พระสงฆ์หลายแบบ

เมื่อปีมะแมเอกศก พ.ศ. ๒๔๐๒ มีประกาศรัชกาลที่ ๔ ฉบับหนึ่ง ประกาศฉบับนี้ว่าด้วยทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา กล่าวถึงพระสงฆ์แบบต่าง ๆ ที่เป็นต้นเหตุแห่งความเสื่อมโทรมในพระบวรพุทธศาสนา เป็นประกาศที่จี้ถึงจุดแห่งความจริงและเพื่อการถอนรากถอนโคนกันอย่างจริงจัง ดังประกาศต่อไปนี้

ความว่า พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริตริตรองในการจะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองไปในกาลภายหน้า จึงมีพระบรมราชโองการมานพระบัณฑูรสุรสิงหนาท ให้ประกาศแก่พระสงฆ์ราชาคณะ ฐานานุกรม เปรียญ เจ้าอธิการ ฝ่ายคามวาสีอรัญวาสี ทั้งในกรุงนอกกรุง ผู้สำเร็จราชการเมืองแลกรมการในหัวเมืองเอก โท ตรี จัตวาปักใต้ ฝ่ายเหนือให้ทราบทั่วกันว่า การในพระศาสนาคือพระภิกษุสงฆ์ปฏิบัติในพระวินัยสิกขาบท รักษาพระจตุปาริสุทธิศีล แลจำเริญสมถะวิปัสสนา ทำสังฆกรรมมีอุโบสถกรรมเป็นต้น แลการที่ปฏิบัติตามโบราณคติทั้งนี้ พระสงฆ์บางพวกก็ประพฤติตามโบราณคติ ท่านผู้เป็นครูอุปัชฌายอาจารย์แต่ก่อนสั่งสอนให้ศึกษาสืบ ๆ มา พระสงฆ์บางพวกได้เห็นพระบาลีในคัมภีร์ พระวินัย ได้ดำริตริตรองเห็นถ่องแท้แน่ในใจ แล้วปฏิบัติไปตามตนเห็น ด้วยสำคัญว่าอย่างนั้น เป็นการฝืนอย่างโบราณดั้งเดิม แลการนั้นผู้ซึ่งไม่ได้รู้ด้วยเห็นด้วย ก็เรียกว่าเป็นการยุตรีขึ้น แต่ในที่ถูกเที่ยงแท้ ในพระบาลีคัมภีร์ พระวินัยสิกขาบทนั้น จะให้ท่านทั้งหลายทั้งปวงรู้เห็น แลเชื่อต้องกันพร้อมเหมือนกันนั้นก็เป็นอันยาก พระสงฆ์สองพวกนี้จะประพฤติปฏิบัติแปลกต่างกันบ้างในอภิสมาจาริกวัตร เป็นต้นว่า พินทุอธิษฐานบริโภคนุ่งห่มสบงจีวรอย่างมอญอย่างไทย อย่างไรในหลวงก็ไม่ต้องห้าม ตามแต่ใจของพระสงฆ์จะปฏิบัติ เพราะเป็นการประพฤติดีไม่เป็นทุจริต ไม่ติดไปด้วยการบาปหยาบช้า ไม่เกี่ยวข้องการแผ่นดิน แต่อย่าให้พระสงฆ์ราชาคณะ ฐานานุกรม เปรียญ เจ้าอธิการ อนุจร แลฆราวาสที่มียศบรรดาศักดิ์ ที่ไม่มียศบรรดาศักดิ์ ผู้สำเร็จราชการเมือง แลกรมการที่นับถือพระสงฆ์ ซึ่งเป็นครูอาจารย์แลพวกของตัว ข่มขี่ปรับโทษว่าเป็นผิดลงทัณฑกรรม แลติเตียนนินทาว่ากล่าวเสียดสีกระทบกระทั่งแก่พระสงฆ์พวกอื่นที่ปฏิบัติแปลกต่างกันบ้างเล็กน้อยดังนี้ ไม่เป็นประโยชน์สิ่งใดสิ่งหนึ่งเลย ถ้าแลประชุมกันมากเป็นการใหญ่ฝ่ายสมณะหรือฆราวาส เป็นการแปลกประหลาด ณ หัวเมืองใด ก็ให้ผู้สำเร็จราชการเมือง แลกรมการเมืองนั้นบอกมา ให้นำขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาให้ทรงทราบใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท จะได้ทรงพระราชดำริตริตรองว่าจะเกี่ยวข้องในการแผ่นดินบ้างหรือ หรือไม่เกี่ยวข้องในการแผ่นดิน จะเป็นความดีหรือร้ายประการใด จะได้โปรดเกล้า ฯ ให้ชำระ ที่ไม่ควรจะชำระก็จะไม่ให้ชำระ ด้วยทรงรังเกียจว่าจะเหมือนเรื่องความผู้วิเศษ เกิดขึ้นที่เมืองประจันตคีรีเขต ผู้วิเศษคนนี้คิดทำการโกหกล่อลวงกรมการ แลราษฎรที่ไม่มีปัญญาให้ลุ่มหลงเลื่อมใสแล้วตั้งซ่องประชุมชายหญิงชาวเมืองนั้น ชักชวนหญิงให้ถวายเมถุนธรรมแก่ตัว ทำเล่ห์กลให้เกี่ยวข้องในการแผ่นดิน จึงทรงรังเกียจในพระราชหฤทัยดังนี้ ถ้าประชุมกันเป็นการใหญ่ฝ่ายสมณะหรือฆราวาสในหัวเมืองใด ก็ให้ผู้สำเร็จราชการเมือง แลกรมการบอกมาให้นำขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาให้ทรงทราบใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทดังกล่าวแล้วนั้น ข้อหนึ่งพระสงฆ์ในพระอารามใดขัดสนด้วยบิณฑบาตร จึงทำการเวชกรรม เป็นหมอยารักษาโรคป่วยไข้แก่ตระกูลที่มียศบรรดาศักดิ์แลราษฎรหรือทำการช่างต่าง ๆ แต่พอได้ทรัพย์มูลค่าจตุปัจจัยทั้งสี่เลี้ยงชีวิต ในหลวงก็ไม่ทรงห้าม เว้นเสียจากการที่ประพฤติทุจริต เป็นการบาปหยาบช้า ทำให้เกี่ยวข้องในการแผ่นดิน คือภิกษุประพฤติเป็นพาลคบเพื่อนทำอนาจารการลามก สูบฝิ่นสูบกัญชา เสพสุราบ้าหรั่น กินน้ำตาลเมา เหล้า กินข้าวค่ำ เที่ยวที่ชิงวิ่งรว ไม่มีหิริโอตตัปปะ แลเป็นนักเลงเที่ยวกลางคืน ถือเครื่องศัสตราวุธ ปืนเล็ก หอก ตาบ ชวานเล็ก มีดหมอ มีดกราย มีดกะหลาป่า กล้องใหญ่ กระบองสั้น กระบองยาว มีเหลี่ยมแลไม่มีเหลี่ยม เที่ยวลอบยิงลอบแทง ฟันตีกันกับเพื่อนสมณะหรือคฤหัสถ์ในนอกพระอาราม แลเป็นนักเลงการ พนัน ขนนกเขา ชนไก่ วิ่งวัว วิ่งควาย เล่นโปถั่วหวยกำตัดเล่นปลากัด ตัดทุเรียน โพกศีรษะห่มผ้าขาวสีชมพู แลเที่ยวดูงานมหรสพเบียดเสียดแทรกผู้หญิง แลนั่งพูดกับผู้หญิงในที่ลับสองต่อสอง ส้องเสพเมถุนธรรม กับด้วยบุรุษสตรีจนถึงชำเรา แผลงเรือแจวเรือพายไปกับผู้หญิง ขึ้นล่อง แข่งเรือเล่นทุ่ง เล่นกฐินชักพระ เที่ยวดูเสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนแห่พยุหยาตร ทำองอาจไม่หลีกหลบ แจวเรือพายเรือเดินผ่านกระบวน ทำให้เสื่อมพระราชศรัทธา แลพระเกียรติยศในหลวง แต่บรรดาต่างประเทศที่ไม่นับถือพระพุทธศาสนา เข้ามาอยู่ในพระมหานครนี้ ได้เห็น พระสงฆ์ประพฤติอนาจารอย่างนี้ ก็จะติเดียนนินทาได้ว่า คนไทยชาว สยามนี้เคารพนับถือผู้ที่ไม่สำรวมกาย ไม่ปฏิบัติให้เป็นที่เลื่อมใสของผู้ เคารพนับถือดังนี้ จะว่างามดี ว่าประเสริฐอย่างไร ภิกษุผู้ประพฤติอนาจารให้เกี่ยวข้องการแผ่นดินทั้งนี้ ในหลวงจะต้องทรงชำระ แลพระสงฆ์ทำการสวนไร่นา ตัดไม้ทำเรือ ตัดไม้ไผ่ ตัดขอนสัก ตัดเสาขาย แลล่องแพไม้ขอนสักไม้เสา ไม้ไผ่ ไม้รวกขาย ล่องเรือฉลอม เรือเป็ด แลเรือแม่ปะ เรือกูและ แลเรืออะไร ๆ ใหญ่เล็ก บรรทุกข้าวแลสินค้าต่าง ๆ มาขาย แลขายลงเรือกำปั่นสำเภาปักษ์ใต้ ด้วยกำลังตัวหรือเข้าส่วนกับฆราวาส เป็นสุงกะฆาฏขาดจากอากรสมพัตสรภาษี ที่เป็นพระราชทรัพย์ของหลวงแลทรัพย์ของราษฎร แลประกอบการดังฆราวาส ไถ่ทาสทำเป็นกรมธรรม์ใส่ชื่อตัว เก็บเอากระยาดอกเบี้ยแก่ผู้มากู้มาขายตัว บุตรภรรยา แลญาติพี่น้องทาสเชลยหรือพวกชองตัว ผูกดอกเบี้ยแลรับจำนำ ทำตึก ทำเรือนโรงร้านเรือแพขาย แลให้เช่าเก็บเอาค่าเช่า หรือเข้าส่วนกับฆราวาส ปราศจากละอาย เป็นมิจฉาชีพไม่ชอบในสมณกิจ แลพระสงฆ์อวดความรู้เป็นผู้วิเศษทำเวทมนต์คาถาเสกน้ำรดน้ำประ ผู้มียศบรรดาศักดิ์แลราษฎรผู้ดีไพร่ให้เกี่ยวข้องการแผ่นดิน ทั้งนี้ในหลวงจะต้องทรงชำระ

ข้อหนึ่งการที่จะว่ากล่าวข่มขี่แลยกย่องทั้งสองนี้ เป็นการสมเด็จพระเจ้าแผ่นดิน ด้วยว่าพระวินัยสิกขาบทเป็นที่ดำรงพระพุทธศาสนาให้ถาวร สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินได้เป็นผู้ทำนุบำรุงให้รุ่งเรืองไปในกาลภายหน้า เพราะฉะนั้นผู้ที่ทำพระพุทธศาสนาให้มัวหมองจึงต้องทรงชำระ ฝ่ายสมณะผู้ประพฤติชอบประกอบการปฏิบัติ ในพระวินัยสิกขาบท ก็ทรงสงเคราะห์ยกย่องโดยสมควรคุณวิเศษมากน้อย เพราะฉะนั้นพระราชาคณะ ฐานานุกรม แลเปรียญ เจ้าอธิการ อนุจร ฝ่ายคามวาสี อรัญวาสี ในกรุงนอกกรุงทั้งปวง จงประพฤติโดยชอบประกอบด้วยศีลสังวร อุตสาหศึกษาสอนศิษยานุศิษย์ในข้อพระวินัยสิกขาบท แลให้เล่าเรียนคันถธุระวิปัสสนาสมณกิจ จึงจะสมควรเป็นสมณศักยบุตรสมมติสงฆ์ อันประเสริฐในพระพุทธศาสนา เป็นที่นมัสการบูชาสักการะเนื้อนาบุญ ของเทวดามนุษย์บุรุษสตรีที่เป็นสัมมาทิฐิ ให้พระสงฆ์ทั้งปวงจงมีความปรารถนา แลพยายามอบรมจิตแลปัญญา พิจารณาในวินัยสิกขาบทให้เห็นพร้อมกัน เมื่อเห็นผิดชอบประการใดก็ให้ไต่ถามปรึกษากัน โดยบาลีแลอรรถกถาอาจริยวาท คือถ้อยคำของอาจารย์สั่งสอนสืบ ๆ มา กับอัตตโนมัติปัญญาของตัว สอบสวนให้ถูกต้องกัน เห็นสมควรแล้ว จงอนุโมทนาสาธุแก่กัน ถ้าไม่ชอบใจจงตั้งจิตเป็นอุเบกขาเพิกเฉยไว้ อย่าได้มีจิตเป็นฉันทาคติเป็นโทษาคติภยาคติโมหาคติแก่กัน จงเห็นแด่พระเดชพระคุณในหลวงที่ทรงบริจาคพระราชทรัพย์นับมิได้ ออกปฏิบัติด้วยจตุปัจจัยทั้งสี่ โดยสมควรแก่คุณานุรูป อันมีคุณวิเศษมากวิเศษน้อย ให้ทรงทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้ถาวรรุ่งเรืองไปในกาลภายหน้า

ประกาศฉบับนี้เป็นสิ่งยืนยันตามข้อเท็จจริงว่า ความเจริญงอกงามของพุทธจักร ย่อมขึ้นอยู่กับอาณาจักรด้วย เป็นสิ่งควบคู่กันไป ฝ่ายอาณาจักรจะต้องทะนุบำรุงส่งเสริม พร้อมกับขจัดความเศร้าหมองทางพุทธจักรด้วย จึงจะสมดุลกันแลผลก็คือความดำรงคงอยู่ของพระพุทธศาสนา

----------------------------

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ