- คำนำผู้เขียน
- ๑. เจ้าจอมปราง
- ๒. คนทำเงินแดงปลอม
- ๓. ตั้วเฮียอั้งยี่
- ๔. ฝรั่งอยู่เมืองไทย
- ๕. ทาส
- ๖. กฎมณเฑียรบาล
- ๗. ไทยไว้ผมเปีย
- ๘. ภิกษุสามเณรอนาจาร
- ๙. แจกเงิน
- ๑๐. มหาดาผู้วิเศษ
- ๑๑. เสรีภาพสาวชาววัง
- ๑๒. พานทองคำรองพระชุด
- ๑๓. เทวดารักษาในหลวง
- ๑๔. ศาลพลเรือน
- ๑๕. เถรจั่นวัดทองเพลง
- ๑๖. พระอัยการลักษณะผัวเมีย
- ๑๗. รางวัลนำจับพระ
- ๑๘. อ้ายยักษ์ อียักษ์
- ๑๙. สังฆราชเลอบอง
- ๒๐. ศพค้างคืน
- ๒๑. นักโทษถวายฎีกา
- ๒๒. ศัพท์แสง
- ๒๓. ฆ่าเจ้าพระยาวิชเยนทร์
- ๒๔. ยอดนักการเมืองบูรพาทิศ
- ๒๕. เจ้าจอมกลีบ
- ๒๖. คดีเรือสงครามครรชิต
- ๒๗. เจ้าจอมเฒ่าแก่ นางบำเรอ
- ๒๘. กำนันหญิง
- ๒๙. โทษการทักว่า “อ้วนผอม”
- ๓๐. หม่อมฉิม หม่อมอุบล
- ๓๑. เจ้าพระยาสุรสีห์
- ๓๒. มรดกและสินสมรส
- ๓๓. คดีพระนางเรือล่ม
- ๓๔. ดาวหาง
- ๓๕. เจ้าจอมภู่
- ๓๖. กฎหมายชาวเรือ
- ๓๗. จับหญิงถวายในหลวง
- ๓๘. เหตุเกิดที่พระพุทธบาท
- ๓๙. ตัดศีรษะบูชาพระ
- ๔๐. หญิงหม้าย ชายบวชนาน
- ๔๑. สมาคม “ตั้วเฮีย”
- ๔๒. บ่อนพนันใน “วังหน้า”
- ๔๓. พระเทพย์โมฬี (ผึ้ง)
- ๔๔. เสรีภาพหนังสือพิมพ์
- ๔๕. “พันปากพล่อย”
- ๔๖. พระยาละแวก
- ๔๗. คนกองนอก
- ๔๘. พระสงฆ์หลายแบบ
- ๔๙. ออกแขก
- ๕๐. เจ้าพระยาจักรี (ขุนเณร)
- ๕๑. แซงเรือพระที่นั่ง
- ๕๒. ท้าวศรีสุดาจันทร์
- ๕๓. เจ้านักเลง
- ๕๔. ขุนนางขโมยเสื่อ
- ๕๕. แม่กองพระเมรุ
- ๕๖. ผัวขายเมีย
- ๕๗. พันท้ายนรสิงห์
- ๕๘. คดีอัฐปลอม
- ๕๙. ประหารพระเจ้ากรุงธนฯ
- ๖๐. ธรรมเนียมหมอบเฝ้าฯ
- ๖๑. หม่อมลำดวน
- ๖๒. ประกาศแช่งน้ำ
- ๖๓. เสพสุราวันสงกรานต์
- ๖๔. ขึ้นขาหยั่งประจาน
- ๖๕. สองกรมหมื่นนักเลงสุรา
- ๖๖. นายสังข์มหาดเล็ก
- ๖๗. ระบอบเลือกตั้งเสรี
- ๖๘. พุทธทำนายเมืองเขมร
- ๖๙. สักหน้าผากจีนเสง
- ๗๐. เรื่องของ “สมี”
- ๗๑. เจ้าจอมทับทิม
- ๗๒. คดีพระยอดเมืองขวาง
- ๗๓. ความหัวเมือง
- ๗๔. นายกล่อมฝรั่ง
- ๗๕. ภาษีพลู
เถรจั่นวัดทองเพลง
ขึ้นชื่อว่าวัดวาอารามแล้ว โดยลักษณะทั่วไปก็เป็นมุมสงบ เป็นที่ร่มรื่นของบรรดาพุทธศาสนิกชน และเป็นส่วนที่ปฏิบัติศาสนกิจของพระภิกษุสงฆ์ ถึงกระนั้นก็ตาม ในบางโอกาสก็เป็นที่หลบซ่อนของมนุษย์บางคนที่อาศัยผ้าเหลืองบังหน้า กระทำการอันมิควรมิชอบ และบางทีเพราะคนคนเดียวก็ทำให้คนอื่น ๆ พลอยวุ่นวายไปด้วย อย่างเรื่องนี้เป็นต้น ซึ่งปรากฏจากประกาศในรัชกาลที่ ๔ เมื่อเดือนสิบเอ็ด ปีชวด จุลศักราช ๑๒๑๔ ซึ่งได้ออกบังคับใช้แก่พระอารามหลวงทั่วพระราชอาณาจักร ความว่า
ด้วยมีรับสั่งพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรสศรีสุคตขัติยวงศ์ สังว่า ณ วันพุธ เดือน ๑๑ ขึ้น ๙ ค่ำ ปีชวด จัตวาศก พระบาทสมเด็จบรมนาถบรมบพิตร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณธรรมอนันตคุณวิบูลยปรีชาอนันตมหาประเสริฐ เสด็จออก ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงพระราชปรารภเหตุอันพระยาศรีสุริยาวงศ์กราบทูลพระกรุณาว่า เถรจั่นบวชอยู่ ณ วัดทองเพลง แทงเอาผู้มีชื่อแล้วหนีไป ยังเอาตัวมิได้ จึงมีพระบรมราชโองการมานพระบัณฑูรสุรสิงหนาทดำรัสเหนือเกล้า ฯ สั่งว่า ทุกวันนี้คนพาลอายุเกินอุปสมบทหลีกหลบเข้าบวชเป็นเถร เป็นเณร อาศัยวัดทำการทุจริต หยาบช้าต่าง ๆ มีเป็นอันมาก แต่ที่กุลบุตรจะบวชเป็นสามเณรตั้งแต่อายุยังอยู่ในทารกภูมิ ไปจนถึงอายุได้ ๒๑ ปี ควรที่จะอุปสมบทบวชเป็นภิกษุ แม้นมีความขัดข้องด้วยเหตุอันใดอันหนึ่ง มิได้อุปสมบท ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้เป็นสามเณรไปอีก ๓ ปี จนถึงอายุได้ ๒๔ ปี ถ้าพ้นไปกว่านั้นไม่อุปสมบทก็ให้สึกเสีย เป็นคฤหัสถ์จะได้รับราชการแผ่นดิน ห้ามอย่าให้บวชเป็นเถรเป็นเณรสืบไปอีกกว่านั้น อนึ่งถ้าภิกษุชราอายุถึง ๗๐ ปีแล้ว จะปฏิบัติในสมณธรรมมิได้ จะประจุออกบวชเป็นเถรเป็นเณร ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้บวช มิได้ห้าม แม้คฤหัสถ์ชราอายุล่วงถึง ๗๐ ปีแล้ว จะหากินเลี้ยงชีวิตในฆราวาสนั้นขัดสน จะบวชเป็นเถรเป็นเณรพอได้บิณฑบาดฉันเลี้ยงชีวิตโดยง่าย ก็จะได้หักบาญชีคฤหัสถ์ ห้ามแต่อายุกว่า ๒๔ ปีขึ้นไปจนถึง ๗๐ ปี มิให้บวชเป็นเถรเป็นเณรในระหว่างนั้นเป็นอันขาดทีเดียว แม้นล่วงพระราชบัญญัติครั้งนี้ อุปัชฌาย์อาจารย์ผู้บวชให้ก็จะมีโทษ ฝ่ายพุทธจักร ตัวกุลบุตรผู้บวชก็จะมีโทษทั้งฝ่ายพุทธจักรแลพระราชอาณาจักรทั้ง ๒ ฝ่าย เป็นมหันตโทษ ถ้าพระราชาคณะฐานานุกรม เปรียญ อนุจรทั้งปวงทุก ๆ พระอาราม แจ้งในพระราชกำหนดกฎประกาศนี้แล้ว ก็จงกระทำตามพระราชบัญญัตินี้จงทุกประการ
----------------------------