอย่างไรได้ ถึงจะให้มันเป็นใหญ่บังคับบัญชาราชการในกรุงนอกกรุงอย่างไร มันเป็นนักเลงมันก็อดเพลงไม่ได้ คงจะติดฉ้อฉลคดโกงเจ้านายของมันเอง ทำข่มเหงราษฎรวุ่นวายไป ถึงมันว่าจะกลับใจเป็นดีด้วยเป็นของเจ้ามันสิ้นแล้ว ก็จะเป็นที่หวาดหวั่นพรั่นพรึงแก่ราษฎรเพราะเขาเห็นมือมันมาก ยากที่จะไว้ใจให้เป็นที่พึ่งแก่ราษฎรได้ ถ้าเจ้านายมันถึงตัวมีบุญโตใหญ่ขึ้นจะไม่เลี้ยงไม่ให้โตใหญ่ จะคงไว้อย่างนั้นเล่า มันก็คงจะหากินอย่างนั้นอยู่นั่นเอง แลใครเป็นเจ้าขุนมูลนายมันมีชื่อให้มันอ้างไปทำดังว่าก่อนนั้นได้เล่า ถ้าเป็นคนมีบุญแท้ ก็คงจะช่วยแผ่นดินที่เป็นปัจจุบันกดกำราบคนเช่นนี้เสียให้ราบคาบ อย่าให้เป็นเช่นนั้นสืบไปได้ จึงจะชอบ ถ้ายังเกี่ยวกันหวงแหน ไม่ยินยอมให้ชำระถือท้ายคนเช่นนี้แล้ว ไม่ใช่ผู้มีบุญ ไม่มีสติปัญญาคิดหน้าคิดหลังเลย เพราะเมื่อตัวอาศัยแผ่นดินไปยินดีแก่เสี้ยนหนามแผ่นดินแล้ว ก็จะไม่เป็นที่นับถือของคนดี ๆ เป็นอันมากเสียแต่บัดนี้ ถึงหากว่าจะมีบุญขึ้นได้ก็จะให้เป็นทางให้คนเป็นอันมากเอาเยี่ยงอย่างตัว ทำให้กาลเวลาของตัวไม่เป็นสุขเป็นคุณแก่ราษฎร ราษฎรก็จะร้อนหนักไป เพราะฉะนั้นใครจะถือหวงแหนช่วยอ้ายผู้ร้ายเหล่านี้อยู่แล้ว มิใช่ผู้มีบุญวาสนาแท้ ขอให้ท่านทั้งปวงช่วยกันคิดอ่านปราบปรามคนเช่นนี้เสียให้ได้ อย่าคิดจะให้คนเกรงชื่อเกรงนามตัวในบัดนี้ ให้คิดการข้างหน้าให้มาก เป็นเช่นนั้นแล้วจะทำให้เป็นเหตุนานไปจะให้เขาไม่รัก ไม่เกรงตัวแลลูกหลาน ของตัว เพราะเขาเห็นใจเสียว่ารักคนพาลมากกว่าคนดี เมื่อไม่รักแผ่นดินของเจ้าแผ่นดินก็เหมือนไม่รักตัวของตัว ว่ามาทั้งนี้เป็นความจริง ๆ จะแขยะเสียดสีท่านผู้ใดหามิได้ ว่าไปตามปัญญาเห็นว่าสัพเพสังขาราอนิจจาดอก อย่าให้ท่านที่ได้ฟังได้อ่านน้อยใจเลย

เมื่อท่านผู้มีบรรดาศักดิ์ผู้ใดมีข้าคนบ่าวไพร่ ไปตั้งทำไร่ ทำนา รักษาช้าง ม้า โค กระบือ อยู่ในแขวงหัวเมืองใด ๆ ถ้ามีหนังสือไปฝากเจ้าเมืองกรมการหรือว่าด้วยโวหารวาจาตัวเอง ให้เจ้าเมืองกรมการกลัวเกรงจนจะว่ากล่าวอะไรไม่ได้ จะบอกเข้ามายังเวรลูกขุน ณ ศาลา ก็ไม่กล้าบอก แล้วท่านผู้เป็นเจ้าเป็นนายของคนเช่นนั้นซึ่งเป็นผู้ฝากก็ดี ผู้รักษาเมือง กรมการผู้รับฝากด้วยกลัวเกรงจะประจบประแจงฝากตัวก็ดี เป็นอันไม่ซื่อสัตย์ต่อแผ่นดิน ถ้าแผ่นดินมีเทวดารักษาทำนุบำรุงอยู่ เทวดาจะไม่รักษาทำนุบำรุงผู้นั้น เพราะฉะนั้นถ้าจะฝากบ่าวไว้ในหัวเมือง ให้มาขอหนังสือตามเสนาบดีเจ้าพนักงานมหาดไทย กลาโหม กรมท่า ไปตามเมืองขึ้น ฝ่ายผู้รักษาเมืองกรมการผู้รับฝากนั้นเล่า ถ้าคดีเกี่ยวข้องกับคนกองที่ฝากไว้ ก็ให้มาหาว่ากล่าวตามธรรมเนียม อย่าไปนั่งกลัวอยู่ให้ราษฎรร้อนรน ถ้าพวกกองขัดขวาง ก็ให้รีบบอกเข้ามายังเวรกรมที่เมืองขึ้นอยู่

ฝ่ายเจ้าขุนมูลนายของคนกอง อย่าได้เข้าถือท้ายถือหางให้บ่าวไพร่ของตัวดื้อดึงขัดแข็งผู้รักษาเมืองกรมการจนมีความขึ้นได้ทางใดทางหนึ่งว่าเป็นดังนั้น คือผู้รักษาเมืองกรมการเขาจะบอกกล่าวโทษคนกองเข้ามาก็ดี ราษฎรผู้ต้องข่มเหงแต่คนกองจะมาร้องทุกข์กล่าวโทษผู้รักษาเมืองกรมการว่ากลัวเกรงคนกองเสีย ไม่อาจไปเกาะครองผู้นั้นชำระความให้ดี อย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าเห็นว่าผู้รักษาเมืองกรมการกดขี่บ่าวไพร่ของตัว ให้พาบ่าวไพร่มาร้องทุกข์อุทธรณ์ในกรุงฯ จะให้เอาตัวมาชำระให้ตามคดีที่กล่าว อย่าทำให้บ่าวไพร่ฮึกห้าวข่มเหงผู้รักษาเมือง กรมการ ราษฎรซึ่งเป็นไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินอยู่โดยตรง ๆ ไม่คิดอ้างอิงพิงพะข้างโน้นข้างนี้นั้น อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นอันขาดทีเดียว

----------------------------

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ