สักหน้าผากจีนเสง

เมืองไทยเราในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ สมัยรัชกาลที่ ๔ แม้จะมีวัฒนธรรมและวิทยาการทางฝ่ายตะวันตกหลั่งไหลเข้ามาบ้างก็ตาม แต่มนุษย์ประเภทใช้ “อวิชชา” ก็ยังปรากฏอยู่ดื่นดก มีการนิยมนับถือผู้เรืองวิทยาคมทางล่องหนหายตัวและอย่างอื่น ๆ ทั้งที่จริงบ้างโกหกบ้างคละเคล้ากันไป อย่างในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็มี ถึงกับต้องสักหน้ามนุษย์ที่อ้างว่ามีวิชาอาคม ดังจะเห็นได้จากหมายรับสั่งลงวันอาทิตย์ เดือนยี่ แรม ๑๐ ค่ำ ปีวอก โทศก พ.ศ. ๒๔๐๓

ด้วยเจ้าพระยายมราช ชาติเสนางคนรินทร มหินทราธิบดีศรีวิไชย ราชมไหศวริยบริรักษ ภูมิพิทักษโลกากร ทัณฑฤทธิธรนครบาล รับพระบรมราชโองการใส่เกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ดำรัสสั่งให้ประกาศแก่ข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อย แลกรมการร้อยแขวงกำนันอำเภอด่านทางทุกตำบล ทั้งในกรุงนอกกรุงให้ทราบทั่วกัน ด้วยจีนเสงผัวอำแดงอิ่มภรรยา ตั้งบ้านเรือนแลจอดแพอยู่ใกล้บ้านพระยาสามภพพ่าย ๆ จับได้กระทงกระดาษมีชื่อพระยาสามภพพ่ายแลภรรยา แลชื่อเจ้าจอมข้างใน ซึ่งเป็นญาติพระยาสามภพพ่าย แลชื่ออำแดงสุ่นบ้านใกล้เคียง แลทาสอำแดงสุ่น อยู่ในพื้นกระทง แล้วมีหมากพลูคำหนึ่ง เทียนเล่มหนึ่งจุดลอยมา พระยาสามภพพ่ายเอากระทงกระดาษที่มีชื่อต่าง ๆ นั้น มากราบเรียนเจ้าพระยายมราช แลกล่าวความสงสัยตามสาเหตุ ว่าเห็นจีนเสงจะทำ เจ้าพระยายมราชจึงได้หาตัวจีนเสงมาชำระแต่แรกปฏิเสธไม่รับ ครั้นภายหลังได้สอบลายมือจีนเสง ก็เห็นว่าลายมือนั้นเหมือนกับอักษรที่จีนเสงเขียนไว้ในหนังสือประกันทาสเมื่อมาเป็นความแต่ก่อน ครั้นไล่เลียงไต่ถามต่อไป จีนเสงรับสารภาพว่าได้ทำจริง ด้วยเป็นวิขาได้เรียนมาแต่สมีน้อยผู้ตายแล้ว แลเมื่อยังไม่ตายได้เป็นอาจารย์จีนเสงสอนวิชานี้ไว้ จะทำความให้หาย เพราะจีนเสงเป็นความอยู่กับอำแดงสุ่น กลัวอำแดงสุ่นจะทำเรื่องราวเป็นคำร้องถวายฎีกา แล้วจะให้พระยาสามภพพ่ายกับภรรยานำเรื่องราวนั้นมาส่งให้เจ้าจอมข้างในซึ่งเป็นญาติทูลเกล้า ฯ ถวาย จึงได้เขียนชื่ออำแดงสุ่นกับทาสซึ่งเป็นเจ้าของความ แลผู้ที่ชอบกับอำแดงสุ่นจะช่วยนำความมาร้องฎีกานั้นลอยน้ำไปเสีย เพื่อจะให้ความสูญหาย แต่ฝ่ายพระยาสามภพพ่ายกับเจ้าจอมข้างในเห็นว่าสาเหตุอื่นมี เพราะแต่ก่อนตำบลที่บ้านที่แพของอำแดงสุ่น ซึ่งเนื่องกันกับที่ของจีนเสงนั้นเป็นของผู้มีชื่ออื่น มาขายไว้แก่เจ้าจอมข้างใน ๆ ไม่ต้องการที่นั้นบอกขายเสีย จีนเสงได้มาขอซื้อก่อน แล้วภายหลังอำแดงสุ่นจึงมาว่าขอซื้อขึ้นราคาที่นั้นสูงไปกว่าราคาที่จีนเสงว่า เจ้าจอมข้างในจึงได้ขายที่นั้นให้อำแดงสุ่นไป ไม่ขายให้แก่จีนเสง เห็นจีนเสงจะมีความอาฆาตแค้นแก่เจ้าจอมข้างใน แลพระยาสามภพพ่าย แลภรรยาซึ่งคิดอ่านกันขายที่นั้นให้อำแดงสุ่น แลอำแดงสุ่นผู้ชิงซื้อนั้น ความทั้งปวงนี้ เจ้าพระยายมราชได้นำขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณา จึงมีพระบรมราชโองการตรัสว่า กิริยาที่จีนเสงทำนั้นเหมือนกับคนเสียจริต ถ้าว่าเพศบ้านเพศเมืองอันนี้ คนไม่ถือว่าเขียนชื่อกระทำวิชาให้ป่วยไข้ล้มตาย เกิดรำเพรำพัดชมบต่าง ๆ ได้ แลถ้าว่าราษฎรไม่สะดุ้งสะเทือนต่อการอย่างนี้แล้ว ก็ควรจะตัดสินว่ากิริยาของคนเสียจริต ให้เป็นแล้วเลิกไป แต่เพราะเพศรำเพรำพัดแลกระทำวิชาการต่าง ๆ มากนัก จนเป็นทางที่หากินของพวกทำวิชา พวกหนึ่งอวดว่าเป็นหมอทำ พวกหนึ่งอวดว่าเป็นหมอแก้ ฝ่ายผู้ที่เชื่อก็สอดแส่เสียสินจ้างสินบน ให้มากระทำกันบ้าง ที่สงสัยว่าถูกกระทำก็มากัน มาแก้ไขวุ่นไปต่าง ๆ เพราะฉะนั้น พระราชกำหนดกฎหมายเก่า จึงว่าให้จับคนเป็นชมบผีปอบฆ่าเสียก็มี แต่ว่าถ้าจับเลขยันต์ได้ในกำลังคุมความให้ปรับคดีเป็นแพ้ แลมีเบี้ยปรับก็มี แลอย่างแต่ก่อนแพทย์หมอที่อวดว่ามีวิทยาได้ทำเสน่ห์เล่ห์มนตร์ หรือทำจะให้ป่วยไข้ล้มตาย ถ้าการเกี่ยวข้องเข้ามาในพระราชวังและข้าราชการ ก็ได้ลงพระราชอาญาถึงประหารชีวิตเสียก็มี จำไว้ ณ คุกก็มี เป็นตัวอย่างมาเป็นหลายเรื่องหลายราย

แต่ครั้งนี้ จีนเสงก็ทำการเอิบเอื้อมเข้ามาเอาชื่อเจ้าจอมข้างในในพระบรมมหาราชวังใส่ด้วย แลชื่อพระยาสามภพพ่าย ซึ่งทรงพระมหากรุณาชุบเลี้ยงให้เป็นจางวางกรมทหารใน ใส่ด้วยกระทงทำวิชาลอยไป เป็นที่หวาดหวั่นสะดุ้งสะเทือนแก่ผู้เจ้าของชื่อ ซึ่งต้องกระทำนั้น แต่ครั้นจะให้ลูกขุน ณ ศาลหลวงปรึกษาโทษ ก็จะปรึกษาว่าแรงไปต่าง ๆ ตามตัวอย่างที่มา เมื่อจะให้ทำตามลูกขุนปรึกษา ก็จะเป็นอันทำโทษแก่คนเสียจริตไป หรือถ้าลูกขุนจะปรึกษามาให้ปรับเป็นสินไหมพินัยเบี้ยปรับนั้น ก็จะไม่งามแก่ความโดยตรง เหมือนกับปรับคนอื่นซึ่งขว้างทั้งตีรันฟันแทงกัน ครั้นจะตัดสินเสียว่าเป็นกิริยาเสียจริตดอกให้เลิกความเสีย ก็เพราะกฎหมายเก่ามีว่าให้ทำโทษก็มี เพราะตัวอย่างเคยทำโทษมาก็มีเป็นอันมาก ก็จะเป็นที่เห็นว่าครั้งนี้วิชาจีนเสงดี จึงลบเลือนความหายไม่ต้องโทษทัณฑ์แลเบี้ยปรับ จีนเสงก็จะได้ใจกำเริบว่าวิชาตัวขลัง เมื่อมีข้อขุ่นเคืองกับผู้ใดด้วยเหตุเล็กน้อยเหมือนอย่างเช่นเป็นครั้งนี้ ก็จะทำดังนี้ไปเนือง ๆ คนอื่น ๆ จะนับถือมากเข้า ใคร ๆ โกรธขึ้งชิงชังกัน ก็จะมาหาจีนเสงให้ทำการนั้นก็จะเป็นที่หวาดหวั่นสะดุ้งสะเทือนแก่ผู้ที่ถูกชื่อกระทำ แลถือลัทธิว่าคนทำร้ายกันได้ด้วยวิชาการตามเพศบ้านพื้นเมือง

อนึ่ง ถ้าจีนเสงอยู่ในกรุงเทพ ฯ นี้ จีนเสงจะได้ใจว่าวิชาขลังทำไปเนือง ๆ ก็ดี จะมีผู้นับถือเข้าไปหาให้ทำเนือง ๆ ก็ดี การก็จะเอิบเอื้อมไปกระทบพระนามพระองค์เจ้าแลหม่อมเจ้า แลชื่อเสียงชะตาราศีของข้าราชการฝ่ายหน้าฝ่ายใน ในพระบรมมหาราชวัง แลพระบวรราชวัง หรือผู้ที่จะไปนับถือจีนเสงเข้า จะเป็นผู้มีวาสนาบรรดาศักดิ์ ก็จะเป็นที่ขุ่นข้องหมองหมางสะดุ้งสะเทือนไปในผู้มีบรรดาศักดิ์ด้วยกัน เพราะฉะนั้น โทษทัณฑ์ตามกฎหมายตามอย่างเก่า ซึ่งควรลูกขุนจะปรึกษาให้ลงแก่จีนเสง ครั้งนี้นั้นให้ยกเสียทั้งสิ้น ให้เป็นแต่สักหน้าผากจีนเสงว่า (มักทำวิชาการเขียนชื่อคนลอยน้ำทำให้คนตกใจ) อย่างนี้แล้ว ขับไล่จีนเสงกับบุตรภรรยาแลทาสไปเสียจากแขวงกรุงเทพฯ แลแขวงเมืองนนทบุรี แขวงเมืองปทุมธานี แลแขวงเมืองนครเขื่อนขันธ์ แขวงเมืองสมุทรปราการ ซึ่งเป็นแชวงใกล้กรุงเทพ ฯ ทรัพย์สมบัติแลแพแลเรือนให้จีนเสงรื้อขนเอาไปเสีย ให้พ้นแขวงทั้ง ๕ นี้ใน ภายใน ๑๕ วัน แต่ที่ดินที่แพจอดหรือสวนหรือนาของจีนเสงที่มีอยู่ในแขวงกรุงเทพ ฯ แลหัวเมืองใกล้ทั้ง ๔ นั้น ไม่โปรดให้จีนเสงเป็นเจ้าของ ให้ขาดคืนจากเป็นของจีนเสง คงเป็นที่หลวง แลห้ามไม่ให้ผู้ใดผู้หนึ่งในแขวงกรุงเทพ ฯ แลแขวงหัวเมืองทั้ง ๔ นั้นสมคบจีนเสง ให้ไปมาหาสู่อยู่กินเป็นอันขาดทีเดียว ให้ท่านทั้งปวงในแขวงกรุงเทพฯ แลแขวงเมืองนั้น ๆ คอยจับ ถ้าจีนเสงกับบุตรภรรยาทาสล่วงด่านเข้ามาให้จับตัวไว้ แล้วปรับไหมเสียเงินแก่ผู้จับได้คนละสองตำลึงกึ่ง แลผู้ที่ล่วงเข้ามานั้นจะเอาตัวสักเป็นไพร่หลวงโรงสี หรือจำคุกไว้ตามโทษานุโทษ ถ้าภรรยาจีนเสงหย่ากับผัวแล้วก็พ้นจากห้าม ถ้าทาสจีนเสงส่งเงินไปอยู่กับผู้อื่นแล้วก็พ้นจากห้าม แต่ถ้าส่งเงินไปอยู่กับผู้อื่นแล้ว อย่าให้มาคบจีนเสงเลย ให้บอกนายอำเภอร้อยแขวงกรมการเป็นพยานจึงจะพ้นห้าม ถ้าจะไม่ไปกับจีนเสง จะส่งเงินเสียก็ได้ในคราวนี้ ถ้าจีนเสงกับบุตรภรรยาทาสที่สมัครไปด้วยกัน จะไปตั้งบ้านเรือนอยู่ตำบลใด ๆ ในแขวงหัวเมืองอื่น ๆ นอกจากแขวง กรุงเทพฯ แลแขวงหัวเมืองทั้ง ๔ ดังว่าแล้วนั้นไม่ห้าม เมื่อจีนเสงไปอยู่ ณ แขวงหัวเมืองใด ๆ แล้ว ถ้าจะมีผู้ใด ๆ ในแขวงหัวเมืองนั้น ๆ ไปมาหาสู่คบหากับจีนเสง ซึ่งเป็นคนสักหน้าด้วยเหตุนี้ ผู้อื่นก็จะได้รู้ว่าผู้นั้นเป็นคนพอใจวิชาการกระทำยำเยียแล้วจะได้รู้จักตัวไว้ ถ้ากลัวก็จะได้ระวังตัว ถ้าจีนเสงไปอยู่หัวเมืองใด ๆ มีผู้ไปนับถือร่ำเรียนวิชานั้น หรือไปหาขอให้กระทำชำเยียแปลกประหลาดมากขึ้นผิดปรกติ ก็ให้จับกุมคุมไว้ แล้วบอกข้อความเข้าไปยังกรุงเทพมหานครให้ทราบ

----------------------------

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ