- คำนำผู้เขียน
- ๑. เจ้าจอมปราง
- ๒. คนทำเงินแดงปลอม
- ๓. ตั้วเฮียอั้งยี่
- ๔. ฝรั่งอยู่เมืองไทย
- ๕. ทาส
- ๖. กฎมณเฑียรบาล
- ๗. ไทยไว้ผมเปีย
- ๘. ภิกษุสามเณรอนาจาร
- ๙. แจกเงิน
- ๑๐. มหาดาผู้วิเศษ
- ๑๑. เสรีภาพสาวชาววัง
- ๑๒. พานทองคำรองพระชุด
- ๑๓. เทวดารักษาในหลวง
- ๑๔. ศาลพลเรือน
- ๑๕. เถรจั่นวัดทองเพลง
- ๑๖. พระอัยการลักษณะผัวเมีย
- ๑๗. รางวัลนำจับพระ
- ๑๘. อ้ายยักษ์ อียักษ์
- ๑๙. สังฆราชเลอบอง
- ๒๐. ศพค้างคืน
- ๒๑. นักโทษถวายฎีกา
- ๒๒. ศัพท์แสง
- ๒๓. ฆ่าเจ้าพระยาวิชเยนทร์
- ๒๔. ยอดนักการเมืองบูรพาทิศ
- ๒๕. เจ้าจอมกลีบ
- ๒๖. คดีเรือสงครามครรชิต
- ๒๗. เจ้าจอมเฒ่าแก่ นางบำเรอ
- ๒๘. กำนันหญิง
- ๒๙. โทษการทักว่า “อ้วนผอม”
- ๓๐. หม่อมฉิม หม่อมอุบล
- ๓๑. เจ้าพระยาสุรสีห์
- ๓๒. มรดกและสินสมรส
- ๓๓. คดีพระนางเรือล่ม
- ๓๔. ดาวหาง
- ๓๕. เจ้าจอมภู่
- ๓๖. กฎหมายชาวเรือ
- ๓๗. จับหญิงถวายในหลวง
- ๓๘. เหตุเกิดที่พระพุทธบาท
- ๓๙. ตัดศีรษะบูชาพระ
- ๔๐. หญิงหม้าย ชายบวชนาน
- ๔๑. สมาคม “ตั้วเฮีย”
- ๔๒. บ่อนพนันใน “วังหน้า”
- ๔๓. พระเทพย์โมฬี (ผึ้ง)
- ๔๔. เสรีภาพหนังสือพิมพ์
- ๔๕. “พันปากพล่อย”
- ๔๖. พระยาละแวก
- ๔๗. คนกองนอก
- ๔๘. พระสงฆ์หลายแบบ
- ๔๙. ออกแขก
- ๕๐. เจ้าพระยาจักรี (ขุนเณร)
- ๕๑. แซงเรือพระที่นั่ง
- ๕๒. ท้าวศรีสุดาจันทร์
- ๕๓. เจ้านักเลง
- ๕๔. ขุนนางขโมยเสื่อ
- ๕๕. แม่กองพระเมรุ
- ๕๖. ผัวขายเมีย
- ๕๗. พันท้ายนรสิงห์
- ๕๘. คดีอัฐปลอม
- ๕๙. ประหารพระเจ้ากรุงธนฯ
- ๖๐. ธรรมเนียมหมอบเฝ้าฯ
- ๖๑. หม่อมลำดวน
- ๖๒. ประกาศแช่งน้ำ
- ๖๓. เสพสุราวันสงกรานต์
- ๖๔. ขึ้นขาหยั่งประจาน
- ๖๕. สองกรมหมื่นนักเลงสุรา
- ๖๖. นายสังข์มหาดเล็ก
- ๖๗. ระบอบเลือกตั้งเสรี
- ๖๘. พุทธทำนายเมืองเขมร
- ๖๙. สักหน้าผากจีนเสง
- ๗๐. เรื่องของ “สมี”
- ๗๑. เจ้าจอมทับทิม
- ๗๒. คดีพระยอดเมืองขวาง
- ๗๓. ความหัวเมือง
- ๗๔. นายกล่อมฝรั่ง
- ๗๕. ภาษีพลู
พระอัยการลักษณะผัวเมีย
พระอัยการลักษณะผัวเมียนี้ อยู่ในกฎหมายตราสามดวงที่ชำระในครั้งรัชกาลที่ ๑ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จะขอเก็บเนื้อความที่สำคัญและเข้าใจง่ายมาเล่าไว้ บางวรรคหรือบางประโยคและบางมาตราอาจมีอักขระพยัญชนะเดิมคงไว้เพื่อรักษาความสำคัญของสำนวนโบราณ และบางอย่างก็อาจย่นย่อหรือแปลความหมายให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น พระอัยการลักษณะผัวเมียนี้เป็นเรื่องน่าอ่านและน่าทึ่ง ราวกับเป็นสิ่งอัศจรรย์สิ่งหนึ่งในยุคปัจจุบันนี้ก็ว่าได้
ในลักษณะผัวเมียนี้ มีบาลีในคัมภีร์พระธรรมศาสตร์กล่าวดังนี้ ชายมฺปติกสฺส วิปตฺติเภทา แปลเนื้อความว่า อันว่าประเภทแห่งผัวเมียอันจะบังเกิดอธิกรณ์เป็นมูลเหตุวิวาทต่าง ๆ นักปราชญ์พึงรู้เป็นอันมาก อันโบราณราชกษัตริย์มีพระราชบัญญัติจัดเป็นบทมาตราสืบ ๆ มาดังนี้
ศุภมัสดุ ๑๙๐๔ ศกชวดนักษัตร เดือน ๑๑ ขึ้น ๕ ค่ำ มีพระราชโองการ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาบัญญัติแก่ทุกกระทรวงทบวงการทหารพลเรือนซ้ายขวาและราษฎรทั้งหลายตั้งแต่นี้สืบไปเมื่อหน้า
อันว่าลักษณะเมียนั้นมี ๓ ประการ ๆ หนึ่ง หญิงอันบิดามารดากุมมือให้เป็นเมียชาย ได้ชื่อว่าเป็นเมียกลางเมือง
ประการหนึ่งชายขอหญิงมาเลี้ยงเป็นอนุภรรยา ลดหลั่นเมียหลวงลงมา ได้ชื่อว่าเมียกลางนอก
ประการหนึ่งหญิงใดมีทุกข์ยาก ชายช่วยไถ่ได้มา เห็นหมดหน้าเลี้ยงเป็นเมีย ได้ชื่อว่าเมียกลางทาษี
ถ้าชายใดทำชู้ด้วยเมียกลางเมือง ให้ปรับไหมจงเต็มด้วยพระราชกฤษฎีกา ถ้าชายใดทำชู้ด้วยเมียกลางนอก ให้ปรับไหมโดยพระราชกฤษฎีกาเดิม ทำ ๕ ส่วน ยกเสียส่วน ๑ เอา ๔ ส่วน ถ้าชายใดทำชู้ด้วยเมียกลางทาษี ให้ปรับไหมโดยพระราชกฤษฎีกา ทำ ๕ ส่วน ยกเสีย ๒ ส่วน เอาสามส่วน
ส่วนหญิงอันร้ายให้เอาเฉลวปะหน้า ทัดดอกชบาแดงสองหู เอาดอกชบาเป็นมาลัยใส่คอ ศีรษะ ให้นายฉะมอง (คนตีฆ้อง) ตีฆ้องนำหน้าประจานสามวัน ถ้าจะไถ่โทษประจาน ให้ไถ่ตามเกษียรอายุหญิง เป็นค่าหญ้าช้างหลวง ถ้าชายผัวมันยังรักเมียมันมิให้ประจานไซร้ ให้เอาสินไหมเข้าพระคลังหลวง
ถ้าหญิงนั้นยังทำรู้ด้วยชายผู้เดียวนี้ถึงสองครั้งแล้วไซร้ ให้ไหมทวีคูณ ถ้าทำชู้เปลี่ยนชายอื่น ให้ไหมชายชู้นั้นโดยผิดเป็นครั้งแรก ส่วนหญิงนั้นให้โกนศีรษะเป็นทางสี่แพร่ง เอาขึ้นขาหยั่งประจานและให้ตระเวนรอบตลาด แล้วให้เฆี่ยนด้วยลวดหนัง ๒๐ ที ถ้าผัวมันยังรักเมียของมัน และมิให้ลงโทษแก่เมียมัน ให้เอาสินไหมเข้าพระคลังหลวง ถ้าหญิงนั้นมันยังทำชู้ด้วยชายอื่นอีก ท่านมิให้ไหมชายผู้นั้นเลย ส่วนหญิงนั้นให้ลงโทษคนเดียว แล้วให้สักรูปชายหญิงไว้ในแก้ม ถ้าตัวยังคงอาลัยรักเมียมัน ก็ให้ลงโทษโดยสักทั้งหญิงและชายเลยทีเดียว
อันว่าลักษณะผิดภรรยาท่านยังมิถึงชำเรามี ๕ ประการ ประการหนึ่งชายจับมือถือนมหยอกเมียท่าน ประการหนึ่งสามีท่านมิอยู่ขึ้นไปหาเมียท่านถึงในเรือน ประการหนึ่งไปหาเมียท่านในที่ลับ ประการหนึ่งชายลักลอบพูดจาด้วยเมียท่าน ประการหนึ่งไปหาเมียท่านถึงในห้องที่นอน ๕ ประการนี้ได้ชื่อว่าผิดภรรยาท่านยังมิถึงชำเรา ให้ปรับไหมโดยอันดับ
๑. มาตราหนึ่ง ชายใคร่ข่มขืนภรรยาท่านถึงชำเรา ให้ปรับไหมโดยประถมผิดเมียทวีคูณ ถ้าข่มขืนมิได้ถึงชำเรา ให้ปรับไหมโดยประถมผิดเมีย
๒. มาตราหนึ่ง ผู้ใดกล้าจับมือ ถือนม กอด จูบเมียท่านก็ดี ตัวท่านไม่อยู่ไปหาเมียท่านถึงในเรือนแลในสถานที่ลับ ไม่มีผู้ใดอยู่ด้วยก็ดี ไปหาเมียท่านถึงที่นอนในห้องอยู่แต่สองต่อสองก็ดี ท่านให้ปรับไหมชายนั้นกึ่งเบี้ยประถมผิดเมีย ถ้าผู้ใดกล่าวคำและโลมเมียท่าน ลักลอบพูดจาก็ดี พิจารณาเป็นสัจ ให้ปรับไหมชายนั้นกึ่งเบี้ยชักมือถือนมกอดจูบนั้น
๓. มาตราหนึ่ง ผู้ใดไปในราชการสงครามก็ดี โดยเสด็จพระเจ้าแผ่นดินก็ดี ไปราชการก็ดี อยู่ข้างหลังมีผู้มาทำชู้ด้วยเมียท่านไซร้ ให้ปรับไหมทวีคูณ
๔. มาตราหนึ่ง ชายใดทำชู้ด้วยเมียท่าน ให้ปรับไหมโดยประถมผิดเมีย ถ้ามีผู้ชักสื่อ ให้ปรับไหมผู้ชักสื่อกึ่งผู้ผิดเมีย ถ้าผู้ใดเป็นใจสมรู้ทำชู้ด้วยเมียท่าน ให้ปรับไหมกึ่งผู้ชักสื่อ ถ้าเจ้าใช้ให้ข้าชักสื่อ ท่านว่าข้าเถียงเจ้ามิได้ อย่าให้ปรับไหมทาสผู้นั้นเลย ให้ปรับไหมเจ้ามันนั้น โดยชักสื่ออีกเท่าหนึ่ง
๕. มาตราหนึ่ง หญิงอันแรงทำชู้เหนือผัว ผัวมันเอาสินไหมถึงสองครั้งแล้ว มันก็ยังทำชู้สู่ชายเหนือผัวมันอีก ท่านว่ามิให้ปรับไหมชายผู้นั้นเลย
๖. มาตราหนึ่ง ชายใดสู่ขอเอาหญิงคนขับรำเที่ยวขอทานเลี้ยงชีวิต และหญิงนครโสเภณีมาเลี้ยงเป็นเมีย ทำชู้เหนือผัวก็ดี หญิงใดทำชู้เหนือผัวดุจดังอำแดงอูผู้เป็นเมียพระจุลาภัยร้างกันอยู่ หลวงราชรินเป็นผัวเล่า ครั้นผิดใจกับหลวงราชรินแยกกันอยู่ มาเอาเจ้าชาดเป็นผัวอีก พระจุลาภัยผัวเก่าทำฎีกาทูลเกล้าฯ ถวาย หาความหลวงราชรินกับเจ้าชาด ถ้าหญิงใดดุจดังอำแดงอูนี้ก็ดี ผัวรู้ด้วยประการใด ๆ พิจารณาเป็นสัจ ท่านให้ประจานหญิงชายนั้นด้วยไถนา หญิงอันร้ายให้เอาเฉลวปะหน้าทัดดอกชบาแดงทั้งสองหู ร้อยดอกชบาแดงเป็นมาลัยใส่คอและศีรษะ แล้วให้เอาหญิงนั้นเข้าเทียมแอกข้างหนึ่ง ชายชู้เทียมแอกข้างหนึ่ง ประจานมันด้วยไถนาสามวัน ถ้าชายผู้ผัวยังรักเมียอยู่มิให้ประจาน ท่านให้เอาชายผู้ผัวนั้นเข้าเทียมแอกข้างหนึ่ง หญิงอยู่ข้างหนึ่ง อย่าให้ปรับไหมชายผู้นั้นเลย
๗. มาตราหนึ่ง หญิงใดนอกใจผัว มันเอาชายผู้นั้นมาร่วมประเวณีในวันเดียว ๒ คนขึ้นไป ท่านว่าเป็นหญิงแพศยา มิให้ปรับไหมชายผู้นั้นเลย ให้เอาปูนเขียนหน้าหญิงร้ายนั้นเป็นตาราง ร้อยดอกชบาเป็นมาลัยใส่ศีรษะและคอ แล้วเอาขึ้นขาหยั่งประจานโดยพระราชกฤษฎีกา ส่วนชายนั้นให้จำคา ให้นั่งใต้ขาหยั่งประจาน ๓ วัน แล้วให้เฆี่ยนชายหญิงทั้งสอง
๘. มาตราหนึ่ง หญิงนอกใจผัว ผัวจับหญิงนอนหงายชายนอนคว่ำ ถ้าจะฆ่าชายนั้นเสียให้ฆ่าหญิงด้วย อย่าให้ฆ่าแต่ผู้เดียว ถ้าฆ่าแต่หญิง ให้ปรับไหมผัวตามบรรดาศักดิ์เป็นพินัยหลวง
๙. มาตราหนึ่ง หญิงใดทำชู้เหนือผัว ผัวจับชู้ได้มิทันพิจารณา บันดาลโทสะตีด่าฆ่าฟันแทงชายชู้นั้นตาย ให้พิจารณา ถ้าเป็นสัจว่าชายทำชู้ด้วยเมียมันจริง มิให้เอาโทษแก่มัน ถ้าชายผู้ผัวไม่ทันฆ่าตีหญิง ๆ หนีรอดได้ ให้เอาหญิงนั้นเป็นคนหลวง ท่านจะให้ลงโทษประการใดตามพระราชอาญาท่านนั้นแล
๑๐. มาตราหนึ่ง หญิงใดทำชู้นอกใจผัว พิจารณาเป็นสัจ ให้ปรับไหมชายหญิงโดยพระราชกฤษฎีกา แลโคกระบือช้างม้าเรือเกวียน แลทาสกรรมกรชายหญิงสรรพสิ่งทั้งปวงมีมากน้อยเท่าใดก็ดี ท่านว่าให้แก่ผัวเก่าจงสิ้น ถ้าชายผัวไม่สมัครเลี้ยงดูหญิงต่อไป ให้หญิงนั้นไปแต่ผ้านุ่งผืนหนึ่งผ้าห่มผืนหนึ่ง
๑๑. มาตราหนึ่ง ชายทำชู้ด้วยเมียผู้มีบรรดาศักดิ์ก็ดี หาบรรดาศักดิ์มิได้ก็ดี ผัวมันจับได้ ฟันแทงชายชู้นั้นตาย ยังแต่หญิง ให้เอาหญิงนั้นเป็นคนหลวง ถ้าฟันแทงหญิงนั้นตาย ยังแต่ชายชู้ ให้ปรับไหมชายชู้โดยประถมผิดเสียทวีคูณเอาเป็นพินัยหลวง
๑๒. มาตราหนึ่ง ผู้ใดว่าชายผู้หนึ่งทำชู้ด้วยเมียตน เอาแต่ชายซึ่งว่าเป็นชู้นั้นไปฆ่าฟันตาย ถ้าเป็นสัจว่าผิดเมียมันจริงก็ดี มันละเมิด ให้ลงโทษโดยโทษานุโทษ แลให้ปรับไหมโดยตีคนตาย คนซึ่งไปด้วยให้ปรับไหมจงถ้วนคน ถ้ามิได้ผิดเมียมันไซร้ ให้ฆ่ามันคนร้ายซึ่งทำแก่ท่านให้ตกไปตามกัน
๑๓. มาตราหนึ่ง ชายใดทำชู้ด้วยเมียท่าน ท่านจับได้ทั้งหญิงชาย ถ้าจะเอาสินไหม ให้เอามายังแพ่งให้พิจารณา ถ้าเจ้าผัวเห็นว่า สินไหมนั้นน้อย จะขอฟันแทงเสีย ท่านมิให้ฟัง
๑๔. มาตราหนึ่ง หญิงใดผัวไปราชการ แลไปด้วยกิจธุระค้าขายต่างเมือง อยู่ข้างหลังมีชู้สู่ชายอื่น และพี่น้องของผัวจับชายชู้นั้นได้ ท่านว่าให้กฎหมายไว้ยังแพ่งแห่งสุภาจ่าเมืองให้รู้ ต่อเมื่อใดผัวจะหาความ ให้หาโดยขนาด ถ้าพ่อแม่ พี่น้อง ชายผู้ผัวด่าตีฟันแทงชายชู้มีบาดเจ็บ ให้ปรับไหมโดยค่าตีบาดเจ็บ ถ้าถึงตาย ให้ฆ่าผู้ฟันแทงนั้นให้ตกไปตามกัน
๑๕. มาตราหนึ่ง หญิงใดทำชู้นอกใจผัว ผัวรู้เห็นประการใด ให้สุภาตระลาการพิจารณา เมื่อได้ความสัจว่าชายทำชู้ด้วยเมียมันจริง ยังมิได้ทอดสินไหมพินัย และชายผู้ผัวนั้นได้สู่หาเมียตนในตระลาการ ท่านว่าชายผู้นั้นมิชอบระบอบความเมืองท่าน และให้พระสุภาวดีปรับไหมชายชู้นั้นจงเต็ม และสินไหมซึ่งเจ้าผัวจะได้นั้น อย่าให้เลย ให้ส่งเข้าพระคลังหลวงจงสิ้น เพราะมันยังรักเมียมัน
๑๖. มาตราหนึ่ง หญิงใดนอกใจผัวมีชู้ ชายชู้ตีฟันแทงผู้เป็นผัวตาย ท่านว่าให้ฆ่าชายชู้และหญิงนั้นตกไปตามกัน ถ้ามิตายแต่บาดเจ็บ ให้ปรับไหมชายชู้เป็นประถมผิดเมียทวีคูณ แล้วให้ไหมโดยบาดเจ็บนั้นอีกโสดหนึ่ง ส่วนหญิงให้ประจานโดยพระราชกฤษฎีกา
๑๗. มาตราหนึ่ง หญิงใดมีผัวแล้วมันไปถึงเหย้าเรือนชาย ๆ ทำชู้ด้วยหญิงนั้น ผัวมันรู้ว่าชายทำชู้ด้วยเมียมัน พิจารณาเป็นสัจ ท่านให้ปรับไหมชายชู้แก่เจ้าของเมีย และให้ประจานหญิงนั้นโดยพระราชกฤษฎีกา
๑๘. มาตราหนึ่ง หญิงทำชู้เหนือผัว ปรับไหมชายชู้ให้แก่เจ้าของเมียแล้ว เจ้าของเมียมิเลี้ยงหญิงจะขายหญิงนั้นใช้ไม่ได้ ท่านว่าชายเจ้าของหญิงได้สินไหมแล้ว จะมาขายหญิงได้กำไรถึงสองส่วนมิชอบ
๑๙. มาตราหนึ่ง ชายใดผิดภรรยาท่าน ทอดสินไหมพินัยแล้วหาอันจะเสียมิได้ ตกอยู่ตระลาการก็ดี ยอมไปเป็นทาสแห่งชายเจ้าของผัวแทนสินไหมก็ดี อยู่มาชายผู้ผัวนั้นถึงแก่กรรมแล้ว ชายชู้นั้นพ้นจากทาสแห่งท่าน ลูกหลานญาติพี่น้องได้มรดก จะว่าชายชู้ผู้นั้นเป็นทาสแห่งบิดามารดาญาติพี่น้องนั้นมิได้ เพราะเหตุว่าเป็นผู้อิสระแล้ว
๒๐. มาตราหนึ่ง หญิงมีสามีเกิดบุตรด้วยกัน และหญิงนั้นหนีผัวไปในสถานที่ใกล้ไกลก็ดี หญิงนั้นไปมีผัวใหม่เกิดบุตรก็ดี หาบุตรมิได้ก็ดี ให้ปรับไหมชายหญิงโดยพระราชกฤษฎีกา ถ้าหญิงนั้นอยู่ด้วยผัวเก่ายังหาบุตรมิได้ และหนีผัวไปมีผัวอื่นเกิดบุตรแต่คนหนึ่งสองคนให้ปรับไหมชายหญิง
๒๑. มาตราหนึ่ง ชายใดพาเมียท่านไปสำนักเรียนญาติพี่น้องเพื่อนฝูงมัน และทำชู้ด้วยหญิงนั้น เจ้าเรือนรู้เห็นเป็นใจให้พำนักมิได้บอกแก่เจ้าผัวและนายบ้านเมืองให้ท่านรู้ด้วยประการใด พิจารณาเป็นสัจ ท่านให้ลงโทษกึ่งผู้ชักสื่อ
๒๒. มาตราหนึ่ง เมียท่านหนีมาอยู่ด้วยบิดามารดาพี่น้อง ๆ เอาหญิงนั้นไว้แต่เดือนหนึ่ง ถ้าแลเอาไว้พ้นเดือนหนึ่ง ท่านว่ามิชอบ ให้ส่งหญิงนั้นให้แก่เจ้าของเสีย ถ้าผัวมาถามหา อำพรางซุ่มซ่อนเสีย ให้ปรับไหมผู้นั้นเป็นข้อละเมิด
๒๓. มาตราหนึ่ง หญิงหนีผัวไปต่างเมืองมีผู้เอาไปขายถึงสามประทวนขึ้นไป ถ้าเจ้าของเมียไปพบ ท่านว่าขายไปถึงสามประทวนแล้ว เจ้าของเมียมิรู้ ท่านว่าขาดแก่ผู้ไถ่ ถ้าผัวจะเอาเมียตัวมา ให้ไถ่เอามาตามมากแลน้อยแล้ว ให้หญิงนั้นนำไปหาความแก่ผู้ขาย ถ้าผู้ขายตายก็ดี หนีก็ดี เป็นอาภัพแก่ผัวนั้นแล
๒๔. มาตราหนึ่ง เมียท่านหนีมาอยู่ด้วยในเรือนผู้ใด เจ้าเรือนเอาเมียท่านไว้ ถ้าผัวมาตามหาแล้วปิดบัง อยู่มาผัวพบเข้าในเรือนนั้น ท่านให้ปรับไหมเสมอลักพาเมียท่าน
๒๕. มาตราหนึ่ง ผู้ใดทำชู้ด้วยเมียท่าน และชายชู้นั้นจะเอาเมียท่านมาเป็นเมียตน ท่านว่า พึงให้ส่งหญิงนั้นแก่ผัวมันจงได้ ค่าเมียแลบาทเบี้ยเท่าใด ให้ปรับไหมเท่านั้นให้แก่ผัวจงสิ้น
๒๖. มาตราหนึ่ง ชายใดเมียมิได้มีชู้ว่ามีชู้ จับชู้มิได้ ตีเมียช้ำแตกสาหัส ท่านให้ปรับไหมชายนั้น
๒๗. มาตราหนึ่ง หญิงใดไปสู่ผัวท่านและมันอ้างสามหาวด่าทอทนงศักดิ์แก่หญิงเจ้าผัว ฟ้องให้เรียกเจ้าผัวก็ดี เมียก็ดี และมันเถียงว่ามิได้ว่าร้าย ถึงถามมัน จนแก่การพิจารณาแล้ว ท่านให้ฉีกผ้ามันเท่า ๔ นิ้ว ให้มันนุ่งคาดเตี่ยว เอาเฉลวปะหน้าผากมัน เอาขึ้นขาหยั่งไว้ แล้วจึงให้ปลดลงตีด้วยไม้หวาย ๓ ลำทีหนึ่ง โดยโทษอันมันเถียงเจ้าของผัวแล
๒๘. มาตราหนึ่ง ชายประมาทเมียท่านว่าหญิงนี้เป็นชู้กูมาก่อน เมื่อพิจารณามิเป็นสัจว่าชายนั้นเป็นชู้ด้วยหญิง ท่านให้ปรับไหมชายนั้นกึ่งตัวผู้หญิง ถ้าเป็นสัจว่า หญิงนั้นเป็นชู้ด้วยชายก่อนจริง ท่านให้ปรับไหมชายนั้นแต่กึ่งลงมา เพราะชายกล่าวคำประมาทหญิงเล่นแต่พอจะให้หญิงนั้นได้อาย เป็นการมิชอบ
๒๙. มาตราหนึ่ง หญิงหนีผัวไปต่างเมืองในขอบขัณฑสีมาจังหวัด ๑๖ หัวเมือง ซึ่งกำหนดไว้นั้น แลหญิงนั้นโลเลมิบอกชายว่ามีผัวหนีผัวมา ชายมิรู้ทำชู้ด้วยหญิง หญิงทำชู้ด้วยชายต่อหนึ่งสองต่อขึ้นไป แลจะเอาโทษแก่ชายนั้นมิได้ ถ้าชายรู้ว่าหญิงนั้นมีผัวอยู่หนีผัวมา รู้ด้วยประการใด ๆ แล้วทำชู้ด้วย ให้ปรับไหมชายชู้โดยพระราชกฤษฎีกา แลให้เอาโทษหญิงนั้น เหตุหญิงมิได้ว่ากล่าวความผิดและชอบ ว่าผัวไม่เลี้ยงดูเป็นธรรมแล้วหนีไป
๓๐. มาตราหนึ่ง ผัวตายหงายไว้ทั้งโลง ศพยังอยู่กับเรือน หญิงนั้นน้ำตาตก และคล้อยใจกำหนัดชักเอาชายมานอน และผีตายหงายรับกันอยู่ดังนั้น ถ้าพี่น้องชายผู้ตายรู้เห็นเอาความมาร้องฟ้อง เมื่อสวนสับขับแท้จริงแล้ว ท่านให้สานตะกร้อตากรวยครอบศีรษะหญิงนั่งลงเพียงตา ให้ตระเวนรอบเรือนที่ผีผัวอยู่นั้นสามรอบ แล้วให้ปรับไหมชายชู้เป็นเบี้ย ๑๐ แสน ให้แก่ญาติพี่น้องเผาผีผู้ตาย
๓๑. มาตราหนึ่ง บุคคลใดพาบุตรภรรยาไปสถานที่ไกลและเกิดอุบัติเหตุเป็นจลาจล การสงคราม และบุคคลซึ่งพาบุตรภรรยาไปนั้นพลัดพรากกัน มีผู้ใดพาไปพ้นเหตุ ครั้นอยู่มาเขาพบลูกเมีย ท่านให้ผู้ได้นั้น คืนให้แก่เจ้าของบุตรภรรยา ท่านว่าให้เจ้าผัวมันนั้นให้บำเหน็จแก่ผู้ได้นั้นโดยควร
๓๒. มาตราหนึ่ง ผู้ใดไปรบศึกได้หญิงเชลยมาเลี้ยงเป็นภรรยาหลวง อนุภรรยา ทาสภรรยาก็ดี ชายใดมาทำชู้ด้วยหญิงนั้นมีโทษ ให้ปรับไหมโดยพระราชกฤษฎีกา
๓๓. มาตราหนึ่ง หญิงข้าไทก็ดี ไทก็ดี มาขออาศัยอยู่ด้วยชายก็ดี ขายรับประกันไว้ก็ดี แลชายเลี้ยงหญิงนั้นไว้ให้มันกิน ถ้ามันจะจากไป จะคิดเอาค่าข้าวแดงแกงร้อนมันมิได้ เพราะได้ใช้มันแล้ว ถ้าชายไปมาหาสู่มัน เกิดลูกด้วยมัน มันนอกใจมีชู้ ให้ปรับไหมชายชู้แลหญิงนั้นโดยฉันอนุภรรยา
๓๔. มาตราหนึ่ง หญิงใดว่าหญิงอื่นมักผัวตน และวานพี่น้องลูกหลานเพื่อนฝูงไปช่วยด่าหญิงซึ่งว่ามักผัวตนนั้น ถ้าพิจารณาเป็นสัจว่า มักผัวมันไซร้ อย่าให้ปรับไหมหญิงต้นเหตุเลย ให้ปรับไหมแต่พวกเพื่อนโดยพระราชกฤษฎีกา ถ้าถึงตบตีฟันแทง พิจารณาเป็นสัจว่ามักผัวมันไซร้ ให้ปรับไหมหญิงต้นเหตุและพวกเพื่อนโดยพระราชกฤษฎีกา ถ้ามิเป็นสัจว่ามักผัวตน ให้ปรับไหมหญิงต้นเหตุและพวกเพื่อนเป็นทวีคูณ
ถ้าหญิงชู้มาทำชู้ด้วยผัวตนถึงเรือนตน แลหญิงเจ้าผัวด่าตีหญิงชู้มิถึงสาหัสไซร้ อย่าให้ไหมหญิงเจ้าผัวนั้นเลย เหตุหญิงชู้ดูถูกหญิงเจ้าผัว ถ้าหญิงเจ้าผัวตบตีฟันแทงหญิงชู้มีบาดเจ็บถึงสาหัสไซร้ ให้ไหมหญิงเจ้าผัวให้แก่หญิงชู้โดยบาดเจ็บนั้นลาหนึ่ง ให้ไหมชายเจ้าผัวอีกโสดหนึ่ง โดยพระราชกฤษฎีกาเป็นข้าญ่าสาร เหตุชายปราบเมียตนมิได้
๓๕. มาตราหนึ่ง หลานทำชู้ด้วยเมียลุง ตา ปู่ อา น้า พี่ตนเอง มันผู้มิกลัวเกรง มันมิอายแก่บาปดังนั้น ให้เอามันคนร้ายจำใส่ตรวน ขื่อ คา เอาน้ำหมึกสักหน้าทั้งชายหญิง เอาเชือกหนังผูกคอเอา ฆ้องตีตระเวนรอบตลาด แล้วเอาขึ้นขาหยั่งยิงด้วยลูกสันโดด แลให้ตีด้วยลวดหนัง ๒๕ ที ๕๐ ที แล้วให้ทำแพลอยเสียนอกเมือง อย่าให้ดูเยี่ยงอย่างกัน
๓๖. มาตราหนึ่ง พ่อแม่ ลูกพี่ ลูกน้อง ยาย หลานตา หลานลุง น้าหลาน ทำชู้กันไซร้ ให้ทำแพลอยผู้นั้นเสียในทะเล ให้เจ้าพ่อแม่พี่น้องพลีเมืองท่านทั้ง ๔ ประตู ไก่ ๘ ตัว ให้พระสงฆ์ พราหมณาจารย์สวดมนต์ทำพิธีการระงับอุบาทว์จัญไร น้ำ ฟ้า ฝน จึงจะตกเป็นประโยชน์แก่คนทั้งหลาย ฝ่ายพ่อแม่พี่น้องรู้ว่าลูกหลานทำมิชอบมิได้ว่ากล่าว ท่านว่าละเมิดให้ลงโทษโดยโทษานุโทษ
๓๗. มาตราหนึ่ง สามีมีความเลื่อมใสในพระศาสนา สละภรรยาและทรัพย์สินทั้งหลาย ออกบวชแบบภิกษุสามเณรแล้ว สินเดิมสินสมรสของชายสิทธิแก่หญิง พ่อแม่พี่น้องชายจะเอา อย่าพึงให้เลย ถ้าเมื่อแรกจะบวชนั้นชายแบ่งปันทรัพย์สิ่งใดไว้จึงได้ ถ้าหญิงยังครองตัวอยู่รอผัว ผัวสึกออกมาอยู่กินด้วยหญิงนั้นอีก บุตรภรรยาและทรัพย์สิ่งของทั้งปวงเป็นสิทธิ์แก่ชาย เหตุว่าเรือนท่านเคยอยู่ อู่ท่านเคยนอน หมอนท่านเคยเรียง เสบียงท่านเคยกิน ถ้าหญิงทำชู้นอกใจผัวไซร้ ให้ปรับไหมโดยพระราชกฤษฎีกา
๓๘. มาตราหนึ่ง หญิงชายราษฎรอยู่กินเป็นผัวเมียกัน สามีศรัทธาสละภรรยาและทรัพย์สิ่งของบวชเป็นภิกษุสามเณร แล้วสึกออกมาจะคืนอยู่กินด้วยหญิงอีกไซร้ ถ้าหญิงมิสมัครเป็นภรรยานั้นต่อไป ก็ตามใจหญิง เหตุว่าบวชแล้วขาดจากผัวเมียกัน ถ้าชายถูลากข่มขืนหญิงนั้น ท่านให้ปรับไหมชายดุจทำแก่หญิงหม้ายนั้น
๓๙. มาตราหนึ่ง ภรรยาลาสามีจะไปบวช สามีก็ยอม ท่านว่าสามีภรรยาขาดจากผัวเมียกัน ถ้าภรรยาสึกออกมาจะมีสามีอื่น ท่านจะหาโทษมิได้ ถ้าสามีมิให้บวช ถ้าสึกออกมามีชู้ ให้ปรับไหมโดยขนาด เพราะเหตุว่าสามีเขามิได้สละให้ไปบวช
๔๐. มาตราหนึ่ง พระครูภิกษุสามเณรผิดเมียท่านถึงชำเรา ชื่อว่าปาราชิก ให้สึกออกเสีย แล้วให้ปรับไหมโดยพระราชกฤษฎีกา
๔๑. มาตราหนึ่ง ถ้าพระครูภิกษุสามเณรผู้อยู่ในศีล ทำทุราจาร ผิดกิจวินัยทำร้ายด้วยหญิงหาผัวมิได้ ถึงชำเราเป็นสัจไซร้ ชื่อว่าปาราชิก ให้สึกออกลงโทษ ๒๕ ที ๕๐ ที ส่งตัวลงหญ้าช้างหลวง ส่วนหญิงนั้น ให้ทำโทษดุจหญิงทำชู้นอกใจผัวนั้นแล
๔๒. มาตราหนึ่ง เจ้าสมจร ๑ด้วยเมียข้าคนของตนเอง ท่านให้ปรับไหมให้ผัวมันเป็นไท ส่วนเมียมันให้ไปแก่ผัวมันด้วย ถ้าหญิงนั้นมิได้ไปด้วยผัวมัน ให้เจ้าเงินคิดค่าตัวให้แก่ตัวมันด้วยตามบทพระอัยการ
๔๓. มาตราหนึ่ง ชายช่วยไถ่หญิงเป็นทาสมา และหญิงนั้นมีผัวอยู่เจ้าเงินเอาทาสหญิงนั้นเป็นเมีย ท่านว่าให้มีโทษแก่ชายเจ้าของเงินโดยกระบิลผิดเมีย เหตุว่าเมื่อตนไถ่มิได้ว่ากล่าวให้ขาดจากชายผัวนั้นก่อน
๔๔. มาตราหนึ่ง ชายไทพึงใจด้วยข้าสาวท่าน มิได้กล่าวขอทำชู้ด้วยกัน และชายไทมิได้เอาขันหมากไปให้นายเงินและให้พ่อแม่หญิง ท่านว่าชายหาเคารพนายเงินและพ่อแม่หญิงนั้นไม่ ถ้าชายร้างหญิงเสีย ให้เอาเบี้ยเงินในค่าตัวทำเป็น ๓ ส่วน ให้คงอยู่แก่หญิงตัวเบี้ย ๒ ส่วน ให้ชายใช้ส่วนหนึ่ง เพราะชายบังอาจทำชู้เลี้ยงข้าท่าน มิได้มาขมาแก่เจ้าเงินและพ่อแม่หญิง
๔๕. มาตราหนึ่ง ชายไทพึงใจด้วยข้าสาวท่าน มิได้ช่วยไถ่ คบเอาข้าสาวท่านไว้ ณ เรือนเลี้ยงเป็นเมีย มิส่งข้าท่านให้แก่เจ้าเงิน เกิดลูกก็ดี มิได้เกิดลูกก็ดี และเอาข้าท่านไว้ให้ป่วยการท่าน ท่านว่าชายผู้นั้นบังอาจ มิได้กลัวเกรงพระราชบัญญัติกระบิลความเมือง ท่านให้ปรับไหมละหนึ่ง แล้วให้เอาเงินค่าตัวหญิงทำ ๓ ส่วน ให้ชายซึ่งเอาหญิงข้าท่านไว้ใช้ส่วนหนึ่ง ไว้แก่หญิงตัวเบี้ย ๒ ส่วน ถ้าเกิดลูกด้วยชายนั้น ให้ได้แก่แม่มัน เพราะเกิดในเรือนเบี้ยท่าน
๔๖. มาตราหนึ่ง เจ้าเงินก็ดี พี่น้องลูกหลานแห่งเจ้าเงินก็ดี ข่มขืนหญิงทาสถึงชำเรา หญิงร้องแรก มีสักขีพยาน ท่านให้แบ่งค่าตัวหญิงนั้นเสียกึ่งหนึ่ง ๆ ให้มันส่งแก่เจ้าเงิน ถ้าจับมือถือนมกอดจูบข่มขืนไม่ถึงชำเรา พิจารณาเป็นสัจ ให้แบ่งค่าตัวเป็น ๔ ส่วน ลดส่วน ๑ ให้แก่เจ้าเงิน ๓ ส่วน ถ้ามันยอมด้วยอย่าให้แบ่งทุนเขานั้นเสียเลย ถ้ามันมิสมัครอยู่ด้วย และมันจะหย่า มันยังหาเกิดบุตรด้วยเจ้าเงินและพี่น้องลูกหลานแห่งเจ้าเงินไม่ จึงให้มันส่งค่าตัวจงถ้วน
๔๗. มาตราหนึ่ง นายเงินหาความแก่ทาสฝาก ว่าผิดเมียทาสไทตน ถ้าเป็นสัจให้ปรับไหม ถ้าหาสินไหมจะเสียมิได้ ให้ทวนด้วยลวดหนังแทนเบี้ยปรับไหมนั้น และถ้านายเงินหาเป็นสัจมิได้ ให้ทาสฝากออกเป็นไท จะให้ไหมดุจท่านมิได้ เหตุว่ายังเป็นไทครึ่งทาสครึ่ง
๔๘. มาตราหนึ่ง ข้าสมจรด้วยกัน พ่อแม่และเจ้าข้ามิได้ยอม และมันพากันหนีไปไกล หญิงนั้นยังมิได้เป็นเมียชาย เป็นแต่ชู้กัน แม้นชายผู้ใดมาทำชู้ด้วยหญิงนั้นเล่า จะปรับไหมชายชู้ภายหลังนั้นมิได้ เพราะว่ายอมเป็นชู้ทั้งสอง และทรัพย์สิ่งสินแห่งหญิงนั้น มิให้ชายชู้ริบเอาเลย แม้นชายชู้นั้นมิฟัง เอาทรัพย์สิ่งของหญิงนั้นไว้ ท่านให้ลงโทษชายด้วยลวดหนังนั้น
๔๙. มาตราหนึ่ง ชายอยู่ทางวัน ๑ และทาง ๓ วัน ๗ วัน ๑๕ วัน เดือนหนึ่งมาสู่ขอลูกสาวหลานสาวท่านเป็นเมีย อยู่กินด้วยกัน วิวาทด่าตีกันด้วยประการใด ๆ ชายลงจากเรือนละหญิงไว้ ถ้าชายอยู่ทางวัน ๑ ให้ผัดแต่ใน ๓ เดือน ถ้าชายอยู่ทาง ๓ วัน ให้ผัดแต่ใน ๖ เดือน ถ้าชายอยู่ทาง ๗ วัน ให้ผิดแต่ใน ๘ เดือน ถ้าชายอยู่ทาง ๑๕ วัน ให้ผัดแต่ในปีหนึ่ง ถ้าชายอยู่ทางไกล ๑ เดือน ให้ผิดแต่ในปีหนึ่งกับ ๔ เดือน ถ้าชายมิได้มาสู่หาหญิงพ้นกำหนด ๓ เดือน ๖ เดือน ๘ เดือน ปีหนึ่ง แลปีหนึ่งกับ ๔ เดือนตามระยะทางไซร้ ให้หญิงหาผู้เถ้าผู้แก่และกำนันพันนายบ้าน ร้อยแขวงกรมการ และผู้มีบรรดาศักดิ์ผู้ใดผู้หนึ่งให้ช่วยส่งทุนส่งสินสอดส่งขันหมาก และสิ่งของเดิมแห่งชาย
ถ้าพบชาย ๆ รับก็ดีมิรับก็ดี ท่านว่าชายหญิงขาดจากผัวเมียกัน เหตุชายละหญิงไว้ แกล้งจะให้หญิงฉุกละหุกในโลกีย์ แล้วจะให้ยากแก่ความเมืองท่าน ถ้าไม่พบชาย ให้ส่งแก่บิดามารดาญาติพี่น้องแห่งชาย ถ้าบิดามารดาญาติพี่น้องแห่งชายมิรับ ให้หญิงนั้นไปบอกแก่กำนันพันนายบ้าน ผู้เถ้าผู้แก่ร้อยแขวงกรมการ และผู้มีบรรดาศักดิ์ผู้ใดผู้หนึ่งว่า ตนได้ส่งทุนสินสอดขันหมาก และสิ่งของเดิมให้ชายเป็นคำนับแล้ว มิพบชายและได้ส่งแก่บิดามารดาผู้เถ้าผู้แก่ญาติพี่น้องแห่งชายเป็นคำนับ หารับไม่ ท่านว่าหญิงชายจึงขาดจากผัวเมียกัน...
----------------------------
๖๒. มาตราหนึ่ง ผัวไปค้าแต่จังหวัดหัวเมือง แม้นไปพ้นกำหนดปีหนึ่งชายมิมา ท่านว่าหญิงชายขาดจากผัวเมียกัน ถ้าชายมิมา ฝากของมาถึงเมียตนก็ดี ให้หนังสือมาบอกสุขทุกข์ความเจ็บไข้และความกังวลแห่งตนก็ดี กำหนด ๓ ปี ถ้าพ้นกำหนดชายมิมา พระราชกฤษฎีกาว่าหญิงนั้นมิได้เป็นเมียชายนั้นเลย หญิงมีชู้เอาผัวหาโทษมิได้ ทั้งชายผู้ผัวใหม่นั้นก็ไม่มีโทษ ถ้าชายผู้ใดเอาหญิงเป็นชู้เป็นเมียแต่ในกำหนดนั้น คือผิดเมียท่านให้ปรับไหมถึงขนาด ถ้าพ้นกำหนดนั้นแล้ว หญิงมีชู้ผัวเก่านั้นมาทำร้ายชายหญิงก็ดี ท่านว่ามันล่วงอาญาให้ปรับไหมทวีคูณ
แม้นว่าชายไปเมืองจีนไปทะเล ไปเชียงใหม่ ท่านให้หญิงอยู่คอยท่า ๓ ปี ถ้าได้ข่าวว่าสลัดจับผัวไปได้ และสำเภาตกอยู่กับข้าศึก ให้หญิงอยู่ท่า ๗ ปี ถ้าพ้น ๓ ปี ๗ ปีแล้วหญิงมีชู้มิเป็นโทษ ถ้าผัวเก่ามาทำร้ายแก่เขาทั้งสองมีโทษ
----------------------------
๗๑. มาตราหนึ่ง ชายใดขืมขืนหญิงหม้ายถึงชำเรา ให้เอาเบี้ยในความผิดครั้งแรกทำ ๕ ส่วน ยกเสียส่วน ๑ เอา ๔ ส่วนตั้งเป็นสินไหมกึ่งพินัยกึ่ง ถ้าข่มขืนมิถึงชำเราให้ไหมกึ่งถึงชำเรา...
----------------------------
๗๔. มาตราหนึ่ง ราษฎรทั้งหลายในแว่นแคว้นเสนามณฑล ให้เลี้ยงดูลูกเมียพี่น้องพ้องพันธุ์ จงชอบโดยความเป็นธรรม บางคนมีเมียสองสามคนก็ดี เมื่อเกิดลาภได้ไร่นาเรือกสวนสรรพทรัพย์ทั้งหลาย ควรให้แก่เมียเดิมสองส่วน ให้แก่เมียกลางส่วนหนึ่ง ให้แก่เมียสุดกึ่งส่วน ฯลฯ
อันว่าหญิงอันชายมิได้คำนับสู่ขอ แลชายกระทำทุราจาร ให้มีโทษ ๗ ประการ
ประการหนึ่ง คือหญิงอันอยู่ด้วยมารดา ๆ หากรักษา
ประการหนึ่ง คือหญิงอันอยู่ด้วยบิดา ๆ หากรักษา
ประการหนึ่ง คือหญิงอันอยู่ด้วยบิดามารดา ๆ หากรักษา
ประการหนึ่ง คือหญิงอันอยู่ด้วยโคตร ๆ หากรักษา
ประการหนึ่ง คือหญิงอันอยู่ด้วยพี่ชายพี่สาว ๆ หากรักษา
ประการหนึ่ง คือหญิงอันอยู่ด้วยญาติ ๆ หากรักษา
ประการหนึ่ง คือหญิงอันอยู่ด้วยท่านผู้ใดผู้หนึ่ง ท่านหากรักษาป้องกันไว้
หญิง ๗ ประการนี้ ถ้าชายผู้ใดมิได้คำนับสู่ขอแลอุกอาจไปกระทำทุราจารหญิงก็ดี แลชายไปลอบลักทำชู้แลข่มขืนแลชักพาหญิงไปก็ดี ท่านว่าชายนั้นมีโทษ ถ้าหญิงนั้นไปหาชายถึงเคหสถานบ้านเรือนชาย ยอมให้ชายทำชู้ด้วยไซร้และจะว่ากล่าวโทษแก่ชายนั้นมิได้เลย
๗๕. มาตราหนึ่ง บุรุษผู้ใด จับข้อมือถือหยอกบุตรีท่านก็ดี ขึ้นไปถึงที่นอนบุตรีท่านก็ดี แลฉุดลากไปจูบกอดทำชู้ด้วยประการใดก็ดี ท่านว่าชายนั้นผิดให้ลงโทษตามโทษานุโทษ
๗๖. มาตราหนึ่ง ชายใดมีเมียแล้ว ข่มขืนลูกสาวหลานสาวท่านถึงชำเรา ให้ปรับไหมชายนั้นกึ่งประถมผิดเสีย ถ้าข่มขืนมิถึงชำเรา ให้ไหมกึ่งถึงชำเรา
๒๗. มาตราหนึ่ง ชายหาเมียมิได้ ข่มขืนลูกสาวหลานสาวท่านถึงชำเรา ให้ไหมชายนั้นกึ่งเบี้ยชายมีเมียแล้ว ถ้าข่มขืนมิถึงชำเรา ให้ไหมกึ่งถึงชำเรา
๗๘. มาตราหนึ่ง ชายใดข่มขืนหญิงเด็กไม่รู้เดียงสาถึงชำเรา ให้ไหมเท่าเบี้ยประถมผิดเสีย ถ้าข่มขืนถึงชำเราโลหิตไหล ให้ไหมเท่าเบี้ยประถมผิดเมียทวีคูณ ถ้าตบตีหญิงทำให้มีบาดเจ็บด้วย ท่านให้ไหมชายนั้นโดยบาดเจ็บอีกโสดหนึ่ง
กล่าวลักษณะหญิง ๗ ประการ แลปรับโทษชายข่มขืนหญิงโดยสังเขปแต่เท่านี้
----------------------------
๘๐. มาตราหนึ่ง ชายใดมิได้สู่ขอหญิงเป็นคำนับแลลอบทำชู้ด้วยลูกสาวท่าน ๆ จับได้ ท่านมิให้ฆ่าฟันชาย แต่ให้ผูกข้อมือไว้ว่ากล่าวตามกระบิลความเมือง
๘๑. มาตราหนึ่ง ชายลอบลักสมรักทำชู้ด้วยลูกสาวท่านก็ดี หญิงทาสท่านก็ดี และพ่อแม่เจ้าเงินแห่งหญิงมิรู้ ชายมิรับ หญิงมีครรภ์ตาย พิจารณาเป็นสัจว่า ชายลอบลักทำด้วยหญิงจริงไซร้ ท่านให้ไหมชายจงเต็มค่าตัวหญิงและทาสนั้น แล้วให้ลงทัณฑ์ ๓๐ ที ๓ ที
๘๒. มาตราหนึ่ง ชายใดลอบไปทำชู้ด้วยลูกสาวหลานสาวท่านมิได้กล่าวถาม และพ่อแม่หญิงรู้ชู้ขึ้นลงไปหาลูกตนนั้นไซร้ ท่านว่าคือเมียมัน ให้มันแต่งสมาพ่อแม่หญิง พึงให้พ่อแม่หญิงรับสมา ให้มันอยู่เป็นคู่สังวาส เพราะเขาทั้งสองเป็นคู่สร้างกันมาแต่กาลก่อน เป็นสตรีอย่าให้มีชายสัมผัสถูกต้องตัวถึงสอง ถ้าชายมิแต่งมาสมาผู้เถ้าผู้แก่ และมิได้เลี้ยงหญิงดังท่านเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียท่านทั้งหลาย และมันทำชู้แล้ว มันทอดทิ้งหญิงนั้นเสีย ท่านว่ามันทำให้ลูกหลานของท่านนมยกอกพร่อง ให้ไหมชายผู้ละเมิดพ่อแม่ผู้เถ้าผู้แก่นั้นโดยขนาด ถ้าชายแต่งสมาพ่อแม่หญิงมิรับ และพรากลูกสาวไปให้แก่ชายอื่นให้เสียประเวณีธรรมไซร้ ท่านว่าผู้มาเอาเมียมันและพ่อแม่ทำมิชอบนั้น ท่านให้ไหมพ่อแม่หญิงและชายผู้มาเอาเมียมันโดยขนาด
๘๓. มาตราหนึ่ง บุตรหญิงมีชู้ สั่งให้ชายชู้มาหาก็ดี และชายมาหาหญิงเองก็ดี พ่อแม่พี่น้องหญิงมิรู้ แปลกตัวว่าเป็นโจรขโมย ฟันแทงชายชู้นั้นตาย ท่านให้ขายหญิงนั้นแก่พ่อแม่พี่น้องผู้ตายนั้นส่วนหนึ่ง ๆ ไซร้ไว้แก่พ่อแม่พี่น้องหญิงนั้น ถ้าพ่อแม่พี่น้องหญิงนั้นรู้อยู่แล้ว แกล้งฆ่าฟันชายนั้นให้ตาย ท่านให้เอาค่าตัวชายนั้นตั้งไหม แล้วให้ขายหญิงทอดตลาด ได้เท่าใดส่งให้พ่อแม่ชายปลงศพผู้ตายนั้นแล
----------------------------
๙๐. มาตราหนึ่ง หญิงคนเดียวมันทำชู้ด้วยชายคนหนึ่งก่อน แล้วหญิงนั้นมาทำชู้ด้วยชายคนหนึ่งเล่า ชู้ก่อนมันฟันแทงชู้หลังตายก็ดี ชู้หลังมันฟันแทงชู้ก่อนตายก็ดี ท่านว่าเป็นหญิงร้าย ให้ทวนมัน ๓๐ ที แล้วให้โกนศีรษะหญิงนั้นเป็นตะแลงแกงทัดดอกชบาสองหู ขึ้นขาหยั่งประจาน ๓ วัน แล้วให้ฆ่าชายชู้ฟันแทงนั้นให้ตกตายไปตามกัน ถ้าทรงพระกรุณามิให้ฆ่าตีไซร้ ผู้ทำนาต่ำกว่า ๔๐๐ ลงมา ให้ปรับไหมทวีคูณโดยพระราชกฤษฎีกา สินไหมให้แก่บิดามารดาญาติพี่น้องแห่งชายชู้ผู้ตาย
----------------------------
๑๐๐. มาตราหนึ่ง หญิงใดมีชู้ พ่อแม่แห่งหญิงได้ว่ากล่าวแก่พ่อแม่ผู้ชาย ถ้าชายผู้นั้นไปสู่หาหญิง และพ่อแม่หญิงฟันแทงชายนั้นตาย ให้ไหมโดยพระราชกฤษฎีกา และส่วนหญิงนั้นให้ขายเผาผีผู้ตาย
----------------------------
-
๑. ประพฤติร่วมกัน ร่วมรักกัน คบกัน ร่วมสังวาสกัน (ขุนสมาหารหิตะคดี (โป๊ โปรคุปต์), พจนานุกรมกฎหมาย, พิมพ์ครั้งที่ ๒, โรงพิมพ์เดือนตุลา, กรุงเทพฯ ๒๕๔๙, น. ๓๕๘) ↩