ขุนนางขโมยเสื่อ

มนุษย์เรานั้นตามคำโบราณท่านว่าก็มีส่วนถูกอยู่มากที่ว่า คนเราจะดีหรือชั่วอยู่ที่กมลสันดาน ถ้าสันดานไม่ดีไม่งามแล้ว ถึงจะอยู่ในที่สูงอย่างไรก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ ยิ่งสันดานขี้ขโมยด้วยแล้วใครเผลอเป็นไม่ได้

ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย มีเรื่องราวที่เกี่ยวกับสันดานอย่างว่าอยู่เรื่องหนึ่งกล่าวคือ วันหนึ่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังดำรงพระเกียรติยศเป็นพระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ อธิบดีกรมท่าอยู่นั้น พระองค์ทอดพระเนตรเห็นนายจ่ายงมหาดเล็ก (ชื่อนายมีกุ้ง) ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานดูแลตรวจตราในบริเวณจักรพรรดิพิมาน ได้ลอบลักตัดเสื่อคล้าลวดของหลวง ที่เหลือปูพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ม้วนแล้วมอบให้บ่าวแบกเอาไปปูเรือนของตน ขณะเมื่อทอดพระเนตรเห็นเช่นนั้นแล้ว ก็หาได้กริ้วกราดมากมายประการใดไม่ เป็นแต่มีรับสั่งอย่างลับ ๆ กับเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์) แต่สมัยนั้นยังเป็นพระยาเกษตรรักษา มีรับสั่งสำคัญดังนี้

“จ่ายงเป็นขุนนางมือกาวใช้ไม่ได้ หาสมควรจะเป็นขุนน้ำขุนนางกับเขาไม่” แต่รับสั่งเปรย ๆ เฉย ๆ ไปเท่านั้นเอง

ครั้นเมื่อพระองค์ท่านได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินแล้ว ก็ยังจำความเก่าเรื่องจ่ายงได้อย่างดี จึงมีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งว่า

“อ้ายจ่ายง (มีกุ้ง) เป็นขุนนางมือไวใจเร็วจะเลี้ยงดูอุปถัมภ์หาสมควรไม่”

ครั้งนั้นจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ถอดจ่ายงผู้มีสันดานเสียออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ มหาชนทั่วไปจึงร้องเรียกนายมีกุ้งจ่ายงอดีตข้าราชการว่า

“คุณจ่ายงเสื่อคล้า” หรือบางทีก็เรียกว่า “นายกุ้งเสื่อคล้า”

แต่ในกาลต่อมาปรากฏว่า ลูกหลานเหลนของนายมีกุ้งมีโอกาสเป็นพระยา พระ หลวง ขุน หมื่น ทั้งนี้ก็เพราะว่ามีกมลสันดานผิดกับนายมีกุ้งนั่นเอง

----------------------------

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ